จุกนมคอแคบ-คอกว้าง ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี?

หากคุณแม่กำลังเลี้ยงลูกอยู่บ้านตลอดเวลา และให้นมแม่แก่ลูกน้อยแบบ 100% อยู่  คงจะยังไม่ต้องหาข้อมูลหรือกังวลกับการเลือกซื้อขวดนมหรือจุกนมให้ลูกมากนักเพราะยังไม่ได้ใช้ แต่เมื่อไรที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน ไปทำธุระข้างนอก หรือต้องให้นมแม่กับลูกด้วยขวดนมแล้ว สิ่งที่ต้องนึกถึงคือการเลือกขวดนมและจุกนมที่จะช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้เต็มอิ่ม สบายท้อง ไม่ดูดลมเข้าไปและไม่เสี่ยงต่อการแน่นท้อง หรือร้องโคลิก

และที่สำคัญจุกนมที่เลือกให้ลูกนั้นควรจะมีคุณสมบัติที่คล้ายการดูดจากเต้านมแม่ เพื่อให้ลูกน้อยไม่สับสนระหว่างเต้านมกับขวดนม ยอมกินนมแม่จากขวด และยอมกลับมากินนมแม่จากเต้าคุณแม่ได้เสมอ  เราจึงมาแนะนำให้คุณแม่รู้จักกับจุกนมคอแคบ และจุดนมคอกว้าง เพื่อให้คุณแม่หลายๆ ท่านที่ยังไม่รู้จัก ได้เห็นถึงความแตกต่าง และตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม ถูกใจ ลูกน้อยอิ่มนมได้เต็มที่โดยไม่มีปัญหาสุขภาพมาฝากกัน

ชวนแม่เรียนรู้เรื่องจุกนมลูก

เพราะลูกน้อยวัยทารกจะเคยชินกับการกินนมจากอกคุณแม่  เมื่อต้องมากินนมจากขวดจึงอาจสับสนและมีปัญหา คุณแม่จึงควรพิถีพิถันพิจารณาเลือกใช้จุกนมที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกน้อยดูดนมได้อย่างสะดวก ปลอดภัย โดยควรศึกษาเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้  ขนาดของจุกนมที่แตกต่างว่าเหมาะกับลูกวัยไหน  วิธีทำความสะอาดและการเก็บรักษาจุกนมให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานเสมอ

เรื่องน่ารู้ของ ปลายจุกนม เนื่องจากแต่ละแบบมีลักษณะเฉพาะในการใช้งาน นั่นคือ
– ปลายจุกนมเป็นรูวงกลม มักเป็นรูจุกนมที่ช่วยให้น้ำนมไหลได้ง่าย คือแม้ลูกจะไม่ดูด น้ำนมก็ไหลผ่านออกได้จึงเป็นจุกนมที่ช่วยให้ลูกดูดนมง่าย ไม่ต้องใช้แรงเยอะ
– ปลายจุกนมเป็นรูตัว Y (Three-Cut) เป็นจุกนมที่หากไม่ดูดนมจะไม่ไหล ต้องใช้แรงดูดของลูกให้น้ำนมไหลผ่านออกมา (ยกเว้นเป็นจุกนมสำหรับเด็กที่มีภาวะพิเศษดูดนมเองไม่ได้ จะมีการทำให้น้ำนมไหลออกได้ง่ายขึ้น)
– ปลายจุกนมเป็นรูกากบาท (Cross-Cut) มักเป็นจุกนมที่ต้องใช้แรงดูดเหมือนรูตัว Y คือหากลูกไม่ดูดนมจะไม่ไหล  น้ำนมจะออกมามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแรงดูดของลูกเอง ช่วยป้องกันอาการสำลักให้ลูกน้อยได้นอกจากนี้รูของปลายจุกนม จะมีขนาดของรูที่เล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับไซส์ของจุกนมนั้นๆ เช่น จุกนมไซส์ L ก็จะมีปลายรูที่ขยายใหญ่หรือกว้างกว่า จุกนมไซส์ m และไซส์ S นั่นเอง

วัสดุที่ใช้ทำจุกนม ปัจจุบันจุกนมสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะผลิตมาจาก ซิลิโคน และยาง (พารา) ซึ่งจุกนมซิลิโคนจะมีสีขาวใส มีเนื้อที่แน่น มีความทนทานและคงรูปเดิมได้นาน แม้ผ่านความร้อนหลายครั้งเนื่องจากทนความร้อนได้ดี  ส่วนจุกนมจากยางพารา จะมีสีเหลืองอมน้ำตาล มีความนิ่มและยืดหยุ่นมากกว่า แต่อายุการใช้งานจะสั้น

ขนาดของจุกนม โดยทั่วไปจะมี 3 ขนาด คือ
– Size S หรือ SS เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด จนถึง 3 เดือน
– Size M เหมาะสำหรับลูกน้อยอายุ 3 – 6 เดือน
– Size L เหมาะสำหรับลูกน้อยอายุ 6 เดือนขึ้นไปสาเหตุที่ต้องเลือกขนาดของจุกนมที่มีรูระบายน้ำนมแตกต่าง เนื่องจากลูกทารกจะดูดนมได้ช้าและกินได้ทีละน้อย เพราะกล้ามเนื้อในช่องปากและการดูดกลืนยังไม่แข็งแรง หากรูจุกนมกว้างหรือจุกนมใหญ่เกินไป อาจทำให้ลูกสำลักจนเป็นอันตรายได้ และนอกเหนือจากขนาดจุกนมเหล่านั้นแล้ว ก็ยังมี จุกนมพิเศษ ที่เหมาะกับเด็กที่มีปัญหาการดูดนม เช่น มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ มีโรคหัวใจหรือโรคอื่นๆ ที่ทำให้เด็กไม่มีแรงดูดนม หรือยังดูดนมเองได้ไม่ดีอีกด้วย

รูปร่างของจุกนม
– จุกนมปลายกลมมน เป็นจุกนมที่มักเห็นกันทั่วไป คือมีปลายจุกกลมมน รูปทรงระฆัง
– จุกนมปลายแบนเรียบ มีคอและฐานกว้าง เวลาลูกดูดจะให้ความรู้สึกคล้ายดูดนมจากเต้านมแม่
– จุกนมปลายแหลมแบน เป็นชนิดที่ถูกออกแบบมาให้รองรับเพดานปาก เหงือก และลิ้นของทารก โดยปลายที่แบนออกจะวางตัวพอดีบนลิ้นขณะเด็กดูดนม รวมทั้งจุกนมยังมีลักษณะของคอหรือฐานจุกนมที่แตกต่าง คือมีทั้งแบบคอกว้าง และคอแคบ

จุกนมคอกว้าง คอแคบ ต่างกันอย่างไร?

จุกนมคอกว้าง …ใช้กับขวดนมคอกว้าง

ส่วนใหญ่ใช้กับขวดนมคอกว้างขนาด 4 ออนซ์ สำหรับลูกอายุ 3 – 6 เดือน (ใช้จุกนมไซส์ M) และขนาด 8 ออนซ์ สำหรับลูกอายุ 6 เดือนขึ้นไป  (ใช้จุกนมไซส์ L) แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาทำขนาด 2 ออนซ์(ใช้จุกนมไซส์ S) สำหรับลูกน้อยวัยแรกเกิด -3 เดือนด้วย

ข้อดี :

  • ฐานของจุกนมมีความกว้าง  คล้ายฐาน หรือลานของเต้านมแม่
  • ออกแบบคล้ายนมแม่ ทำให้ลูกใช้วิธีการดูดคล้ายนมแม่  ลูกจึงดูดนมได้อย่างคุ้นเคย
  • ลูกน้อยไม่ต้องกลืนอากาศในขณะดูดนม  ลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือลดอาการโคลิก
  • คอจุกนมที่กว้างและมักมีปลายจุกแบนคล้ายเต้านมแม่ กระตุ้นลูกน้อยดูดนมแม่จากขวดได้ราบรื่น ใช้สลับระหว่างขวดนมกับเต้านมแม่ได้ดี    ลูกน้อยไม่สับสนหรือแตกต่างระหว่างดูดนมแม่กับดูดนมจากขวด  ลูกจึงกินนมแม่ที่ปั๊มไว้ได้ง่าย  และยังสะดวกหากต้องการฝึกให้ลูกเปลี่ยนมากินนมผงเมื่อโตขึ้นด้วย
  • น้ำนมไม่หกหรือเปื้อนง่าย เพราะจุกนมคอกว้างลักษณะนี้ ออกแบบมาให้ลูกน้อยต้องใช้แรงดูดหรือยกขวดนมขึ้น น้ำนมจึงจะไหลออกได้
  • ทำความสะอาดง่ายและทั่วถึง เพราะคอจุกนมกว้าง

ข้อเสีย :

  • ราคาค่อนข้างสูง
  • ต้องใช้คู่กับขวดนมคอกว้างที่มีขนาดขวดที่กว้างและใหญ่ จึงอาจทำให้ลูกถือเองได้ยากและใช้พื้นที่ในการวางหรือเก็บ

จุกนมคอแคบ…ใช้กับขวดนมคอแคบ

จุกนมคอแคบ เป็นจุกที่คุณแม่รู้จักและใช้กันมานาน จะใช้จุกคอแคบนี้กับขวดนมคอแคบซึ่งมักมีอยู่ 3 ขนาด ได้แก่ ใช้จุกนมไซส์ S กับขวดนมขนาด 2 ออนซ์ สำหรับเบบี๋แรกเกิด – 3 เดือน  จุกนมไซส์ M ใช้กับขวดขนาด 4 ออนซ์ สำหรับลูกวัย 3 – 6 เดือน  และจุกนมไซส์ L ใช้กับขวดขนาด 8 ออนซ์ สำหรับลูกวัย 6 เดือนขึ้นไป

ข้อดี :

  • ราคาค่อนข้างถูก  หาซื้อง่าย มีขายอยู่ทั่วไป
  • เริ่มมีการออกแบบให้เหมือนนมแม่ โดยบางรุ่นหรือยี่ห้ออาจมีวาล์วหรือระบบลดการกลืนลมเข้า ป้องกันอาการแน่นท้อง ท้องอืดของลูกน้อยได้
  • ลูกดูดนมได้สะดวก  แม้จะนั่ง หรือนอน ก็ดูดนมได้โดยไม่ต้องยกขวดขึ้น

ข้อเสีย :

  • อาจทำให้ลูกดูดลมหรืออากาศเข้าไปได้ง่าย เสี่ยงต่อการแน่นท้อง ท้องอืด และอาการโคลิก (ยกเว้นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันลูกดูดลม)
  • น้ำนมไหลออกได้ง่าย แค่เอียงขวดนม  จึงทำให้นมหกเลอเทอะง่าย
  • อาจทำให้ลูกสับสนระหว่างการดูดนมขวดกับนมแม่ได้ เพราะใช้วิธีการดูดแตกต่างกัน
  • เพราะจุกนมทำให้ดูดนมง่าย จึงอาจทำให้ลูกน้อยติดจุกนม และไม่ยอมดูดนมจากเต้าคุณแม่อีกต่อไป ทำให้ไม่เกิดการดูดเต้านมเพื่อกระตุ้นน้ำนมแม่ให้มาอย่างต่อเนื่องได้
  • จุกนมคอแคบ ทำความสะอาดยาก ล้างอาจไม่ทั่วถึง

เมื่อคุณแม่รู้แล้วว่าบ้านเราควรจะเลือกจุกนมแบบไหน ก็สามารถดูข้อมูลและเลือกซื้อหากันได้เลย  อย่าลืมดูจุกนมที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ใช้วัสดุปลอดสารอันตราย  และเลือกยี่ห้อที่ไว้วางใจได้ เท่านี้ลูกน้อยก็กินนมได้เต็มอิ่มและมีความสุขแน่นอน

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เมื่อเริ่มตังครรภ์ มีเจ้าตัวเล็กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย คุณแม่ทุกคนก็ต้องตื่นเต้นอยากเจอหน้าลูกและสงสัยว่า พัฒนาการทารกในครรภ์ ไปถึงไหนแล้วใช่ไหมคะ เราจึงนำพัฒนาการของลูกน้อยตลอดเก้าเดือนที่อยู่ในท้องของคุณแม่มาให้ชมกัน เบบี้กิ๊ฟขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ทุกท่านด้วยนะคะ ลูกน้อยตัวโตแค่ไหนแล้ว เราลองเทียบกับผลไม้ให้ดูค่ะ พัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้ พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 1 พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 1 คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็เข้าเดือนที่สองไปแล้ว เพราะว่าในเดือนแรกนี้จะเป็นช่วงที่ไข่กับอสุจิเข้าผสมกัน มีการแบ่งเซลล์แล้วก็ฝังตัวของเอ็มบริโอ ซึ่งในระยะนี้เจ้าหนูน้อยก็จะเล็กจิ๋วมาก ๆ เลยล่ะค่ะ มีขนาดไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้นเอง ส่วนการพัฒนาหลัก ๆ ก็จะเป็นการพัฒนาในส่วนของรก เพื่อเตรียมพร้อมรอรับสารอาหารจากคุณแม่ พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 2  พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 2 เดือนนี้แหละที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านจะเริ่มรู้ตัว มีอาการแพ้ท้อง แล้วก็ไปหาคุณหมอเพื่อการฝากครรภ์กันแล้ว ในช่วงเดือนนี้ลูกน้อยจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แต่ก็จะยังไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพัฒนาของระบบประสาท เนื้อเยื่อเส้นใยประสาท แล้วก็ไขสันหลัง คุณแม่สามารถทำอัลตราซาวด์เพื่อฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยเต้นได้แล้วนะคะ พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 3 ทารกในครรภ์จะมีน้ำหนักประมาณ 28 กรัม และมีความยาวประมาณ 7.6 ซ.ม. แล้วค่ะ […]

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้ วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย  เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?  1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น  ข้อดีเตียง Bedside Crib  ข้อเสียเตียง Bedside Crib  2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก  ข้อดีเตียงไม้  ข้อเสียเตียงไม้  3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ข้อดี Playpen  ข้อเสีย Playpen  4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า  ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  […]

เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น  Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4

คุณแพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน หรือแม่แพรว จากเพจ PRAEW ที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ Influencer สายแม่และเด็ก ที่แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกเชิงบวกได้อย่างดี ซึ่งเราจะเห็นได้จากกน้อง เฌอลินน์ ลูกสาวคนโตที่โตขึ้นมาเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสามารถ ทำให้ใครหลายๆคนหลงกับความน่ารักของน้อง เฌอลินน์ ไปตามๆกัน และล่าสุดต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพรว กับการคลอดลูกคนที่ 2 ที่มีชื่อว่า เมอฌินน์ หรือฉายา เจ้าลูกชิ้น ลูกชายคนแรกของแม่แพรวด่วยค่ะ            และถ้าใครเคยตาม หรือเคยเข้าไปดูเพจ PRAEW จะรู้ว่า แม่แพรวจะ Post Content ให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกไว้เป็นจำนวนมาก และล่าสุด คุณแพรวก็ได้แชร์ประสบการณ์การใช้คาร์ซีทในวันแรกที่พาน้อง เมอฌินน์ ออกจากโรงพยาบาล วันนี้ทาง BabyGift ขอนำมาแชร์ต่อค่ะ พร้อมพามาดูกันว่า คาร์ซีทที่น้อง เมอฌินน์ ใช้คือคาร์ซีทรุ่นไหน  คุณแพรว ได้แชร์ไว้ว่า ทุกครั้งที่นั่งรถ แพรวต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีททุกครั้งค่ะ เพราะสำหรับแพรวความปลอดภัยของลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับคาร์ซีทที่แพรวเลือกให้เมอคือ คาร์ซีท Ailebebe Kurutto ค่ะ อันนี้เป็นรุ่น 6 รุ่นใหม่ของเค้าค่ะ คุณแพรว ยังบอกอีกว่า ที่แพรวเลือกรุ่นนี้เพราะแพรวมั่นใจคือเรื่องความปลอดภัยของเค้าค่ะ เค้ามีเทคโนโลยีพิเศษที่เพิ่มความปลอดภัยที่ทำให้เมอปลอดภัยมากขึ้นเวลาที่นอนอยู่บนคาร์ซีท วัสดุดีมาก! มีมาตรฐานรองรับจากโรงงานประเทศญี่ปุ่นและความปลอดภัยระดับยุโรป เบาะก็ Support ดี สบาย ระบายอากาศได้ ไม่อึดอัดเลยค่ะ ปรับเอนนอนได้ นั่งทุกครั้งเมอฌินน์หลับปุ๋ยตลอด ติดตั้งง่ายด้วยระบบ Isofix ที่สำคัญที่มามี๊แฮปปี้ที่สุด […]

แน่นอนว่าคุณแม่ทุกบ้านจะต้องตื่นเต้นกับการทานข้าวมื้อแรกของลูก แต่นอกจากความตื่นเต้นแล้ว การฝึกลูกน้อยให้มีวินัยในการรับประทานอาหารก็ถือเป็นงานหินชิ้นนึงเลยล่ะค่ะ สำหรับคุณแม่ๆ บ้านไหนที่กำลังหาวิธีฝึกลูกน้อยให้คุ้นชินกับการทานข้าวอยู่ล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าเรามีวิธีดีๆ อะไรมาฝากกันบ้าง ฝึกลูกหม่ำข้าวด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องบังคับ 1. นั่งโต๊ะและเริ่มทานข้าวพร้อมกัน  อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กมักจะชอบเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ นั่นแหละค่ะ เราลองเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวช่วยกันดีกว่า เพราะงั้นเวลาเราทานข้าว เราก็ควรให้ลูกน้อยของเรานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยเนอะ ให้เค้าเห็นว่าทุกคนมีความสุขในการรับประทานอาหาร เห็นเวลาเรานำช้อนเข้าปาก ให้เค้ารู้ว่าการทานข้าวเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำ และเค้าก็ต้องทำด้วยเหมือนกัน แม้ตอนแรกอาจจะมีร้องงอแงบ้าง แต่ก็อย่าไปยอมแพ้ค่ะ ทำบ่อยๆ ทำให้เป็นกิจวัตร เดี๋ยวเค้าก็จะชินไปเอง 2. ทานอาหารให้เป็นเวลา  คุณแม่บางบ้านอาจจะยุ่งหัวหมุนกับทั้งงานประจำและงานบ้านจนเผลอไม่ได้ทานข้าว อ๊ะๆ ถ้าคุณแม่กำลังเป็น Working Woman แบบนี้อยู่ เราขอให้คุณแม่วางงานซักนิด แล้วมาทานข้าวกับลูกน้อยเมื่อถึงเวลา เพราะเราควรฝึกให้เค้าคุ้นเคยกับเวลาที่ต้องทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น คุณแม่ก็ควรจะให้เค้าทานเวลาเดิมๆ นอกจากจะสร้างนิสัยให้เค้าแล้ว ยังเป็นการปรับระบบย่อยอาหารภายในร่างกายของลูกน้อยอีกด้วยน้า ถ้าเค้าคุ้นเคยกับเวลาแล้ว ทีนี้ล่ะ ไม่ต้องเรียกเลย พอถึงเวลาเค้าก็จะหิวขึ้นมาเอง 3. เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย  เด็กหลายๆ คนเบื่อข้าว อมข้าว เพราะอาจจะเป็นเรื่องของรสชาติที่ไม่ถูกปาก หรือเมนูอาจจะซ้ำซากจำเจจนเกินไป การเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลายเนี่ย นอกจากจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังทำให้เค้าเพลิดเพลินไปกับเมนูใหม่ๆ ด้วยนะ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages