วัยทอง 2 ขวบ ลูกเอาแต่ใจ รับมือแบบไหนดี?

คุณพ่อคุณแม่คงเคยได้ยินคำว่า วัยทอง 2 ขวบ หรือ Terrible Two ใช่ไหมคะ ซึ่งเป็นวัยที่เด็ก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และพฤติกรรม อย่างเห็นได้ชัด เริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจพัฒนาการวัยนี้ให้ดีเลยนะคะ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับลูกวัยนี้ได้อย่างถูกต้อง

วัยทอง 2 ขวบ แค่เข้าใจก็รับมือได้

ลูกรักวัย 2 ขวบ มีพัฒนาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ที่มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกวัย 2 ขวบ มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เมื่อถูกบังคับก็จะหงุดหงิด เมื่อไม่พอใจก็จะโวยวาย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย งอแงง่ายกว่าเดิม เนื่องจากลูกต้องการเป็นอิสระตามใจ และอยากทำอะไรด้วยตัวเอง ซึ่งทั้งหมดเป็นพัฒนาการปกติของเด็กวัยนี้

สาเหตุที่ลูกวัยทองสองขวบหงุดหงิดง่าย

  • ลูกร้องไห้อาละวาดเพราะเขาเสียใจ ผิดหวัง ง่วงเหนื่อยและหิว แต่ยังสื่อสารบอกพ่อแม่ไม่ได้
  • ลูกกำลังเล่นสนุก แต่โดนขัดจังหวะ เช่น ต้องกินข้าว อาบน้ำ และอื่น ๆ จนรู้สึกเสียใจ
  • ลูกอยากมีอิสระ เล่นได้ตามใจต้องการ อยากเล่นของเล่นที่เลือกเอง และยังไม่ต้องการแบ่งของเล่นให้น้องหรือเพื่อน
  • ลูกอยากทำอะไรด้วยตัวเองได้ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดี ไม่สำเร็จ เช่น อยากช่วยแม่กวาดบ้านแต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าหนูทำไม่ได้ จนรู้สึกเสียใจ รู้สึกตัวเองไม่สำคัญ
  • บางอย่างที่ลูกวัยนี้อยากทำแต่พ่อแม่ก็ไม่ให้ทำ บางอย่างถูกสั่งให้ทำโดยที่ลูกไม่เต็มใจ ลูกจึงแสดงความไม่พอใจตอบโต้ออกมา
  • ลูกมักงอแง ร้องไห้ ดิ้นลงไปกับพื้น เพราะไม่รู้จะควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างไร ซึ่งหากพ่อแม่ดุว่า ตำหนิหรือทำโทษ ยิ่งทำให้ลูกโมโหและมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อไปเรื่อย ๆ

7 วิธีรับมือลูก วัยทอง 2 ขวบ

1. ใจเย็น เข้าใจความต้องการของลูก 

ลูกวัยนี้อาจจะยังสื่อสารบอกความต้องการได้ไม่ดี และพยายามจะทำอะไรเองก็ยังไม่สำเร็จ จึงหงุดหงิดตัวเอง และหงุดหงิดสิ่งรอบตัวได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงควรรับรู้ว่าเป็นเรื่องปกติตามวัยของเขา พร้อมกับหมั่นพูดคุย สอบถามความต้องการของลูกเสมอว่าลูกอยากจะทำอะไร ให้แม่ช่วยไหม ต้องมีความสม่ำเสมอในการแนะนำลูก

2. เปลี่ยนจากคำสั่ง เป็นขอความร่วมมือ

เพื่อให้ลูกได้เลือกเอง เพื่อกระตุ้นให้ลูกรู้สึกว่าเขาทำได้ ให้เขามีสิทธิเลือก ที่สำคัญต้องพูดคุยอย่างใจเย็น ใจดี และเชื่อว่าลูกทำได้เสมอ ลูกจะได้อารมณ์ดีให้ความร่วมมือง่ายขึ้น เช่น แทนที่จะพูดว่า “อย่าวิ่ง” ก็เปลี่ยนเป็น “เดินช้า ๆ นะลูก เดี๋ยวหกล้ม” หรือแทนที่จะสั่งว่า “เก็บของเล่นเดี๋ยวนี้” ให้เปลี่ยนเป็น “ถึงเวลาที่เจ้ากระต่าย ต้องกลับไปพักผ่อนแล้วครับ มาช่วยแม่เก็บกันเถอะ” การพูดขอความร่วมมือจะทำให้ลูกรู้สึกเป็นคนสำคัญในสายตาพ่อแม่ ต่อต้านน้อยลงได้

3. เอาใจใส่ ชมเชยในสิ่งที่ลูกทำได้ดี

เพื่อให้ลูกมีความภาคภูมิใจ และอารมณ์ดีได้ง่ายขึ้น โดยพ่อแม่ต้องให้คำชื่นชมลูกน้อยทุกครั้งที่ลูกเล่นกับเด็กคนอื่นได้ดี แบ่งของเล่นให้น้องได้ หรือเมื่อลูกช่วยเหลือตัวเองได้ดี เช่น ทานอาหารเอง เก็บของเล่นเอง แต่งตัวเอง ควรชมลูกว่า “หนูทำได้ดีมากค่ะ” หรือ “พยายามได้ดีมากค่ะ”

4. อ่านนิทาน สร้างเหตุการณ์สมมุติ
ลูกวัยนี้ให้ทำอะไรมักจะปฏิเสธว่าไม่ ไม่ชอบ กลัว หรืออื่น ๆ พ่อแม่ต้องไม่บังคับลูก แต่อาจจะต้องหานิทานหรือการ์ตูนช่วยสอนลูกให้เข้าใจสถานการณ์ แก้ไขปัญหาอารมณ์ ว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้ พฤติกรรมแบบไหนที่ไม่เหมาะสม เช่น เมื่อลูกไม่ยอมแปรงฟัน อาจอ่านนิทานหนูนิดชวนแปรงฟัน หรือ สอนลูกให้กินข้าวและเข้านอนเป็นเวลา ด้วยนิทานที่บอกเวลา หรือจะเป็นการ์ตูนรถไฟที่ออกเดินทางตามเวลาเสมอ

5. เข้าใจความต้องการของลูก
หากลูกน้อยอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่พร้อมจะทำตามหรือให้ความร่วมมือ เช่น ลูกกำลังเหนื่อยหรือหิว ก็ควรตอบสนองลูกทันที เช่น หาอะไรรองท้องให้ลูก ให้ลูกได้งีบหลับก่อนอาบน้ำ เพราะความเหนื่อยและความหิวเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ที่สำคัญ หากไปบังคับหรือในลูกทำอะไรในช่วงนี้ลูกจะอาละวาดได้

6. ชวนลูกเล่น เบี่ยงเบนความสนใจ
หาของเล่นเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ มาเล่นกับลูก ให้ลูกอารมณ์ดี รวมถึงทำกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้ลูกไม่เบื่อหรือหงุดหงิดง่าย ตัวอย่างของเล่นสนุก ๆ สำหรับลูก 2 ปี เช่น Huile Toys ไซโลโฟน Enlightening Rainbow 8 Sounds Organ , Huile Toys ม้าโยก Happy Rocking Pony , Lele สระน้ำใส รุ่น Hello Baby

7. พาลูกออกไปนั่งรถเข็น เดินเล่น เล่นนอกบ้าน

ให้ลูกเล่นอยู่แต่ในบ้านเขาอาจจะเบื่อ เพราะมีแต่ของเล่นที่เห็นทุกวัน ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นหรือแปลกใหม่ ดังนั้นการพาลูกออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ไปปั่นจักรยาน หรือนั่งรถเข็นสบาย ๆ ดูสัตว์ตามธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ลูกอารมณ์อารมณ์ดีได้ หรืออาจมีตัวช่วยให้ลูกอารมณ์ดีนอกบ้านได้ เช่น Chillafish จักรยานทรงตัว รุ่น Quadie + Trailer  , Doona liki 5in1 รถเข็นและจักรยานพับได้ รุ่น S3 , Prince & Princess  รถเข็นเด็กพับอัตโนมัติ Autopact

8. ชวนลูกเล่น เบี่ยงเบนความสนใจ

หาของเล่นเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ มาเล่นกับลูก ให้ลูกอารมณ์ดี รวมถึงทำกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้ลูกไม่เบื่อหรือหงุดหงิดง่าย ตัวอย่างของเล่นสนุก ๆ สำหรับลูก 2 ปี เช่น Huile Toys ไซโลโฟน Enlightening Rainbow 8 Sounds Organ , Huile Toys ม้าโยก Happy Rocking Pony , Lele สระน้ำใส รุ่น Hello Baby

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ สำหรับลูกน้อย อาจได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือแพทย์ สำหรับการจัดเตรียมอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ต่างๆ ให้พร้อมก่อนคลอด จากในอดีตหลายๆ บ้าน อาจคุ้นเคยกับการลวกด้วยน้ำร้อน 100 องศาขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อขวดนม ภาชนะ ไปจนถึงเสื้อผ้า ปลอกหมอนผ้าปูที่นอน ของเด็กได้ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านอดห่วงไม่ได้ว่าเชื้อไวรัสนั้นจะหลุดรอดเข้ามาถึงตัวลูกน้อยของเราได้จากของใช้อื่นๆ ที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยการ ลวก หรือการนึ่งได้ และมีบทความทางการแพทย์มากมาย ระบุว่า การนำพลาสติกไปลวกด้วยความร้อนสูง จะก่อให้เกิดการตกค้าง ปนเปื้อนของ ไมโครพลาสติก ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จึงมีการผลิตคิดค้น และนำเข้า เครื่องอบยูวี สำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นการใช้พลังงานจากรังสี UV-C ในการฆ่าเชื้อโรคร้ายที่อาจติดอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย และฆ่าเชื้อของใช้คุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย ประโยชน์ของรังสี UV-C ส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องอบ UV-C คือหลอด UV-C ซึ่งมีคุณสมบัติในการปล่อยรังสี UV-C มาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้จริง แม้แต่เชื้อไวรัสโควิดก็ไม่รอด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีผลวิจัยต่างๆ จากหลากหลายสถาบันยืนยันแล้วว่า รังสี UV-C สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ 99.99% […]

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คุณนานาอยากฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้คาร์ซีท ในทุกครั้งที่เดินทาง ไม่ว่าใกล้หรือไกล ก็ต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีทเสมอ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอปรบมือให้กับคุณนานาและคุณเวย์ ที่เป็นครอบครัวตัวอย่าง ฝึกให้น้องบีน่าและน้องบรู๊คลีน มีวินัยในการนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่อยู่บนรถ คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ การใช้ คาร์ซีท จะช่วยรองรับศีรษะ คอ กระดูกสันหลัง ที่ยังไม่แข็งแรงของเด็กเล็ก ช่วยไม่ให้สมองและไขสันหลังถูกทำลายจากการกระแทกในขณะเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งสำคัญควรติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้อง ให้ลูกคาดเข็มขัดนิรภัยที่ตัวคาร์ซีทด้วยทุกครั้ง และปรับสายให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ให้ลูกอึดอัดและไม่หลวมเกินไป เพราะถ้าหลวมเกินไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงและไม่คาดฝัน ก็อาจทำให้เด็กหลุดออกจากคาร์ซีท และหลุดออกนอกตัวรถไปจนเป้นอันตรายถึงชีวิต ครอบครัวตัวอย่างเดินทางอย่างปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่คาดเบลล์ ลูกๆนั่งคาร์ซีท ว้าว เยี่ยมไปเลย !!! น้องบีน่าและน้องบรู๊คลิน เดินทางอย่างปลอดภัยและหลับสบ๊ายสบายด้วยค่ะ

คุณแม่มือใหม่ขอให้ยกมือขึ้น! ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่ทุกคนด้วยนะคะ มั่นใจเลยว่า ตอนนี้คุณแม่ทั้งหลายต้องกำลังรู้สึกหัวหมุนติ้วๆ กับการเตรียมของให้ลูกน้อยอยู่แน่ๆ เพราะไอเท็มที่วางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นมีเป็นล้านแปดพันเก้า อันนี้ก็น่ารัก อันนี้ก็ดูจำเป็น แต่ถ้าเราจะซื้อทุกอย่างก็คงไม่ไหว สำหรับบทความนี้ เราก็เลยนำเช็คลิสต์แบบครบถ้วนทุกหมวดมาฝากกันค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าคุณแม่ยังขาดอะไรไปบ้าง 1. หมวดการนอน 2. หมวดให้นม 3. หมวดการกิน 4. หมวดอาบน้ำ/สุขอนามัย 5. หมวดการแต่งตัว 6. หมวดเดินทาง 7. หมวดฝึกพัฒนาการ 8. หมวดสุขภาพ/ดูแล 9. หมวดปกป้องลูกน้อย 10. หมวดทำความสะอาด และนี่ก็คือเช็คลิสต์ของสำคัญที่คุณแม่ขาดกันไม่ได้เลยค่า ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้คุณแม่จำไว้เสมอว่า การซื้อสินค้าสำหรับลูกทุกครั้งนั้นควรคำนึงหลายๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่เป็นเรื่องของคุณภาพ และการใช้งานในระยะยาวด้วยน้า

ของเล่นเด็ก เป็นไอเท็มที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการ ให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี โดยของเล่นแต่ละแบบจะมีวิธีการเล่น การกระตุ้นให้ลูกน้อยใช้กล้ามเนื้อ ร่างกาย ประสาทสัมผัสที่ไม่เหมือนกัน การเลือกซื้อ ของเล่นเด็ก ให้ลูกน้อยได้ถูกต้องสมวัย จะช่วยให้เล่นได้สนุก และยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้อย่างแท้จริง เบบี้กิ๊ฟ เข้าใจแม่ ในความสงสัย และสับสนว่า ควรเลือกซื้อของเล่นชิ้นไหนดี เพราะทุกวันนี้มีของเล่นในท้องตลาดมากมาย ทั้งราคาถูก ไปจนถึงราคาแพง แบบไหนถึงจะเหมาะกับลูกน้อยแต่ละวัย เบบี้กิ๊ฟ หาคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้ ของเล่นเด็ก วัยแรกเกิด – 6 เดือน วัยนี้ลูกน้อยจะใช้เวลาไปกับการนอนมากเป็นพิเศษ สลับกับการตื่นมาทานนมทุกๆ 3 ชั่วโมง ในช่วงระหว่างที่ลูกน้อยตื่นนอน สามารถส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กวัยนี้ได้ โดยเริ่มจาก การฝึกการมองเห็น ผ่านดวงตาโตใสแป๋ว โดยทารกวัยนี้มักจะชอบ มองสิ่งของที่ขยับไปมา เช่น โมบายหมุนได้ และดวงตาของทารกจะ มองเห็นสีที่ตัดกันชัดเจน เช่น สีดำ/ขาว เหลือง/แดง เพราะน้องๆจะยังไม่รู้จักสีพาสเทลเหมือนผู้ใหญ่ และการมองตัวเองแค่ในกระจก ก็เรียกเสียงหัวเราะจากน้องได้แล้วค่า โดยสามารถเลือกเป็น เพลเพน ที่มีโมบาย กระจก ตุ๊กตาห้อยให้ลูกน้อยนอนมองเล่นได้เพลินๆ ค่ะ ฉะนั้น การเลือกของเล่นที่มีสีสันฉูดฉาด บาดใจ จะเหมาะกับเด็กน้อยวันนี้มากๆ โดยวัสดุของเล่นนั้น ควรจะมีลักษณะเป็นผ้า อ่อนนุ่ม ซักทำความสะอาดได้ […]

ลูกควรเลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่? อยากฝึกให้ลูกนั่งกระโถน นั่งชักโครกขับถ่ายเองได้เริ่มเมื่อไหร่ดี? คงเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยกันใช่ไหมคะ เพราะการฝึกลูกให้เลิกใส่ผ้าอ้อม ฝึกลูกนั่งกระโถน ไปจนฝึกให้เข้าห้องน้ำเองได้ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมที่จะเลิกใส่ผ้าอ้อม พร้อมนั่งกระโถนแล้ว มาเช็กกันเลยค่ะ ทำไมต้องฝึกลูกเรื่องขับถ่าย  การฝึกลูกขับถ่ายให้เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ ที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงเป็นการปลูกฝังด้านสุขอนามัย ความสะอาด รู้จักร่างกายตัวเอง และรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ หากพ่อแม่ไม่สอนลูกเรื่องการขับถ่าย ปล่อยให้ขับถ่ายในผ้าอ้อมไปจนโต จะทำให้ลูกมีการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสมตามวัย เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน จะทำให้มีปัญหาในการดูแลความสะอาด อาจเกิดการขับถ่ายเล็ดราด หรือยังต้องใส่ผ้าอ้อมจนอึดอัด  ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ ส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยได้ ฝึกลูกนั่งชักโครก เลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ตอนไหน? วัยที่มีพัฒนาการและพฤติกรรมพร้อมพี่จะเริ่มฝึกได้ ควรเริ่มเมื่ออายุ 1 ปี – 1 ปี 6 เดือน และมักจะทำได้ดีตอนอายุ 2 ปี หรือเด็กบางคนอาจจะมาฝึกตอนอายุ  2 ปี และนั่งกระโถนได้เองตอนอายุ 3 ปี หรือบางคนอาจทำได้เมื่อโตกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและสัญญาณต่าง ๆ ที่แสดงออกมาทั้งทางร่างกาย การสื่อสาร และความต้องการของลูก ไม่ควรเกิดจากการบังคับลูก 8 สัญญาณที่บอกว่าลูกพร้อมนั่งกระโถนเองได้แล้ว 7 เทคนิคฝึกลูกขับถ่าย […]

BabyGift Grand Opening ฉลองเปิดสาขาใหม่ “ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์” สาขาที่ 7 อย่างเป็นทางการตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก BabyGift พร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณพ่อ-คุณแม่และลูกน้อยในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ” The Best Gift for your Baby ” ​ ขอขอบคุณ แบรนด์ Partner ผู้บริหาร และคณะกรรมการทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่มาร่วมงาน และคอยสนับสนุนเบบี้กิ๊ฟอย่างดีตลอดมาค่ะ Attitude Mom Thailand : เครื่องปั๊มนม 5 โหมด อัจฉริยะ กรวยซิลิโคนแท้ Spectra Thailand เครื่องปั้มนม Iflin baby PUR Thailand Mellow for Kids ผ้ารองกันน้ำ100% เมลโล่ Bambies Thailand Baby Natura Beaba Thailand Luxury Baby […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages