ลูกติดมือ อุุ้มลูกบ่อยๆ ดีมั้ย

อุ้มลูกบ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่า “ลูกติดมือ”
ลูกติดมือ พฤติกรรมแบบนี้เกิดจากการอุ้มลูกบ่อย แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมเด็กถึงอยากให้อุ้ม เด็กแรกเกิด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก ช่วงนี้เด็กจะยังชินกับการอยู่ในท้องของคุณแม่ที่เคลื่อนไหวตลอด มีความอบอุ่น และได้ยินเสียงหัวใจเต้นของแม่ตลอดเวลา การอุ้ม การสัมผัส จะช่วยให้เด็กปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ หลังจากออกมาจากครรภ์ของแม่ เพราะการอุ้มเป็นการทำให้เค้ากลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงเหมือนอยู่ในครรภ์ของแม่ ทำให้เค้าหยุดร้องไห้ รู้สึกปลอดภัยจากการได้รับความอบอุ่นจากอ้อมอกพ่อแม่ จึงทำให้เด็กมักจะอยากให้พ่อแม่อุ้มอยู่บ่อยๆ
ซึ่งจากบทความของโรงพยาบาลเปาโลได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “ ช่วงเด็กทารกวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน จะเป็นวัยที่หากเขาต้องการสื่อสารอะไรกับคนอื่นก็จะใช้วิธีการร้องไห้เท่านั้น ซึ่งเมื่อร้องไห้คุณแม่หรือคนเลี้ยงส่วนใหญ่ก็จะเดินเข้าไปอุ้ม ซึ่งจริง ๆ การอุ้มเด็กในวัยนี้ยังไม่เป็นการตามใจจนทำให้เขาติดมือได้ แต่ความจริงการอุ้มยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้เด็กรู้สึกผูกพันกับคุณแม่หรือคนที่เลี้ยงได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจว่ามีคนคอยดูแลเขา ทำให้เขาหายกลัวหายกังวล และเมื่อเขารู้สึกเช่นนี้พออายุมากขึ้นเขาก็จะร้องไห้น้อยลงไปเรื่อย ๆ และทำให้เขาเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดีไม่เรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ หรือคนเลี้ยงจนเกินไป เพราะฉะนั้นการอุ้มเด็กในวัยนี้ยังไม่ทำให้เกิดอาการติดมือ “
เพราะฉะนั้นในช่วง 6 เดือนแรก ก็พยามอุ้มและอยู่ใกล้ชิดกับลูกให้มากที่สุด เพื่อที่ลูกจะได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้โดยเร็ว ได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ พร้อมสร้างพัมนาการที่ดี ที่จะส่งผลดีต่อลูกในอนาคต แต่หลังจาก 6 เดือนไปแล้วต้อง ช่วงที่ลูกเริ่มสื่อสาร และรับรู้เรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้น พ่อแม่และลูกต้องปรับตัว อุ้มลูกให้น้อยลง สอนลูกให้รู้จักรอ และไม่ตามใจลูก เพื่อสร้างนิสัยที่ดีแก่ลูกของพ่อแม่ทุกคนในอนาคตค่ะ
อันตรายที่ซ่อนอยู่จากการอุ้มลูกบ่อยๆ
การที่พ่อแม่อุ้มลูกมีประโยชน์ในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกได้ก็จริง แต่ก็มีสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรระวังไว้อยู่ด้วย เพราะการอุ้มลูกบ่อยเกินไปยังเป็นสาเหตุที่อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของพ่อแม่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลังจากการที่ต้องอุ้มลูกเป็นเวลานาน อาการพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ และเอ็นข้อมืออักเสบ ที่เกิดจากการใช้งานข้อมือมากๆ (อ่านเพิ่มเติม : โรคเอ็นข้อมืออักเสบ)
สำคัญที่สุดพ่อแม่มือใหม่หลายๆคน มักจะอุ้มลูกอยู่ในท่าทีผิด ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อลูก และส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านร่างกายของลูกในอนาคต เพราะฉะนั้นพ่อแม่ทุกคน ก็ควรระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
อุ้มลูก ดีอย่างไร
หลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงคิดว่า แล้วเราควรจะอุ้มลูกดีไหม ในความเป็นจริงการอุ้มลูกถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก เพราะระหว่างที่เด็กอยู่ในครรภ์ เด็กจะถูกโอบล้อมด้วยความอบอุ่นของแม่ตลอดเวลา ทำให้หลังคลอดเด็กจะรู้สึกถึงความปลอดภัย และได้รับความอบอุ่นจากการอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ ดังนั้น ในช่วงแรกเกิดเด็กมักจะอยากให้พ่อแม่อุ้มอยู่เสมอ แต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว การอุ้มลูกยังมีข้อดีในด้านอื่นๆอีกด้วย ที่ส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆของลูกในอนาคต
- การอุ้มลูกจะช่วยให้ลูกปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีขึ้น
ในช่วงแรกเกิดร่างกายของเด็กจะมีร่างกายที่บอบบาง ระบบต่างๆของร่างกายยังไม่พัฒนาจนแข็งแรง โดยเฉพาะระบบการปรับอุณหภูมิของร่างกาย การสัมผัส การอุ้ม ทำให้ทารกจะได้สัมผัส รับรู้ถึงอุณหภูิมร่างกายของพ่อแม่ ได้รับความอบอุ่นจากร่างกาย - เด็กจะรู้สึกมีความมั่นคงทางอารมณ์
จากงานวิจัยของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ ทำให้รู้ว่า เด็กจะรับรู้ได้ถึงความเอาใจใส่ ความรัก ทำให้การที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกับลูก อุ้มลูกบ่อยๆ หรือแสดงความรักต่อลูก ไม่เพียงทำให้ลูกมีความสุข และอุ่นใจ แต่ยังเป็นการวางพื้นฐานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในอนาคตด้วย - เด็กมีพัฒนาการที่ดี
เด็กที่ได้รับการสัมผัสมากพอ เซลล์สมองจะเติบโตและขยายตัว ประสาทสัมผัสจะว่องไว เรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่มีคนอุ้ม หรือได้รับการสัมผัส ซึ่งจากการทดลองของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ เกี่ยวกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่กับคนดูแลอุ้มบ่อยๆ จะตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีคนดูแล ไม่มีคนคอยอุ้ม - ปอดและหัวใจแข็งแรง
การอุ้มลูกน้อยไว้ในอกนั้น ความใกล้ชิดจะทำให้เจ้าตัวน้อยได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่เป็นจังหวะอย่างชัดเจน จึงทำให้เขามีการหายใจที่เป็นจังหวะไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นของคุณแม่ จึงทำให้ปอดและหัวใจของเขาพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย เพราะได้ยินเสียงที่คุ้นเคย - สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี
จากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ที่ศึกษาถึง อิทธิพลของความรักและการเอาใจใส่จากแม่ลิงที่มีต่อพฤติกรรมของลูกลิงเมื่อโตขึ้น พบว่า ลูกลิงที่ได้รับการสัมผัส ดูแลจากแม่ลิงบ่อยๆในช่วงสัปดาห์แรกของชีวิต จะมีความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีกว่าลูกลิงที่ไม่ได้รับการสัมผัสจากแม่

ตัวช่วยที่จะทำให้การอุ้มลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
อย่างที่บอกไปในตอนต้น ว่านอกจากการอุ้มลูกจะมีข้อดีอยู่หลายข้อแล้ว ก็ยังมีข้อที่ควรพึงระวังด้วย การอุ้มลูกที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ พ่อแม่ก็มักจะเกิดอาการปวดเมื่อย อุ้มลูกตลอดเวลาไม่ได้ ถึงพ่อแม่จะอยากอุ้มลูกก็ตาม และพ่อแม่มือใหม่บางคนที่ยังอุ้มลูกไม่เป็น อาจจะอุ้มลูกอยู่ในท่าที่ผิด ทำให้เป็นอันตรายต่อลูก เพราะฉะนั้นการมีตัวช่วยอย่าง “ เป้อุ้ม ” ที่ช่วยให้ลดภาระจากน้ำหนักตัว และทำให้อุ้มลูกอยู่ในท่าทีถูกตัองที่สุดก็จะช่วยลดภาระและข้อกังวลของพ่อแม่ได้เป็นอย่างมาก
แนะนำเป้อุ้มดีๆ ที่จะช่วยให้การอุ้มลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

1. เป้อุ้มเด็ก Made in Korea รุ่น Haenim 9 Plus
- ปรับใช้งานได้ 9 รูปแบบ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบ
- ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของเด็กทารก
- สายสะพายบริเวณบ่า ช่วยกระจายน้ำหนัก ไม่กดทับให้เกิดอาการเจ็บ และไม่ทำให้อุ้มลูกนานๆแล้วเกิดอาการปวดเมื่อยจนเกินไป
- แถบคาดเอวที่หนาพิเศษช่วยพยุงหลัง ลดอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เบาะนั่งถูกออกแบบมาอย่างพิเศษ มีลักษณะโค้งมนเข้าหาตัวผู้อุ้มทำให้น้ำหนักของตัวเด็กรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวผู้อุ้ม ตัวเด็กไมรั้งไปด้านหน้าที่ทำให้พ่อแม่ เกิดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้ม และอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- Newborn Support ช่วยทำให้อุ้มลูกได้แบบ Hands Free ได้ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้พ่อแม่สามารถทำกิจกรรมพร่อมกับอยู่ใกล้ชิดกับลูกได้ตลอดเวลา
- ซิปไร้เสียง Noiseless Waist Belt
- ผ่านมาตรฐานการรับรองจากสถาบันจากเกาหลี KC Standard

2. เป้อุ้มเด็ก Made in Korea รุ่น Haenim 9
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบ
- พอพาสะดวก น้ำหนักเบา
- ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของเด็กทารก
- สายสะพายบริเวณบ่า ช่วยกระจายน้ำหนัก ไม่กดทับให้เกิดอาการเจ็บ และไม่ทำให้อุ้มลูกนานๆแล้วเกิดอาการปวดเมื่อยจนเกินไป
- แถบคาดเอวที่หนาพิเศษช่วยพยุงหลัง ลดอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ซิปไร้เสียง Noiseless Waist Belt
- ผ่านมาตรฐานการรับรองจากสถาบันจากเกาหลี KC Standard

3. เป้อุ้มเด็ก No.5 Plus
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี
- ส่วนเสริมเด็กแรกเกิด New Born Support
- ซิปไร้เสียง Noiseless Waist Belt
- ที่ปรับขา 3 ระดับ 3-Steps Leg width control
- ที่เสริมหลัง 4 ชั้น Waist Support belt
- ชุดเป้อุ้มเด็กแบบออลอินวัน ALL-IN-ONE baby carrier ทำให้สามารถอุ้มทำให้อุ้มลูกได้แบบ Hands Free
- ได้รับการรับรองจากสถาบัน International Hip Dysplasia (IHDI) ซึ่งรับรองได้ว่า เป้อุ้มของป๊อกเน่ย์ทุกรุ่น ใช้แล้ว ขาไม่โก่ง หลังไม่งอ

4. เป้อุ้มเด็ก No. 5
- เนื้อผ้า Waterproof ที่ผสมระหว่าง Organic cotton + polyester อ่อนโยนต่อผิวเด็กและดูแลรักษาง่าย
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี
- มีที่พยุงคอช่วยปกป้องศรีษะ
- ผ้าโครงระบบระบายอากาศ สามารถม้วนเก็บได้
- รับน้ำหนักได้ดีกว่าด้วยแถบพยุงหลังขนาดใหญ่ ทำให้อุ้มแล้วไม่ปวดเมื่อย

4. เป้อุ้มเด็ก Ergobaby รุ่น OMNI 360 Cool Air Mesh
- รุ่น Cool Air Mesh ผ้าตาข่าย ช่วยระบายอากาศ
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม สามารถปรับขนาดของตัวเป้ให้เหมาะสมกับช่วงอายุได้ (0-48 เดือน)
- ตัวเป้เป็นแบบ full function ทำให้อุ้มได้รอบตัว
- เนื่องจากไม่มีการใช้โฟมเวลาอุ้ม เด็กจึงรู้สึกเหมือนอยู่ในถุงนอนทำให้หลับได้สบายกว่า และไม่กดหน้าท้องผู้อุ้มทำให้สามารถอุ้มได้นานกว่าเป้อุ้มทั่วไป
- เบาะบริเวณหน้าท้องและหลังมีความหนา ทำให้กระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ลดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มเป็นเวลานาน
- ม้วนเก็บได้ง่าย พกพาได้ง่ายในทุกการเดินทาง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ช่วงเวลาการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่คนใหม่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความกังวลไปพร้อมกัน BabyGift เข้าใจดีว่าการจัดกระเป๋าเตรียมคลอดและการเตรียมตัวสำหรับคุณแม่มือใหม่ต้องการคำแนะนำที่ถูกต้อง เราจึงรวบรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กคุณภาพพรีเมียมไว้ในที่เดียว ของใช้เตรียมคลอดสำหรับคุณแม่มือใหม่มีอะไรบ้าง การเตรียมความพร้อมก่อนคลอดไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งของ แต่เป็นการเตรียมจิตใจและความมั่นใจ ของใช้เตรียมคลอดที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่น ของใช้เตรียมคลอดสำหรับเด็ก ทารกแรกเกิดต้องการการดูแลเป็นพิเศษในทุกด้าน ตั้งแต่ความอบอุ่น ความสะอาด ไปจนถึงความปลอดภัย การเลือกของใช้เตรียมคลอดสำหรับสินค้าแม่และเด็กที่มีคุณภาพจะช่วยให้ลูกน้อยปรับตัวเข้ากับโลกภายนอกได้ดีขึ้น เสื้อผ้า เสื้อผ้าเป็นสิ่งแรกที่สัมผัสกับผิวอ่อนนุ่มของทารก การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมจึงสำคัญอย่างยิ่ง เครื่องนอน การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นรากฐานสำคัญของการเจริญเติบโต เครื่องนอนที่ดีจะช่วยให้ลูกนอนหลับสนิทและปลอดภัย ให้นมทารก การให้นมเป็นช่วงเวลาแห่งความผูกพัน อุปกรณ์ที่มีคุณภาพจะทำให้ประสบการณ์นี้ราบรื่นและมีความสุข สุขอนามัยของเตรียมคลอดสำคัญ ทารกมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่สมบูรณ์ การรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ยาสามัญสำหรับทารกแรกเกิด การเตรียมยาสามัญพื้นฐานจะช่วยให้พ่อแม่จัดการกับอาการเบื้องต้นได้ทันท่วงที อุปกรณ์เซฟตี้ลูกน้อย ความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องใส่ใจตั้งแต่วันแรก อุปกรณ์เซฟตี้ที่จำเป็นจะช่วยปกป้องลูกตั้งแต่การเดินทางครั้งแรก ของใช้เตรียมคลอดสำหรับคุณแม่ คุณแม่หลังคลอดต้องการการดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ทั้งร่างกายและจิตใจ การเตรียมของใช้ที่เหมาะสมจะช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารสำคัญ เอกสารที่ครบถ้วนจะทำให้ขั้นตอนการเข้าโรงพยาบาลและการออกใบเกิดเป็นไปอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้า ร่างกายหลังคลอดมีการเปลี่ยนแปลงมาก เสื้อผ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายและมั่นใจ สุขอนามัย การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวหลังคลอดต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ครีมดูแลผิว การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนหลังคลอดส่งผลต่อสภาพผิว ครีมบำรุงที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวยสุขภาพดี คุณแม่มือใหม่สนใจซื้อสินค้าแม่และเด็กครบวงจรที่สุดได้ที่ BabyGift BabyGift ไม่ใช่แค่ร้านขายผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก แต่เป็นที่ปรึกษาที่เข้าใจความต้องการของครอบครัวใหม่ ด้วยบรรยากาศการช้อปปิ้งแบบ “โฮมมี่” และการจัดโซนสินค้าตามความต้องการ พร้อมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน […]
รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี หรือน้ำหนัก 2.5 – 15 kg เพื่อความสุขแบบ Double ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สบายกว่าช่วยให้การเดินทางสำหรับคุณแม่และลูกน้อยเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า Function 1 : ลดแรงสั่นสะเทือนแบบ Double ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกถึง 2 จุดระบบรองรับแรงกระแทกใต้ที่นั่ง และระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% Function 2 : ระบายอากาศแบบ Double ด้วยเบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้นเบาะรองนอน ถักทอด้วยเส้นใย Silky Air มีความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก Function 3 : ลดความอับชื้นแบบ Double ด้วยระบบ DoubleThermo Medical Sysem ช่วยระบายอากาศให้ความรู้สึกสบายตัวแผ่นฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง ลดความร้อนสะสมบริเวณหลัง และลดอุณหภูมิของร่างกายลูกน้อยในขณะหลับได้ดี Function […]
ตัดเล็บทารก หน้าที่นี้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มักจะแอบเกร็งเลยใช่ไหมคะ เพราะนิ้วลูกยังเล็กมาก เล็บก็ยังอ่อนและเปราะบาง คุณพ่อคุณแม่เลยกลัวว่าจะตัดเล็บเข้าเนื้อทำให้ลูกน้อยเจ็บตัวได้ แต่อย่ากลัวเลยค่ะ เพราะเรามี ”วิธีการตัดเล็บทารก” มาแชร์ให้อ่านกัน วิธีตัดเล็บนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีความมั่นใจในการตัดเล็บให้ลูกน้อยมากขึ้น ตัดเล็บทารก เรื่องง่าย ๆ ถ้ารู้วิธีที่ถูกต้อง พร้อมอุปกรณ์ที่เหมาะสม ตัดเล็บทารก ควรตัดบ่อยแค่ไหน เล็บมือทารกจะยาวขึ้นวันละ 0.1 มม. ส่วนเล็บเท้าจะยาวช้ากว่า เด็กเล็กจึงควรตัดเล็บมือเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเล็บเท้า 2-3 ครั้งต่อเดือน ซึ่งช่วงเดือนแรกลูกน้อยเล็บยังนิ่ม แต่ก็สามารถบาดผิวลูกได้ จึงแนะนำให้ใช้การตะไบมากกว่าการตัด แต่หลังจากนั้นเล็บจะแข็งแรงขึ้น สามารถเลือกใช้ตะไบตัดเล็บหรือกรรไกรก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของคุณพ่อคุณแม่ วิธีตัดเล็บทารก ตัดเล็บทารกให้ไม่เข้าเนื้อ ตัดเล็บเข้าเนื้อ อันตรายกว่าที่คิด การตัดเล็บให้ลูกน้อยอย่างไม่เชี่ยวชาญ ใช้อุปกรณ์ตัดเล็บไม่เหมาะสม และไม่ระวังมากพอ อาจทำให้ตัดเข้าเนื้อ เล็บฉีก จนลูกน้อยบาดเจ็บเลือดไหล และอันตรายไปถึงขั้นติดเชื้อได้เลยนะคะ จากข้อมูลเพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ ได้นำเสนอข่าวเด็กวัยสิบเดือนที่ยายตัดเล็บให้ จากนั้นนิ้วโป้งเท้าของเด็กก็เริ่มบวม แดง อักเสบ มีไข้สูง เมื่อพาไปพบคุณหมอก็ได้ข้อวินิจฉัยว่าเด็กนิ้วเท้าอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด คุณหมอจึงขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่นำรูปมาโพสต์เตือนให้พ่อแม่ทุกคนระวังในการตัดเล็บลูกน้อยมากขึ้น เห็นแบบนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกอุปกรณ์ตัดเล็บให้เหมาะกับวัยของลูกและควรตัดอย่างระมัดระวังมากขึ้นนะคะ ที่ตัดเล็บเด็ก ควรใช้แบบไหนให้ปลอดภัย 1. กรรไกรตัดเล็บเด็ก 2. […]
คุณแม่รู้ไหม? ในช่วงตั้งครรภ์นอกเหนือจากบทบาทว่าที่คุณแม่แล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่คุณแม่จะได้สวมบทบาทสนุกๆ อีก 10 อย่างเพื่อการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพและมีความสุข 1.นักออกกำลังกาย : สุขภาพ ที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 โดยต้องเป็นกีฬา หรือกิจกรรมที่ไม่ใช้แรงหรือมีการกระแทก เช่น การว่ายน้ำ เดิน เต้นแอโรบิกเบาๆ บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ขี่จักรยาน อยู่กับที่ ควรหาโอกาสออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและไม่อ่อนแรงง่าย 2. นักสำรวจ : หมั่นสำรวจ และ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภายนอก อย่างผิวพรรณ เส้นผม เล็บ เพื่อบำรุงอย่างถูกวิธี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงภายใน อาการหรือความผิดปกติต่างๆ การดิ้น ของลูก โรคประจำตัว จดบันทึกการเปลี่ยนแปลง เพื่อจะได้นำไปถามคุณหมอเมื่อนัดตรวจครรภ์ หรือถ้ามีความผิดปกติที่ร้ายแรงจะได้รักษาได้ทันค่ะ 3. นักโภชนาการ : การพิถี พิถันเรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องที่ทราบกันดี อยู่แล้ว ซึ่งการกินอาหารครบ 5หมู่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่และช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ของร่าง กายให้กับลูกในท้อง รวมถึงต้องกินอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืนหรืออาหารสำเร็จรูปเพราะคุณค่าทางอาหารจะลดลง หากอยากกินน้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือขนมต่างๆ ก็สามารถกินได้ให้พอหายอยาก ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะจะทำให้อ้วนและยังมีสารต่างๆ จากส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายค่ะ 4. นักกิจกรรม : วันว่างอย่าลืม ผ่อนคลายด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บ้าน ไปเดินผ่อนคลายเปิดหูเปิดตานอกบ้าน ฟังการเสวนาหรือเข้าอบรมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์จะช่วยให้ได้รับความรู้และพัก ผ่อนในวันหยุด 5. […]
การฝึกเด็กทารกให้นั่งมีผลต่อพัฒนาการของเด็กน้อยค่ะ แต่ว่าจะให้เด็กเริ่มหัดใช้เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือนดี จะฝึกเด็กน้อยของเราให้นั่งยังไง จะเริ่มให้เด็กหัดนั่งตอนไหนถึงจะดี ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดไม่ลับมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ เด็กหัดนั่งกี่เดือนถึงจะดี ? แนะนำเคล็ดลับพร้อมตอบคำถาม และแนะนำยี่ห้อเก้าอี้เด็กน่าใช้ ! เก้าอี้หัดนั่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเด็กทารกฝึกนั่งอย่างปลอดภัย มีโครงสร้างที่มั่นคง และปลอดภัย ช่วยพยุงตัวเด็ก ใช้วัสดุที่นุ่มสบาย มีสายรัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งบางรุ่นก็ออกแบบมาให้มีถาดวางของด้านหน้าให้ด้วย เก้าอี้หัดนั่งจะช่วยให้เด็กได้ฝึกทรงตัว ฝึกกล้ามเนื้อ เตรียมความพร้อมสำหรับการนั่งด้วยตัวเอง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการหัดนั่งจะเป็นยังไงบ้างนั้น ตามมาเรียนรู้เพิ่มเติมไปพร้อมๆ กันค่ะ พัฒนาการของเด็ก ก่อนจะไปดูว่าเก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน เราลองมาทำความรู้จักกับตัวอย่างพัฒนาการของเด็กกันก่อนดีกว่าค่ะ ซึ่งพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ซึ่งถ้ามีข้อสงสัย หรือกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก ควรปรึกษากับแพทย์นะคะ สำหรับผู้ปกครองที่สนใจเรื่องพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ อีก ลองอ่านเพิ่มเติมได้อีกนะคะ BabyGift เคยเขียนไว้ในเว็บไซต์แล้วค่ะ เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน ? โดยทั่วไป เด็กจะพร้อมหัดนั่งเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งในช่วงนี้ กล้ามเนื้อคอและหลังของเด็กจะแข็งแรงพอที่จะรองรับการนั่งได้ดีขึ้นค่ะ แต่ถึงแม้ว่าพัฒนาการของเด็กในช่วง 4-6 เดือนนั้น จะเริ่มควบคุมศีรษะได้ดี และอาจเริ่มพลิกตัวได้แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการนั่ง แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการฝึกนั่ง ซึ่งการเริ่มฝึกหัดนั่งในเด็กอายุ 6-8 เดือนนั้น […]
เคยมีคนบอกว่า แต่งงานแล้วอย่าเพิ่งมีลูกนะ เดี๋ยวไม่มีเวลาได้ไปท่องเที่ยว เพราะถ้ามีลูกน้อยจะเดินทางแต่ครั้ง ต้องเตรียมสัมภาระของลูก 1 กระเป๋าใหญ่ ต้องรับมือกับลูกที่อาจร้องงอแง เพราะพักผ่อนไม่เต็มที่ ถึงเวลานอนแล้วไม่ได้นอน งอแงต้อให้อุ้มตลอดเวลา ก็คงเที่ยวไม่สนุก แล้วก็จะเข็ดไม่อยากไปไหนอีกเลย แต่รู้ไหมว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับลูกน้อยเลย เพราะเด็กในช่วงวัยนึง เป็นช่วงวัยที่ต้องการการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยส่งเสริมให้พัฒนาการของลูกน้อยเป็นไปอย่างดีเยี่ยม …แต่ถ้าไม่ได้พาลูกออกนอกบ้านเลย แล้วจะเรียนรู้ได้อย่างไรหล่ะ??? แต่สำหรับครอบครัวพ่อเพชรจ้า-แม่นิวเคลียร์ สามารถพาน้องไทก้าเที่ยวได้ทุกที่ได้อย่างคล่องตัว พาออกนอกบ้านตั้งแต่น้องยังเล็กๆอยู่เลยค่ะ ก็เพราะมีตัวช่วยอย่าง รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon เป็นรถเข็นเด็กที่เบาที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะเบาเพียง 3.6 kg. TRIP KOREA รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon กับทริปแรกของน้องไทก้า ในวัยประมาณ 6 เดือน เดินทางไปไกลถึงแดนกิมจิ ประเทศเกาหลี ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 3.6 kg. ช่วยให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้อย่างสบาย รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon ปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง ช่วยให้พ่อเพชรจ้าดูแลน้องไทก้าได้อย่างใกล้ชิด แบบ face to face […]






