ลูกติดมือ อุุ้มลูกบ่อยๆ ดีมั้ย

อุ้มลูกบ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่า “ลูกติดมือ”
ลูกติดมือ พฤติกรรมแบบนี้เกิดจากการอุ้มลูกบ่อย แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมเด็กถึงอยากให้อุ้ม เด็กแรกเกิด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก ช่วงนี้เด็กจะยังชินกับการอยู่ในท้องของคุณแม่ที่เคลื่อนไหวตลอด มีความอบอุ่น และได้ยินเสียงหัวใจเต้นของแม่ตลอดเวลา การอุ้ม การสัมผัส จะช่วยให้เด็กปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ หลังจากออกมาจากครรภ์ของแม่ เพราะการอุ้มเป็นการทำให้เค้ากลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงเหมือนอยู่ในครรภ์ของแม่ ทำให้เค้าหยุดร้องไห้ รู้สึกปลอดภัยจากการได้รับความอบอุ่นจากอ้อมอกพ่อแม่ จึงทำให้เด็กมักจะอยากให้พ่อแม่อุ้มอยู่บ่อยๆ
ซึ่งจากบทความของโรงพยาบาลเปาโลได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “ ช่วงเด็กทารกวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน จะเป็นวัยที่หากเขาต้องการสื่อสารอะไรกับคนอื่นก็จะใช้วิธีการร้องไห้เท่านั้น ซึ่งเมื่อร้องไห้คุณแม่หรือคนเลี้ยงส่วนใหญ่ก็จะเดินเข้าไปอุ้ม ซึ่งจริง ๆ การอุ้มเด็กในวัยนี้ยังไม่เป็นการตามใจจนทำให้เขาติดมือได้ แต่ความจริงการอุ้มยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้เด็กรู้สึกผูกพันกับคุณแม่หรือคนที่เลี้ยงได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจว่ามีคนคอยดูแลเขา ทำให้เขาหายกลัวหายกังวล และเมื่อเขารู้สึกเช่นนี้พออายุมากขึ้นเขาก็จะร้องไห้น้อยลงไปเรื่อย ๆ และทำให้เขาเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดีไม่เรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ หรือคนเลี้ยงจนเกินไป เพราะฉะนั้นการอุ้มเด็กในวัยนี้ยังไม่ทำให้เกิดอาการติดมือ “
เพราะฉะนั้นในช่วง 6 เดือนแรก ก็พยามอุ้มและอยู่ใกล้ชิดกับลูกให้มากที่สุด เพื่อที่ลูกจะได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้โดยเร็ว ได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ พร้อมสร้างพัมนาการที่ดี ที่จะส่งผลดีต่อลูกในอนาคต แต่หลังจาก 6 เดือนไปแล้วต้อง ช่วงที่ลูกเริ่มสื่อสาร และรับรู้เรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้น พ่อแม่และลูกต้องปรับตัว อุ้มลูกให้น้อยลง สอนลูกให้รู้จักรอ และไม่ตามใจลูก เพื่อสร้างนิสัยที่ดีแก่ลูกของพ่อแม่ทุกคนในอนาคตค่ะ
อันตรายที่ซ่อนอยู่จากการอุ้มลูกบ่อยๆ
การที่พ่อแม่อุ้มลูกมีประโยชน์ในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกได้ก็จริง แต่ก็มีสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรระวังไว้อยู่ด้วย เพราะการอุ้มลูกบ่อยเกินไปยังเป็นสาเหตุที่อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของพ่อแม่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลังจากการที่ต้องอุ้มลูกเป็นเวลานาน อาการพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ และเอ็นข้อมืออักเสบ ที่เกิดจากการใช้งานข้อมือมากๆ (อ่านเพิ่มเติม : โรคเอ็นข้อมืออักเสบ)
สำคัญที่สุดพ่อแม่มือใหม่หลายๆคน มักจะอุ้มลูกอยู่ในท่าทีผิด ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อลูก และส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านร่างกายของลูกในอนาคต เพราะฉะนั้นพ่อแม่ทุกคน ก็ควรระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
อุ้มลูก ดีอย่างไร
หลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงคิดว่า แล้วเราควรจะอุ้มลูกดีไหม ในความเป็นจริงการอุ้มลูกถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก เพราะระหว่างที่เด็กอยู่ในครรภ์ เด็กจะถูกโอบล้อมด้วยความอบอุ่นของแม่ตลอดเวลา ทำให้หลังคลอดเด็กจะรู้สึกถึงความปลอดภัย และได้รับความอบอุ่นจากการอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ ดังนั้น ในช่วงแรกเกิดเด็กมักจะอยากให้พ่อแม่อุ้มอยู่เสมอ แต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว การอุ้มลูกยังมีข้อดีในด้านอื่นๆอีกด้วย ที่ส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆของลูกในอนาคต
- การอุ้มลูกจะช่วยให้ลูกปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีขึ้น
ในช่วงแรกเกิดร่างกายของเด็กจะมีร่างกายที่บอบบาง ระบบต่างๆของร่างกายยังไม่พัฒนาจนแข็งแรง โดยเฉพาะระบบการปรับอุณหภูมิของร่างกาย การสัมผัส การอุ้ม ทำให้ทารกจะได้สัมผัส รับรู้ถึงอุณหภูิมร่างกายของพ่อแม่ ได้รับความอบอุ่นจากร่างกาย - เด็กจะรู้สึกมีความมั่นคงทางอารมณ์
จากงานวิจัยของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ ทำให้รู้ว่า เด็กจะรับรู้ได้ถึงความเอาใจใส่ ความรัก ทำให้การที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกับลูก อุ้มลูกบ่อยๆ หรือแสดงความรักต่อลูก ไม่เพียงทำให้ลูกมีความสุข และอุ่นใจ แต่ยังเป็นการวางพื้นฐานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในอนาคตด้วย - เด็กมีพัฒนาการที่ดี
เด็กที่ได้รับการสัมผัสมากพอ เซลล์สมองจะเติบโตและขยายตัว ประสาทสัมผัสจะว่องไว เรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่มีคนอุ้ม หรือได้รับการสัมผัส ซึ่งจากการทดลองของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ เกี่ยวกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่กับคนดูแลอุ้มบ่อยๆ จะตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีคนดูแล ไม่มีคนคอยอุ้ม - ปอดและหัวใจแข็งแรง
การอุ้มลูกน้อยไว้ในอกนั้น ความใกล้ชิดจะทำให้เจ้าตัวน้อยได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่เป็นจังหวะอย่างชัดเจน จึงทำให้เขามีการหายใจที่เป็นจังหวะไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นของคุณแม่ จึงทำให้ปอดและหัวใจของเขาพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย เพราะได้ยินเสียงที่คุ้นเคย - สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี
จากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ที่ศึกษาถึง อิทธิพลของความรักและการเอาใจใส่จากแม่ลิงที่มีต่อพฤติกรรมของลูกลิงเมื่อโตขึ้น พบว่า ลูกลิงที่ได้รับการสัมผัส ดูแลจากแม่ลิงบ่อยๆในช่วงสัปดาห์แรกของชีวิต จะมีความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีกว่าลูกลิงที่ไม่ได้รับการสัมผัสจากแม่

ตัวช่วยที่จะทำให้การอุ้มลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
อย่างที่บอกไปในตอนต้น ว่านอกจากการอุ้มลูกจะมีข้อดีอยู่หลายข้อแล้ว ก็ยังมีข้อที่ควรพึงระวังด้วย การอุ้มลูกที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ พ่อแม่ก็มักจะเกิดอาการปวดเมื่อย อุ้มลูกตลอดเวลาไม่ได้ ถึงพ่อแม่จะอยากอุ้มลูกก็ตาม และพ่อแม่มือใหม่บางคนที่ยังอุ้มลูกไม่เป็น อาจจะอุ้มลูกอยู่ในท่าที่ผิด ทำให้เป็นอันตรายต่อลูก เพราะฉะนั้นการมีตัวช่วยอย่าง “ เป้อุ้ม ” ที่ช่วยให้ลดภาระจากน้ำหนักตัว และทำให้อุ้มลูกอยู่ในท่าทีถูกตัองที่สุดก็จะช่วยลดภาระและข้อกังวลของพ่อแม่ได้เป็นอย่างมาก
แนะนำเป้อุ้มดีๆ ที่จะช่วยให้การอุ้มลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

1. เป้อุ้มเด็ก Made in Korea รุ่น Haenim 9 Plus
- ปรับใช้งานได้ 9 รูปแบบ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบ
- ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของเด็กทารก
- สายสะพายบริเวณบ่า ช่วยกระจายน้ำหนัก ไม่กดทับให้เกิดอาการเจ็บ และไม่ทำให้อุ้มลูกนานๆแล้วเกิดอาการปวดเมื่อยจนเกินไป
- แถบคาดเอวที่หนาพิเศษช่วยพยุงหลัง ลดอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เบาะนั่งถูกออกแบบมาอย่างพิเศษ มีลักษณะโค้งมนเข้าหาตัวผู้อุ้มทำให้น้ำหนักของตัวเด็กรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวผู้อุ้ม ตัวเด็กไมรั้งไปด้านหน้าที่ทำให้พ่อแม่ เกิดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้ม และอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- Newborn Support ช่วยทำให้อุ้มลูกได้แบบ Hands Free ได้ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้พ่อแม่สามารถทำกิจกรรมพร่อมกับอยู่ใกล้ชิดกับลูกได้ตลอดเวลา
- ซิปไร้เสียง Noiseless Waist Belt
- ผ่านมาตรฐานการรับรองจากสถาบันจากเกาหลี KC Standard

2. เป้อุ้มเด็ก Made in Korea รุ่น Haenim 9
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบ
- พอพาสะดวก น้ำหนักเบา
- ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของเด็กทารก
- สายสะพายบริเวณบ่า ช่วยกระจายน้ำหนัก ไม่กดทับให้เกิดอาการเจ็บ และไม่ทำให้อุ้มลูกนานๆแล้วเกิดอาการปวดเมื่อยจนเกินไป
- แถบคาดเอวที่หนาพิเศษช่วยพยุงหลัง ลดอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ซิปไร้เสียง Noiseless Waist Belt
- ผ่านมาตรฐานการรับรองจากสถาบันจากเกาหลี KC Standard

3. เป้อุ้มเด็ก No.5 Plus
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี
- ส่วนเสริมเด็กแรกเกิด New Born Support
- ซิปไร้เสียง Noiseless Waist Belt
- ที่ปรับขา 3 ระดับ 3-Steps Leg width control
- ที่เสริมหลัง 4 ชั้น Waist Support belt
- ชุดเป้อุ้มเด็กแบบออลอินวัน ALL-IN-ONE baby carrier ทำให้สามารถอุ้มทำให้อุ้มลูกได้แบบ Hands Free
- ได้รับการรับรองจากสถาบัน International Hip Dysplasia (IHDI) ซึ่งรับรองได้ว่า เป้อุ้มของป๊อกเน่ย์ทุกรุ่น ใช้แล้ว ขาไม่โก่ง หลังไม่งอ

4. เป้อุ้มเด็ก No. 5
- เนื้อผ้า Waterproof ที่ผสมระหว่าง Organic cotton + polyester อ่อนโยนต่อผิวเด็กและดูแลรักษาง่าย
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี
- มีที่พยุงคอช่วยปกป้องศรีษะ
- ผ้าโครงระบบระบายอากาศ สามารถม้วนเก็บได้
- รับน้ำหนักได้ดีกว่าด้วยแถบพยุงหลังขนาดใหญ่ ทำให้อุ้มแล้วไม่ปวดเมื่อย

4. เป้อุ้มเด็ก Ergobaby รุ่น OMNI 360 Cool Air Mesh
- รุ่น Cool Air Mesh ผ้าตาข่าย ช่วยระบายอากาศ
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม สามารถปรับขนาดของตัวเป้ให้เหมาะสมกับช่วงอายุได้ (0-48 เดือน)
- ตัวเป้เป็นแบบ full function ทำให้อุ้มได้รอบตัว
- เนื่องจากไม่มีการใช้โฟมเวลาอุ้ม เด็กจึงรู้สึกเหมือนอยู่ในถุงนอนทำให้หลับได้สบายกว่า และไม่กดหน้าท้องผู้อุ้มทำให้สามารถอุ้มได้นานกว่าเป้อุ้มทั่วไป
- เบาะบริเวณหน้าท้องและหลังมีความหนา ทำให้กระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ลดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มเป็นเวลานาน
- ม้วนเก็บได้ง่าย พกพาได้ง่ายในทุกการเดินทาง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คาร์ซีทออร์แกนิค เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสำคัญ เพราะนอกจากระบบความปลอดภัยและฟังก์ชันต่างๆ ที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อคาร์ซีทแล้ว เนื้อผ้าของคาร์ซีทก็เป็นอีกปัจจัยที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ ว่าทำมาจากวัสดุชนิดใด เนื่องจากผิวลูกน้อยบอบบางกว่าผิวผู้ใหญ่ถึงหลายเท่า มีโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง หรือติดเชื้อได้ง่าย เพราะยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอ คุณพ่อคุณแม่ จึงต้องใส่ใจและพิจารณาวัสดุที่จะมาสัมผัสกับผิวลูกน้อยเป็นอย่างดี ผ้าฝ้าย Organic หรือผ้าที่ทำจากฝ้าย Organic 100% เป็นผ้าที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งจะทำให้ผ้าฝ้ายที่ได้มานั้น ปลอดจากสารพิษ และยาฆ่าแมลง ที่เป็นตัวการสำคัญที่จะทำร้ายสุขภาพของลูกน้อย ซึ่งองค์กรผู้บริโภคสินค้าออร์แกนิค (The Organic Consumers Association) ยังแนะนำให้ใช้เสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าออร์แกนิคคอตตอน หรือผ้าฝ้าย Organic 100% เป็นทางเลือกแรกอีกด้วย คาร์ซีทออร์แกนิค มีข้อดีอย่างไรบ้าง 1. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ จากข้อมูลในรัฐแคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา ระบุว่าในการปลูกฝ้ายด้วยวิธีธรรมดาทั่วไปจะมีการใช้ยาฆ่าแมลง โดยเฉลี่ยต่อปีจะมีการมูลค่ากว่า 2.6 พันล้านเหรียญ และผลการทดสอบยาฆ่าแมลงจำนวน 5 […]
หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids
หากคุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์และกังวลว่าของเตรียมคลอดมีอะไรบ้าง หรือจะต้องเตรียมอะไรบ้างสำหรับลูกน้อยที่กำลังจะมาถึง การรู้ว่าเตรียมของใช้ทารกแรกเกิดมีอะไรบ้างจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่วางแผนได้อย่างเป็นระบบ ไม่ต้องเร่งรีบหาซื้อของใช้ในวินาทีสุดท้าย การเตรียมความพร้อมล่วงหน้าจะทำให้การต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น 20 เช็กลิสต์สำคัญ เตรียมของใช้ทารกแรกเกิดมีอะไรบ้าง ของใช้เด็กแรกเกิดมีอะไรบ้างที่ต้องเตรียมก่อนวันคลอดถึงจะไม่เป็นกังวล เราได้รวบรวมรายการสำคัญ 20 อย่างที่ทุกครอบครัวควรมี การเตรียมของใช้เด็กทารกอย่างครบถ้วนจะช่วยให้การดูแลลูกน้อยเป็นไปอย่างราบรื่น 1. ครีมทาผื่นผ้าอ้อม ผิวของทารกยังบอบบางและแพ้ง่าย การอยู่กับผ้าอ้อมเปียกนานอาจทำให้เกิดผื่นแดงได้ ครีมทาผื่นผ้าอ้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการระคายเคืองบริเวณก้น ควรเลือกสูตรที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการผดผื่นคัน ลดการอักเสบ และปกป้องผิวจากความเปียกชื้นเป็นส่วนผสม 2. เครื่องปั๊มนม เครื่องปั๊มนมช่วยให้คุณแม่สามารถเก็บนมแม่ไว้ล่วงหน้า สะดวกต่อการให้นมเมื่อต้องออกจากบ้าน หรือเมื่อต้องกลับไปทำงาน การมีนมแม่สำรองจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนตลอดเวลา ควรเลือกแบบไฟฟ้าที่ปรับระดับแรงดูดได้ตามความต้องการของคุณแม่ได้อย่างอิสระ 3. อุปกรณ์สำหรับให้นมลูก ขวดนม จุกนม และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เป็นของใช้เด็กทารกที่ใช้บ่อยมาก ควรเตรียมไว้หลายชุดเพื่อสลับใช้ หมอนรองให้นมจะช่วยพยุงแขนของคุณแม่ให้สบายขณะให้นม จุกนมหลอกก็เป็นตัวช่วยปลอบใจลูกในยามหิวหรือเหงา 4. เครื่องวัดอุณหภูมิทารก เทอร์โมมิเตอร์สำหรับเด็กเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดูแลสุขภาพ ทารกอาจมีไข้หรือไม่สบายได้ง่าย การสามารถวัดอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำจะช่วยให้พ่อแม่ตัดสินใจได้ว่าควรพาไปหาหมอหรือดูแลเองที่บ้าน ควรเลือกแบบดิจิตอลที่อ่านค่าได้รวดเร็ว 5. เครื่องนอนสำหรับเด็ก ชุดเครื่องนอนเด็กประกอบด้วยฟูก หมอน และผ้าห่มที่เหมาะกับทารก เนื้อผ้าต้องอ่อนนุ่มและระบายอากาศได้ดี การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย ควรเลือกผ้าฝ้าย 100% ที่ไม่ระคายผิว 6. เตียงเด็ก […]
เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4
เชื่อว่าคุณแม่หลายๆคนคงอยากให้ลูกน้อยปลอดภัยโชคดีกันทั้งนั้น วันนี้ Baby Gift ขอเอาใจคุณแม่สายมู หยิบข้อมูลเครื่องรางยอดฮิตสำหรับลูกน้อยมาฝากค่ะ เราลองไปดูพร้อมๆกันเลยว่า Lucky item เพิ่มสีสันให้ลูกน้อยแถมยังคุ้มครองทางใจคุณแม่ ไปดูกันเลย ตาข่ายดักฝัน หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า Dreamcatcher ในสมัยก่อนชาวอินเดียนแดงสร้างเครื่องรางชิ้นนี้ขึ้นมา เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันฝันร้ายให้สลายหายไป จึงหันมานิยมห้อยไว้เหนือเปลเด็กเพราะหวังว่าจะช่วยทำให้ลูกน้อยปลอดภัยและนอนหลับฝันดี ซึ่งยังเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี เพราะสายตาเด็กที่จับจ้องมองการแกว่งไกวของตาข่ายดักฝันนั้น จะช่วยทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางสายตาและกล้ามเนื้อมัดเล็กได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังทำให้คุณแม่อุ่นใจเมื่อมีเครื่องรางช่วยคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย อเมทิสต์หินนำโชค ตามความเชื่อของหินนำโชคนั้น หินสีม่วงจะช่วยปกป้องให้ลูกน้อยปลอดภัย ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป เสริมพลังบวกและดึงดูดสิ่งดีๆนำความโชคดีมาให้เด็กๆ อีกทั้งยังช่วยทำให้ลูกน้อยหลับสบาย เพราะเชื่อว่าหินจะมีคลื่นพลังงานแห่งความสุขปล่อยออกมาช่วยทำให้ลูกน้อยนอนหลับฝันดีหรือมีความสุขนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อ คุณแม่ควรวางไว้ในจุดที่ลูกน้อยไม่สามารถหยิบจับหรือเอื้อมถึงได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะเผลอหยิบเข้าปาก และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ถุงนำโชค อีกหนึ่งเครื่องรางจากวัดดังที่ฮอกไกโด เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าสีชมพู ปักตัวอักษรด้วยดิ้นสีทอง และปักรูปแมว 2 ตัว พกเพื่อนำโชค เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายจากลูกน้อย สุขภาพแข็งแรง และยังช่วยให้เด็กเติบโตมีสุขภาพที่แข็งแรงในอนาคตด้วย นอกจากจะคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัยแล้วยังช่วยคุ้มครองคุณแม่อีกด้วย กำไลข้อเท้า คนไทยสมัยก่อนมักซื้อมาไว้รับขวัญหลาน เพราะเชื่อกันว่าการใส่กำไลข้อเท้าให้เด็กนั้นจะช่วยคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง แต่ความจริงนั้นอาจเป็นเพียงกุศโลบายในการเลี้ยงเด็ก เพราะกำไลข้อเท้าเด็กส่วนมากจะมีกระดิ่งห้อยอยู่ด้วย เมื่อพ่อแม่ได้ยินเสียงจะทำให้รู้ว่าลูกนอนอยู่หรือตื่นแล้ว อีกทั้งยังสามารถตามหาลูกน้อยว่าอยู่ที่ไหนได้จากเสียงกระดิ่งอีกด้วย เรียกได้ว่า ทั้งเสริมดวงให้ลูกน้อยปลอดภัยแล้วยังได้ใช้ประโยชน์ไปพร้อมๆกัน ถึงอย่างไรก็ตาม กำไลข้อเท้าควรทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ […]
แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น






