รีวิวพาลูกน้อยสูดอากาศยามเย็น ด้วยรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia

รีวิวลูกค้าที่น่ารักจาก Baby Gift Showroom นะคะ…^^
…วันนี้คุณแม่อารมณ์ดีจร้า อากาศเย็นสบายลูกชายก็อารมณ์ดี ไม่งอแง ให้กินก็กิน ให้นอนก็นอน คุณแม่เลยได้พักผ่อนนอนกลางวันอย่างเต็มอิ่ม หลับยาวๆไป พออารมณ์ดี แล้วอากาศก็ดี แดดอ่อนๆ ตอนเย็นๆ ก็เลยคิดว่าจะพาลูกออกมาเดินเล่นสักหน่อย แม่ลูกจะไปยังไงกันอะหรอ ถ้าอุ้มเดินไปคงไมไหว คุณแม่มีตัวช่วยที่ดีที่จะพาลูกออกไปเที่ยวนอกได้อย่างสบายๆ
แอ่น แอน แอ๊น !!!! รถเข็นเด็ก Aprica รุ่นใหม่ล่าสุดจร้า รุ่น Optia เพิ่งไปถอยมาไม่กี่วันนี้เอง บอกเลยชอบมาก ใช้ทุกวันคร้า เข็นเดินเล่นในบ้านบ้าง ออกนอกบ้านบ้าง ไปช้อปปิ้งก็สบาย ก็เพราะคุณสมบัติที่สุดยอดไปเลย คุณสมบัติแบบ Double เลิศเล่อเพอร์เฟคที่สุด ไหนๆก็ต้องออกมาเดินเล่น ก็ขอรีวิวซ่ะหน่อยน๊า!!!
ก่อนจะซื้อรถเข็นเด็กก็เลือกแล้วเลือกอีก ดูหลายๆยี่ห้อ มีทั้งราคาแพงเว่อวัง แต่คุณสมบัติก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนไอ้ที่ราคาถูกๆก็เหมือนจะพังง่าย และก็เข็นน่าลำบากเหลือเกิน โยกไปโยกมาทั้งคัน ลูกนั่งคงเวียนหัวแย่!!! แต่กับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นใหม่ล่าสุด รุ่น Optia ลองเข็นพื้นเรียบก็เข็นง่าย แต่พอลองเข็นกับสนมหญ้าแล้ว ว้าวเลยค่ะ และลูกก็ไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือน เพราะมีฟังชั่นแบบ Double เรามาดูกันอย่างละเอียดกันดีกว่าว่าตรงไหนที่เป็นบ้าง บ้างที่มีระบบ Double…

Optia มาพร้อมความใหม่ของสีน้ำเงินที่ดูสว่างสดใส โครงสร้างดูแข็งแรง ถ้าสังเกตดูจะเห็นสีแดงที่ล้อ และใต้ที่นั่ง และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความพิเศษแบบ Double

ใต้ทีนั่งมีความ Double ด้วยโช้คใต้ที่นั่งที่ดูแข็งแรง น่าจะรับแรงกระแทกได้อย่างดี ทำให้ตัวลูกเวลานั่งกับรถเข็นเด็กไม่รู้สึกถึงความสั่นสะเทือน


ที่ล้อ ทั้ง 4 ล้อ ก็มีโช้คด้วยนะ ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นที่ขรุขระได้อย่างดี เช่นกัน เท่ากับว่าลดแรงสั่นสะเทือน 2 จุด ลูกที่นั่งกับOptia ก็แทบจะไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเลยอ่ะ สุดยอดดด!!!


รุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็นเบาะรองนอน Silky Air รุ่นนี้ก็เช่นกัน นวัตกรรมใหม่ที่ให้ความนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี และที่เป็น Double เพราะมีผ้าระบายอากาศทุกชั้น ทำให้ระบายอากาศได้ดีขึ้นเป็น 2 เท่า

เบาะรองด้านข้างของOptia ก็เป็นผ้าระบายอากาศด้วยนะ

ที่ด้านหลังของOptia มีช่องระบายอากาศ ช่วยลดความร้อนที่หลังเวลาลูกนั่ง และ Double ด้วยแผ่นฉนวนสีเงิน ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากพื้นที่อาจร้อนแดดไม่ให้ร้อนที่หลังลูกด้วย

ยังไม่พอจร้า ด้านนอกข้างๆก็เต็มไปด้วยรูระบายอากาศ ระบายอากาศได้ดีทั้งคันแบบนี้ รับรองลูกไม่ร้อน ไม่อับชื้นไม่งอแง คุณแม่ก็สบายใจไปด้วยจร้า




เคยเห็นยี่ห้ออื่นหลังคาบังได้นิดเดียวเอง แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่Optia หลังคาปิดมิดเลย และก็มีช่องให้เปิดส่องลูกได้ด้วย กันรังสีUV ได้ตั้ง 99% คือแบบแทบไม่รู้สึกถึงความร้อน และยังกันละอองน้ำได้ แต่ถ้าฝนตกแรงก็ไม่ควรนะจ๊ะ กันไม่ได้ขนาดนั้น และอีกอย่างก็ไม่ควรนะคะ เดี๋ยวลูกไม่สบาย


นี้ไงช่องเปิด-ปิดตรงหลังคา เปิดแอบส่องลูกได้เวลาที่เข็นไปแล้วหลับ และก็เปิดไว้เพื่อระบายอากาศได้อีกทาง

รุ่น Optia เป็นแบบ Highseat 54 ขออธิบายเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่มือใหม่อาจจะไม่รู้จัก Highseat คือความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง(ตามลูกศรที่ชี้) ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะช่วยลดความร้อนและฝุ่นละอองที่มาจากพื้นได้ รุ่นนี้ Highseat 54 cm. จึงถือว่าโอเคอยู่นะ สูงกำลังดี

มีชุด Support หมอนรองศีรษะและสะโพก สำหรับเด็กแรกเกิด และ Double ด้วยโครงสร้างกว้างขึ้น 4 cm. ช่วยให้ลูกขยับแขนและขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เป็นรถเข็นเด็กที่มีระบบ CTS (Carry travel System) ฟังชั่นแบบ Double กับการใช้รถเข็นเด็ก ควบคู่กับเป้อุ้มเด็กได้ ด้านหลังมีกระเป๋าสำหรับเก็บเป้อุ้มด้วย ง่ายทั้งใช้งาน และเก็บง่ายหากไม่ได้ใช้

ส่วนอื่นๆที่เป็นคุณสมบัติหลักๆของAprica ก็ยังมีอีกหลายอย่างหลายฟังชั่น เช่น ปรับเอนนอนได้ 170 องศา

ปรับเอนได้หลายระดับ เลื่อนปรับได้ตามความต้องการ ที่เลื่อนปรับอยู่หลังเบาะ บีบตัวล็อกแล้วก็รูดสายตามองศาการเอนที่ต้องการได้เลย


ปรับเข็นได้ 2 ฝั่ง เข็นง่ายล้อแบบ Auto 4 Wheels ล้อมันจะหมุนได้ทั้ง 4 ล้อ พอเราเปลี่ยนฝั่งเข็นล้อด้านหลังจะหมุน ล้อด้านหน้าจะตรง ทำให้การเลี้ยวโค้งที่แคบก็ง่ายมาก

ที่ปรับทิศทางของก้านเข็น อยู่ด้านในนะ ยกขึ้นแล้วก็เลื่อนไปหน้าหรือหลังได้เลย

ก้านเข็นปรับระดับสูง-ต่ำได้ คุณแม่ที่ตัวเล็กไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเข็นลำบาก ปรับก้านเข็นลงมาก็เข็นง่ายเลยจร้า


มีที่กั้นหน้าเปิด-ปิดได้ ไว้กันลูกตก ไว้ให้ลูกจับ และก็อุ้มลูกขึ้น-ลง ได้ง่ายด้วยนะ ประโยชน์เยอะแยะเลย



พับกางได้ด้วยมือเดียว มืออีกข้างก็อุ้มลูกสบาย พับแล้วตั้งกับพื้นได้ไม่ล้มกองบนพื้นที่สกปรก แต่ถ้าสกปรก ก็ถอดซักได้ทุกชิ้นส่วนแต่ควรซักด้วยมือนะ จะได้เป็นการถนอมเนื้อผ้าให้ใช้ได้นานๆด้วยจร้า
***สรุปแล้วที่เลือกรถเข็นเด็กAprica รุ่น Optia ก็เพราะคุณสมบัติแบบ Double นี้แหละคะ คุณแม่คุณลูกสบายทั้งคู่ด้วย พร้อมเดินทางไปได้ทุกที่อย่างงง่ายดาย เลิศจร้า…^^
>>>ไว้พบกันใหม่ในรีวิวต่อๆไปนะคะว่าจะเป็นสินค้าอะไร บ๊ายบาย…^^
ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม : Aprica Optia
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
หลายๆบ้านถามกันเข้ามาว่า เวลาพาลูกเที่ยว แม่แพรว ยังให้เฌอลินน์นั่งรถเข็นอยู่ไหม ? ต้องบอกแบบนี้เลยค่ะว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละวัน ว่าเราพาลูกน้อยไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ต้องเดินทางไกลหรือนานแค่ไหน ? อย่างเวลาแพรวพาลูกออกนอกบ้านนานๆ ถ้าไม่มีตัวช่วยอย่างเจ้ารถเข็นเลย บางครั้งก็ทำให้เฌอลินน์งอแง อยากให้อุ้มอยู่ตลอดเวลา พ่อแม่อย่างเราจะคอยอุ้มลูกทั้งวันก็คงไม่ไหวใช่มั้ยหล่ะคะ ถ้าได้รถเข็นมาเป็นตัวช่วยพาลูกเที่ยวในวันที่แม่เหนื่อย อุ้มลูกไม่ไหว ก็จะช่วยทำให้เราพาลูกเที่ยวแบบสบาย แม่ไม่เหนื่อย แฮปปี้กันทั้งครอบครัวเลยค่ะ แพรวเลือก รถเข็น Aprica รุ่น Optia Cushion Premium ให้เฌอลินน์ เพราะเขารองรับสรีระเด็กทุกช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบกันเลยทีเดียวค่ะ ตอนนี้เฌอลินน์ 2 ขวบแล้ว ตัวสูงแบบนี้ยังนั่งได้สบายๆไม่อึดอัด แถมแบรนด์ Aprica รุ่นนี้ไม่ใช่รถเข็นธรรมดาทั่วไป เป็นเบาะแบบ Ergonomic Design ที่ออกแบบคิดค้นโดยกุมารแพทย์ญี่ปุ่นด้วย ขนาดพ่อแม่อย่างเรายังตามหาซื้อเก้าอี้ Ergonomic มานั่งทำงานกันเลยใช่มั้ยคะ แพรวเองก็ขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ขณะอยู่นอกบ้านแน่นอนค่ะ ซื้อรถเข็นมา ลูกไม่ยอมนั่งทำไงดี ? คุณพ่อคุณแม่ต้องลองสังเกตุดูค่ะ ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยค่อนข้างร้อน เด็กเล็กๆ มักจะมีเหงื่อออกเยอะ ถ้าเป็นรถเข็นที่ไม่ค่อยระบายอากาศเวลาลูกนั่งนานๆ เขาจะหัวเปียกหลังแฉะ ไม่สบายตัวอยู่ตลอดเวลา การได้รถเข็นเบาะระบายอากาศดีๆ เวลาเราพาลูกออกนอกบ้าน ลูกจะยอมนั่งไม่งอแง […]
หลากหลายฟังก์ชั่น ช่วงอายุการใช้งานยาวนาน รองรับเด็กมีความสูง 76 ถึง 150 ซมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย I-size R 129 และการรับรองจากสภาบันชั้นนำ เบาะกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าที่เคยสัมผัสรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐาน ECE R44-04และการทดสอบจากสถาบันชั้นนำในยุโรป พกพาสะดวก ติดตั้งง่ายรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44-04
“เพราะรถเข็นเด็กทุกคัน ไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน” หลายคนยังเข้าใจผิดว่ารถเข็นเด็กแต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย 1.ปรับให้นอนราบได้ 170 องศา สำหรับเด็กแรกเกิด รถเข็นเด็กแรกเกิด ที่ดีควรสามารถปรับให้นอนราบได้ 170 องศา ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด เพราะกระดูกสันหลังเป็นเส้นตรง ยังไม่แข็งแรง จึงควรจัดให้เด็กนอนในท่านอนราบที่เป็นธรรมชาติ 2. เบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย จะช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม โดยมีพื้นที่วางแขนแบบ W-Shape และวางขาแบบ M-Shape เพื่อให้ขยับตัวได้ง่าย ซึ่งเป็นท่านอนที่เป็นธรรมชาติสำหรับเด็กวัยแรกเกิด 3. ชุดหมอนรองคอและสะโพก สำหรับทารกวัยแรกเกิดที่ยังไม่แข็งแรง เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับทารกวัยแรกเกิด ที่คอยังโงนเงนไม่แข็งแรง Head Support ที่มีส่วนเว้าโค้งพอเหมาะจะช่วยสอดรับช่วงต้นคอและศีรษะ ป้องกันคอพับซึ่งอาจส่งผลต่อการปิดทับระบบทางเดินหายใจได้ Hip Support หรือหมอนรองสะโพก ช่วยประคองให้กระดูกสันหลังมั่นคงไม่โค้งหรือเอียง ช่วยจัดท่านั่งและนอนได้อย่างเป็นธรรมชาติ 4. เบาะรองนอนระบายอากาศได้ดี และช่วยรองรับสรีระได้อย่างนุ่มนวล ด้วยระบบปรับอุณหภูมิในร่างกายลูกน้อยที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ เด็กทารกจะมีความสามารถในการควบคุมอุณหภุมิต่ำกว่าผู้ใหญ่ จึงทำให้มีเหงื่อออกมากกว่า โดยเฉพาะในเวลานอนซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเสริมสร้างพัฒนาการอย่างเต็มที่ ดังนั้นเบาะที่มีคุณสมบัติช่วยระบายอากาศได้ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยลดความร้อน […]
คุณแม่มือใหม่มักจะชอบถามว่า “ฝากท้องเมื่อไหร่ดี” คำตอบง่ายๆ สั้นๆ ก็คือ ตอนนี้เลยค่ะ! คุณแม่ควรรีบไปฝากครรภ์ทันทีเมื่อทราบว่ามีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องนะคะ เนื่องจากระยะเวลาตลอด 40 สัปดาห์ที่ตั้งครรภ์นั้นถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะเวลาฝากครรภ์คุณแม่จะได้ยาบำรุงมาทานด้วย แถมยังได้รับการดูแลดีๆ จากคุณหมออีกต่างหาก เจอคุณหมอบ่อยๆ จะได้อุ่นใจ ไม่ต้องมานั่งกังวลเวลาเกิดอาการแปลกๆ กับตัวเราด้วย เวลาไปฝากครรภ์คุณหมอคุณพยาบาลจะถามอะไรบ้างนะ? เวลาไปฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอและคุณพยาบาลจะถามคำถามเหล่านี้กับคุณแม่ค่ะ ตื่นเต้นจัง จะต้องตรวจอะไรบ้างนะ? ประโยชน์ของการฝากครรภ์มีอะไรบ้างนะ? นอกจากนี้ การพบคุณหมอทุกๆ เดือนก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกอุ่นใจและได้รับการแนะนำว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในแต่ละไตรมาสอีกด้วยค่ะ เวลาไปฝากครรภ์จะเตรียมเงินไปเท่าไหร่ดี ค่าใช้จ่ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลเลยค่ะ หากเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล คุณแม่อาจใช้สิทธิ 30 บาทในการฝากครรภ์ได้ ส่วนถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน การฝากครรภ์แต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่าย มากน้อยขึ้นอยู่กับการตรวจรักษาในวันนั้นค่ะ หรือบางโรงพยาบาลอาจมีแพ็กเกจการฝากครรภ์แบบเหมาจ่ายด้วยนะ ฝากครรภ์ที่ไหนดีนะ เลือกไม่ถูกเลย คุณแม่สามารถไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกก็ได้นะ โดยโรงพยาบาลหรือคลินิกนี้ควรจะอยู่ใกล้บ้านหรือเดินทางได้สะดวก เพราะเมื่อคุณแม่เริ่มท้องแก่แล้วอาจมีปัญหาในการเดินทางได้ค่ะ สถานที่ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่คลอดไม่จำเป็นต้องเป็นที่่เดียวกันก็ได้นะคะ การฝากครรภ์นั้นไม่มีคำว่าเร็วเกินไป แต่หากคุณแม่ประวิงเวลาไม่ยอมไปฝากครรภ์หรือไปไม่ตรงตามที่คุณหมอนัดแล้วล่ะก็ จะส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ได้แน่นอนเลยล่ะ
หลายครั้งที่เห็น ลูกร้องไห้ ชอบโวยวายเวลาถูกขัดใจในที่สาธารณะ บางครั้งถึงกับลงไปนอนดิ้นบนพื้นกันเลย ถือเป็นเรื่องน่าหนักใจไม่น้อยสำหรับผู้ปกครอง เรียกว่าเป็นพฤติกรรมของเด็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกตัวเองอย่างแน่นอน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะทำความทำเข้าใจในวัยของลูกก่อน ซึ่งการเตรียมพร้อมรับมือและฝึกลูกสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้าง EQ ให้ลูกได้ ให้ลูกได้รู้จักอารมณ์ของตนเอง และฝึกควบคุมหรือระงับอารมณ์ของตนเองได้ ลูกร้องไห้ ดิ้นบนพื้นในที่สาธารณะ จะแก้ไขอย่างไรดี เด็กวัยไหน ร้องไห้อาละวาดบ่อยที่สุด ลูกร้องไห้ อาละวาดในเด็ก จะพบได้ตั้งแต่อายุ 12 – 18 เดือน แต่ส่วนใหญ่จะพบบ่อยในช่วงอายุ 2 – 3 ปี ซึ่งมีสถิติพบว่า เด็กประมาณ 50-80% จะมีการร้องอาละวาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และจะค่อย ๆ ลดลงเมื่ออายุ 4 ปี ซึ่งส่วนใหญ่การร้องอาละวาดของเด็กมักจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที สาเหตุ ลูกร้องไห้ อาละวาดดิ้นบนพื้น เป็นพัฒนาการปกติที่เด็กเริ่มมีความรู้สึกอยากเป็นตัวของตัวเอง (Autonomy) แต่วัย 1 – 3 ปี จะยังไม่สามารถแสดงความต้องการของตนเองได้ดีนัก […]
Q: ขวดนม อุปกรณ์ปั๊มนม ต้องต้ม หรือนึ่ง ให้ปราศจากเชื้อทุกวัน ? A: การนึ่ง หรือต้มฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมหลังใช้งานทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ได้ช่วยป้องกันโรคให้ทารกเพิ่มขึ้นมากไปกว่าล้างด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ หรือล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างขวดนมหลังใช้งาน การขยันทำให้ปลอดเชื้อมากเกินไป (over-sterilize) ไม่มีประโยชน์กลับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อที่ทนความร้อน และสร้างสปอร์ได้เพิ่มมากขึ้น (เพราะคุณไม่ได้ใช้หม้อความดัน หรือฉายรังสี) และทารกจะอาจได้สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแทน สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน และ USFDA แนะนำให้ต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม และอุปกรณ์ปั๊มนมเฉพาะครั้งแรกที่ใช้งานจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างขวดนมผสมน้ำอุ่น ทุกครั้งหลังใช้งานก่อนผึ่งให้แห้ง โดยไม่ให้้ใช้ผ้าเช็ด กรณีที่ต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อทุกวันคือช่วงทารกป่วย เช่น ท้องร่วง หรือ เป็นฝ้าขาวในปาก คุณแม่ที่กังวลอาจนึ่งหรือต้ม ทุก 3-4 วัน สำหรับนมชง ทุก 1 สัปดาห์สำหรับนมแม่ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยให้นมบูดคาขวด (ถ้านมบูดคาขวดต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อใหม่เสมอ) อย่างไรก็ตามไม่มีกฎตายตัว หากบ้านมีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อยู่ใกล้แหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค อาจพิจารณาต้มหรือนึ่งให้บ่อยขึ้น สำหรับประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นมีโรคเขตร้อนที่เป็นโรคทางเดินอาหารมาก และประชากรมีสุขอนามัยไม่แน่นอน กุมารแพทย์ไทยหลายท่านอาจแนะนำให้คุณแม่ต้มหรือนึ่งขวดนมทุกวัน และกรณีที่ห้องครัวมีความสกปรกอับชื้นท่อน้ำไม่สะอาด หรือมีกระบะทรายแมวในห้องครัว (ซึ่งไม่ควรมี) คุณแม่อาจเลี่ยงไปตากขวดนม และจุกนมที่อื่นที่มีอากาศถ่ายเทคุณแม่ที่ปั๊มนมห้ามใช้สบู่เหลวในห้องน้ำที่ทำงานล้างขวดนม หรือ […]