คาร์ซีทระบบ ISOFIX คืออะไร

เลือกคาร์ซีทที่ปลอดภัยที่สุด จำเป็นต้องเลือกระบบ ติดตั้งคาร์ซีท ที่ดีที่สุดด้วย…จริงหรือ?
คุณพ่อคุณแม่หลายคนเห็นแบบนี้แล้วคงสงสัยว่าจริงหรือว่า ติดตั้งคาร์ซีท ระบบการติดตั้งไม่เหมือนกัน ความปลอดภัยก็ไม่เหมือนกันด้วย มาทำความรู้จักกับระบบ ติดตั้งคาร์ซีท กันก่อนว่ามีกี่ระบบ และจะเลือกการติดตั้งอย่างไรให้เหมาะกับรถยนต์ที่คุณใช้ค่ะ

ISOFIX คืออะไร?
ISOFIX เป็นระบบ ติดตั้งคาร์ซีท แบบใหม่ที่ได้รับมาตรฐานจากสากล และมีใช้อยู่ทั่วโลกทั้งในเอเชียและยุโรป ซึ่งเป็นระบบ ติดตั้งคาร์ซีท สำหรับเด็กที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยได้อย่างมาก โดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัย
เพราะระบบ ติดตั้งคาร์ซีท แบบISOFIX นั้นเป็นการยึดติดคาร์ซีทด้วยตัวยึด ISOFIX ที่มีความแข็งแรง แน่นหนาตามมาตรฐานสากล และระบบ ISOFIX ยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการ ติดตั้งคาร์ซีท ให้กับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย เนื่องจากปกติแล้วการ ติดตั้งคาร์ซีท จะมี 2 ระบบคือ
- ระบบ ติดตั้งคาร์ซีท แบบเข็มขัดนิรภัย จะใช้เวลาในการติดตั้งคาร์ซีทประมาณ 2 – 3 นาที
- ระบบ ติดตั้งคาร์ซีท แบบISOFIX จะช่วยย่นระยะเวลาในการ ติดตั้งคาร์ซีท ให้เหลือเพียงไม่ถึงนาที โดยตัวยึดระบบ ISOFIX จะอยู่ที่เบาะด้านหลังของรถยนตร์
(ที่เขียนรวมให้ย่อหน้านี้เพราะ ถ้าเผื่อพ่อแม่บางคนเป็นคนไม่ชอบอ่านก็จะอ่านตรงนี้แล้วรู้ว่า ISOFIX คืออะไรแล้วมันดียังไงนะคะ…^^)

ISOFIX มีประโยชน์อย่างไร?
ติดตั้งคาร์ซีท ด้วยระบบISOFIX ช่วยลดความผิดพลาด เรื่องการเสี่ยงต่อการ ติดตั้งคาร์ซีท ที่ผิดวิธี เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางท่านอาจสับสน และ ติดตั้งคาร์ซีท ผิดพลาด เช่น ดึงสายเข็มขัดนิรภัยไม่แน่นหนาพอ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเกิดอุบัตเหตุจริง จะทำให้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ที่ใช้ ติดตั้งคาร์ซีท นั้นหลุดออก เป็นสาเหตุที่จะทำให้ลูกน้อยเกิดอันตรายได้
จากผลการทดลองเมื่อ ติดตั้งคาร์ซีท ด้วยระบบ ISOFIX จะมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ตัวล็อกISOFIX ช่วยยึดติดกับโครงสร้างรถยนต์ได้มั่นคงกว่า
จะไม่เกิดการคลาดเคลื่อนจากเบาะรถยนต์ ลดการกระทบกระเทือนกับลูกได้น้อยกว่า
ระบบISOFIX ติดตั้งยังไง
1.มาตรวจสอบก่อนว่าที่รถของคุณสามารถ ติตดั้งคาร์ซีท ระบบISOFIX ได้หรือไม่ โดยการตรวจสอบตามในคลิปด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
2.เมื่อรู้แล้วว่ารถของคุณ ติดตั้งคาร์ซีท ระบบISOFIX ได้ งั้นก็ลองมาติตดั้งคาร์ซีทกันเลยค่ะ โดยทำตามคลิปวิธีการ ติดตั้งคาร์ซีท จากด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ถ้าคุณเป็นพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาของลูกน้อย นอกจากจะต้องตระเตรียมของใช้จำเป็นต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้เลยคือการแจ้งเกิดเพื่อขอสูติบัตร ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมายที่เปรียบเสมือนใบเบิกทางแรกของลูกในโลกใบนี้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกขั้นตอนการขอสูติบัตรแบบละเอียด เพื่อให้คุณแม่คุณพ่อหมดกังวล และพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ใบสูติบัตรคืออะไร ใบสูติบัตร หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ ใบเกิด คือเอกสารทางราชการที่ออกให้เพื่อรับรองการเกิดของบุคคล โดยถือเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่ยืนยันสถานะความเป็นคนไทย และยังใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการขอเอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง อีกทั้งยังเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ทะเบียนราษฎรอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิต่าง ๆ ที่ลูกน้อยพึงได้รับตามกฎหมาย ทำไมต้องมีการแจ้งเกิด การแจ้งเกิดเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการทำตามกฎหมาย และเป็นการสร้างตัวตนทางทะเบียนราษฎรให้กับลูกน้อยอย่างถูกต้องสมบูรณ์ การมี ใบสูติบัตรทำให้ลูกได้รับสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล สิทธิ์ในการศึกษา หรือสิทธิ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเด็ก นอกจากนี้ สูติบัตรยังเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อแม่ลูกอีกด้วย เอกสารสำคัญที่พ่อและแม่ต้องเตรียม ก่อนจะไปแจ้งเกิด คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วและไม่เสียเวลาที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ เอกสารสำคัญที่ต้องใช้มีดังนี้ ขั้นตอนการแจ้งเกิดมีอะไรบ้าง ขั้นตอนการแจ้งเกิดนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ซึ่งสามารถสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้ กรณีเด็กเกิดในโรงพยาบาล ถือเป็นกรณีที่พบได้บ่อยและเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด เนื่องจากโรงพยาบาลจะออกหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. […]
วิตามินมีความสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะตอนท้อง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่วิตามินที่เราได้รับเป็นปกตินั้นจะต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับเราเอง และอีกส่วนหนึ่งสำหรับลูกน้อย วิตามินส่วนใหญ่ก็จะสามารถพบได้ในอาหารทั่วไปเลยนะคะ หรือคุณแม่บางท่านอาจจะเลือกที่จะเสริมวิตามินเพิ่มเติมก็ได้อยู่ แต่ก่อนที่เราจะมองหาอาหารที่อุดมด้วยวิตามินมาทานนั้น เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าแม่ท้องควรจะเน้นวิตามินตัวไหนเป็นพิเศษกันบ้าง 1. วิตามินบี 1 วิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่จะช่วยไม่ให้คุณแม่เกิดอาการเหน็บชา และมีความจำเป็นต่อร่างกายในการสร้างและการทำงานของเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทต่างๆ ของทารก สำหรับคุณแม่ที่ได้รับวิตามินตัวนี้น้อยเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อหัวใจและปอดของลูกน้อยได้ค่ะ อาหารที่มีวิตามินบี 1 ไข่ไก่ ข้าวซ้อมมือ แป้งสาลี 2. วิตามินบี 2 และบี 6 สำหรับวิตามินตัวนี้นั้นจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองรวมถึงระบบประสาทของทารกเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าได้รับวิตามินตัวนี้น้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้สมองของลูกน้อยพัฒนาได้อย่างไม่เต็มที่นะคะ อาหารที่มีวิตามินบี 2 และบี 6 เช่น ตับและไข่แดง 3. กรดโฟลิก กรดโฟลิกเป็นวิตามินที่ช่วยเรื่องของการสร้างอวัยวะให้แก่ลูกน้อย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของสมองพิการและความพิการของร่างกายส่วนอื่น ๆ อาหารที่มีกรดโฟลิก เช่น ผักโขม อาโวคาโด ข้าวโพด 4. วิตามินบี 12 วิตามินบี 12 ก็เป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องของการทำงานระบบประสาทเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีส่วนในเรื่องของการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วยนะ และเม็ดเลือดแดงก็มีความสำคัญในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองของลูกน้อยของเรานั่นเอง อาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น ไข่ ตับ และผลิตภัณฑ์จากนม 5. วิตามินซี วิตามินซีจะมาช่วยคุณแม่ในเรื่องของภูมิคุ้มกัน […]
ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวให้ความสำคัญกับ “คาร์ซีท” หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นอุปกรณ์จำเป็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์กันเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุด นางสาวอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเข้าเยี่ยมชม “Aprica Central Research Center” ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์ซีท เจาะลึกถึงแนวคิดการออกแบบที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กในแต่ละช่วงวัย การเลือกสรรวัสดุที่ปลอดภัย และขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงวิธีทดสอบคาร์ซีทในห้องปฎิบัติการด้านความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก อะปริก้า (Aprica) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2490 โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี อะปริก้า จึงได้รับการยอมรับและไว้วางใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และอะปริก้ายังได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดทำรถเข็นและผลิตภัณฑ์เด็กรุ่นพิเศษ ภายใต้ชื่อ Royal Knot เพื่อทูลเกล้าถวายแด่ราชวงศ์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเชื้อพระวงศ์ในอีกหลายประเทศทั่วโลก Aprica Central Research Center เป็นศูนย์กลางวิจัยเกี่ยวกับการคิดค้นผลิตภัณฑ์เด็กตั้งอยู่ในเมืองนาราประเทศญี่ปุ่นด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านเยน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมประวัติความเป็นมาของแบรนด์อะปริก้า แนวคิดปรัญชาการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก รวมทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยเฉพาะด้าน Childcare Engineering […]
การเตรียมตัวสำหรับเด็กแรกเกิดนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีท เป้อุ้มเด็ก รถเข็นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของใช้ประจำตัวลูก ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เตียงนอนเด็กแรกเกิดซึ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยมาก ๆ ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าควรมีเตียงนอนแยกจากเตียงพ่อแม่ โดยสามารถตั้งไว้ข้างๆ เตียงของพ่อแม่ได้ แต่ไม่ควรอุ้มทารกมานอนเตียงเดียวกับเรา เพื่อป้องกันการนอนทับลูกขณะหลับ ทั้งยังช่วยป้องกันลูกตื่นเวลาที่เราเผลอพลิกตัว ทำให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เตียงนอนสำหรับเด็กมีกี่แบบ จะเลือกอย่างไรดี มียี่ห้อไหนน่าใช้บ้าง BabyGift มีข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ เตียงนอนเด็กแรกเกิดจำเป็นหรือไม่ นอนกับพ่อแม่ได้หรือเปล่า ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจเกิดความสัยขึ้นมาว่า เตียงนอนเด็กแรกเกิดนั้นมีความจำเป็นหรือไม่ สามารถให้ลูกนอนเตียงเดียวกับเราได้หรือเปล่า ? ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กทารกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับลูก ข้อมูลจาก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวไว้ว่า เด็กมีโอกาสเสียชีวิตจากการถูกทับโดยพ่อแม่จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต เช่น ในคุณพ่อคุณแม่บางคนที่หลับลึก นอนหลับสนิทมาก หรือรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้หลับลึก เช่น ยาแก้หวัด หรือยาชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้หลับสนิทก็อาจเผลอพลิกตัวนอนทับลูกโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ลูกขาดอากาศหายใจได้ หรือผ้าห่มของผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักอาจไปคลุมศีรษะเด็ก ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือมีโอกาสที่ลูกจะถูกหมอนทับหน้าทำให้ขาดอากาศหายใจได้เช่นกัน แม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่นอนดิ้นและอาจเบียดลูกตกเตียงได้ ดังนั้นแล้ว เตียงนอนเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะที่แยกที่นอนลูกเป็นสัดส่วนจึงสำคัญและจำเป็นมาก ๆ […]
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคาร์ซีทก็มีอายุการใช้งานไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ของใช้อื่น เพราะคาร์ซีททุกตัวมีโครงสร้างพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนจะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กรอบ แตกหักง่าย นอกจากนี้แสง UV ยังทำให้วัสดุรองรับแรงกระแทกและเบาะรองตัว หมอนรองศีรษะทารกที่เคยนุ่มกลับแข็งและขาดความยืดหยุ่นไม่สามารถใช้ปกป้องทารกได้ดีพอ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคาร์ซีทที่เลือกใช้เพื่อช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุผลิตขึ้นเมื่อไร และหมดอายุแล้วหรือยัง??? ในหลายๆ ประเทศชั้นนำอย่าง USA, Canada, ญี่ปุ่น, Australia รวมถึงประเทศในกลุ่มEurope มีการกำหนดกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตคาร์ซีททุกรายต้องระบุวันที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอายุของคาร์ซีทได้ โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้คาร์ซีทที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี นับจากวันที่ผลิต แต่เนื่องจากคาร์ซีทแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีจุดสังเกตุวันที่ผลิตต่างกัน จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ วันนี้Baby Gift มีคำแนะนำที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบวันที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง Aprica แบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนระดับ premium ยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น กับคาร์ซีทรุ่น Fladea Grow ที่สามารถปรับใช้ได้ถึง 3 รูปแบบสำหรับวัยแรกเกิด – 4 ปีนี้มีจะมีวันเดือนปีที่ผลิตฉีดขึ้นบล๊อกอยู่ที่ฐานพลาสติกของคาร์ซีทเป็นแนวตั้ง โดยจะใช้สัญญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลขเรียงตามลำดับ คาร์ซีทสำหรับเด็กวัย 9 เดือน – 12 ปี รุ่น Air Groove STD , Air […]
เลือก ถุงเก็บน้ำนม ยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ? น้ำนมจะเหม็นหืนมั้ย ? คุณค่าน้ำนมแม่ยังอยู่ครบถ้วนรึเปล่า ? ? อีกคำถามที่แม่ๆมักสงสัย เพราะไม่ใช่แค่ถุงเก็บนมแม่ แต่นี่คือถุงใส่อาหารของลูก วันนี้ BabyGift มี 7 เทคนิค เลือกถุงเก็บน้ำนมที่คุณแม่นักปั๊มมือใหม่ ต้องชอบแน่นอน ? จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่า 1. พลาสติกหนา ทึบแสง ซิปล็อค 2 ชั้น ควรเลือก ถุงเก็บน้ำนมแม่ ที่ใช้วัสดุพลาสติกหนาทึบแสง มีความแข็งแรงไม่แตกหรือไม่รั่วซึมได้ง่าย และมีซิปล็อคแบบ 2 ชั้น เพื่อลดการรั่วซึมของน้ำนมแม่ออกจากถุง ช่วยลดกลิ่นเหม็นหืนในน้ำนมได้ และสามารถคงคุณค่าของน้ำนมแม่ได้เป็นอย่างดี 2. ขนาดที่เหมาะสมกับน้ำนมที่ปั๊มได้ช่วงเวลานั้น ถุงเก็บน้ำนมแม่ ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับน้ำนมที่ปั๊มได้ช่วงในเวลานั้น อย่างช่วงแรกๆที่แม่อาจจะปั๊มได้ในไม่เยอะมากก็ควรเลือกใช้ขนาดเล็กลงมาหน่อย (4-5 ออนซ์) แล้วพอคุณแม่เริ่มปั๊มนมได้เยอะมากขึ้นค่อยขยับขนาดใหญ่ขึ้นไป การเลือกขนาดถุงพอดีกับน้ำนม จะช่วยให้แม่ๆประหยัดพื้นที่จัดเก็บในตู้แช่ได้ขนาดข้างเยอะ และยังไม่เปลืองถุง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียวค่ะ 3. มีแถบบันทึก เขียนง่าย ชัดเจน ควรมีแถบเขียนเอาไว้จดรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่น […]








