เลือกรถเข็นเด็กตามนิสัยและไลฟ์สไตล์คุณแม่

เพราะแม่แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่าง Aprica จึงสรรสร้างนวัตกรรมที่รองรับทุกความต้องการด้วยรถเข็นเด็กหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน แล้วรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นไหน เหมาะกับคุณไปดูกันเลย

แม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุ่มเททุกความสุขเพื่อลูกและคนในครอบครัวเป็นสำคัญ

ถ้าคำว่า “ที่สุด” คือนิยามของรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับลูก คือคำตอบเดียวที่คุณต้องการ

รถเข็นเด็ก Aprica โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมอบความสบาย นุ่มนวล ปกป้องลูกน้อยแบบ 360 องศา ใส่ใจในสุขภาพและเสริมสร้างพัฒนาการ เพื่อเทวดานางฟ้าตัวน้อย

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia

  • น้ำหนักรถเข็น 6.8 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
  • ระบบโช๊คใต้ที่นั่งและบริเวณล้อ ลดแรงสั่นสะเทือนลง 40%
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 54 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้นDouble Head&Hip Support ด้วยชุดหมอนรองศีรษะและสะโพก และโครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • เพิ่มขนาดตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Soraria Magic basket

  • น้ำหนักรถเข็น 7.5 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษ
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 56 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน CoolMax All Season ที่ช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือเย็น ด้วยการดูดซับเหงื่อในวันที่ร้อนจัดและให้ความอบอุ่นในวันที่อากาศหนาวเย็น ช่วยให้เทวดาตัวน้อยรู้สึกสบายได้ทุกฤดู
  • ชุดหมอนรองศีรษะและสะโพก และโครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • โครงสร้างแบบลดรอยต่อ ที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ เป็นชิ้นเดียวช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน

คุณแม่ทรงพลัง คล่องแคล่ว ขี้เล่น

ถ้าคุณและลูกน้อยต้องการความคล่องตัว พร้อมทุกสถานการณ์

รถเข็นเด็กน้ำหนักเบาแต่ครบทุกฟังชันท์ที่เหนือกว่า พร้อมเติมความคล่องตัวด้วยการใช้รถเข็นสลับกับเป้อุ้มเด็กได้ง่าย เป็นตัวช่วยที่ดี ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ คุณแม่ก็พร้อม

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna CTS

  • น้ำหนักรถเข็น 5.3 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้น
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light

  • น้ำหนักรถเข็น 4.9 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้น
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

คุณแม่เด็กแนว กิ๊บเก๋ทันสมัย ไม่ชอบตามใคร

สนใจทางเลือกใหม่ๆ รักอิสระและความแปลกใหม่

รถเข็นเด็ก แบบ 3 ล้อเท่ห์ๆ ไม่เหมือนใครที่ผสมผสานทุกฟังก์ชั่นอย่างลงตัว และที่โดนใจยิ่งกว่าคือ ความแข็งแรง ทนทาน ไม่ว่าจะไปไหนก็พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว ใช้ง่ายพับกางสะดวกและขนาดกระทัดรัด

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Smooove

  • น้ำหนักรถเข็น 9 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อแบบสูบลม ลดการสั่นสะเทือนได้ถึง 80% เข็นได้ในทุกพื้นผิว
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ขนาดใหญ่ ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 58 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอนแบบBREATHAIR ระบายอากาศลดความอับชื้นได้ดี
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • การพับแบบ One step เมื่อพับแล้วสามารถตั้งรถเข็นได้ จึงไม่ทำให้รถเข็นเปื้อนฝุ่น
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

คุณแม่นักเดินทาง ชอบท่องเที่ยวไปกะลูกสองคนก็ลุยเองได้ หรือไปทั้งครอบครัวก็ยิ่งสนุกดี

ถ้าการเดินทางท่องเที่ยวคือ กิจกรรมที่คุณต้องการทำร่วมกันกับลูก

รถเข็นเด็กแบบ Lightweight น้ำหนักเบาเพียง2.9 kg. คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณแม่ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะหิ้วขึ้นบันไดรถไฟฟ้าซักกี่ขั้น ขึ้นเครื่องบินไปอีกกี่จุดหมายปลายทางก็หมดปัญหา เพราะการเดินทางไปไหนมาไหนกับลูกน้อยเพียงลำพัง คุณต้องรับมือกับสัมภาระมากเป็นพิเศษ รถเข็นน้ำหนักเบาพับกางง่ายด้วยมือเดียวภายใน 1 วินาที ช่วยให้คุณไม่ต้องปล่อยมือจากลูกน้อยวัยซนที่ต้องการการดูแลตลอดเวลา

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon

  • น้ำหนักรถเข็น 3.6 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • หลังคาบังแดดกัน ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon Plus Highseat

  • น้ำหนักรถเข็น 4.8 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • ช่องระบายอากาศ พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Magicalair Plus Highseat

  • น้ำหนักรถเข็น 3.3 kg.
  • สำหรับเด็กวัย 7 เดือน – 3 ปี (น้ำหนัก 15 kg.)
  • ปรับเอนได้เพื่อความผ่อนคลาย
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคาบังแดดกัน ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 52 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

น้ำนมของแม่นั้นเป็นอาหารที่เปี่ยมคุณค่ามากที่สุดสำหรับลูกน้อย โดยเฉพาะในเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งจะต้องกินนมจากแม่เป็นหลัก สำหรับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลาก็อาจจะไม่ได้มีปัญหากับการสต็อกน้ำนมเอาไว้ เพราะเน้นการเอาลูกเข้าเต้าเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การทำสต็อกน้ำนมเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะได้มีน้ำนมเอาไว้ให้ลูกน้อยอย่างเพียงพอ ในบทความนี้ BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษา นมแม่ มาฝากกันค่ะ จะเก็บน้ำนมอย่างไรให้ไม่เหม็นหืน ไม่บูด และคงคุณค่าทางอาหารเอาไว้ได้มากที่สุด มาดูกันเลยค่ะ ทำไมนมของแม่มีกลิ่นเหม็นหืน ? มีวิธีการเก็บรักษา นมแม่อย่างไรไม่ให้มีกลิ่นและคงคุณค่าได้นาน คุณแม่บางคนอาจพบว่านมที่ตนเองทำการสต็อกไว้นั้นมีกลิ่นเหม็นหืน ซึ่งมักจะเกิดกับนมที่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เนื่องจากในช่วงที่ระบบละลายน้ำแข็งทำงาน นมที่แช่แข็งเอาไว้ก็จะละลายไปด้วย และเมื่อช่องแช่แข็งกลับมาเย็นจัดใหม่ ก็ทำให้น้ำนมแข็งตัวอีกครั้ง กระบวนการนี้หากเกิดขึ้นซ้ำหลาย ๆ ครั้งก็จะทำให้ไขมันในน้ำนมมีการเปลี่ยนแปลงและทำให้นมมีกลิ่นเหม็นหืนได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วการเก็บรักษานมแม่ ในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติแบบนี้ ก็เสี่ยงจะทำให้น้ำนมที่เก็บเอาไว้มีกลิ่นเหม็นหืนได้  สาเหตุที่นมแช่แข็งละลายมาเป็นน้ำนมแล้วมีกลิ่นเหม็นหืน ก็เพราะว่าในน้ำนมของแม่มีเอ็นไซม์ไลเปส ที่จะช่วยย่อยไขมันในน้ำนมของแม่ให้แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ เพื่อผสมกับโปรตีนเวย์ในน้ำนมได้ดี ทำให้ร่างกายของลูกน้อยดูดซึมวิตามิน A และวิตามิน D ได้มากขึ้น ถ้าในน้ำนมของแม่มีไลเปสมากก็จะย่อยไขมันได้มาก ทำให้น้ำนมมีกลิ่นหืนนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีกลิ่นหืนก็ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยแต่อย่างใด ยังสามารถกินได้ แต่ในเด็กบางคนอาจไม่ยอมกินนมที่มีกลิ่นหืน สามารถแก้ไขได้โดยการนำน้ำนมที่ปั๊มมาใหม่ๆ ผสมกับนมที่มีกลิ่น ก็จะช่วยเจือจางกลิ่นและลดความเหม็นหืนไปได้ […]

ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของคาร์ซีท#คาร์ซีทมือสอง ตามที่พ่อหมอเคยเขียนเรื่องการเลือกซื้อคาร์ซีทไว้แล้วตั้งแต่ตอนเปิดเพจครับ คลิกอ่านได้ครับที่https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1318721458224835&substory_index=0&id=1312969582133356 ก็เริ่มมีลูกเพจเริ่มถามเรื่อง “การซื้อคาร์ซีท” ในหัวข้อนอกเหนือจากคำถามเบื้องต้นครับ โดยเฉพาะเรื่อง “การซื้อคาร์ซีทมือสอง” หรือ “คาร์ซีทเก่า” ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมาร ฯ ของสหรัฐอเมริกา … บอกไว้ว่า เรื่องความปลอดภัย … หมอย้ำเสมอตั้งแต่เปิดเพจครับ เป็นเรื่องที่ผ่อนปรนไม่ได้#หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ References: การใช้คาร์ซีทมือสอง

หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหารถเข็นเด็กพับได้ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ในปี 2025 มีตัวเลือกมากมายจนอาจทำให้เลือกลำบาก จากรุ่นพื้นฐานไปจนถึงรุ่นพรีเมียมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ที่เหมาะสมจึงต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ความสะดวกในการเข็น และฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการของครอบครัว มาดูกันว่ามีตัวเลือกไหนบ้างที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับการลงทุน รถเข็นเด็กพับได้ ต่างจากรถเข็นเด็กทั่วไปอย่างไร รถเข็นเด็กพับได้มีจุดเด่นที่แตกต่างจากรถเข็นเด็กทั่วไปอย่างชัดเจน คือ ความสะดวกในการพับเก็บและพกพา น้ำหนักที่เบากว่า และขนาดที่กะทัดรัดเมื่อพับแล้ว ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบเดินทางหรือมีพื้นที่จำกัด ในขณะที่รถเข็นทั่วไปมักเน้นความแข็งแรงและฟีเจอร์ครบครัน แต่ขนาดใหญ่และเคลื่อนย้ายยาก วิธีการเลือกรถเข็นเด็กพับได้ การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ให้เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ได้ตัวที่ตรงกับความต้องการและใช้งานได้ยาวนาน เลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ตามช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะแต่ละวัยมีความต้องการที่แตกต่างกัน เลือกวัสดุที่แข็งแรง วัสดุที่ใช้ในการผลิตรถเข็นเด็กพับได้มีผลต่อความทนทานและความปลอดภัย ควรเลือกโครงอะลูมิเนียมผสมที่แข็งแรงทนต่อการบิดงอ เบาะที่มีสปริงและฟองน้ำคุณภาพดี ผ้าหุ้มเบาะที่ระบายอากาศได้ดี ล้อทำจากพลาสติก PU ที่ทนทานและลดแรงกระแทก และหลังคาที่ป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกวัสดุคุณภาพจะช่วยให้รถเข็นเด็กพับได้ใช้งานได้นานและปลอดภัย เลือกที่มีมาตรฐานระดับสากล รถเข็นเด็กพับได้ที่ดีควรมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล พร้อมระบบความปลอดภัยที่รัดกุม ระบบล็อกโครงรถเข็นที่มั่นคง เข็มขัดนิรภัยที่ใช้งานง่าย และระบบล็อกล้อหลังที่ป้องกันการลื่นไถล การมีมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของลูกน้อย เลือกที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม ฟีเจอร์พิเศษของรถเข็นเด็กพับได้ที่น่าสนใจ ได้แก่ การปรับเอนได้หลายระดับ ระบบเข็นแบบ 2 ทิศทาง หลังคาพร้อมหน้าต่างระบายอากาศ และช่องเก็บของขนาดใหญ่ ฟังก์ชันเหล่านี้จะเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการใช้งาน ทำให้รถเข็นเด็กพับได้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น แนะนำ 8 รถเข็นเด็กพับได้ คุณภาพดีจาก BabyGift […]

ว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย พอรู้ข่าวดีว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์คงเกิดอาการดีใจอยู่ไม่น้อย แต่ในความดีใจของคุณแม่ก็เกิดคำถามและความกังวลในหัวอยู่มากมาย โดยเฉพาะการลุ้นพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์อยู่ตลอด หนึ่งในนั้นเชื่อว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลาย คงอยากรู้สินะว่า ลูกในครรภ์จะได้ยินเสียงเราตอนไหน และการได้ยินของลูกจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ และคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถสื่อสารในรูปแบบไหนได้บ้าง ที่จะช่วยการกระตุ้นให้ลูกน้อยได้รับรู้ เพราะคุณแม่ทั้งหลายต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่าการพูดคุยกับลูกน้อยในครรภ์ เป็นการเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีกับลูกได้ดีอีกอย่างหนึ่ง บางทีเราเองก็จะเห็นคุณแม่หลายๆคน เปิดเพลงคลาสสิกให้ลูกฟังสไตล์โมซาส เผื่อลูกจะได้อารมณ์ดี บ้างก็ร้องเพลง บ้างก็เล่านิทาน แต่จริงๆแล้วคุณแม่ทราบหรือไม่ว่าลูกในครรภ์จะได้ยินเสียงตอนกี่เดือนกันแน่ พัฒนาการการได้ยินของลูกน้อยในครรภ์ เริ่มต้นอย่างไร คุณแม่สามารถกระตุ้นพัฒนาการ การได้ยินของลูกน้อยอย่างไรได้บ้าง ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการการได้ยินของทารกในครรภ์ได้ เพราะจริงๆแล้ว ทารกจะได้ยินเสียงได้ดีตั้งแต่เดือนที่ 5 เป็นต้นไป และการได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ โดยคุณแม่สามารถกระตุ้นพัฒนาการการได้ยินของทารกในครรภ์ อย่างมีประสิทธิภาพแบบง่ายๆ ได้ดังนี้ 1. พูดคุยกับลูกบ่อยๆ โดยการใช้น้ำเสียงปกติในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่ รวมถึงคุณแม่อาจจะเพิ่มการร้องเพลง หรืออ่านหนังสือ เข้าไปด้วยก็เป็นการช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการได้ยินของทารกในครรภ์แล้ว 2. เปิดเพลงให้ลูกฟังบ่อยๆ โดยไม่มีข้อจำกัดว่าจะเป็นเพลงแนวไหน สามารถเปิดได้หมด ทั้ง โมสาร์ท คลาสสิก แจ๊ส ป๊อป ร็อค ลูกทุ่ง เพียงแค่ขอให้เป็นเพลงที่ฟังสบายๆ ไม่รุนแรงเกินไป ก็ช่วยให้ลูกได้รู้สึกถึงจังหวะมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นพัฒนาการการได้ยิน พัฒนาการทางด้านอารมณ์ และพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวเมื่อลูกได้ดิ้นและขยับตัวตามจังหวะดนตรีเพลง […]

BabyGift Grand Opening ฉลองเปิดสาขาใหม่ “ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์” สาขาที่ 7 อย่างเป็นทางการตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก BabyGift พร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณพ่อ-คุณแม่และลูกน้อยในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ” The Best Gift for your Baby ” ​ ขอขอบคุณ แบรนด์ Partner ผู้บริหาร และคณะกรรมการทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่มาร่วมงาน และคอยสนับสนุนเบบี้กิ๊ฟอย่างดีตลอดมาค่ะ Attitude Mom Thailand : เครื่องปั๊มนม 5 โหมด อัจฉริยะ กรวยซิลิโคนแท้ Spectra Thailand เครื่องปั้มนม Iflin baby PUR Thailand Mellow for Kids ผ้ารองกันน้ำ100% เมลโล่ Bambies Thailand Baby Natura Beaba Thailand Luxury Baby […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages