เด็กขาโก่ง เพราะเป้อุ้มเด็กจริงมั้ย ? รวมเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเป้อุ้มเด็ก พร้อมรุ่นถูกใจคุณแม่

เมื่อลูกน้อยอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องพาลูกออกจากบ้านไปทำธุระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปหาหมอ หรือ พาไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะใช้รถเข็นเด็กเพื่อความสะดวกสบายของคุณพ่อคุณแม่แล้วนั้น ตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเป็นตัวเลือกของคุณพ่อคุณแม่ก็คือ เป้อุ้มเด็ก เพราะสามารถพาลูกน้อยไปได้ทุกที่ เรียกว่าเป็นตัวช่วยทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดี แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกำลังกังวลว่า เป้อุ้มลูกนั้น จะทำให้ เด็กขาโก่ง หรือเปล่า มีความปลอดภัยขนาดไหน ควรเลือกอย่างไรดี ในบทความนี้ BabyGift มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ
ตอบข้อสงสัย เป้อุ้มลูก ใช้แล้วเด็กขาโก่งไหม ? พร้อม 3 ยี่ห้อแนะนำ
เป้อุ้มทารก จำเป็นหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร ?

เป้สำหรับอุ้มเด็ก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม ด้วยเพราะลูกยังเล็ก ยังเดินไม่ได้ ดังนั้นการทำกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ของคุณแม่จึงจำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อย ๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น อุ้มขณะออกไปทำธุระนอกบ้าน ซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน แถมยังต้องอุ้มลูกตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง
ดังนั้นการใช้เป้อุ้มลูกก็จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้มาก ทำให้สามารถพาลูกน้อยไปกับเราได้ทุกที่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็สะดวกมากขึ้น เช่น การเดินซื้อของ การออกไปทำธุระนอกบ้าน การออกไปท่องเที่ยว เป็นต้น การใช้รถเข็นเด็กอาจจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บเยอะ แต่การใช้เป้อุ้มทารกนั้น สร้างความสะดวกสบายแก่คุณพ่อคุณแม่มาก ๆ ลองมาดูเหตุผลเพิ่มเติมกันค่ะว่าทำไมควรใช้เป้อุ้มทารก
- ประหยัดแรงกาย : ช่วยให้คุณแม่ไม่เมื่อยล้า เพราะเป้จะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกน้อยด้วยตัวเป้และสายรัดให้อยู่กับตัวคุณแม่ ทำให้ช่วยบาลานซ์น้ำหนักและกระจายน้ำหนักได้ดี
- ลูกปลอดภัย นั่ง และนอนได้สบาย : ซึ่งเป้ที่ใช้อุ้มเด็กส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุที่ทำด้วยผ้าที่หนานุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวลูก มีเบาะรองทั้งบริเวณหน้าท้องและหลัง ทำให้ลูกอยู่ในเป้สำหรับอุ้มเด็กได้อย่างสบาย
- สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ : เป้สำหรับอุ้มเด็กคือตัวช่วยที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกพร้อมกับทำงานบ้านหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ไม่ต้องกังวลว่าจะทิ้งลูกให้อยู่ตามลำพัง เพราะสามารถอุ้มเด็กติดตัวไปได้ทุกที่
- ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย : เวลาที่ลูกอยู่ในเป้จะรู้สึกเหมือนอยู่ในถุงนอน อยู่ใกล้ชิดอกคุณแม่ ได้ยินเสียงหัวใจของแม่ คล้ายเวลาอยู่ในท้องตอนตั้งครรภ์ จึงทำให้ลูกหลับได้สบาย ได้สัมผัสกับไออุ่นจากร่างกายของคุณแม่ ทำให้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ไม่งอแง และไม่ต้องกังวลว่าการอุ้มลูกไว้กับตัวบ่อยๆ จะทำให้ลูกติดมือ เพราะการอุ้มลูกนั้นมีข้อดีมากมาย ทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย ช่วยให้แม่ลูกมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน มีความใกล้ชิดผูกพันกันมากขึ้น ส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็ก และยังช่วยลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในคุณแม่ด้วย
- ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมให้กับลูก : การที่ลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มลูกเวลาออกไปนอกบ้าน จะทำให้ลูกได้คุ้นเคยและใกล้ชิดกับคนอื่นๆ รู้สึกตื่นเต้น เพลิดเพลิน ได้พบเห็นผู้คนและสถานที่ต่าง ๆ ส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านสังคม ทำให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมที่แปลกใหม่ อันทำให้ลูกสามารถปรับตัวกับบรรยกาศภายนอกได้เร็วขึ้น
เด็กขาโก่ง เพราะใช้เป้อุ้มเด็กจริงมั้ย ?

การอุ้มลูกน้อยติดตัวกับคุณแม่ ทั้งการห่อตัวแล้วพันผ้าแบบสมัยก่อน และการใช้เป้อุ้มทารกเป็นสิ่งที่ทำกันมาอย่างยาวนาน เหมือนกับการอุ้มลูกเข้าเอว ทั้งนี้ อาจมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนเป็นกังวลว่าการอุ้มลูกเข้าเอว การใช้เป้อุ้มทารก รวมถึงการใส่ผ้าอ้อมจะทำให้ลูกขาโก่งหรือเปล่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การที่เด็กขาโก่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใส่ผ้าอ้อม การใช้เป้อุ้มทารก หรือการอุ้มลูกเข้าเอวแต่อย่างใด แต่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและความผิดปกติทางร่างกายเป็นหลัก
โดยทั่วไปแล้ว สรีระกระดูกขาของทารกจะมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย และจะค่อย ๆ ยืดตรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเกณฑ์ที่จะตัดสินว่า ลูกของเราขาโก่งหรือไม่นั้น ต้องดูหลังจากอายุ 2 ปีขึ้นไป ส่วนการใช้เป้สำหรับอุ้มเด็กก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกขาโก่งได้น้อย แม้จะมีข้อมูลบางอย่างที่พบว่า การใช้เป้อุ้มลูก อาจเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการเกิดโรคข้อสะโพกหลุด (Hip dysplasia) ในเด็กเล็กได้ แต่ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานหนึ่งที่บอกว่าเกิดจากท่าทางของทารกในขวบปีแรก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ทารกถูกห่อตัวหรือรัดตัวแน่นมากจนเกินไป และจากหลายปัจจัยอื่น ๆ เช่น กรรมพันธุ์ ท่าทางของลูกน้อยในครรภ์ ท่าคลอดท่าก้น ลักษณะของข้อต่อสะโพกของลูกทารก เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันเป้ที่ใช้อุ้มเด็กเล็กส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ทั้งของคุณลูกและคุณแม่ เพื่อให้ลูกน้อยอยู่ในท่าทางที่ถูกต้องขณะอุ้มอย่างปลอดภัย คุณแม่เองก็ใช้เป้อุ้มลูกได้โดยไม่ต้องก้ม เอนหรือเดินผิดอิริยาบถจนต้องปวดหลัง ปวดไหล่ และเป้อุ้มทารกบางยี่ห้อก็ผ่านการรับรองจากสถาบันต่างประเทศ ที่ได้รับการยืนยันว่าใช้แล้วจะไม่ทำให้เกิดโรคกระดูกสะโพกเคลื่อนอันเป็นสาเหตุของอาการขาโก่งอีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่า ปลอดภัยสำหรับลูกรักอย่างแน่นอนค่ะ
จะเลือกใช้เป้อุ้มลูกอย่างไรให้ปลอดภัย ?

แม้ว่าเป้อุ้มลูกจะไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ เด็กขาโก่ง แต่ก็ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กเล็ก เป็นเป้ที่ลูกสามารถหันหน้าออกได้ทั้งหน้า – หลัง และสามารถรองรับกระดูกสันหลังและศีรษะของทารกได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่นที่เด็กสามารถเอนตัวและขยับเคลื่อนไหวสะโพกได้ เพราะถ้าเลือกเป้อุ้มเด็กที่เมื่อเด็กนั่งแล้วมีท่าทางไม่สอดรับกับสะโพก หากนั่งท่านี้นาน ๆ ก็มีโอกาสที่จะบาดเจ็บหรือข้อสะโพกหลุดได้ แล้วจะเลือกเป้อุ้มลูกอย่างไรดี มาดูวิธีการเลือกเป้อุ้มทารกอย่างถูกต้องกันค่ะ
- เลือกเป้สำหรับอุ้มเด็กที่มีความปลอดภัย มีโครงสร้างที่ช่วยพยุงตัวเด็กได้ดี ใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยต่อผิวอันบอกบางของลูกน้อย การตัดเย็บมีความแน่นหนา ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย อาจพาลูกไปทดลองนั่งเป้ด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหมาะกับลูกของเราหรือไม่
- ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ คุณแม่ใช้แล้วไม่ทำให้ปวดหลัง ไม่ปวดแขน ไม่เมื่อยไหล่ และลูกใช้แล้วไม่ทำให้เด็กขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก
- เลือกเป้ที่ลูกนั่งแล้วมีท่าทางสอดรับกับสะโพก กล่าวคือ เป็นท่าที่สะโพกของลูกแยกไปด้านข้างตามธรรมชาติ โดยที่ต้นขาจะกางออก เพื่อรองรับสะโพกและการงอเข่า แต่ถ้าหากนั่งแล้วสะโพกและเข่ายืด ขาห้อยเข้ามาใกล้กัน นั่นคือท่าที่ไม่ถูกต้อง หากอยู่ในท่านี้นานๆ อาจเสี่ยงทำให้สะโพกหลุดได้
- หลีกเลี่ยงเป้อุ้มลูกที่ลูกนั่งแล้วมีท่าทางคล้ายตัว C กล่าวคือ ทำให้ลูกห่อตัวโค้งลง ซึ่งอาจทำให้ลูกหายใจลำบากและอยู่ในท่าทางที่ผิดอิริยาบถได้ อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลังของลูก ควรเลือกเป้ที่ช่วยพยุงหลังและสรีระของลูกได้ดี ลูกอยู่ในท่าทางที่ลำคอตั้งตรงและหายใจได้สะดวก
- มีความกระชับ ใช้แล้วรู้สึกว่ามีความมั่นคง ปลอดภัย ช่วยพยุงไม่ให้ลูกหลังงอ ช่วยประคองศีรษะ คอ หัวไหล่ หลังและเอวของลูกได้เป็นอย่างดี และควรเป็นผ้าที่นิ่ม สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ลูกร้อนหรืออึดอัดไม่สบายตัว
BabyGift แนะนำ เป้อุ้มทารกคุณภาพดี ไม่ต้องกังวลเรื่องทำให้เด็กขาโก่ง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่เป็นกังวลว่า การใช้เป้อุ้มทารกจะทำให้ลูกขาโก่งหรือไม่ ตอนนี้ก็น่าจะคลายข้อสงสัยกันไปแล้วนะคะ ถ้าเลือกเป้สำหรับอุ้มเด็กที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพดี ดีไซน์ถูกตามหลักสรีรศาสตร์ ก็มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้เลย และถ้ากำลังมองหาเป้สำหรับอุ้มเด็กอยู่ละก็ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ

1. เป้อุ้ม Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro (3in1 Hip Seat Carrier)
เป้อุ้มลูกของ Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro มีเทคโนโลยี BOA ช่วยปรับกระชับตัวได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่หมุน ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปรับได้พอดีกับสรีระของทุกคน มีน้ำหนักเบาสบาย สามารถอุ้มลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย
จุดเด่น
- วัสดุทำจาก Polyurethane มีความนุ่มพิเศษ ไม่เสียทรง คืนรูปรวดเร็ว
- ฮิปซีทที่นั่งเอียง 23 องศา ช่วยให้ลูกนั่งสบายมากขึ้น และเป็นแบบ M-Shape ป้องกันข้อสะโพกหลุดในเด็ก
- ฮิปซีทเว้าโค้งช่วยให้เข่า และสะโพกเด็ก อยู่ในระดับเดียวกัน และโค้งรับหน้าท้อง ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่
- ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI มั่นใจได้ว่าลูกนั่งสบายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ขาโก่ง หลังงอ
- มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วงป้องกันแสงแดดให้ลูกน้อย
- มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิว สามารถถอดซักได้
- มีแผ่นพยุงศีรษะลูกน้อย ช่วยป้องกันปัญหาคอพับ
- มีช่องตาข่ายระบายอากาศ สามารถเปิดระบายเหงื่อและความร้อนได้
- สายคาดเอวระบายอากาศได้ดี วัสดุเป็นตาข่ายแบบนุ่มพิเศษ ไม่ทำให้ร้อน
การใช้งาน : เด็กอายุ 0 – 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม
แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

2. เป้สำหรับอุ้มเด็ก HAENIM 9 (Hipseat Carrier)
เป้อุ้มลูกที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง มีการออกแบบที่รองรับกับสรีระของเด็ก มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ดูแลรับประกันสินค้านานถึง 2 ปี
จุดเด่น
- ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ
- มีแผ่นพยุงศีรษะ ป้องกันลูกคอพับและกระดูกคอเคลื่อน
- มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิวลูก สามารถถอดซักได้
- มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูก สามารถถอดซักได้
- เป้ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนทั้งลูกน้อยและคนอุ้ม
- สายสะพายมีขนาดใหญ่ มีความหนานุ่ม กระจายน้ำหนักได้ดี ไม่ทำให้เมื่อยไหล่
- สายคาดเอวมีขนาดใหญ่ ช่วยให้อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่มีปวดหลัง
- ฐานนั่งเป็นแบบ Hipseat โค้งรับช่วงท้อง หนานุ่ม ไม่อึดอัด ไม่กดแผลผ่าคลอดคุณแม่
การใช้งาน : เด็กอายุ 0 – 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม
แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

3. เป้สำหรับอุ้มเด็ก HAENIM 9 Plus (Hipseat Carrier)
เป้สำหรับอุ้มเด็กอีกรุ่นหนึ่งของ HAENIM ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ ให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กได้อย่างปลอดภัย มั่นใจในคุณภาพ ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ดูแลรับประกันสินค้านาน 2 ปี
จุดเด่น
- ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ
- มีแผ่นพยุงศีรษะ ป้องกันลูกคอพับและกระดูกคอเคลื่อน
- มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิวลูก สามารถถอดซักได้
- มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูกน้อย สามารถถอดซักได้
- วัสดุภายนอกทำจากผ้า Melange ผ้าที่เกิดจากเส้นใยมากกว่าสองสีที่อยู่รวมกัน ทำให้มีความสวยงาม อีกทั้งยังช่วยป้องกันละอองฝน และแสงแดด
- ระบายอากาศดี ไม่ร้อนทั้งลูกน้อยและคนอุ้ม
- มีสายสะพายขนาดใหญ่ มีความหนานุ่ม กระจายน้ำหนักได้ดี ช่วยให้ไม่เมื่อยไหล่ขณะอุ้ม
- มีสายคาดเอวขนาดใหญ่ ช่วยอุ้มลูกสบายขึ้น ไม่ปวดหลัง ทำจากวัสดุ Polyurethane ช่วยลดแรงกดทับหน้าท้องได้ดี
- ฐานนั่ง Hipseat โค้งรับช่วงท้อง มีความหนานุ่ม ไม่อึดอัด ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่
การใช้งาน : เด็กอายุ 0 – 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม
แบรนด์ : ประเทศเกาหลี
การใช้เป้อุ้มลูกไม่ทำให้เด็กขาโก่งแต่อย่างใด และถ้าหากเลือกเป้สำหรับอุ้มเด็กที่มีคุณภาพดี ออกแบบมาอย่างเหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์ มีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ก็ใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวล ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังมองหาเป้อุ้มลูกอยู่ละก็ สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งเป้สำหรับอุ้มเด็กได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก : www.bangkokhospitalkhonkaen.com/th/article/1556358426#:~:text=ความเชื่อ%3A%20ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป,หลัง%202%20ปีขึ้นไป
https://wearmybaby.co.uk/12-reasons-to-use-a-baby-carrier/
https://www.happiestbaby.com/blogs/baby/how-to-use-a-baby-sling#what%E2%80%99s-the-benefit-of-using-a-baby-carrier?
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ! กำลังกังวลกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ ว่าตอนท้องอ่อนๆ จะสามารถทำอะไรได้บ้างทำอะไรไม่ได้บ้าง วันนี้เราเลยนำเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงมาบอกกันค่ะ ไม่แปลกใจที่คุณแม่บางท่านจะกังวลมากๆ ในช่วงท้องอ่อน เพราะในช่วงสามเดือนแรกนั้น อวัยวะต่างๆ ของลูกน้อยในท้องของคุณแม่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ค่ะ ดังนั้นในระยะนี้จึงมีความเสี่ยงต่อการแท้งมากกว่าในไตรมาสอื่นๆ ช่วงนี้คุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว หรือการใช้ยาต่างๆ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ กังวลได้แต่อย่าเครียดนะ เพราะความเครียดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องพึงระวังไว้ด้วย กำลังคิดจะไปทานแซลมอน ลาบก้อย หอยนางรมฉลองสมาชิกใหม่กันอยู่รึเปล่า ช่วงนี้คุณแม่อาจจะต้องงดไว้ก่อนนะ เพราะอาหารที่ปรุงไม่สุกส่วนใหญ่อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้คุณแม่ท้องเสียหรืออาเจียนได้ แถมยังอาจทำให้เป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งเจ้าโรคนี้เนี่ยมันเกิดจากเชื้อปรสิตทอกโซพลาสมา กอนดิไอ(Toxoplasma gondii) ที่สามารถแพร่ไปสู่ลูกน้อยในท้องของคุณแม่ได้ค่ะ เห็นชื่อน่ากลัวแบบนี้ มันก็น่ากลัวจริงๆ นะ เพราะหากติดโรคนี้ตอนท้องก็อาจจะทำให้แท้งไปเลย หรือไม่ก็ลูกอาจจะเสียชีวิตในท้อง ไม่ก็อาจมีอาการของโรคเมื่อคลอดออกมา สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ถ้าคุณแม่ที่ติดเชื้อนี้ตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะมีขนาดศีรษะที่ไม่ปกติ อาจจะเล็กหรือไม่ก็ใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แถมพอโตไปก็อาจจะตาบอดหรือสติปัญญาอาจจะด้อยกว่าเด็กอื่นๆ ด้วยนะ แต่แต่แต่ ถ้าคุณแม่เคยเป็นโรคนี้ก่อนท้องแล้วก็ชิวชิวค่า เพราะร่างกายคุณแม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่กลับมาเป็นอีกแล้วล่ะ คุณแม่ที่กำลังใช้ยาอยู่ หยุดก่อนค่ะ! ได้ถามคุณหมอรึยังว่ายาตัวนั้นคนท้องทานได้มั้ย คุณแม่อย่าชะล่าใจไปน้าเพราะยามีหลายประเภทแล้วก็ออกฤทธิ์แตกต่างกัน เพราะงั้นยาบางตัวอาจมีผลต่อการสร้างอวัยวะของลูกน้อยได้ เช่นพวกยารักษาสิว Isotretinoin นี่ตัวดีเลยค่ะ เพราะมันเป็นยาที่รุนแรงมาก มากจนอาจทำให้ลูกพิการได้เลยนะ หรือพวกยาที่ใช้รักษาไมเกรน เช่น Cafergot เพราะมันทำให้มดลูกของพวกเราบีบตัวจึงอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ พอคุณแม่ทานยาเข้าไปปุ๊ป ลูกก็จะได้ยาพวกนี้ผ่านทางรกด้วยค่ะ แต่ผลกระทบต่อลูกก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่คุณแม่ทานเข้าไปนะ เพราะฉะนั้นหากจะทานยา […]
ลูกควรเลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่? อยากฝึกให้ลูกนั่งกระโถน นั่งชักโครกขับถ่ายเองได้เริ่มเมื่อไหร่ดี? คงเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยกันใช่ไหมคะ เพราะการฝึกลูกให้เลิกใส่ผ้าอ้อม ฝึกลูกนั่งกระโถน ไปจนฝึกให้เข้าห้องน้ำเองได้ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมที่จะเลิกใส่ผ้าอ้อม พร้อมนั่งกระโถนแล้ว มาเช็กกันเลยค่ะ ทำไมต้องฝึกลูกเรื่องขับถ่าย การฝึกลูกขับถ่ายให้เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ ที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงเป็นการปลูกฝังด้านสุขอนามัย ความสะอาด รู้จักร่างกายตัวเอง และรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ หากพ่อแม่ไม่สอนลูกเรื่องการขับถ่าย ปล่อยให้ขับถ่ายในผ้าอ้อมไปจนโต จะทำให้ลูกมีการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสมตามวัย เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน จะทำให้มีปัญหาในการดูแลความสะอาด อาจเกิดการขับถ่ายเล็ดราด หรือยังต้องใส่ผ้าอ้อมจนอึดอัด ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ ส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยได้ ฝึกลูกนั่งชักโครก เลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ตอนไหน? วัยที่มีพัฒนาการและพฤติกรรมพร้อมพี่จะเริ่มฝึกได้ ควรเริ่มเมื่ออายุ 1 ปี – 1 ปี 6 เดือน และมักจะทำได้ดีตอนอายุ 2 ปี หรือเด็กบางคนอาจจะมาฝึกตอนอายุ 2 ปี และนั่งกระโถนได้เองตอนอายุ 3 ปี หรือบางคนอาจทำได้เมื่อโตกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและสัญญาณต่าง ๆ ที่แสดงออกมาทั้งทางร่างกาย การสื่อสาร และความต้องการของลูก ไม่ควรเกิดจากการบังคับลูก 8 สัญญาณที่บอกว่าลูกพร้อมนั่งกระโถนเองได้แล้ว 7 เทคนิคฝึกลูกขับถ่าย […]
หลายๆบ้านถามกันเข้ามาว่า เวลาพาลูกเที่ยว แม่แพรว ยังให้เฌอลินน์นั่งรถเข็นอยู่ไหม ? ต้องบอกแบบนี้เลยค่ะว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละวัน ว่าเราพาลูกน้อยไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ต้องเดินทางไกลหรือนานแค่ไหน ? อย่างเวลาแพรวพาลูกออกนอกบ้านนานๆ ถ้าไม่มีตัวช่วยอย่างเจ้ารถเข็นเลย บางครั้งก็ทำให้เฌอลินน์งอแง อยากให้อุ้มอยู่ตลอดเวลา พ่อแม่อย่างเราจะคอยอุ้มลูกทั้งวันก็คงไม่ไหวใช่มั้ยหล่ะคะ ถ้าได้รถเข็นมาเป็นตัวช่วยพาลูกเที่ยวในวันที่แม่เหนื่อย อุ้มลูกไม่ไหว ก็จะช่วยทำให้เราพาลูกเที่ยวแบบสบาย แม่ไม่เหนื่อย แฮปปี้กันทั้งครอบครัวเลยค่ะ แพรวเลือก รถเข็น Aprica รุ่น Optia Cushion Premium ให้เฌอลินน์ เพราะเขารองรับสรีระเด็กทุกช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ขวบกันเลยทีเดียวค่ะ ตอนนี้เฌอลินน์ 2 ขวบแล้ว ตัวสูงแบบนี้ยังนั่งได้สบายๆไม่อึดอัด แถมแบรนด์ Aprica รุ่นนี้ไม่ใช่รถเข็นธรรมดาทั่วไป เป็นเบาะแบบ Ergonomic Design ที่ออกแบบคิดค้นโดยกุมารแพทย์ญี่ปุ่นด้วย ขนาดพ่อแม่อย่างเรายังตามหาซื้อเก้าอี้ Ergonomic มานั่งทำงานกันเลยใช่มั้ยคะ แพรวเองก็ขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ขณะอยู่นอกบ้านแน่นอนค่ะ ซื้อรถเข็นมา ลูกไม่ยอมนั่งทำไงดี ? คุณพ่อคุณแม่ต้องลองสังเกตุดูค่ะ ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยค่อนข้างร้อน เด็กเล็กๆ มักจะมีเหงื่อออกเยอะ ถ้าเป็นรถเข็นที่ไม่ค่อยระบายอากาศเวลาลูกนั่งนานๆ เขาจะหัวเปียกหลังแฉะ ไม่สบายตัวอยู่ตลอดเวลา การได้รถเข็นเบาะระบายอากาศดีๆ เวลาเราพาลูกออกนอกบ้าน ลูกจะยอมนั่งไม่งอแง […]
การเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณทำไมถึงต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยจึงจำเป็นต่อคุณและลูกน้อยล่ะ? หลายประเทศได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของคาร์ซีท carseat สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบ เนื่องจากคุณจะต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจร และหากคุณเดินทางพร้อมกับลูกน้อย โดยที่คุณจะต้องอุ้มลูกไว้ที่ตัก ก็อาจจะมีโอกาสที่คุณไม่สามารถที่จะอุ้มลูกได้อย่างมั่นคงและเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกของคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสูงค่ะ ดังนั้นการมีคาร์ซีท ที่ปลอดภัยในรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ ทั้งนี้พึงระวังไว้ว่าการใช้คาร์ชีทที่ไม่ถูกต้อง อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่เด็กมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณควรต้องเลือกใช้คาร์ซีท carseat ให้ถูกต้องพร้อมกับศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยนะค่ะ หากไม่มีคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแล้ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จากสถิติได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบนั่งบนรถยนต์ที่ปราศจากคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยและประสบอุบัติเหตุ อัตราการเสียชีวิตจะมากกว่าการนั่งบนรถยนต์ที่ติดตั้งคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยถึง 4 เท่า***ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานคาร์ซีท carseat ไม่ถูกวิธี จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 โดยองค์การทางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ( Japan Automobile Federation :JAF) เกี่ยวกับการใช้งาน คาร์ซีท carseat พบว่า 32.7 % ของคาร์ซีท carseat ที่ใช้งานนั้นติดตั้งอย่างไม่แน่นหนา ขณะที่อีก 67.3 % นั้นถูกพบว่ายังใช้งานได้ไม่ถูกต้องนัก ไม่ว่าจะเป็นการรัดสะโพกที่หลวมเกินไป หรือ การใช้งานที่หัวเข็มขัดที่ใช้ยึดที่นั่งไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกใช้คาร์ซีท carseat ที่ถูกต้องแล้ว แต่หากการใช้งานไม่ถูกวิธีก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีทให้ถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคาร์ซีท คุณควรศึกษาข้อมูลว่า คาร์ซีท […]
เพราะคุณค่าจากน้ำนมแม่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์สารอาหารที่มีครบถ้วน เพื่อพัฒนาลูกน้อยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความฉลาด การเติบโตแข็งแรง อารมณ์ดีมีความสุข ขับถ่ายง่าย แถมนมแม่ยังมีสารสร้างภูมิคุ้มกันมากมาย ทำให้ลูกน้อยไม่เจ็บป่วยง่ายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณแม่ทุกท่านจึงปรารถนาจะให้ลูกน้อยได้รับคุณค่าอันมหัศจรรย์จากน้ำนมแม่อย่างเต็มที่ไปจนโต หรือให้นมลูกได้นานที่สุด โดยคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ นอกจากจะให้นมแม่จากเต้าโดยตรงกับลูกน้อยแล้ว เชื่อว่าเกือบทุกคน โดยเฉพาะคุณแม่เวิร์กกิ้งมัม จะต้องทำสต๊อกน้ำนมแม่เก็บแช่แข็งหรือแช่เย็นไว้ เพื่อให้ลูกรักยังได้กินนมแม่ตลอดเวลา แม้จะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่มีคุณแม่มือใหม่หลายท่านที่ยังไม่มั่นใจหรือกังวล กับการละลายนมแม่ที่แช่แข็งมาใช้ เพราะไม่แน่ใจว่าวิธีการไหนจะสะดวก สะอาด ปลอดภัย แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และทำแบบไหนจะไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่ ดังนั้นอยากรู้ว่าแต่ละ วิธีละลายน้ำนมแม่ แตกต่างกันอย่างไรไปดูกันค่ะ ก่อนอื่น ให้เปลี่ยนช่องแช่ เพื่อละลายนมแม่ก่อน หากคุณแม่เก็บน้ำนมแม่ไว้ในช่องแช่แข็ง จำเป็นต้องนำนมแม่เปลี่ยนมาแช่ที่ช่องแช่เย็นธรรมดาด้านล่างก่อนประมาณ 1 วันหรือ 1 คืน เพื่อให้นมแม่ค่อยๆ ละลาย ควรนำนมเก่าที่แช่แข็งไว้ตามวันเวลาที่เก็บสต๊อกไว้นานที่สุดก่อน เพื่อไม่ให้นมเก่า เก็บไว้นานเกินไป แล้วจึงทยอยนำนมใหม่มาใช้ไล่ตามเวลาไปเรื่อยๆ เมื่อนมแม่ละลายแล้ว คุณแม่ควรแบ่งนมแม่จากถุงเก็บน้ำนมใส่ขวดนม แบ่งปริมาณที่ลูกกินเฉพาะมื้อนั้นๆ แล้วจึงนำมาอุ่นหรือละลายก่อนให้ลูกกิน ซึ่งนมที่เหลือในถุงเก็บน้ำนมสามารถแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาให้ลูกกินให้หมดภายใน 2-3 วัน เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่คุณแม่มักจะนำมาอุ่นหรือละลายให้ลูกกินในมื้อถัดไปภายในวันเดียว หรือ 24 ชั่วโมง วิธีละลายน้ำนมแม่ […]
1.เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 2. วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็กต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 3. ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ 4. โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 5. มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย 6. โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น 7. ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.