เด็กขาโก่ง เพราะเป้อุ้มเด็กจริงมั้ย ? รวมเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเป้อุ้มเด็ก พร้อมรุ่นถูกใจคุณแม่

เมื่อลูกน้อยอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องพาลูกออกจากบ้านไปทำธุระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปหาหมอ หรือ พาไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะใช้รถเข็นเด็กเพื่อความสะดวกสบายของคุณพ่อคุณแม่แล้วนั้น ตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเป็นตัวเลือกของคุณพ่อคุณแม่ก็คือ เป้อุ้มเด็ก เพราะสามารถพาลูกน้อยไปได้ทุกที่ เรียกว่าเป็นตัวช่วยทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดี แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกำลังกังวลว่า เป้อุ้มลูกนั้น จะทำให้ เด็กขาโก่ง หรือเปล่า มีความปลอดภัยขนาดไหน ควรเลือกอย่างไรดี ในบทความนี้ BabyGift มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ
ตอบข้อสงสัย เป้อุ้มลูก ใช้แล้วเด็กขาโก่งไหม ? พร้อม 3 ยี่ห้อแนะนำ
เป้อุ้มทารก จำเป็นหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร ?

เป้สำหรับอุ้มเด็ก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม ด้วยเพราะลูกยังเล็ก ยังเดินไม่ได้ ดังนั้นการทำกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ของคุณแม่จึงจำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อย ๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น อุ้มขณะออกไปทำธุระนอกบ้าน ซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน แถมยังต้องอุ้มลูกตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง
ดังนั้นการใช้เป้อุ้มลูกก็จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้มาก ทำให้สามารถพาลูกน้อยไปกับเราได้ทุกที่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็สะดวกมากขึ้น เช่น การเดินซื้อของ การออกไปทำธุระนอกบ้าน การออกไปท่องเที่ยว เป็นต้น การใช้รถเข็นเด็กอาจจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บเยอะ แต่การใช้เป้อุ้มทารกนั้น สร้างความสะดวกสบายแก่คุณพ่อคุณแม่มาก ๆ ลองมาดูเหตุผลเพิ่มเติมกันค่ะว่าทำไมควรใช้เป้อุ้มทารก
- ประหยัดแรงกาย : ช่วยให้คุณแม่ไม่เมื่อยล้า เพราะเป้จะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกน้อยด้วยตัวเป้และสายรัดให้อยู่กับตัวคุณแม่ ทำให้ช่วยบาลานซ์น้ำหนักและกระจายน้ำหนักได้ดี
 - ลูกปลอดภัย นั่ง และนอนได้สบาย : ซึ่งเป้ที่ใช้อุ้มเด็กส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุที่ทำด้วยผ้าที่หนานุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวลูก มีเบาะรองทั้งบริเวณหน้าท้องและหลัง ทำให้ลูกอยู่ในเป้สำหรับอุ้มเด็กได้อย่างสบาย
 - สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ : เป้สำหรับอุ้มเด็กคือตัวช่วยที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกพร้อมกับทำงานบ้านหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ไม่ต้องกังวลว่าจะทิ้งลูกให้อยู่ตามลำพัง เพราะสามารถอุ้มเด็กติดตัวไปได้ทุกที่
 - ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย : เวลาที่ลูกอยู่ในเป้จะรู้สึกเหมือนอยู่ในถุงนอน อยู่ใกล้ชิดอกคุณแม่ ได้ยินเสียงหัวใจของแม่ คล้ายเวลาอยู่ในท้องตอนตั้งครรภ์ จึงทำให้ลูกหลับได้สบาย ได้สัมผัสกับไออุ่นจากร่างกายของคุณแม่ ทำให้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ไม่งอแง และไม่ต้องกังวลว่าการอุ้มลูกไว้กับตัวบ่อยๆ จะทำให้ลูกติดมือ เพราะการอุ้มลูกนั้นมีข้อดีมากมาย ทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย ช่วยให้แม่ลูกมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน มีความใกล้ชิดผูกพันกันมากขึ้น ส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็ก และยังช่วยลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในคุณแม่ด้วย
 - ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมให้กับลูก : การที่ลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มลูกเวลาออกไปนอกบ้าน จะทำให้ลูกได้คุ้นเคยและใกล้ชิดกับคนอื่นๆ รู้สึกตื่นเต้น เพลิดเพลิน ได้พบเห็นผู้คนและสถานที่ต่าง ๆ ส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านสังคม ทำให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมที่แปลกใหม่ อันทำให้ลูกสามารถปรับตัวกับบรรยกาศภายนอกได้เร็วขึ้น
 
เด็กขาโก่ง เพราะใช้เป้อุ้มเด็กจริงมั้ย ?

การอุ้มลูกน้อยติดตัวกับคุณแม่ ทั้งการห่อตัวแล้วพันผ้าแบบสมัยก่อน และการใช้เป้อุ้มทารกเป็นสิ่งที่ทำกันมาอย่างยาวนาน เหมือนกับการอุ้มลูกเข้าเอว ทั้งนี้ อาจมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนเป็นกังวลว่าการอุ้มลูกเข้าเอว การใช้เป้อุ้มทารก รวมถึงการใส่ผ้าอ้อมจะทำให้ลูกขาโก่งหรือเปล่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การที่เด็กขาโก่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใส่ผ้าอ้อม การใช้เป้อุ้มทารก หรือการอุ้มลูกเข้าเอวแต่อย่างใด แต่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและความผิดปกติทางร่างกายเป็นหลัก
โดยทั่วไปแล้ว สรีระกระดูกขาของทารกจะมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย และจะค่อย ๆ ยืดตรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเกณฑ์ที่จะตัดสินว่า ลูกของเราขาโก่งหรือไม่นั้น ต้องดูหลังจากอายุ 2 ปีขึ้นไป ส่วนการใช้เป้สำหรับอุ้มเด็กก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกขาโก่งได้น้อย แม้จะมีข้อมูลบางอย่างที่พบว่า การใช้เป้อุ้มลูก อาจเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการเกิดโรคข้อสะโพกหลุด (Hip dysplasia) ในเด็กเล็กได้ แต่ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานหนึ่งที่บอกว่าเกิดจากท่าทางของทารกในขวบปีแรก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ทารกถูกห่อตัวหรือรัดตัวแน่นมากจนเกินไป และจากหลายปัจจัยอื่น ๆ เช่น กรรมพันธุ์ ท่าทางของลูกน้อยในครรภ์ ท่าคลอดท่าก้น ลักษณะของข้อต่อสะโพกของลูกทารก เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันเป้ที่ใช้อุ้มเด็กเล็กส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ทั้งของคุณลูกและคุณแม่ เพื่อให้ลูกน้อยอยู่ในท่าทางที่ถูกต้องขณะอุ้มอย่างปลอดภัย คุณแม่เองก็ใช้เป้อุ้มลูกได้โดยไม่ต้องก้ม เอนหรือเดินผิดอิริยาบถจนต้องปวดหลัง ปวดไหล่ และเป้อุ้มทารกบางยี่ห้อก็ผ่านการรับรองจากสถาบันต่างประเทศ ที่ได้รับการยืนยันว่าใช้แล้วจะไม่ทำให้เกิดโรคกระดูกสะโพกเคลื่อนอันเป็นสาเหตุของอาการขาโก่งอีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่า ปลอดภัยสำหรับลูกรักอย่างแน่นอนค่ะ
จะเลือกใช้เป้อุ้มลูกอย่างไรให้ปลอดภัย ?

แม้ว่าเป้อุ้มลูกจะไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ เด็กขาโก่ง แต่ก็ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กเล็ก เป็นเป้ที่ลูกสามารถหันหน้าออกได้ทั้งหน้า – หลัง และสามารถรองรับกระดูกสันหลังและศีรษะของทารกได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่นที่เด็กสามารถเอนตัวและขยับเคลื่อนไหวสะโพกได้ เพราะถ้าเลือกเป้อุ้มเด็กที่เมื่อเด็กนั่งแล้วมีท่าทางไม่สอดรับกับสะโพก หากนั่งท่านี้นาน ๆ ก็มีโอกาสที่จะบาดเจ็บหรือข้อสะโพกหลุดได้ แล้วจะเลือกเป้อุ้มลูกอย่างไรดี มาดูวิธีการเลือกเป้อุ้มทารกอย่างถูกต้องกันค่ะ
- เลือกเป้สำหรับอุ้มเด็กที่มีความปลอดภัย มีโครงสร้างที่ช่วยพยุงตัวเด็กได้ดี ใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยต่อผิวอันบอกบางของลูกน้อย การตัดเย็บมีความแน่นหนา ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย อาจพาลูกไปทดลองนั่งเป้ด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหมาะกับลูกของเราหรือไม่
 - ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ คุณแม่ใช้แล้วไม่ทำให้ปวดหลัง ไม่ปวดแขน ไม่เมื่อยไหล่ และลูกใช้แล้วไม่ทำให้เด็กขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก
 - เลือกเป้ที่ลูกนั่งแล้วมีท่าทางสอดรับกับสะโพก กล่าวคือ เป็นท่าที่สะโพกของลูกแยกไปด้านข้างตามธรรมชาติ โดยที่ต้นขาจะกางออก เพื่อรองรับสะโพกและการงอเข่า แต่ถ้าหากนั่งแล้วสะโพกและเข่ายืด ขาห้อยเข้ามาใกล้กัน นั่นคือท่าที่ไม่ถูกต้อง หากอยู่ในท่านี้นานๆ อาจเสี่ยงทำให้สะโพกหลุดได้
 - หลีกเลี่ยงเป้อุ้มลูกที่ลูกนั่งแล้วมีท่าทางคล้ายตัว C กล่าวคือ ทำให้ลูกห่อตัวโค้งลง ซึ่งอาจทำให้ลูกหายใจลำบากและอยู่ในท่าทางที่ผิดอิริยาบถได้ อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลังของลูก ควรเลือกเป้ที่ช่วยพยุงหลังและสรีระของลูกได้ดี ลูกอยู่ในท่าทางที่ลำคอตั้งตรงและหายใจได้สะดวก
 - มีความกระชับ ใช้แล้วรู้สึกว่ามีความมั่นคง ปลอดภัย ช่วยพยุงไม่ให้ลูกหลังงอ ช่วยประคองศีรษะ คอ หัวไหล่ หลังและเอวของลูกได้เป็นอย่างดี และควรเป็นผ้าที่นิ่ม สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ลูกร้อนหรืออึดอัดไม่สบายตัว
 
BabyGift แนะนำ เป้อุ้มทารกคุณภาพดี ไม่ต้องกังวลเรื่องทำให้เด็กขาโก่ง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่เป็นกังวลว่า การใช้เป้อุ้มทารกจะทำให้ลูกขาโก่งหรือไม่ ตอนนี้ก็น่าจะคลายข้อสงสัยกันไปแล้วนะคะ ถ้าเลือกเป้สำหรับอุ้มเด็กที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพดี ดีไซน์ถูกตามหลักสรีรศาสตร์ ก็มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้เลย และถ้ากำลังมองหาเป้สำหรับอุ้มเด็กอยู่ละก็ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ

1. เป้อุ้ม Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro (3in1 Hip Seat Carrier)
เป้อุ้มลูกของ Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro มีเทคโนโลยี BOA ช่วยปรับกระชับตัวได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่หมุน ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปรับได้พอดีกับสรีระของทุกคน มีน้ำหนักเบาสบาย สามารถอุ้มลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย
จุดเด่น
- วัสดุทำจาก Polyurethane มีความนุ่มพิเศษ ไม่เสียทรง คืนรูปรวดเร็ว
 - ฮิปซีทที่นั่งเอียง 23 องศา ช่วยให้ลูกนั่งสบายมากขึ้น และเป็นแบบ M-Shape ป้องกันข้อสะโพกหลุดในเด็ก
 - ฮิปซีทเว้าโค้งช่วยให้เข่า และสะโพกเด็ก อยู่ในระดับเดียวกัน และโค้งรับหน้าท้อง ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่
 - ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI มั่นใจได้ว่าลูกนั่งสบายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ขาโก่ง หลังงอ
 - มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วงป้องกันแสงแดดให้ลูกน้อย
 - มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิว สามารถถอดซักได้
 - มีแผ่นพยุงศีรษะลูกน้อย ช่วยป้องกันปัญหาคอพับ
 - มีช่องตาข่ายระบายอากาศ สามารถเปิดระบายเหงื่อและความร้อนได้
 - สายคาดเอวระบายอากาศได้ดี วัสดุเป็นตาข่ายแบบนุ่มพิเศษ ไม่ทำให้ร้อน
 
การใช้งาน : เด็กอายุ 0 – 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม
แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

2. เป้สำหรับอุ้มเด็ก HAENIM 9 (Hipseat Carrier)
เป้อุ้มลูกที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง มีการออกแบบที่รองรับกับสรีระของเด็ก มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ดูแลรับประกันสินค้านานถึง 2 ปี
จุดเด่น
- ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ
 - มีแผ่นพยุงศีรษะ ป้องกันลูกคอพับและกระดูกคอเคลื่อน
 - มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิวลูก สามารถถอดซักได้
 - มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูก สามารถถอดซักได้
 - เป้ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนทั้งลูกน้อยและคนอุ้ม
 - สายสะพายมีขนาดใหญ่ มีความหนานุ่ม กระจายน้ำหนักได้ดี ไม่ทำให้เมื่อยไหล่
 - สายคาดเอวมีขนาดใหญ่ ช่วยให้อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่มีปวดหลัง
 - ฐานนั่งเป็นแบบ Hipseat โค้งรับช่วงท้อง หนานุ่ม ไม่อึดอัด ไม่กดแผลผ่าคลอดคุณแม่
 
การใช้งาน : เด็กอายุ 0 – 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม
แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

3. เป้สำหรับอุ้มเด็ก HAENIM 9 Plus (Hipseat Carrier)
เป้สำหรับอุ้มเด็กอีกรุ่นหนึ่งของ HAENIM ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ ให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กได้อย่างปลอดภัย มั่นใจในคุณภาพ ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ดูแลรับประกันสินค้านาน 2 ปี
จุดเด่น
- ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ
 - มีแผ่นพยุงศีรษะ ป้องกันลูกคอพับและกระดูกคอเคลื่อน
 - มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิวลูก สามารถถอดซักได้
 - มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูกน้อย สามารถถอดซักได้
 - วัสดุภายนอกทำจากผ้า Melange ผ้าที่เกิดจากเส้นใยมากกว่าสองสีที่อยู่รวมกัน ทำให้มีความสวยงาม อีกทั้งยังช่วยป้องกันละอองฝน และแสงแดด
 - ระบายอากาศดี ไม่ร้อนทั้งลูกน้อยและคนอุ้ม
 - มีสายสะพายขนาดใหญ่ มีความหนานุ่ม กระจายน้ำหนักได้ดี ช่วยให้ไม่เมื่อยไหล่ขณะอุ้ม
 - มีสายคาดเอวขนาดใหญ่ ช่วยอุ้มลูกสบายขึ้น ไม่ปวดหลัง ทำจากวัสดุ Polyurethane ช่วยลดแรงกดทับหน้าท้องได้ดี
 - ฐานนั่ง Hipseat โค้งรับช่วงท้อง มีความหนานุ่ม ไม่อึดอัด ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่
 
การใช้งาน : เด็กอายุ 0 – 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม
แบรนด์ : ประเทศเกาหลี
การใช้เป้อุ้มลูกไม่ทำให้เด็กขาโก่งแต่อย่างใด และถ้าหากเลือกเป้สำหรับอุ้มเด็กที่มีคุณภาพดี ออกแบบมาอย่างเหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์ มีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ก็ใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวล ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังมองหาเป้อุ้มลูกอยู่ละก็ สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งเป้สำหรับอุ้มเด็กได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  www.bangkokhospitalkhonkaen.com/th/article/1556358426#:~:text=ความเชื่อ%3A%20ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป,หลัง%202%20ปีขึ้นไป
https://wearmybaby.co.uk/12-reasons-to-use-a-baby-carrier/
https://www.happiestbaby.com/blogs/baby/how-to-use-a-baby-sling#what%E2%80%99s-the-benefit-of-using-a-baby-carrier?  
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณพ่อคุณแม่ท่านไหน ยังตัดสินใจ ตั้งชื่อลูก ไม่ได้กันบ้าง? วันนี้ Baby Gift ทำการรวบรวม 100 ไอเดีย ตั้งชื่อลูก สุดอินเทรนด์ ปี 2021เตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่ในบ้านด้วยชื่อเก๋ๆสุดปัง ไม่ซ้ำใคร จะมีชื่ออะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย ชื่อเล่น ลูกสาว แก้มบุ๋ม : ลักยิ้ม ขนมปัง : อาหารฝรั่งชนิดหนึ่ง ของขวัญ : ลูกเป็นของขวัญของพ่อแม่ คริสตัล : อัญมณีแก้วสีดำ จันทร์เจ้าขา : การอ้อนขอพรจากดวงจันทร์ จิมมี่ : ชื่อนักกีตาร์ชื่อดัง ชมพู : สีชมพู ชมวิว : การมองทิวทัศน์สวยๆตามธรรมชาติ ดีไซน์ : การออกแบบ ไดอาร์ : ไดอารี่ ต้นข้าว : เมล็ดข้าวที่มีความยาว ต้นหม่อน : ต้นไม้ที่ให้ลูกกินได้และหนอนไหมชอบกิน ตั้งใจ […]
มือบวม-เท้าบวมเกิดจากอะไร? สำหรับคุณแม่หลายๆ ท่าน ไหนจะต้องรับมือกับท้องอันหนักอึ้งแล้ว ยังต่อเผชิญกับปัญหามือบวม-เท้าบวมอีกด้วย อาการบวมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าคุณแม่อ้วนขึ้นหรือน้ำหนักขึ้นหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนในร่างกายที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง เอาแต่ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดต่างหาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำงานของหลอดเลือดและหลอดน้ำเหลืองผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากดทับที่เส้นเลือดดำ เลือดก็เลยไหลเวียนลำบาก ทำให้มีการกักของเหลวไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น นำไปสู่อาการมือบวม-เท้าบวมนั่นเองค่ะ อาการที่มักจะมาด้วยกัน อาการมือบวม-เท้าบวมส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้มาเดี่ยวๆ นะ เพราะอาการนี้มักจะมาร่วมกับอาการชา ใช่แล้วค่ะ! สาเหตุก็เพราะเส้นเลือดของคุณแม่ถูกกดทับอยู่นั่นแหละ คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกปวดเมื่อย และยิ่งจะมีอาการแย่ลงถ้าคุณแม่โหมงาน หรือยืนนานเกินไป คำเตือนก่อนจะเจอกับอาการมือบวม-เท้าบวม คุณแม่ที่สวมเครื่องประดับโดยเฉพาะแหวน ขอแนะนำให้ถอดเก็บไว้ก่อนนะคะ เพราะถ้าคุณแม่มีอาการมือบวมแล้วอาจจะถอดแหวนลำบาก หรืออาจถึงขั้นถอดไม่ได้เลย และที่สำคัญ ตอนคุณแม่จะคลอดน้องแล้วเนี่ย ต้องถอดเครื่องประดับทุกชิ้นเลยค่ะ เพราะงั้น ถ้าคุณแม่ไม่ถอดเตรียมไว้ก่อน อาจจะต้องใช้เครื่องตัดออกแทน เสียดายแย่เลย อย่าเพิ่งท้อใจ ยังมีวิธีรับมือ จริงอยู่ว่าไม่ใช่คุณแม่ทุกคนจะเจอกับอาการนี้ แต่คุณแม่ที่ต้องเจอกับการมือบวม-เท้าบวม ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ วิธีรับมือกับอาการนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเรื่องที่เดาๆ กันได้อยู่แล้ว ลองไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 1. ไม่ยืน หรือฝืนยืนเป็นเวลานานๆ การยืนเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้อาการบวมนั้นแย่ยิ่งขึ้นนะคะ เพราะการยืนนานๆ จะทำให้คุณแม่ทิ้งน้ำหนักลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ 2. […]
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนคงเคยฝึกการอาบน้ำเด็กอ่อนจากคลินิกฝากครรภ์ หรือ จากโรงพยาบาลมาก่อน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ต้องเรียนรู้อย่างหนึ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อที่จะได้อาบน้ำสระผมให้กับลูกน้อยของเราอย่างถูกวิธีและมีความปลอดภัย ซึ่งการอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้น ก็มีขั้นตอนและวิธีการที่ไม่ยากจนเกินไป เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ต้องระวังเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากค่ะ ชวนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มาดูขั้นตอนการอาบน้ำเด็กแรกเกิดยังไง ให้ถูกวิธี คุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางคนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการอาบน้ำให้เด็กอ่อนหรือ เด็กแรกเกิด เพราะว่าเด็กเล็กนั้นมีร่างกายบอบบาง ยังไม่แข็งแรง หากอาบน้ำไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้ลูกน้อยของเราไม่สบายได้ อย่างไรก็ตาม การทำความสะอาดชำระร่างกาย และดูแลสุขอนามัยของเด็กแรกเกิดนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพียงแต่ว่าเด็กเล็กมีผิวที่บอบบาง จึงเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย ทั้งนี้ เด็กเล็กยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงอาจไม่สบายได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิด ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับวัยของลูกน้อย แล้วจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง มีวิธีการอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิด วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำตามได้ไม่ยาก 1. ให้คุณแม่ หรือ คนที่จะอาบน้ำให้เด็ก เตรียมตัวให้พร้อมผู้ที่จะอาบน้ำให้เด็กเล็กควรถอดเครื่องประดับออกให้หมด ทั้งนาฬิกา แหวน สร้อยข้อมือ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปขีดข่วนโดนตัวเด็ก พร้อมกับล้างมือถูสบู่ให้สะอาดก่อนอาบน้ำให้เด็กทุกครั้ง ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ หรือ ผู้ดูแลควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการข่วนผิวหนังของเด็กด้วยค่ะ […]
หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids
ในความคิดหรือความเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่าน ยังมีความคิดและดูจากโฆษณาต่างๆ จนทำให้เชื่อว่า ตอนท้องแม่ต้องดื่มนมมากๆ เพื่อบำรุงให้แม่และลูกแข็งแรง ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะเรื่องของการกินอาหารและกินนมของแม่ท้องนั้น วิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดคือกินอย่างเหมาะสม หลากหลายไม่ซ้ำและกินมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการกินนมในแม่ท้อง ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะมีข้อมูลออกมาบอกว่า การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มนมวัวมากเกินไป จะเป็นสาเหตุให้ลูกแพ้นมวัวได้ตั้งแต่แรกเกิด เราจึงขอนำความรู้ดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการและการกินนมวัวมาอธิบายให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เข้าใจ เพื่อให้กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมาฝากค่ะ แม่ท้องกินนมวัวมาก ลูกอาจแพ้ได้จริงหรือ? ข้อมูลนี้เป็นความจริงค่ะ เพราะการที่ร่างกายคุณแม่ได้รับสารอาหารอะไรมากจนเกินไป จะสามารถกระตุ้นให้ลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ตั้งแต่หลังคลอด นั่นคือนมวัวที่กินมากไปนั้น จะไปทำให้เกิดการสะสมของแคลเซียมและโปรตีนนมวัว เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ จนกระตุ้นให้เกิดการแพ้ โดยจะมีอาการแสดงของการแพ้นมวัวได้แก่ ซึ่งปกติแล้วการที่ลูกน้อยจะแพ้นมวัว แพ้อาหาร หรือเป็นภูมิแพ้ได้นั้น สาเหตุใหญ่หลักๆ คือ นอกจากนี้ยังไม่รวมกับโปรตีนในนมวัวที่คุณแม่ได้รับจากอาหารอื่นๆ ที่แฝงไปด้วยนมอีก เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม เนย ชีส ยิ่งทำให้คุณแม่ได้รับโปรตีนจากนมวัวมากเกินไป ทำให้ลูกน้อยแพ้นมวัวได้ตั้งแต่หลังคลอด นมอะไร? ที่คุณแม่ท้องดื่มได้บ้าง โดยนมวัวที่คุณแม่ดื่มได้ในปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ซึ่งนมสำหรับแม่ท้องที่แนะนำคือ นมนมสดพาสเจอไรส์ชนิดพร่องมันเนย เพราะได้คุณค่าสารอาหารที่ต้องการโดยที่ตัวแม่ตั้งครรภ์ไม่ต้องรับไขมันมากเกินไป แต่ข้อเสียคือนมชนิดนี้อายุสั้น เก็บไว้ได้ไม่นาน กรณีที่คุณแม่ดื่มนมชนิดนี้ไม่ได้ก็อาจเลือกนมชนิดอื่นแทน เช่น […]
เชื่อว่าคุณแม่หลายๆคนคงอยากให้ลูกน้อยปลอดภัยโชคดีกันทั้งนั้น วันนี้ Baby Gift ขอเอาใจคุณแม่สายมู หยิบข้อมูลเครื่องรางยอดฮิตสำหรับลูกน้อยมาฝากค่ะ เราลองไปดูพร้อมๆกันเลยว่า Lucky item เพิ่มสีสันให้ลูกน้อยแถมยังคุ้มครองทางใจคุณแม่ ไปดูกันเลย ตาข่ายดักฝัน หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า Dreamcatcher ในสมัยก่อนชาวอินเดียนแดงสร้างเครื่องรางชิ้นนี้ขึ้นมา เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันฝันร้ายให้สลายหายไป จึงหันมานิยมห้อยไว้เหนือเปลเด็กเพราะหวังว่าจะช่วยทำให้ลูกน้อยปลอดภัยและนอนหลับฝันดี ซึ่งยังเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี เพราะสายตาเด็กที่จับจ้องมองการแกว่งไกวของตาข่ายดักฝันนั้น จะช่วยทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางสายตาและกล้ามเนื้อมัดเล็กได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังทำให้คุณแม่อุ่นใจเมื่อมีเครื่องรางช่วยคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย อเมทิสต์หินนำโชค ตามความเชื่อของหินนำโชคนั้น หินสีม่วงจะช่วยปกป้องให้ลูกน้อยปลอดภัย ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป เสริมพลังบวกและดึงดูดสิ่งดีๆนำความโชคดีมาให้เด็กๆ อีกทั้งยังช่วยทำให้ลูกน้อยหลับสบาย เพราะเชื่อว่าหินจะมีคลื่นพลังงานแห่งความสุขปล่อยออกมาช่วยทำให้ลูกน้อยนอนหลับฝันดีหรือมีความสุขนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อ คุณแม่ควรวางไว้ในจุดที่ลูกน้อยไม่สามารถหยิบจับหรือเอื้อมถึงได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะเผลอหยิบเข้าปาก และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ถุงนำโชค อีกหนึ่งเครื่องรางจากวัดดังที่ฮอกไกโด เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าสีชมพู ปักตัวอักษรด้วยดิ้นสีทอง และปักรูปแมว 2 ตัว พกเพื่อนำโชค เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายจากลูกน้อย สุขภาพแข็งแรง และยังช่วยให้เด็กเติบโตมีสุขภาพที่แข็งแรงในอนาคตด้วย นอกจากจะคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัยแล้วยังช่วยคุ้มครองคุณแม่อีกด้วย กำไลข้อเท้า คนไทยสมัยก่อนมักซื้อมาไว้รับขวัญหลาน เพราะเชื่อกันว่าการใส่กำไลข้อเท้าให้เด็กนั้นจะช่วยคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง แต่ความจริงนั้นอาจเป็นเพียงกุศโลบายในการเลี้ยงเด็ก เพราะกำไลข้อเท้าเด็กส่วนมากจะมีกระดิ่งห้อยอยู่ด้วย เมื่อพ่อแม่ได้ยินเสียงจะทำให้รู้ว่าลูกนอนอยู่หรือตื่นแล้ว อีกทั้งยังสามารถตามหาลูกน้อยว่าอยู่ที่ไหนได้จากเสียงกระดิ่งอีกด้วย เรียกได้ว่า ทั้งเสริมดวงให้ลูกน้อยปลอดภัยแล้วยังได้ใช้ประโยชน์ไปพร้อมๆกัน ถึงอย่างไรก็ตาม กำไลข้อเท้าควรทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ […]






