เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน ? ชวนพ่อแม่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กด้วยการหัดให้ลูกนั่ง (พร้อมแนะนำเก้าอี้นั่งเด็กคุณภาพดี !)

การฝึกเด็กทารกให้นั่งมีผลต่อพัฒนาการของเด็กน้อยค่ะ แต่ว่าจะให้เด็กเริ่มหัดใช้เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือนดี จะฝึกเด็กน้อยของเราให้นั่งยังไง จะเริ่มให้เด็กหัดนั่งตอนไหนถึงจะดี ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดไม่ลับมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

เด็กหัดนั่งกี่เดือนถึงจะดี ? แนะนำเคล็ดลับพร้อมตอบคำถาม และแนะนำยี่ห้อเก้าอี้เด็กน่าใช้ !

เก้าอี้หัดนั่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเด็กทารกฝึกนั่งอย่างปลอดภัย มีโครงสร้างที่มั่นคง และปลอดภัย ช่วยพยุงตัวเด็ก ใช้วัสดุที่นุ่มสบาย มีสายรัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งบางรุ่นก็ออกแบบมาให้มีถาดวางของด้านหน้าให้ด้วย เก้าอี้หัดนั่งจะช่วยให้เด็กได้ฝึกทรงตัว ฝึกกล้ามเนื้อ เตรียมความพร้อมสำหรับการนั่งด้วยตัวเอง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการหัดนั่งจะเป็นยังไงบ้างนั้น ตามมาเรียนรู้เพิ่มเติมไปพร้อมๆ กันค่ะ

พัฒนาการของเด็ก

ก่อนจะไปดูว่าเก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน เราลองมาทำความรู้จักกับตัวอย่างพัฒนาการของเด็กกันก่อนดีกว่าค่ะ ซึ่งพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ซึ่งถ้ามีข้อสงสัย หรือกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก ควรปรึกษากับแพทย์นะคะ

  • แรกเกิด – 3 เดือน : เริ่มควบคุมศีรษะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มยิ้มตอบสนองต่อใบหน้าคนที่คุ้นเคย ส่งเสียงอ้อแอ้ และทำเสียงในลำคอ มองตามวัตถุที่เคลื่อนไหว เริ่มสนใจมือของตัวเอง ตอบสนองต่อเสียงดังโดยการสะดุ้งหรือร้องไห้
  • 4-6 เดือน : เริ่มพลิกตัวได้ เริ่มนั่งได้เมื่อมีคนช่วยพยุง เริ่มหยิบจับของและนำเข้าปาก สามารถแยกแยะสีได้บ้าง ตอบสนองต่อชื่อตัวเอง เริ่มแสดงอารมณ์ชัดเจน เช่น ดีใจ โกรธ
  • 7-9 เดือน : นั่งได้โดยไม่ต้องพิงนานขึ้น อาจเริ่มคลานหรือถัดก้น ยืนเกาะเฟอร์นิเจอร์ได้ เล่นจ๊ะเอ๋และเกมง่ายๆ ได้ เริ่มเข้าใจคำว่า “ไม่” ใช้นิ้วชี้ และนิ้วหัวแม่มือหยิบของชิ้นเล็กๆ เลียนแบบเสียง และท่าทางง่ายๆ ได้
  • 10-12 เดือน : เริ่มยืนได้เองโดยไม่ต้องเกาะ อาจก้าวเดินได้สองสามก้าว เข้าใจคำสั่งง่ายๆ เช่น “มานี่” “ให้หน่อย” เริ่มพูดเป็นคำๆ ได้ (นอกจาก มามา ปาปา)  ชอบเล่นโยนของ แสดงความรักโดยการกอดหรือจูบ เริ่มช่วยเหลือตัวเองในการแต่งตัวบ้าง เช่น ยกแขนเวลาใส่เสื้อ

สำหรับผู้ปกครองที่สนใจเรื่องพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ อีก ลองอ่านเพิ่มเติมได้อีกนะคะ BabyGift เคยเขียนไว้ในเว็บไซต์แล้วค่ะ

เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน ?

โดยทั่วไป เด็กจะพร้อมหัดนั่งเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งในช่วงนี้ กล้ามเนื้อคอและหลังของเด็กจะแข็งแรงพอที่จะรองรับการนั่งได้ดีขึ้นค่ะ แต่ถึงแม้ว่าพัฒนาการของเด็กในช่วง 4-6 เดือนนั้น จะเริ่มควบคุมศีรษะได้ดี และอาจเริ่มพลิกตัวได้แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการนั่ง แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการฝึกนั่ง ซึ่งการเริ่มฝึกหัดนั่งในเด็กอายุ 6-8 เดือนนั้น ให้เริ่มจากการช่วยพยุงให้เด็กนั่งในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลา และลดการช่วยเหลือลงตามความสามารถของเด็ก ทั้งนี้บางคนอาจพร้อมนั่งได้เร็วกว่า 6 เดือน และเด็กบางคนอาจต้องใช้เวลาถึง 8-9 เดือนกว่าจะนั่งได้มั่นคง ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของเด็กค่ะ ดังนั้นจึงไม่เร่งพัฒนาการ ไม่ควรบังคับให้เด็กนั่งก่อนที่กล้ามเนื้อจะพร้อม ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้สอดคล้องกับความพร้อมของเด็ก ซึ่งหากไม่แน่ใจ หรือมีคำถามว่าลูกของเรามีพัฒนาการล่าช้า หรือผิดปกติหรือไม่ ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำค่ะ 

คำแนะนำในการฝึกให้เด็กหัดนั่ง

สิ่งที่สำคัญของการฝึกให้เด็กหัดนั่ง คือต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นอันดับแรกค่ะ ให้เริ่มด้วยการฝึกที่ผ่อนคลายๆ สร้างความสนุกสนาน ไม่กดดัน ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้าง มาดูกันต่อค่ะ

  1. รอให้เด็กพร้อมโดยทั่วไปให้เริ่มฝึกเมื่อเด็กอายุประมาณ 6-8 เดือน โดยสังเกตว่ากล้ามเนื้อคอ และหลังของเด็กจะแข็งแรงพอที่จะรองรับการนั่งได้ดีขึ้น
  2. เตรียมพื้นที่ปลอดภัย โดยเตรียมพื้นนุ่มๆ เช่น พรมหนาหรือเบาะ วางหมอนรอบๆ ตัวเด็กเพื่อรองรับหากเด็กเอนตัวล้ม
  3. ให้พยุงเด็กนั่งบนพื้น และอุ้มเด็กนั่งระหว่างขาของคุณ ใช้มือประคองลำตัวเด็กเบาๆ
  4. ค่อยๆ ลดการช่วยเหลือเมื่อเด็กเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้นแล้ว ให้ค่อยๆ ลดการพยุงลงโดยคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองควรอยู่ใกล้ๆ เพื่อซัพพอร์ตหากเด็กเสียหลักล้ม
  5. ใช้ของเล่นกระตุ้น โดยวางของเล่นที่เด็กชอบไว้ด้านหน้าเพื่อให้เด็กสนใจและพยายามนั่งให้ตรง
  6. 6.ให้ฝึกสั้นๆ แต่บ่อยครั้ง โดยฝึกครั้งละประมาณ 5-10 นาที และทำซ้ำหลายครั้งต่อวันตามความสนใจของเด็ก
  7. ฝึกสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อของเด็กโดยให้เล่นเกมง่ายๆ เช่น โยกตัวเด็กเบาๆ ให้เด็กพยายามทรงตัว
  8. ไม่บังคับ หากว่าเด็กหงุดหงิด หรือเหนื่อย ให้หยุดพัก และเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นแทน แล้วค่อยลองใหม่อีกครั้งหลังจากนั้น
  9. ผู้ปกครองควรให้เวลา และมีความอดทน เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการไม่เท่ากัน เด็กบางคนอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะนั่งได้มั่นคง ดังนั้นผู้ปกครองควรเข้าใจ และไม่หงุดหงิดนะคะ
  10. ระวังในการใช้อุปกรณ์ หากใช้เก้าอี้หัดนั่ง ควรใช้ในเวลาสั้นๆ และภายใต้การดูแล ไม่ควรพึ่งพาอุปกรณ์มากเกินไป 

BabyGift แนะนำสินค้าอุปกรณ์ช่วยเด็กหัดนั่ง

1. เก้าอี้หัดนั่ง รุ่น JoyNest​ – PRINCE & PRINCESS

เก้าอี้หัดนั่ง Baby Dining Chair & learning รุ่น JoyNest​ จาก PRINCE & PRINCESS น่ารักน่าใช้ด้วยสีสันที่สบายตาทั้งหมด 4 สี มาพร้อม 5 ฟังก์ชั่นใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เก้าอี้ลากจูง, เก้าอี้กินข้าว, เก้าอี้อาบน้ำ, เก้าอี้ MUSIC และใช้ต่อบนเก้าอี้ปกติของผู้ใหญ่ก็ได้ วัสดุเป็น PU สัมผัสนุ่มสบาย รองรับการนั่งเป็นเวลานาน​ มีที่กันตกสัมผัสนุ่ม ลดการเสียดสี ไม่รัดต้นขา​ มีรูระบายอากาศใต้เบาะ ไม่อับชื้น และไม่สะสมความร้อน​ เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน – 3 ปี รองรับน้ำหนักได้ถึง 30 กิโลกรัม

จุดเด่น

  • เบาะซัพพอร์ตหนานุ่ม ทำจากผ้า Cotton 100% ไส้ในเป็น Polyester Fiber​ วัสดุล้อ TPE ลื่น หมุนได้ 360 องศา ไม่ขีดข่วนพื้น ยึดเกาะพื้นมั่นคง​
  • มีฐานและที่พักเท้า แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้เยอะ​ มาพร้อมเข็มขัดนิรภัย ป้องกันการพลัดตกจากเก้าอี้ ​
  • เปิดเพลงเสริมพัฒนาการได้ เชื่อมต่อ Joynest​ ด้วย SD card หรือ Bluetooth 
  • สามารถทำความสะอาดได้ โดยหมอนและเบาะนั่ง แนะนำให้ซักทำความสะอาดด้วยมือ​ ส่วนเก้าอี้แนะนำให้ถอดฐานล้อออก แล้วล้างทำความสะอาด หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดได้​

2. Nai-B Inflatable Baby Chair เก้าอี้หัดนั่งเป่าลม

Nai-B Inflatable Baby Chair เป็นเก้าอี้หัดนั่ง เป่าลม ที่มีให้เลือก 2 สี มาพร้อมอุปกรณ์เติมลมที่ติดตั้งมาพร้อมไม่ต้องเป่าเอง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ช่วยให้เด็กทารกที่ยังนั่งได้ไม่แข็งแรง นั่งได้ด้วยท่านั่งเอนหลังได้ 15 องศา ใช้งานง่าย ใช้ได้จนถึงอายุ 2 ปี ปลอดภัยต่อลูกน้อย

จุดเด่น 

  • Ergonomic design Nai-B baby chair การออกแบบ เพื่อการใช้งานจริง สามารถเติมน้ำเข้าบริเวณด้านล่างของเก้าอี้เพื่อถ่วงน้ำหนัก หรือป้องกันการล้มขณะที่ลูกน้อยนั่งได้
  • ช่วยพยุงศรีษะเด็กในขณะที่นั่ง ช่วยให้เด็กทารกที่ยังนั่งได้ไม่แข็งแรง นั่งได้ด้วยท่านั่งเอนหลังได้ 15 องศา อย่างสะดวกสบาย
  • Nai-B baby chair ผ่านการตรวจสอบจาก SGS และ KATRI ใช้งานง่าย เปิดฝาและปั๊มลมเข้า ใช้เวลา 1-2 นาทีในการปั๊มลมเข้า (ประมาณ 70 ครั้ง)

3. GEKO คอกกั้นเด็ก ไซซ์ 6 ฟุต หนัง PU

คอกกั้นเด็กปลอดสาร จากแบรนด์ GEKO THAILAND ที่ผนังแต่ละแผ่นเชื่อมด้วยซิป YKK สำหรับเด็ก ไม่บาดผิว ไม่มีการใช้กาวสารระเหย, ตะปู, น็อต หรือชิ้นส่วนโลหะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย รองรับน้ำหนักได้กว่า 120 กิโลกรัม ประหยัดพื้นที่ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามความต้องการ ใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่เริ่มคลาน ตั้งไข่ เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับฝึกนั่ง ฝึกเดิน 

จุดเด่น

  • วัสดุผลิตจากหนังพียู ปลอดสารอันตราย โดยได้รับการการันตีมาตรฐาน EN71-3 และมี Certifications จาก SGS ยืนยัน  ว่าปราศจากสารเคมีอันตราย (BPA, Phthalates, DMF, PVC, Formadehyde)
  • ออกแบบโดยวิศวกรสามารถมั่นใจในความแข็งแรงและปลอดภัยได้ 
  • ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บด้วยฟังก์ชันถอดแยกได้จึงสามารถปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงให้เหมาะสมตามรูปแบบการใช้งานได้ตามต้องการ

4. เก้าอี้ทานข้าวพกพา Portable Booster รุ่น Li’l Pengyu​ – PRINCE & PRINCESS

จุดเด่น

เก้าอี้เด็กพกพา เป็นอีกไอเท็มคู่ใจเจ้าตัวเล็ก ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถหยิบใส่กระเป๋าไปใช้ที่ร้านอาหารได้อย่างคล่องตัว มีกระเป๋าใส่พกพาสะดวก ใช้งานง่าย นั่งได้ตั้งแต่ลูกน้อยวัย 6 เดือน – 3 ขวบ แข็งแรงปลอดภัยต่อลูกน้อย

  • พับได้เล็ก พกพาง่าย น้ำหนักเบาเพียง 2.1 kg. มีกระเป๋าใส่พกพาสะดวกสบาย
  • ฐานโค้ง ช่วยให้ติดตั้งกับเก้าอี้ได้ทุกรูปแบบ มาพร้อมโครงอลูมิเนียมแข็งแรง ปลอดภัย ผ่านการรับรองความปลอดภัยระดับสากล
  • ลูกนั่งสบาย ปรับได้หลายระดับ ตามสรีระเด็ก และยังสามารถปรับถาดอาหารเลื่อนได้ ช่วยให้ลูกมีพื้นที่นั่งสบายไม่อึดอัด

เด็กหัดนั่งกี่เดือนถึงจะดี ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็คงได้คำตอบกันแล้วนะคะ เก้าอี้หัดนั่งเป็นเพียงเครื่องมือเสริมพัฒนาการของเด็ก สิ่งสำคัญที่สุดคือการสังเกตและตอบสนองต่อความพร้อมของลูกน้อย และฝึกให้การนั่งเป็นไปตามธรรมชาติบนพื้นที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิดค่ะ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังฝึกลูกให้นั่งกระโถนก่อนเข้าโรงเรียนอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้อีกนะคะ และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์เก้าอี้หัดนั่ง อุปกรณ์เสริมเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อย อยากขอคำแนะนำเรื่องเก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือนเพิ่มเติม หรือสนใจสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เบาะนอนเด็ก เรียกว่ามีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารก และเด็กเล็ก เนื่องจากเหตุผลหลายอย่าง เช่น ความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไหลตายในเด็ก (SIDS) และป้องกันการติดขัดหรือหายใจไม่ออก เบาะที่มีความแน่นพอเหมาะจะช่วยสนับสนุนกระดูกสันหลังที่กำลังพัฒนาของเด็ก ป้องกันปัญหาสรีระในอนาคต ช่วยให้เด็กนอนหลับได้ลึกและยาวนานขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมอง อีกทั้งเบาะเด็กที่ได้มาตรฐาน ปราศจากสารเคมีอันตรายยังส่งผลต่อสุขภาพของเด็กด้วย ดังนั้น การเลือกเบาะนอนสำหรับเด็กที่เหมาะสม และได้มาตรฐานจึงเป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อความปลอดภัยและพัฒนาการที่ดีของเด็กนั่นเองค่ะ รวม 10 ตัวเลือก เบาะนอนเด็ก ที่คุณแม่วางใจ เบาะนอนทารกหายใจผ่านได้ มียี่ห้อไหนบ้าง ?  BabyGift เชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ หลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ คงจะให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อเบาะนอนทารกกันมาก เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 10 ตัวเลือกเบาะนอนสำหรับเด็กคุณภาพดี หายใจผ่านได้ ราคาไม่แรง มาให้ได้เลือกกันค่ะ แต่ก่อนจะไปแนะนำยี่ห้อกัน เราขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้เบื้องต้น ดังนี้ค่ะ  คำแนะนำในการเลือกซื้อเบาะนอนเด็ก  BabyGift แนะนำเบาะนอนเด็ก 5 แบบ 10 ตัวเลือก ที่คุณแม่ไว้ใจประจำปี 2024  1. เบาะนอนทารก Baby Crown Nest – […]

ในช่วงที่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์มักมีการท้องผูก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ระบบการขับถ่ายเริ่มเปลี่ยนไปด้วย วิธีแก้ท้องผูกสำหรับคนท้องกับ 7 อาหารช่วยให้คุณแม่ท้อง หมดปัญหาเรื่องท้องผูกอีกต่อไป ตำลึงเป็นผักไม้เลื้อยที่ปลูกง่ายมีขายทั่วไปที่สำคัญนำมาปรุงอาหารจานอร่อยก็แสนจะง่าย เช่น แกงจืดตำลึง ตำลึงผัด น้ำมันหอย เป็นต้น และอย่างที่รู้ดีว่า ผักใบเขียวเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญอย่างเบต้าแคโรทีนที่มีส่วนในการบำรุงสายตาและมีเส้นใยอาหารอยู่มากด้วยค่ะ กุยช่ายเพราะเป็นผักที่มีกลิ่นแรงคะแนนความนิยมอาจไม่มากแต่ประโยชน์ทางสารอาหารสิ่งที่ได้เรียกว่ามากโขค่ะ ไม่ว่าเบต้าแคโรทีน แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต และฟอสฟอรัส มีเส้นใยอาหารที่ดีต่อระบบการย่อยอาหาร ฉะนั้นถ้าไม่ฝืนความรู้สึกเกินไปกับการกินก็ไม่น่าพลาดกับเมนูกุยช่ายผัดกับเนื้อสัตว์ ลูกพรุนไม่ว่าพรุนสด พรุนเมล็ด หรือน้ำลูกพรุนสกัดแบบสำเร็จรูป เป็นทางเลือกหนึ่งในการกินแก้อาการท้องผูกที่ช่วยให้คุณแม่ขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะผลไม้ประเภทนี้อุดมไปด้วยไฟเบอร์มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ค่ะ กล้วยผลไม้ดีๆ ที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีให้เลือกหลายชนิดตามความชอบไม่ว่าจะเป็น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ที่สำคัญกินได้ทั้งปี ราคาไม่แพง ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายช่วยใช้ขับถ่ายสะดวก มะละกอสุกอีกหนึ่งผลไม้หากินง่ายราคาเบาๆ มากด้วยคุณค่าด้านโภชนาการไม่ว่าวิตามินบี1 บี2 และเบต้าแคโรทีน รวมถึงประโยชน์ทางยา แก้เรื่องท้องผูก เหมาะเป็นผลไม้มื้ออาหารว่างของแม่ท้องทีเดียว น้ำนอกจากร่างกายมีความจำเป็นต้องได้รับน้ำอย่างพอเพียงเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายโดยผ่านการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้ว การดื่มน้ำยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ระดับขับถ่ายทำงานได้ดีเป็นปกติด้วยค่ะ ข้าวกล้องบางครั้งก็เรียกว่าข้าวแดง ข้าวซ้อมมือ ข้าวอนามัย ที่มีความต่างทางสีสัน ด้านคุณค่าทางสารอาหารแบบข้าวหอม เพราะอุดมด้วยสารอาหารมีสรรพคุณเป็นยาอาหารสุภาพของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเรื่อองกากใยอาหารในข้าวกล้องนั้นถูกค้นพบว่า มีส่วนช่วยป้องกันอาการท้องผูก เป็นข้อเสนอดีๆ ในการเลือกกินค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : mother&care

หมอเด็กเค้าเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้ลูกตัวเอง….อยากรู้ต้องคลิ๊ก ก่อนซื้อคาร์ซีทให้ลูก ถ้าไปอ่านหนังสือ ก็จะรู้ว่าคาร์ซีท (carseat) มี 4 แบบ (ซึ่งเอาเข้าจริงรู้จริงๆ ตอนมีลูก 55555 ก่อนนั้นรู้แต่ทฤษฎี) คือ แน่นอนในตลาด มี option มากมายไว้หลอกลวงพ่อแม่ขาช้อป 5555 ทั้งแบบตระกร้าที่ยกเข้าออกได้เลย หรือ ประกอบลง stroller (รถเข็น) ได้เลย…. เอาที่สบายใจ 555 เอาหลักในการเลือกของพ่อหมอเลยแล้วกัน 555 ไม่ว่าอะไรก็ตาม เน้นใช้ได้ยาวๆ เป็นหลัก แน่นอน convertible เป็นแบบที่เลือกแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะใช้ได้นานดี อย่างน้อยๆ ก็สามสี่ปี อีแบบตระกร้าเนี่ยใช้ได้ปีเดียวก็ต้องเปลี่ยนละ ไม่ไหว พ่อไม่ค่อยมีตังค์ (ต้องเอาไปซื้อของไร้สาระอื่นๆ อีก 55555) ยังๆ ยังไม่จบ เลือกชนิดแล้ว ต้องมาเลือก options อีก ตัวเลือกเรามีดังนี้ เน้นหลัก 3 ข้อในการใช้คาร์ซีท carseat โดย […]

อุ่นนมแม่ น้ำนมแม่  สารอาหารที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อการเติบโตของลูกน้อย และสร้างภูมิคุ้มกันที่สำคัญให้กับลูกน้อย ในปัจจุบัน คุณแม่จึงมักนิยมให้ลูกได้ทานน้ำแม่มากขึ้น แต่ด้วยภาระที่คุณแม่ที่ไม่สะดวกต่อการให้น้ำนมลูกได้ตลอดเวลา จึงทำให้คุณแม่นิยมปั้มนมใส่ถุงสต๊อกนำไปแช่เย็นไว้อย่างดี และในเวลาที่ลูกหิวก็นำนมแม่ออกมาอุ่นให้กับลูกน้อยกิน ซึ่งวิธีนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณแม่ได้เป้นอย่างมากอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณตา คุณยาย ใครๆก็สามารถนำนมมาอุ่นแล้วก็ป้อนให้กับลูกน้อยได้            แต่ทุกคนรู้กันไหวว่า ถ้าอุ่นนมผิดวิธี จะทำให้น้ำนมแม่นั้นเสียคุณค่าทางอาหารไป วันนี้ทาง BABY GIFT EXPERT จึงจะมาแชร์วิธีการ การอุ่นนมที่ถูกวิธีให้กับทุกคนได้รู้กันค่ะ           ก่อนอื่นที่จะไปรู้วิธีการการอุ่นนม เรามารู้จักกันก่อนว่าก่อนอุ่นนมที่ดี มีข้อห้ามหรือข้อแนะนำอะไรบ้าง  วิธีการอุ่นนมแม่แบบทั่วไป            อุ่นนมแม่ด้วยวิธีแบบทั่วไปนั้นใครๆก็สามารถทำได้ แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือ อุณหภูมิน้ำอาจจะไม่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา ต้องใช้ระยะเวลา มีความยุ่งยาก และหลายขั้นตอน ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ที่ไม่สะดวก หรือไม่มีเวลามาก อาจจะไม่เหมาะกับวิธีการนี้ และที่สำคัญยังไม่ทันต่อการใช้งาน เพราะบางครั้งลูกน้อยอาจจะหิวไม่เป็นเวลา หรือตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วร้องทานนม อุ่นนมแม่ […]

หนึ่งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ขาดไม่ได้คือ ขวดนม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมองข้าม เพราะคิดและตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้นมแม่ล้วนหลังคลอด ซึ่งอาจลืมไปว่าแม้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ขวดนมก็ยังมีความสำคัญและเป็นผู้ช่วยชั้นดีของการให้นมแม่ได้แน่นอน » ขวดนมจำเป็นแค่ไหน ? » ขวดนม มีกี่แบบ ? ปัจจุบันขวดนมสำหรับเด็กผลิตขึ้นจากวัสดุที่หลากหลาย มีหลายประเภทและหลายรูปทรงให้เลือก วัสดุของขวดนม ขวดนมสำหรับเด็ก มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก และขวดที่ใช้แล้วทิ้ง(Disposable Liners)ที่ใส่ลงในขวดนมอีกที  แต่ปัจจุบันขวดนมส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มักผลิตจากพลาสติกเพราะน้ำหนักเบา ตกไมแตก ทนความร้อนและหาซื้อง่าบ โดยมีทั้งขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกขาวขุ่น และขวดสีชา ที่ผลิตจากพลาสติกที่ต่างชนิดกัน 1. ขวดนม PP วัสดุ POLYPROPYLENE เป็นขวดนมที่มีสีโปร่งใส หรือสีขาวขุ่น มีน้ำหนักเบา ทนทาน โดยทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 –110˚c มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และอาจเหลือน้อยลงหากผ่านความร้อนจากการต้มหรือนึ่งบ่อยๆ 2. ขวดนม PES วัสดุ POLYETHERSULFONE เป็นขวดพลาสติกสีชาหรือน้ำผึ้ง สามารถทนอุณหภูมิได้ที่ -50–180˚c มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 6 เดือน […]

Q: ขวดนม อุปกรณ์ปั๊มนม ต้องต้ม หรือนึ่ง ให้ปราศจากเชื้อทุกวัน ? A: การนึ่ง หรือต้มฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมหลังใช้งานทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ได้ช่วยป้องกันโรคให้ทารกเพิ่มขึ้นมากไปกว่าล้างด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ หรือล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างขวดนมหลังใช้งาน การขยันทำให้ปลอดเชื้อมากเกินไป (over-sterilize) ไม่มีประโยชน์กลับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อที่ทนความร้อน และสร้างสปอร์ได้เพิ่มมากขึ้น (เพราะคุณไม่ได้ใช้หม้อความดัน หรือฉายรังสี) และทารกจะอาจได้สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแทน  สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน และ USFDA แนะนำให้ต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม และอุปกรณ์ปั๊มนมเฉพาะครั้งแรกที่ใช้งานจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างขวดนมผสมน้ำอุ่น ทุกครั้งหลังใช้งานก่อนผึ่งให้แห้ง โดยไม่ให้้ใช้ผ้าเช็ด กรณีที่ต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อทุกวันคือช่วงทารกป่วย เช่น ท้องร่วง หรือ เป็นฝ้าขาวในปาก คุณแม่ที่กังวลอาจนึ่งหรือต้ม ทุก 3-4 วัน สำหรับนมชง ทุก 1 สัปดาห์สำหรับนมแม่ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยให้นมบูดคาขวด (ถ้านมบูดคาขวดต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อใหม่เสมอ) อย่างไรก็ตามไม่มีกฎตายตัว หากบ้านมีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อยู่ใกล้แหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค อาจพิจารณาต้มหรือนึ่งให้บ่อยขึ้น สำหรับประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นมีโรคเขตร้อนที่เป็นโรคทางเดินอาหารมาก และประชากรมีสุขอนามัยไม่แน่นอน กุมารแพทย์ไทยหลายท่านอาจแนะนำให้คุณแม่ต้มหรือนึ่งขวดนมทุกวัน และกรณีที่ห้องครัวมีความสกปรกอับชื้นท่อน้ำไม่สะอาด หรือมีกระบะทรายแมวในห้องครัว (ซึ่งไม่ควรมี) คุณแม่อาจเลี่ยงไปตากขวดนม และจุกนมที่อื่นที่มีอากาศถ่ายเทคุณแม่ที่ปั๊มนมห้ามใช้สบู่เหลวในห้องน้ำที่ทำงานล้างขวดนม หรือ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages