อาบน้ำเด็กแรกเกิดอย่างไรให้ถูกวิธี ? และปลอดภัยต่อลูกน้อยมากที่สุด

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนคงเคยฝึกการอาบน้ำเด็กอ่อนจากคลินิกฝากครรภ์ หรือ จากโรงพยาบาลมาก่อน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ต้องเรียนรู้อย่างหนึ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อที่จะได้อาบน้ำสระผมให้กับลูกน้อยของเราอย่างถูกวิธีและมีความปลอดภัย ซึ่งการอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้น ก็มีขั้นตอนและวิธีการที่ไม่ยากจนเกินไป เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ต้องระวังเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากค่ะ
ชวนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มาดูขั้นตอนการอาบน้ำเด็กแรกเกิดยังไง ให้ถูกวิธี

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางคนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการอาบน้ำให้เด็กอ่อนหรือ เด็กแรกเกิด เพราะว่าเด็กเล็กนั้นมีร่างกายบอบบาง ยังไม่แข็งแรง หากอาบน้ำไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้ลูกน้อยของเราไม่สบายได้ อย่างไรก็ตาม การทำความสะอาดชำระร่างกาย และดูแลสุขอนามัยของเด็กแรกเกิดนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพียงแต่ว่าเด็กเล็กมีผิวที่บอบบาง จึงเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย ทั้งนี้ เด็กเล็กยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงอาจไม่สบายได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิด ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับวัยของลูกน้อย แล้วจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง มีวิธีการอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิด
- อ่างอาบน้ำ
- แผ่นกันลื่น
- ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่และผืนเล็ก
- ฟองน้ำถูตัวแบบนุ่ม
- สบู่เหลวอาบน้ำชนิด Head to Toe
- สำลีชุบน้ำต้มสุกสำหรับเช็ดตา
- กระดาษเปียก
- สำลี และแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดสะดือ
- ผ้าอ้อม และเสื้อผ้าที่สะอาด
- ที่รองนอนสำหรับถอดเสื้อผ้า และแต่งตัวลูกน้อย ควรหุ้มด้วยพลาสติกเพื่อกันน้ำ หรือปูด้วยผ้าขนหนูเพื่อซับน้ำ
วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำตามได้ไม่ยาก

1. ให้คุณแม่ หรือ คนที่จะอาบน้ำให้เด็ก เตรียมตัวให้พร้อม
ผู้ที่จะอาบน้ำให้เด็กเล็กควรถอดเครื่องประดับออกให้หมด ทั้งนาฬิกา แหวน สร้อยข้อมือ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปขีดข่วนโดนตัวเด็ก พร้อมกับล้างมือถูสบู่ให้สะอาดก่อนอาบน้ำให้เด็กทุกครั้ง ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ หรือ ผู้ดูแลควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการข่วนผิวหนังของเด็กด้วยค่ะ
2. เตรียมน้ำที่ใช้อาบ
เตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างอาบน้ำ ซึ่งน้ำไม่ควรอุ่นหรือร้อนจนเกินไป อาจอยู่ที่ประมาณ 30 – 37 องศาเซลเซียส หรือ เป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง หากน้ำร้อนเกินไปอาจทำให้เด็กผิวแห้งได้ ทั้งนี้ควรเตรียมสภาพแวดล้อมให้มีอุณหภูมิเหมาะสมด้วย เช่น ถ้าอยู่ในห้องแอร์ก็ควรปิดแอร์ก่อน เพราะเมื่ออาบน้ำเสร็จ ลูกจะสัมผัสกับอากาศเย็นอาจทำให้หนาวสั่น และไม่สบายได้

3. สระผมให้ลูก
วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิด ในกรณีที่ต้องการสระผมให้ลูก ให้ประคองลูกโดยการใช้ฝ่ามือข้างที่ถนัดช้อนประคองตรงต้นคอ และศีรษะของลูกไว้ พร้อมกับใช้แขนข้างที่ไม่ถนัดอุ้มลูกหันลำตัวเข้าหาเรา อาจห่อตัวลูกด้วยผ้าขนหนูขณะสระผมก่อนก็ได้ เพื่อป้องกันเด็กหนาว จากนั้นใช้นิ้วโป้ง และนิ้วกลางของมือด้านเดียวกันกดพับหูลูกไว้ เพื่อป้องกันน้ำเข้าหู และจัดท่าทางให้ศีรษะเด็กอยู่ต่ำกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อให้น้ำไหลย้อนไปทางศีรษะ ไม่ไหลมาทางลำตัว การสระผมสามารถใช้ฟองน้ำนุ่มๆ หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบีบน้ำลงบริเวณเส้นผมของลูกเพื่อทำความสะอาดแทนการตักน้ำราด เพราะอาจทำให้น้ำกระเด็นเข้าตาลูกได้ หลังจากนั้นให้เช็ดผมลูกให้แห้งก่อน แล้วจึงค่อยพาไปอาบน้ำต่อ
4. อาบน้ำให้ลูกน้อย
สำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้น ให้ประคองลูกน้อยโดยใช้ฝ่ามือประคองที่ท้ายทอยของลูก และใช้นิ้วที่เหลือล็อคบริเวณใต้รักแร้ของเด็ก ใช้มืออีกข้างล็อคบริเวณก้นของลูกเอาไว้ และนำลงอ่างอาบน้ำ สำหรับการถูสบู่นั้น ให้ใช้มือและแขนของเราประคองตัวของลูกอยู่ตลอดเวลา ส่วนมืออีกข้างนั้นให้ใช้ถูสบู่และล้างตัวให้ลูกน้อย ในระหว่างอาบน้ำ คุณแม่อาจร้องเพลงเบาๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย หรือสบตากับลูกน้อยเพื่อให้ลูกรู้สึกอุ่นใจ หรือพูดคุยกับลูกไปด้วย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยอีกทางหนึ่ง โดยพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ สำหรับช่วง 1 – 2 เดือนแรกนั้น จะเป็นการมองจ้องหน้า สบตา ฟังเสียงคนคุยด้วย และแยกเสียงแม่จากผู้หญิงคนอื่นได้ เป็นต้น
5. อุ้มลูกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ
เมื่อล้างสบู่ออกเรียบร้อยแล้ว ให้อุ้มลูกขึ้นจากอ่างอาบน้ำให้ไว การอาบน้ำเด็กแรกเกิดไม่ควรอาบน้ำเกิน 5 – 7 นาที เพราะจะทำให้ลูกน้อยไม่สบายได้ เมื่อขึ้นจากอ่างอาบน้ำให้ห่อตัวลูกน้อยด้วยผ้าขนหนูเพื่อความอบอุ่น และอุ้มลูกไปวางบนเบาะที่รองนอน จากนั้นเช็ดตัวลูกน้อยให้แห้ง โดยเฉพาะตามบริเวณข้อพับต่างๆ
6. เช็ดทำความสะอาดส่วนอื่นๆ
เตรียมสำลีชุบน้ำต้มสุก เพื่อเช็ดตาให้กับลูกน้อยของเรา ควรใช้สำลีแผ่นใหม่เสมอสำหรับเช็ดดวงตาแต่ละข้าง โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตา และใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ เช็ดรอบปาก และจมูกให้ทั่วใบหน้าของลูก รวมถึงบริเวณคอ และหลังหู จากนั้นเช็ดสะดือลูกด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ ซึ่งสายสะดือจะค่อยๆ แห้งและหลุดออกภายใน 2 สัปดาห์ รวมถึงการเช็ดอวัยวะเพศของลูกน้อยให้สะอาดด้วยการใช้กระดาษเปียกหรือสำลีแผ่นใหญ่ชุบน้ำต้มสุก (ควรแยกส่วนระหว่างสำลีเช็ดตากับสำลีเช็ดส่วนอื่น ๆ ให้ชัดเจนนะคะ)
7. แต่งตัวให้ลูกน้อย
เมื่อเช็ดทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาใส่เสื้อผ้าให้ลูก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ลูกน้อยอย่างโลชั่นหรือเบบี้ออยล์ที่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยต่อเด็กเล็ก หรือ ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกก็ได้ค่ะ จากนั้นใส่ผ้าอ้อมและใส่เสื้อผ้าให้ลูกน้อย ควรเลือกเป็นเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้านุ่มนวล ระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือถ้าอากาศเย็นก็ควรใส่เสื้อผ้าหนาขึ้นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับลูกน้อยค่ะ
ข้อควรระวังในการอาบน้ำเด็กแรกเกิด

- ควรอาบน้ำในเวลาสาย ๆ หรือบ่าย ๆ ไม่ควรอาบตอนเช้าตรู่ หรือตอนค่ำเพราะอากาศเย็น อาจทำให้ลูกน้อยไม่สบายได้
- ไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยอยู่เพียงลำพังอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม
- ห้ามใช้สบู่ของผู้ใหญ่อาบน้ำเด็กแรกเกิดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้
- ห้ามใช้สบู่ทุกชนิดล้างหน้าลูกน้อย แม้ว่าจะเป็นสบู่เด็กก็ตาม เพราะอาจเข้าตาลูกและทำให้แสบระคายเคือง เป็นอันตรายต่อดวงตาได้
- เมื่อต้องอาบน้ำเด็กทารก ควรเช็กอุณหภูมิของน้ำก่อนอาบน้ำให้ลูกน้อยทุกครั้ง
- ไม่ควรปล่อยให้ลูกหนาวสั่น ควรใช้ผ้าขนหนูห่อตัวขณะสระผม จากนั้นเช็ดผมให้แห้งก่อนพาลูกไปอาบน้ำเป็นลำดับต่อไป
BabyGift แนะนำตัวช่วยสำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิด

1. โต๊ะอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมพับได้ Tub a puff – PRINCE & PRINCESS
ตัวช่วยที่ทำให้การอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายขึ้นก็คือ โต๊ะอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมพับได้ Tub a puff จากแบรนด์ PRINCE & PRINCESS ปรับใช้งานได้แบบ 3 in 1 ยืนอาบน้ำให้ลูกน้อยได้สะดวก ไม่ปวดหลัง ดีต่อคุณแม่ผ่าคลอด มีเบาะเปลี่ยนผ้าอ้อมเพื่อใช้สำหรับเช็ดตัวและแต่งตัวให้ลูก แถมยังมีอ่างอาบน้ำตั้งพื้น ใช้งานได้นาน 2 ปี ทั้งนี้ มีสิ่งที่คุณแม่จะต้องใส่ใจมาก ๆ ก็คือ หากเช็ดตัวหรืออาบน้ำให้ลูกบนโต๊ะ ควรระมัดระวังลูกพลัดตกจากโต๊ะเป็นพิเศษ ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่บนโต๊ะเพียงลำพังอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้นะคะ
จุดเด่น
- วัสดุและโครงสร้างออกแบบได้มาตรฐาน มีผลการทดสอบรับรองความปลอดภัยระดับสากล
- โครงอลูมิเนียมแข็งแรง ปลอดภัยมั่นคง
- ข้อต่อแข็งแรงพิเศษ รับน้ำหนักได้ถึง 15 กิโลกรัม
- พับแล้ววางตั้งได้ พร้อมลากได้ เคลื่อนย้ายสะดวกสบาย ประหยัดพื้นที่
- ล้อเข็นมีระบบล็อค ยืนอาบน้ำลูกได้อย่างปลอดภัย
- มีช่องวางสบู่ แชมพู และชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำด้านล่าง หยิบใช้ได้สะดวก คุณแม่ไม่ห่างจากตัวลูกน้อย
- มีสายยางระบายน้ำทิ้ง สะดวกในการทำความสะอาด
- ติดตามพัฒนาการลูกได้ทุกวัน ด้วยเบาะเปลี่ยนผ้าอ้อมพร้อมแถบวัดส่วนสูงลูก 0 – 60 เซนติเมตร
- ตากผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าของลูกได้ในตัว เป็นมากกว่าอ่างอาบน้ำลูกน้อย

2. BELLINI SPONGE ฟองน้ำธรรมชาติ รุ่น Honeycomb No.12
ฟองน้ำธรรมชาติจากทะเลเมดิเตอเรเนียน เป็นฟองน้ำเนื้อละเอียดนำเข้าจากประเทศอิตาลี ผ่านการทดสอบจากมหาวิทยาลัยเซียน่า (University of Siena) สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งฟองน้ำแบบ Honeycomb เป็นฟองน้ำธรรมชาติที่สามารถดูดซับ และอุ้มน้ำได้ดี อีกทั้งยังให้สัมผัสที่นุ่มละมุน อาบน้ำลูกน้อยได้อย่างสบายตัว ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดการระคายเคือง
จุดเด่น
- เป็นฟองน้ำธรรมชาติจากทะเลเมติเตอร์เรเนียน 100%
- ฟองน้ำมีการซึมซับดีเยี่ยมมากกว่าฟองน้ำสังเคราะห์ และสามารถคลายตัวได้รวดเร็วกว่า
- ฟองน้ำมีความนุ่มพิเศษ มีผิวสัมผัสอ่อนโยนเหมาะสำหรับเด็กเล็ก
- ฟองน้ำมีความยืดหยุ่น ทนทาน ไม่เปื่อยหรือยุ่ยง่าย สามารถใช้งานได้ยาวนาน
- สามารถล้างทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ถ้ามีการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี จากสภาพโครงสร้างภายในจากธรรรมชาติที่มีช่องทางการไหลผ่านของน้ำและอากาศต่อเนื่องกัน ปราศจากสารตกค้าง เช่น สบู่ โฟม ภายในฟองน้ำ
- ผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคืองผิวหนัง และได้รับการรับรองจากสถาบันผู้เขี่ยวชาญด้านผิวหนังของมหาวิทยาลัย Siena
- ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100%

3. Soft แปรงสีฟันไฟฟ้า รุ่น Baby Smile 0-3 ขวบ
สำหรับลูกน้อยที่เริ่มมีฟันขึ้นแล้ว อุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลสุขอนามัยที่ดีก็คือ แปรงฟันสำหรับเด็ก ซึ่งแปรงสีฟันไฟฟ้าของแบรนด์ Soft รุ่น Baby Smile สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 0 – 3 ขวบ เป็นแปรงสีฟันที่ออกแบบมาเพื่อเด็กเล็กโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกน้อยของเรามีสุขภาพในช่องปากที่แข็งแรง
จุดเด่น
- มีสีสันที่สดใส กระตุ้นให้ลูกน้อยสนุกกับการแปรงฟัน
- สั่น 17,000 ครั้งต่อนาที ด้วยระบบโซนิคไม่ทำให้เหงือนร่น
- ขนแปรงดูปองท์หนานุ่ม หน้าตัดโค้งเพื่อความนุ่มนวล
- ขนาดพอเหมาะกับปากเด็กเล็ก มีไฟ LED สีขาวเพื่อมองเห็นช่องปากได้ชัดเจน
- ด้ามแปรงออกแบบมาพิเศษเพือให้เด็กเล็กจับได้ถนัดมือและไม่ลื่น
- มี Safety lock สกรูเพิ่มความปลอดภัยกันเด็กเปิดที่ใส่ถ่าน
- กันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX7
- มีถ้วยดูดสูญญากาศด้านล่างแปรง สามารถตั้งวางได้ ลดพื้นที่จัดเก็บและช่วยให้ขนแปรงไม่สัมพัสกับสิ่งสกปรก
- ด้ามแปรงรับประกัน 1ปี

4. แปรงสีฟันซิลิโคน แบบสวมนิ้ว Finger Toothbrush – PRINCE & PRINCESS
สำหรับทารกแรกเกิด หรือ เด็กเล็ก ที่ลิ้นเป็นคราบนมสีขาว แนะนำให้ใช้แปรงซิลิโคนทำความสะอาดได้ เพราะขนแปรงนุ่มพิเศษ มาตรฐาน Food Grade ปลอดสาร BPA Free อีกด้วย ทั้งนี้ทันตแพทย์เด็กแนะนำให้ใช้ทำความสะอาดลิ้น เหงือกและฟันของลูกน้อยเป็นประจำเพื่อสุขภาพฟันที่ดีค่ะ
จุดเด่น
- แปรงสีฟันทำจากซิลิโคนคุณภาพสูง Food Grade
- ไร้สาร BPA Free ปลอดภัยต่อทารก
- ขนแปรงซิลิโคนกลมมน อ่อนนุ่มพิเศษ ไม่ระคายเคืองเหงือกและช่องปาก
- ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพทารก
- ขึ้นรูปแปรงแบบชิ้นเดียว เพื่อความปลอดภัย
- ขนาดออกแบบให้เหมาะต่อช่องปากของทารก
- ด้านปุ่มนูนสามารถนวดเหงือกทารกได้ ทำให้เหงือกแข็งแรง
- มีกล่องเก็บแปรง ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก พร้อมพกพาสะดวก
- เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือน+
เป็นยังไงบ้างคะ วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้นไม่ได้ยากจนเกินไปใช่มั้ยคะ เพียงแต่ว่ามีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจหลายข้อหน่อย ซึ่งถ้าหากอาบน้ำอย่างถูกวิธีก็จะทำให้ลูกน้อยปลอดภัย สบายตัว และมีสุขอนามัยที่ดี ทั้งนี้ หากลูกโตขึ้น จนสามารถนั่งในอ่างอาบน้ำได้แล้ว อาจเสริมพัฒนาการของลูกขณะอาบน้ำโดยสร้างบรรยากาศในการอาบน้ำที่ทำให้ลูกน้อยมีความสุข เช่น การเพิ่มของเล่นลอยน้ำอย่างเป็ดลอยน้ำหรือตุ๊กตาลอยน้ำเพื่อเสริมพัฒนาการด้านการหยิบจับ หรือของเล่นเสริมพัฒนาการอื่นๆ ที่จะช่วยสร้างความสุข สนุกสนานขณะที่ลูกอาบน้ำได้ดี ทำให้ลูกสนุกกับการอาบน้ำและมีสุขอนามัยที่ดีค่ะ
ถ้าหากต้องการตัวช่วยในการอาบน้ำให้ลูกน้อย สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 6 สาขาใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก : https://www.youtube.com/watch?v=0yrgitV9vY8
https://www.babycenter.com/baby/bathing-body-care/when-can-my-baby-go-in-the-shower_1368466
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คำถามที่พบบ่อย “คนท้องสามารถใส่รองเท้าส้นสูงได้รึเปล่า?” แต่แทบทุกครั้งที่มีภาพของดาราที่กำลังท้องใส่ส้นสูง ก็มักจะมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และคอมเม้นกันไปในทางไม่ดีซะส่วนใหญ่ ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่า อาจจะมีแฟนคลับหลายๆ คนที่เขาเป็นห่วง กลัวว่าจะมีอันตรายต่อเด็กในท้องอะไรก็ว่ากันไป เชื่อเถอะว่า การใส่รองเท้าส้นสูงไม่ได้ส่งผลเสียทางตรงต่อลูกในท้อง แต่ว่า “มันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้คุณแม่หกล้มได้ง่ายขึ้น” และถึงตอนนั้นแหละที่จะส่งผลต่อลูกในท้องโดนตรง เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะใส่ก็ควรระมัดระวังให้มาก ไม่ควรใส่ติดต่อกันเป็นเวลานาน” สำหรับคุณแม่ท้องที่จำเป็นต้องใส่เพื่อให้เกียรติกับงานนั้นๆ เรามี วิธีเลือกรองเท้าส้นสูงสำหรับคนท้องตามนี้เลยค่ะ…^^ 1. เลือกรองเท้าที่มีความสูงของส้นไม่ควรเกิน 2 นิ้ว เพราะถ้าสูงกว่านี้อาจจะเสี่ยงทำให้เท้าพลิกและตกส้นได้นั่นเอง2. รองเท้าส้นสูงแบบทรงเตารีด หรือส้นหนาจะใส่สบายกว่าส้นเข็มและมีพื้นที่รับน้ำหนักเยอะกว่า ความเสี่ยงที่จะล้มก็น้อยกว่าค่ะ3. เลือกรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น รองเท้าที่เปลือยโปร่งเพื่อความสบายเท้า4. น้ำหนักเบา และนุ่ม เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทก พื้นรองเท้าควรเป็นยางที่ยึดเกาะพื้นได้ดี5. เลือกรองเท้าที่ถอดง่าย และสวมใส่ง่าย ไม่แนะนำแบบที่มีสายรัด …ใครบ้าง??? ที่เป็นคุณแม่สุดสตรอง แม้ท้องโตแต่เมื่อออกงานก็มั่นได้กับรองเท้าส้นสูงโดยที่ไม่เป็นอุปสรรค… กุ๊บกิ๊บ – สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ล่าสุดที่โดยหลายคอมเม้นเข้ามาต่อว่าสาวกุ๊บกิ๊บใส่ส้นสูงทั้งๆ ที่ท้องก็ไม่เล็กแล้ว แต่สามีสุดหล่ออย่างหนุ่มบี้ก็เข้ามาแก้ข่าวโดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้ภรรยาสาวก็ใส่รองเท้าส้นสูงน้อยลง แต่ที่เห็นในรูปนั่นก็เพราะต้องไปออกงาน เดินพรมแดงซึ่งถือเป็นการให้เกียรติงานนั่นเอง ลิเดีย – ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา นักร้องสาวเสียงดีอย่างสาวลิเดียที่ตอนนี้กลายเป็นไอดอลของคุณแม่หลายๆ คนไปแล้ว โดยจะเห็นในอินสตาแกรมของสาวลิเดียว่าเธอเป็นคุณแม่ที่แข็งแรงมาก สามารถออกกำลังกาย และทำงานได้อย่างสบายๆ เลยล่ะ Chrissy Teigen […]
1.เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 2. วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็กต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 3. ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ 4. โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 5. มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย 6. โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น 7. ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง
ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าเรื่องพาหะธาลัสซีเมียนี่เป็นอะไรที่ไกลตัวมากๆ แต่พอตั้งท้องเท่านั้นแหละ การเป็นพาหะฯ นี่เรื่องใกล้ตัวสุดๆ แถมทำให้กังวลมากมายเลยล่ะค่ะ ถ้าคุณแม่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็แสดงว่าคุณแม่อาจจะกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกันใช่มั้ย สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าพาหะธาลัสซีเมียคืออะไร วันนี้เราก็นำความรู้มาฝากกันค่ะ เคยได้ยินผ่านๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพาหะธาลัสซีเมียคืออะไร? อันที่จริง การเป็นพาหะธาลัสซีเมียไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนไทยเลยนะ เพราะมีคนไทยตั้งกว่า 24 ล้านคนที่เป็นพาหะโรคนี้ เผลอๆ เวลาเดินตามถนนเราอาจจะเจอคนที่เป็นพาหะอยู่เต็มไปหมด แถมเรายังอาจจะเป็นด้วยก็ได้นะ คนที่เป็นพาหะของโรคนี้ง่ายๆ ก็คือ คนที่มีเชื้อธาลัสซีเมีย “แฝง” อยู่ในร่างกาย เพราะงั้นคนที่เป็นพาหะจะมีสุขภาพที่แข็งแรงปกติเหมือนคนทั่วไปนี่แหละ ไม่ได้ออกอาการอะไร แต่อาจจะเลือดจางนิดหน่อย โรคธาลัสซีเมียนี้เป็นโรคที่ติดต่อได้ทางพันธุกรรม เพราะงั้น หากทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะทั้งคู่ ลูกที่คลอดออกมาก็สามารถเป็นโรคธาลัสซีเมียได้ถึง 25% เลยนะ พูดง่ายๆ คือ พาหะก็เหมือนมีโรคอยู่ครึ่งนึง แม่มีครึ่ง พ่อมีครึ่ง พอมารวมกัน ลูกก็มีโอกาสที่จะได้รับโรคนี้ไปเต็มๆ เลยนั่นเอง แต่คุณแม่ก็อย่าเพิ่งกังวลเกินไปนะคะ เพราะหากคุณหมอตรวจพบว่าทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะแล้ว ขั้นต่อไปคุณหมอจะดูว่าเป็นธาลัสซีเมียชนิดไหน เพราะถ้าเป็นคนละชนิดกัน ก็หายห่วง! พาหะธาลัสซีเมียมีกี่ชนิด แล้วต่างกันยังไง? พาหะธาลัสซีเมียมี 2 ชนิด ก็คือ อัลฟ่ากับเบตา อัลฟ่านี่จะค่อนข้างรุนแรง แต่มากน้อยก็แล้วแต่ยีนส์ที่แฝงอยู่นั่นแหละ ส่วนถ้าเป็นกลุ่มเบตาก็จะไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ […]
อายุครรภ์คืออะไรกันนะ? เมื่อตั้งท้อง สิ่งหนึ่งที่เป็นคำถามยอดฮิตเลยก็คือ “ท้องกี่เดือน” หรือ “คลอดเมื่อไหร่” การที่เราจะตอบคำถามพวกนี้ได้นั้นเราจะต้องทราบอายุครรภ์ของเราก่อนค่ะ พูดง่าย ๆ อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่ลูกของเราได้อยู่ในท้องของเรามา แต่ถ้าหากจะพูดให้ดูมีหลักการหน่อยแล้ว อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่นับตั้งแต่วันแรกของรอบเดือนล่าสุดของเรามาจนถึงปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้วนั้น อายุครรภ์ที่นับจนถึงกำหนดคลอดควรจะเท่ากับ 40 สัปดาห์โดยประมาณค่ะ เราจะรู้อายุครรภ์ของเราได้อย่างไร? 1. การตรวจภายในโดยวัดขนาดของมดลูก ฟังดูน่ากลัวนิดนึงใช่มั้ยคะ วิธีนี้สามารถกะอายุครรภ์โดยประมาณของคุณแม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำเท่าไหร่หรอกนะ เพราะว่าเด็กแต่ละคนตัวใหญ่เล็กไม่เท่ากัน อาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง 2. การอัลตราซาวด์ วิธีการตรวจแบบนี้จะตรวจได้เมื่อตอนอายุครรภ์สัก 5-6 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนถ้าอยากได้ผลแม่น ๆ หน่อยก็อาจจะมาตรวจช่วง 8-18 สัปดาห์ก็ได้นะ สำหรับวิธีนี้คุณหมอก็จะใช้วิธีการวัดขนาดของมดลูกเช่นกัน แต่จะเป็นการวัดผ่านการทำอัลตราซาวด์ แม้จะไม่ได้ตรงเป๊ะแบบ 100% แต่ก็ไม่คลาดเคลื่อนมากค่ะ 3. การนับรอบเดือน การนับรอบเดือนจะสามารถใช้ได้กับคุณแม่ที่มีรอบเดือนแบบมาสม่ำเสมอ ตรงกันทุกเดือน สามารถนับได้โดยการนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด ให้ถือว่าวันนั้นเป็นวันแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ วันนี้คุณแม่ไปพบคุณหมอครั้งแรก คุณหมอจะประเมินวันคลอดคร่าว ๆ ด้วยการนับรอบเดือนแบบนี้แหละ เพราะงั้นทางที่ดี เราควรจะจดรอบเดือนของเราทุกเดือนนะ เราทราบอายุครรภ์กันเพื่ออะไร? การทราบอายุครรภ์นั้นมีประโยชน์แน่นอนค่ะ อย่างแรกคือเราก็จะทราบได้ว่าเราจะคลอดเมื่อไหร่หรือประมาณช่วงไหน จะได้เตรียมตัวได้ถูก […]
ทารกแรกเกิดถึง 28 วัน เป็นช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวอย่างมาก จากที่อยู่ในท้องคุณแม่อย่างอบอุ่นถึง 9 เดือน ออกมาเจอสภาพแวดล้อมภายนอก คุณแม่จึงจำเป็นที่ต้องดูแลอย่างอ่อนโยนเลยนะคะ อย่าง วิธีอาบน้ำทารก เรื่องดูแลทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำอย่างถูกต้อง ปลอดภัย ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษเลยค่ะ วิธีอาบน้ำทารก ควรอาบน้ำวันละกี่ครั้ง คุณแม่มือใหม่ คุณพ่อมือใหม่ คงมีคำถามคาใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหมคะ ว่าทารกแรกเกิดควรอาบน้ำเช้า-เย็นหรือไม่ จริง ๆ แล้วเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 เดือน ควรจะอาบแค่วันละ 1 ครั้ง อาบในช่วงสายหรือบ่ายของวันเลยค่ะ และเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไปสามารถอาบน้ำได้วันละ 2 ครั้ง ส่วนการสระผมเด็กแรกเกิด – 2 เดือน สระเพียง 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้นค่ะ อุปกรณ์อาบน้ำเด็กแรกเกิด อ่างอาบน้ำใส่น้ำอุ่น อ่างอาบน้ำเด็ก ควรจะกันกระแทกได้ดี อาจจะมีแผ่นวัดอุณหภุมิน้ำ ช่วยทำให้คุณแม่หรือพี่เลี้ยงเตรียมน้ำให้น้องได้ง่าย ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับสภาพผิวทารก สบู่เหลวอาบน้ำเด็กแรกเกิด ต้องมีความอ่อนโยน ค่า pH […]
หนึ่งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ขาดไม่ได้คือ ขวดนม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมองข้าม เพราะคิดและตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้นมแม่ล้วนหลังคลอด ซึ่งอาจลืมไปว่าแม้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ขวดนมก็ยังมีความสำคัญและเป็นผู้ช่วยชั้นดีของการให้นมแม่ได้แน่นอน » ขวดนมจำเป็นแค่ไหน ? » ขวดนม มีกี่แบบ ? ปัจจุบันขวดนมสำหรับเด็กผลิตขึ้นจากวัสดุที่หลากหลาย มีหลายประเภทและหลายรูปทรงให้เลือก วัสดุของขวดนม ขวดนมสำหรับเด็ก มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก และขวดที่ใช้แล้วทิ้ง(Disposable Liners)ที่ใส่ลงในขวดนมอีกที แต่ปัจจุบันขวดนมส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มักผลิตจากพลาสติกเพราะน้ำหนักเบา ตกไมแตก ทนความร้อนและหาซื้อง่าบ โดยมีทั้งขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกขาวขุ่น และขวดสีชา ที่ผลิตจากพลาสติกที่ต่างชนิดกัน 1. ขวดนม PP วัสดุ POLYPROPYLENE เป็นขวดนมที่มีสีโปร่งใส หรือสีขาวขุ่น มีน้ำหนักเบา ทนทาน โดยทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 –110˚c มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และอาจเหลือน้อยลงหากผ่านความร้อนจากการต้มหรือนึ่งบ่อยๆ 2. ขวดนม PES วัสดุ POLYETHERSULFONE เป็นขวดพลาสติกสีชาหรือน้ำผึ้ง สามารถทนอุณหภูมิได้ที่ -50–180˚c มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 6 เดือน […]