รีวิวรถเข็นเด็กที่ทุกบ้านควรมี Aprica Magical Air Plus Highseat

สวัสดีค่ะ ^_^  อุปกรณ์คู่ใจของแม่ ๆ สุดสตรองทุกท่านก็คงหนีไม่พ้น “รถเข็นเด็ก” จริงไหมคะ..? ส่วนตัวมดเอง ลองใช้รถเข็นมาหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้บ้านเรากำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลายวัน รถเข็นคันเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์เรื่องการพกพาอีกต่อไปแล้ว เพราะแค่ของใช้ก็เต็มรถแล้วค่ะ เราจึงมีโจทย์ในการหารถเข็นคันใหม่ว่า ต้องมีน้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และแน่นอนว่าต้องเป็นแบรนด์ดังที่แม่ ๆ ไว้ใจ

เหมือนสวรรค์มีตา 555 เพราะไม่กี่วันต่อมา เราก็ไปเจอใน IG คุณโอปอล์ว่า เพิ่งถอยรถเข็นใหม่ให้น้องอลิน อลันเหมือนกัน แถมยังเชียร์ว่ามันเบา ใช้งานสะดวกมากกก คุณแม่ขาช็อปอย่างเราก็ไม่รอช้าค่ะ ไปซื้อตามด่วน ๆ

คุณโอปอล์ซื้อรถเข็นจากร้าน BABYGIFT ค่ะ มดเองไม่มีเวลาไปที่ร้าน เลยสั่งซื้อออนไลน์ กดสั่งปุ๊บ รอไม่นานก็มีน้องเสียงสวยโทรมานัดวันจัดส่งทันที 2 วันก็ได้ของค่ะ สะดวกมากก

แล้วเราก็ได้รถเข็นที่ตอบโจทย์การใช้งานมา 1 คัน และนี่คือ “Aprica Magical Air Plus Highseat” รุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่ เล็ก และน้ำหนักเบา ที่สุด  ตัวนี้เค้าแนะนำสำหรับเด็กไม่เกิน 15 โล แต่ลูกบ้านนี้หนัก 16 โลก็ยังนั่งสบาย ๆ เลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 10,335 บาท

อย่างที่ทราบกันดีว่า “ถ้ารถเข็นต้อง Aprica”  ดังนั้นเค้าจึงมีความพิเศษค่ะ
รุ่นนี้น้ำหนักเบาเพียง 3.3 kg ถือมือเดียวได้สบาย ๆ และที่นั่งเป็นแบบ High Seat สูงจากพื้นดิน 52 cm. ซึ่งจะทำให้ฝุ่นละอองและความร้อนจากพื้นนั้นห่างจากลูกยิ่งขึ้น แถมยังสามารถพับเก็บได้แบบ One Step และล้อทั้ง 4 ก็จะติดกับพื้น ลากได้สบาย ๆ ค่ะ จะขึ้นรถ ลงเรือ เดินทางกันสองคนแม่ลูกก็ไม่เป็นอุปสรรค ชิลล์ไปอีกกก

เวลาพับเก็บจะประมาณนี้ค่ะ ล้อติดกับพื้นลากได้เลย

ตัวพนักพิงค่อนข้างกว้าง แถมยังปรับเอนได้ นั่งสบาย
มี Belt ถึง 5 จุด เด็กซนมากก็เอาอยู่ค่ะ

ที่กั้นหน้ารถเปิดออกได้ อุ้มลูกขึ้นลงได้สะดวกค่ะ

ความพิเศษอีกอย่างของรุ่น Plus ก็คือ ในส่วนของหลังคาบังแดดจะใหญ่ขึ้น ช่วยกัน UVได้ดีขึ้น และมีม่านตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศและความร้อนได้เป็นอย่างดี และสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้สบาย ๆ แถมยังมีช่องระบายความร้อนที่มาพร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษ จะทำหน้าที่สะท้อนความร้อน ไม่ให้สะสมที่หลังของลูก ดังนั้นไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน เค้าก็ยังสบายตัวแน่นอนค่ะ

ช่องเก็บของ ขนาดกำลังพอดีค่ะ ปกติบ้านนี้เอาไว้ใส่ขวดน้ำ ทิชชู่เปียก

อันนี้ไม่ใช่ล้อหักนะคะแต่ร้านเค้าบอกว่ามันคือล้อระบบ3D Suspension ที่จะปรับเอียงองศาเพื่อรักษาสมดุลของที่นั่ง ช่วยลดแรงกระแทกเหมือนโช๊คอย่างนึง ทำให้ลูกนั่งได้สบายมากขึ้น เริ่ดมากก

จากที่ใช้มาสักพัก ก็รู้สึกประทับใจและอยากแนะนำต่อค่ะ เราสองคนแม่ลูกไปไหนกันเองได้สะดวกขึ้น ด้วยการพับเก็บแบบ One Step ที่เค้ามีให้ พับกางมือเดียวไม่เสียเวลาเลยค่ะ ขึ้น BTSหนีรถติดกันประจำ ฮ่า ๆ บอกได้เลยว่า คนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต้องมีไว้! และความเป็น High Seat ก็ทำให้แม่เชื่อมั่นขึ้นไปอีก ว่าเหมาะกับเมืองที่อากาศร้อนและฝุ่นเยอะอย่างไทยมากกกนอกจากนี้จะถอดเบาะซัก ทำความสะอาดก็ง่าย เอาเป็นว่าปลื้มมมม รถเข็นนี่เป็นของที่ไม่ต้องซื้อกันบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นจะซื้อซักคันก็ควรเลือกที่คุณภาพดี คุ้มค่านะคะ

เขียนโดย Natthanya Wongkhajornklai
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : adaywithminimilin


หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง ได้ที่

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คาร์ซีทปลอดภัย สำหรับเด็กแรกเกิด จะต้องดูจากอะไรบ้าง วันนี้ BabyGift จะมาบอกวิธีดูคาร์ซีทที่ปลอดภัย แบบลึกซึ้งถึงโครงสร้างกันเลยค่ะ เพราะทุกวัสดุที่ประกอบอยู่ในคาร์ซีทนั้น มีผลต่อความปลอดภัยของลูกน้อยมาก และก่อนคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก นี่คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้เลยค่ะ   โครงคาร์ซีท ทำจากอะไร แบบไหนที่ปลอดภัย      1. โครงพลาสติกทั่วไป (PP)  พลาสติกมีความแข็งแรง ทนต่อการกระแทก มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่มักจะใช้ภายในห้องโดยสารรถยนต์ เช่น แผงประตู หรือ คอนโซลรถ  เมื่อใช้พลาสติก 100% ทำเป็นโครงคาร์ซีทสำหรับเด็กโตโดยเฉพาะ ที่น้องมีสรีระแข็งแรงแล้ว ก็เพียงพอต่อการปกป้องน้องให้ปลอดภัยค่ะ   แต่สำหรับเด็กแรกเกิด ที่สรีระบอบบาง ต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ การใช้พลาสติก 100% เลย อาจจะไม่พียงพอ โครงคาร์ซีทควรจะเสริมด้วยวัสดุอื่น ๆ เพิ่มความแข็งแรงด้วย เช่น เสริมด้วยไฟเบอร์กลาส       2. โครงพลาสติก เสริมไฟเบอร์กลาส ไฟเบอร์กลาส หรือ เส้นใยแก้ว จะใช้เพื่อเสริมความแข็งแรงเป็นพิเศษ ใช้แทนโลหะได้เลย เช่น ทำชิ้นส่วนเครื่องบินเล็ก ทำชิ้นส่วนรถแข่ง เพราะทนต่อการถูกกระแทก ทนต่อการฉีกขาด มีน้ำหนักเบา และยังสามารถดัดโค้งจัดรูปทรงได้ ไม่เปราะง่าย  ในการทำโครงคาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]

ปัจจุบัน คาร์ซีท (Car Seat) หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ทั้ง คาร์ซีทแรกเกิด คาร์ซีทเด็กโต บูสเตอร์ซีท มีเกณฑ์การทดสอบความปลอดภัยต่างกันและผ่านมาตรฐานมาจากหลายประเทศ แต่ทราบหรือไม่ว่า คาร์ซีทในประเทศไทย มีประกาศจากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) มาแล้ว ว่าคาร์ซีทจะต้องผลิตหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยของยุโรปเท่านั้น  ทั้งนี้ ยังมีประกาศเพิ่มข้อบังคับให้คาร์ซีทต้องผ่านการทดสอบการชนจากด้านข้างด้วย ซึ่งตรงกับข้อบังคับของ มาตรฐานคาร์ซีท R129 (i-Size) เป็นมาตรฐานฉบับใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด  ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดของ มาตรฐาน ECE R129 (i-Size) มาก่อน ว่าเพิ่มความปลอดภัยจุดไหนบ้าง เราจะพาไปทำความเข้าใจกันเลย  คาร์ซีทในประเทศไทย ใช้มาตรฐานใหม่ ECE R129 (i-Size)  จากเดิม ประกาศมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standards) ของคาร์ซีท จากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จะเริ่มบังคับใช้ภายในปี 2566 ให้ผู้ประกอบการที่ทำหรือนำเข้าคาร์ซีท ต้องทำหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน มอก.3418-2565 โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานสากล ECE R44/04 (มาตรฐานยุโรป) ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก  ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) […]

1.เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 2. วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็กต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 3. ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ 4. โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 5. มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย 6. โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น 7. ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง

          SIDS หรืออาการภาวะไหลตาย เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กทารกแรกเกิดเสียชีวิต ถือเป็นอีกสิ่งที่คุณพ่อ และคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว ทาง BABY GIFT EXPERT จึงอยากพาคุณพ่อ คุณแม่ทุกคน มาทำความเข้าใจกันว่า SIDS คืออะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไร SIDS คืออะไร         นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ได้อธิบายถึงภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือภาวะไหลตายไว้ว่า เป็นภาวะเสียชีวิตขณะนอนหลับ เกิดขึ้นได้แม้ในทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงดี พบบ่อยในช่วงอายุเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี และพบบ่อยที่สุดในช่วงที่อายุ 2-4 เดือน โดยส่วนมากมักจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง สาเหตุของการเกิดภาวะ SIDS         SIDS มีสาเหตุมาจากการกีดขวางการหายใจของทารกขณะนอนหลับ เช่น การจัดท่าให้ทารกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง การที่มีผ้าห่มหรือวัตถุนิ่มๆปิดหน้าทารกขณะนอนหลับ การถูกผู้ใหญ่นอนทับ เป็นต้น เนื่องจากทารกยังไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะได้ดี ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะนี้ คือ ทารกเกิดก่อนกำหนด ควันบุหรี่ และอุณหภูมิห้องนอนที่ร้อน ซึ่งอุณหภูมิห้องนอนที่เหมาะสมของทารกคือ […]

เมื่อลูกน้อยอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องพาลูกออกจากบ้านไปทำธุระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปหาหมอ หรือ พาไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะใช้รถเข็นเด็กเพื่อความสะดวกสบายของคุณพ่อคุณแม่แล้วนั้น ตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเป็นตัวเลือกของคุณพ่อคุณแม่ก็คือ เป้อุ้มเด็ก เพราะสามารถพาลูกน้อยไปได้ทุกที่ เรียกว่าเป็นตัวช่วยทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดี แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกำลังกังวลว่า เป้อุ้มลูกนั้น จะทำให้ เด็กขาโก่ง หรือเปล่า มีความปลอดภัยขนาดไหน ควรเลือกอย่างไรดี ในบทความนี้ BabyGift มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ   ตอบข้อสงสัย เป้อุ้มลูก ใช้แล้วเด็กขาโก่งไหม ? พร้อม 3 ยี่ห้อแนะนำ เป้อุ้มทารก จำเป็นหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร ?   เป้สำหรับอุ้มเด็ก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม ด้วยเพราะลูกยังเล็ก ยังเดินไม่ได้ ดังนั้นการทำกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ของคุณแม่จึงจำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อย ๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น อุ้มขณะออกไปทำธุระนอกบ้าน ซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน แถมยังต้องอุ้มลูกตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง  ดังนั้นการใช้เป้อุ้มลูกก็จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้มาก ทำให้สามารถพาลูกน้อยไปกับเราได้ทุกที่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ […]

ลูกควรเลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่? อยากฝึกให้ลูกนั่งกระโถน นั่งชักโครกขับถ่ายเองได้เริ่มเมื่อไหร่ดี? คงเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยกันใช่ไหมคะ เพราะการฝึกลูกให้เลิกใส่ผ้าอ้อม ฝึกลูกนั่งกระโถน ไปจนฝึกให้เข้าห้องน้ำเองได้ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมที่จะเลิกใส่ผ้าอ้อม พร้อมนั่งกระโถนแล้ว มาเช็กกันเลยค่ะ ทำไมต้องฝึกลูกเรื่องขับถ่าย  การฝึกลูกขับถ่ายให้เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ ที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงเป็นการปลูกฝังด้านสุขอนามัย ความสะอาด รู้จักร่างกายตัวเอง และรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ หากพ่อแม่ไม่สอนลูกเรื่องการขับถ่าย ปล่อยให้ขับถ่ายในผ้าอ้อมไปจนโต จะทำให้ลูกมีการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสมตามวัย เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน จะทำให้มีปัญหาในการดูแลความสะอาด อาจเกิดการขับถ่ายเล็ดราด หรือยังต้องใส่ผ้าอ้อมจนอึดอัด  ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ ส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยได้ ฝึกลูกนั่งชักโครก เลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ตอนไหน? วัยที่มีพัฒนาการและพฤติกรรมพร้อมพี่จะเริ่มฝึกได้ ควรเริ่มเมื่ออายุ 1 ปี – 1 ปี 6 เดือน และมักจะทำได้ดีตอนอายุ 2 ปี หรือเด็กบางคนอาจจะมาฝึกตอนอายุ  2 ปี และนั่งกระโถนได้เองตอนอายุ 3 ปี หรือบางคนอาจทำได้เมื่อโตกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและสัญญาณต่าง ๆ ที่แสดงออกมาทั้งทางร่างกาย การสื่อสาร และความต้องการของลูก ไม่ควรเกิดจากการบังคับลูก 8 สัญญาณที่บอกว่าลูกพร้อมนั่งกระโถนเองได้แล้ว 7 เทคนิคฝึกลูกขับถ่าย […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages