นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) ได้คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูกค้าทุกท่าน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลและใช้ข้อมูลที่จำเป็นของท่าน เพื่อระบุตัวบุคคลตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ แห่งราชอาณาจักรไทย
นโยบายความเป็นส่วนตัวอธิบายถึงวิธีที่เราเก็บข้อมูล นำมาใช้ และ การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (ในบางกรณี) โดยนโยบายนี้จะอธิบายถึงขั้นตอนการกระทำกับข้อมูลส่วนบุคคล และสุดท้ายนโยบายนี้จะอธิบายถึงตัวเลือกที่ท่านสามารถเลือกได้เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของท่านเอง การปกป้องดูแลข้อมูลส่วนตัวของท่านเปรียบเสมือนความไว้วางใจที่ท่านมีให้เราและเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ดังนั้นเราจึงจะขอใช้เพียงข้อมูลบางส่วนของท่านอันได้แก่ ชื่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เฉพาะที่สอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เราได้กำหนดไว้ ทั้งนี้เราจึงเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินความสัมพันธ์ทางธุรกรรมของเรากับท่านเท่านั้น
ทางเราจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่กฎหมายกำหนดหรือ เป็นระยะเวลาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลนั้นๆ ท่านสามารถเยี่ยมชมและท่องเว็บไซต์ของเราได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ
โดยตลอดการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ท่านจะอยู่ในฐานะผู้ไม่เปิดเผยตัวตน และไม่สามารถระบุตัวตนได้ตลอดเวลา จนกว่าท่านจะลงทะเบียนสมัครบัญชีผู้ใช้ และได้เข้าสู่ระบบด้วยชื่อบัญชีและรหัสผ่านของท่านเอง
คลังข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จะไม่ยอมให้บุคคลภายนอกมีส่วนร่วมรู้เห็นข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้เก็บไว้โดยเด็ดขาด ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บไว้จะได้รับการเปิดเผยเฉพาะภายในเครือบริษัทของเราเพื่อการดำเนินการภายในเท่านั้น
เมื่อท่านได้สร้างบัญชีผู้ใช้กับบริษัท เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจะเก็บไว้ มีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, เพศ, อายุ, เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, สัญชาติ เป็นต้น
- ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์มือถือ, ที่อยู่จัดส่งสินค้า, ที่อยู่สำหรับออกใบเสร็จรับเงิน, ที่อยู่ e-mail, ชื่อบัญชีผู้ใช้งานเว็บไซด์ babygiftretail.com เป็นต้น
- ข้อมูลทางด้านการเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเดบิต/บัตรเครดิต
- ข้อมูลการสั่งซื้อ เช่น ข้อมูลการรับชำระเงินหรือคืนเงิน, วัน-เวลาที่ชำระเงิน, ยอดชำระเงิน, หมายเลขคำสั่งซื้อ, วัน-เวลาในการรับหรือส่งสินค้า, ข้อมูลการรับประกันสินค้า, ข้อร้องเรียนและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้า
- ข้อมูลการเป็นสมาชิก เช่น หมายเลขสมาชิก, คะแนนสะสม, ประเภทสมาชิก, วันที่สมัครสมาชิก, ระยะเวลาการเป็นสมาชิกและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเป็นสมาชิกอื่นๆ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวมรวมไว้ จะถูกใช้ดังต่อไปนี้
- เพื่อให้ข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้อง, รายการสินค้าใหม่, สิทธิพิเศษต่างๆ ที่จะได้รับในการเป็นสมาชิกของเบบี้กิ๊ฟ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวจะทำผ่านช่องทาง Line Official Baby Gift, Facebook Messenger หรือวิธีการอื่นที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้เมื่อครั้งที่สมัครสมาชิก (สามารถเปลี่ยนแปลงวิธิการรับข้อมูลข่าวสารได้ภายหลัง)
- สิทธิประโยชน์จากแต้มคะแนนสะสมเพื่อใช้เป็นส่วนลด, สิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษหรือแลกรับ Gift Voucher
- เพื่อจัดส่งสินค้าและรับคืนสินค้าที่ท่านได้ซื้อจากบริษัท
- เพื่อดำเนินการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางพาณิชย์เกี่ยวกับการซื้อสินค้าของท่านกับบริษัทให้สำเร็จ
- เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ ปรับปรุงสินค้าและการให้บริการให้เหมาะสมและตรงต่อความต้องการให้มากที่สุด
- เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัย วิเคราะห์สถิติทางด้านการตลาด จัดทำข้อมูลของลูกค้าบนเว็บไซต์ของบริษัท
- เพื่ออัพเดทข้อมูลการส่งสินค้า รวมไปถึงในกรณีที่ลูกค้าต้องการบริการอื่นๆ เพิ่มเติม
- เพื่อออกเอกสารใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน
- เพื่อดำเนินการจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อสินค้าของท่าน และการให้บริการต่างๆ พร้อมทั้งให้ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของเรา ที่ท่านต้องการทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและการบริการของเรานอกเหนือจากบนเว็บไซต์
เรามีความมั่นใจว่าท่านมีความคิดเห็นที่ตรงกับเราและยินยอมให้เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้อย่างดี เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่าน ผู้เป็นลูกค้าของเรา
หากท่านสมัครเพื่อใช้งานโดยผ่านทางบัญชีโซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือเชื่อมต่อบัญชี babygiftretail.com กับบัญชีโซเชียลมีเดียของท่าน หรือใช้โซเชียลมีเดียอื่น ๆ ของ babygiftretail.com เราอาจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่ท่านได้ให้ไว้โดยสมัครใจกับบัญชีโซเชียลมีเดียของท่านผ่านทางผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียรายนั้น ๆ ภายใต้นโยบายต่าง ๆ ของผู้ให้บริการ เราจะจัดการข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ได้รับมาดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ babygiftretail.com
ทั้งนี้ท่านจะต้องเก็บข้อมูลที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบและข้อมูลส่วนตัวในบัญชีผู้ใช้เป็นความลับมิให้ข้อมูลดังกล่าวผ่านไปถึงบุคคลภายนอกใดๆ ได้ เราไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับการเข้าสู่ระบบที่ไม่เป็นไปตามความถูกต้องได้ หากความเสียหายนั้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากเรา
อัพเดทข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านสามารถอัพเดทข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อ เพียงเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีผู้ใช้ของท่านบนเว็บไซต์เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์)
การรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัท เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) ขอยืนยันให้ท่านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมไว้ทั้งหมดจะถูกเก็บรักษาไว้ในคลังข้อมูลของเราเป็นอย่างดีที่สุด
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านกับบุคคลภายนอกหรือองค์กรอื่นๆ นอกเหนือจากเครือบริษัทของเราและบุคคลที่ดำเนินการจัดส่งสินค้าที่ท่านชำระเงินจากเบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) ให้ท่าน ยกเว้นในกรณีที่ได้รับการอนุญาตจากท่าน อนึ่ง อาจมีสถานการณ์พิเศษที่เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) อาจถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวท่าน โดยต้องดำเนินการตามที่จำเป็นในกรณีที่อาจกระทบถึงความปลอดภัยในสวัสดิภาพ ชีวิต และร่างกายของบุคคลอื่น หรือมีการบังคับทางกฎหมาย บริษัท เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) มีความรับผิดชอบและต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ แห่งราชอาณาจักรไทย
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้
ทุกครั้งที่ท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.babygiftretail.com เซิร์ฟเวอร์ของเราจะเก็บบันทึกข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของท่านโดยอัตโนมัติ ข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วย
- หมายเลข IP คอมพิวเตอร์ของท่าน
- ประเภทของโปรแกรมเบราว์เซอร์
- เว็บไซต์ที่ท่านใช้ก่อนเข้า
- เยี่ยมชมเว็บไซต์เบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์)
- หน้าเว็บในเบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์)ที่ท่านเข้าเยี่ยมชม
- ระยะเวลาที่ท่านเยี่ยมชม ข้อมูลที่ท่านค้นหาภายในเว็บไซต์ วันที่และเวลาที่ท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมไปถึงสถิติอื่นๆ
ข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บรวมรวมไว้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อการพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ สินค้า และบริการของเรา ข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ร่วมกับข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ด้วย
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทเบบี้กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข นโยบายความเป็นส่วนตัวได้ทุกเมื่อ และทุกๆการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ จะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของเรา
ติดต่อ
หากท่านมีความไม่พึงพอใจเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว มีข้อสงสัย ต้องการติชม หรือร้องเรียนใดๆ กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าตามช่องทางที่ระบุไว้
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ตัดเล็บทารก หน้าที่นี้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มักจะแอบเกร็งเลยใช่ไหมคะ เพราะนิ้วลูกยังเล็กมาก เล็บก็ยังอ่อนและเปราะบาง คุณพ่อคุณแม่เลยกลัวว่าจะตัดเล็บเข้าเนื้อทำให้ลูกน้อยเจ็บตัวได้ แต่อย่ากลัวเลยค่ะ เพราะเรามี ”วิธีการตัดเล็บทารก” มาแชร์ให้อ่านกัน วิธีตัดเล็บนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีความมั่นใจในการตัดเล็บให้ลูกน้อยมากขึ้น ตัดเล็บทารก เรื่องง่าย ๆ ถ้ารู้วิธีที่ถูกต้อง พร้อมอุปกรณ์ที่เหมาะสม ตัดเล็บทารก ควรตัดบ่อยแค่ไหน เล็บมือทารกจะยาวขึ้นวันละ 0.1 มม. ส่วนเล็บเท้าจะยาวช้ากว่า เด็กเล็กจึงควรตัดเล็บมือเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเล็บเท้า 2-3 ครั้งต่อเดือน ซึ่งช่วงเดือนแรกลูกน้อยเล็บยังนิ่ม แต่ก็สามารถบาดผิวลูกได้ จึงแนะนำให้ใช้การตะไบมากกว่าการตัด แต่หลังจากนั้นเล็บจะแข็งแรงขึ้น สามารถเลือกใช้ตะไบตัดเล็บหรือกรรไกรก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของคุณพ่อคุณแม่ วิธีตัดเล็บทารก ตัดเล็บทารกให้ไม่เข้าเนื้อ ตัดเล็บเข้าเนื้อ อันตรายกว่าที่คิด การตัดเล็บให้ลูกน้อยอย่างไม่เชี่ยวชาญ ใช้อุปกรณ์ตัดเล็บไม่เหมาะสม และไม่ระวังมากพอ อาจทำให้ตัดเข้าเนื้อ เล็บฉีก จนลูกน้อยบาดเจ็บเลือดไหล และอันตรายไปถึงขั้นติดเชื้อได้เลยนะคะ จากข้อมูลเพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ ได้นำเสนอข่าวเด็กวัยสิบเดือนที่ยายตัดเล็บให้ จากนั้นนิ้วโป้งเท้าของเด็กก็เริ่มบวม แดง อักเสบ มีไข้สูง เมื่อพาไปพบคุณหมอก็ได้ข้อวินิจฉัยว่าเด็กนิ้วเท้าอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด คุณหมอจึงขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่นำรูปมาโพสต์เตือนให้พ่อแม่ทุกคนระวังในการตัดเล็บลูกน้อยมากขึ้น เห็นแบบนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกอุปกรณ์ตัดเล็บให้เหมาะกับวัยของลูกและควรตัดอย่างระมัดระวังมากขึ้นนะคะ ที่ตัดเล็บเด็ก ควรใช้แบบไหนให้ปลอดภัย 1. กรรไกรตัดเล็บเด็ก 2. […]
เพราะความปลอดภัยคือเหตุผลอันดับ 1 ที่พ่อแม่ต้องควักเงินซื้อคาร์ซีทให้ลูกน้อย ก็เพื่อปกป้องลูกจากการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ปัจจัยที่รองลงมาคือ ลูกนอนสบาย ใช้งานง่าย และงบประมาณ มาตรฐานความปลอดภัยของคาร์ซีท จริงๆแล้ววัดจากอะไร ก็ต้องเป็นวัสดุที่รองรับแรงกระแทกด้านใน ซึ่งคาร์ซีทแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อใช้วัสดุภายในที่ไม่เหมือนกัน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ 1. EPS Foam และ EPP Foam EPS Foam (Polystyrene Foam) เป็นวัสดุที่ช่วยลดแรงกระแทก ที่ใช้ใน หมวกกันน๊อค ช่วยปกป้องชีวิต ผู้สวมใส่ โฟมชนิดนึ้จึงถูกนำไว้ในคาร์ซีท ใช้รองรับแรงกระแทกสำหรับศีรษะและส่วนบนของร่างกายเด็ก ในกรณีที่เกิดการกระแทกโฟมจะแตกและจะกระจายแรงกระแทกออกไปโดยแทบไม่มีแรงสะท้อนกลับ จึงทำให้ได้เด็กปลอดภัย ดังนั้นผู้ผลิตคาร์ซีทระดับมาตรฐานสากลส่วนใหญ่ จึงนำโฟมชนิดนี้มาใช้ในคาร์ซีทเพื่อรองรับแรงกระแทกโดยเฉพาะ ส่วน EPP Foam (Polypropylene Foam) เป็นวัสดุที่คล้ายกับ EPS Foam แต่มีความยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่าย และทนความร้อนดีกว่า จึงนำไปผลิตเป็นภาชนะบรรจุอาหาร ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.carseatsite.com/FAQ.htm 2. Urethane […]
เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมนอกจากนมแม่ ซึ่งก็คือในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากลูกเริ่มนั่งได้เก่งขึ้น สามารถนั่งได้เองโดยที่ไม่ต้องประคอง และเริ่มชอบเอามือหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เข้าปาก นั่นแสดงว่าลูกน้อยของเราพร้อมที่จะกินอาหารเสริมได้แล้ว ในบางบ้านอาจจะคุ้นเคยกับการเตรียมอาหารเด็กอ่อนโดยการปั่นหรือบดละเอียดและป้อนให้ลูก แต่หลาย ๆ บ้านก็อาจจะใช้วิธีฝึกให้ลูกกินอาหารด้วยตัวเองที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม อุปกรณ์สำคัญอย่างโต๊ะกินข้าวเด็กก็เป็นของที่ต้องมี และถ้าเลือกให้ดีก็จะใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแล้วค่ะ โต๊ะกินข้าวเด็ก สำคัญอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี ? โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากโต๊ะทั่ว ๆ ไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโต๊ะที่เรียกว่า High Chair โดยเป็นชุดเก้าอี้กินข้าวเด็กที่มีโต๊ะพับมาให้แบบครบชุด สามารถใช้งานได้หลายแบบ บางรุ่นสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ด้วย และยังมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกเก้าอี้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบางที่อาจเรียกว่าโต๊ะกินข้าวเด็ก หรือบางที่ก็เรียกว่าเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ อาจเรียกรวม ๆ ว่าชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวของเด็ก แต่จะเรียกแบบไหน ก็หมายถึง High Chair ที่นั่งกินข้าวของเด็กเล็กโดยเฉพาะนั่นเองค่ะ โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้กินข้าวด้วยตัวเองแบบ BLW ซึ่งการฝึกลูกกินข้าวเอง […]
ในเด็กเล็กที่มักจะมีปัญหาสุขภาพาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะด้วยปัญหาฝุ่นควัน เชื้อโรค ไวรัส เป็นหวัดคัดจมูก หรือเป็นโรคประจำตัวอย่างหอบหืด เป็นภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ การล้างจมูกจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยและช่วยขจัดเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการล้างจมูกเด็ก 1 ขวบที่เด็กเล็กยังสั่งน้ำมูกไม่เป็น การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือจะช่วยขจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ BabyGift จะมาแนะนำวิธีการล้างจมูกให้ลูกน้อย ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ แชร์วิธีการล้างจมูกเด็ก 1 ขวบ ขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรค ให้ลูกน้อยหายใจโล่งขึ้น การล้างจมูกเป็นการทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยการสวนล้างโดยใช้น้ำเกลือ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในโพรงจมูกอย่างน้ำมูกหรือสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ให้หมดไป ซึ่งสามารถลดปัญหาน้ำมูกไหลลงคอ และอาการคัดจมูกได้ดี ทั้งยังช่วยให้โพรงจมูกมีความชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย ทำให้หายใจได้โล่งขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ การล้างจมูกไม่ได้ทำเฉพาะในเด็กที่มีอาการป่วย หรือเป็นภูมิแพ้เท่านั้น แต่การล้างจมูกเด็ก 1 ขวบที่มีสุขภาพแข็งแรงดีก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นควันหรือมีการระบาดของโรคทางเดินหายใจ ผู้ปกครองบางคนอาจพาลูกไปข้างนอกโดยใช้เป้อุ้มเด็ก ซึ่งทำให้เด็กได้สัมผัสกับอากาศนอกบ้านดังนั้นการล้างจมูกเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะหลังจากกลับมาบ้านแล้ว ก็จะช่วยขจัดเชื้อโรค และสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในโพรงจมูก ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาวะที่ดีขึ้น จะทำได้อย่างไร มาดูวิธีกันเลยค่ะ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ขั้นตอนวิธีล้างจมูกเด็ก 1 ขวบ ในกรณีที่เด็กไม่ให้ความร่วมมือ และสั่งน้ำมูกเองไม่ได้ สำหรับเด็ก 1 ขวบที่ให้ความร่วมมือ และสามารถสั่งน้ำมูกเองได้ […]
คงมีหลายครั้งที่คุณแม่มองกระจกแล้วก็รู้สึกสงสัยว่า เราทำสีผมได้มั้ยนะ? ใช่ค่ะ คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตมาหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะคุณแม่ๆ สายแฟ ที่ทนเห็นผมโคนดำของตัวเองแทบไม่ไหว สมัยก่อนก็มีความเชื่อหลายอย่างเกี่ยวกับผมอยู่นะคะ ผู้เฒ่าผู้แก่บางคนบอกว่าแม่ท้องไม่ควรตัดผม แล้วก็ไม่ควรทำสีผม เพราะผมเป็นเหมือนเกราะป้องกัน เป็นสิ่งที่จะคุ้มกันลูกน้อยจากอันตรายต่างๆ ส่วนบางคนก็บอกว่าแม่ท้องควรจะตัดผม เพราะว่าสารอาหารจะได้ไปเลี้ยงลูกน้อยให้เพียงพอ แต่มาสมัยนี้ ที่คุณแม่ไม่กล้าทำอะไรกับผมมากมายก็น่าจะเป็นเพราะกลัวสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นพีพีดี ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือแอมโมเนีย ที่ผสมอยู่ในสีย้อมผม แต่ถ้ามาดูกันจริงๆ แล้ว สารเคมีพวกนี้ส่งผลต่อลูกน้อยมั้ยนะ? เรามีคำตอบสำหรับคำถามนี้มาให้แล้วค่ะ มีงานวิจัยรองรับเรื่องการทำสีผมในคนท้องหรือเปล่า? ถ้าพูดกันตามตรงก็ต้องบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีงานวิจัยไหนมายืนยันว่าคนท้องห้ามย้อมผม แม้สีย้อมผมจะมีส่วนผสมของสารเคมีอยู่หลายชนิด แต่สารเคมีพวกนี้ก็ซึมเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณที่ค่อนข้างน้อยเลยล่ะค่ะ ยาย้อมผมมีส่วนผสมของสารเคมีตัวไหนบ้าง? สารเคมีหลักๆ ในยาย้อมผมก็ได้แก่ รีซอร์ซินอล พีพีดี แอมโมเนีย แล้วก็ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ค่ะ ซึ่งส่วนมากผลข้างเคียงของมันก็อาจทำให้คุณแม่เกิดอาการแพ้ แต่มันก็จะมีผลแค่สำหรับคนที่แพ้สารพวกนี้เท่านั้นนะคะ นอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการวิงเวียนศีรษะเนื่องจากกลิ่นของมัน อย่างไรก็ตาม มันก็จะมีบางกรณีที่คุณแม่บางคนอาจจะไม่ได้แพ้สารเคมีบางตัวในช่วงก่อนท้อง แต่หลังท้องแล้วกลับกลายเป็นว่าแพ้ก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องระวังนิดนึงนะ สารเคมีมีผลต่อลูกน้อยรึเปล่านะ? สารเคมีที่อยู่ในยาย้อมผมไม่ได้มีในปริมาณที่สูงขนาดนั้นค่ะ แล้วอีกอย่าง ปกติเวลาเรารับสารเคมีเข้าไปในร่างกาย ถ้าไม่เยอะมากจนก่อเป็นสารร้าย มันจะถูกขับออกมาในรูปของปัสสาวะ ข้อสำคัญที่สุดคือ สายรกเป็นอะไรที่มหัศจรรย์และเป็นเกราะคุ้มกันลูกน้อยที่ดีมากๆ เพราะมันจะช่วยกรองสารแปลกปลอมต่างๆ แทบจะไม่ให้มีหลุดรอดเข้าไปหาลูกน้อยเลยล่ะค่ะ ก่อนย้อมผมควรรู้ไว้ 1.เวลาย้อมผม เราขอแนะนำให้คุณแม่หาผ้าปิดปาก […]
หลากหลายฟังก์ชั่น ช่วงอายุการใช้งานยาวนาน รองรับเด็กมีความสูง 76 ถึง 150 ซมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย I-size R 129 และการรับรองจากสภาบันชั้นนำ เบาะกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าที่เคยสัมผัสรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐาน ECE R44-04และการทดสอบจากสถาบันชั้นนำในยุโรป พกพาสะดวก ติดตั้งง่ายรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44-04