กระเป๋าคุณแม่ จำเป็นแค่ไหน ? เลือกยังไง ? พร้อมยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำ !

ใครกำลังคิดว่ากระเป๋าใส่ของแม่ ไม่ได้จำเป็นอะไร ใช้อะไรก็ได้ ลองแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ พอเป็นคุณแม่แล้วก็มีของใช้มากมายต่างๆ ทั้งของเรา ของลูกเยอะแยะไปหมดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นการมีกระเป๋าใส่ของลูกก็จะทำให้คุณแม่มีความสะดวก หยิบของง่าย เป็นระเบียบมากขึ้น และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกระเป๋าของคุณแม่กันให้มากขึ้นค่ะ
จำเป็นแค่ไหน ? กระเป๋าคุณแม่ ต่างจากกระเป๋าปกติยังไง ?
กระเป๋าใส่ของคุณแม่มีความแตกต่างจากกระเป๋าทั่วไปในหลายๆ อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความจุ ซึ่งโดยมากมักมีขนาดใหญ่ และมีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อบรรจุของใช้สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรจุของที่จำเป็นต่อการดูแลลูกได้อย่างครบครัน เช่น มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้นค่ะ แล้วเราจะเลือกกระเป๋าใส่ของลูกยังไงให้เหมาะกับเรา ใช้ได้นาน มาดูรายละเอียดกันต่อค่ะ

เลือก กระเป๋าคุณแม่ ยังไงดี ?
การเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับตัวคุณแม่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน คุณแม่จึงควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการใช้งาน เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันค่ะ
1. ขนาด และความจุ : ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงมีช่องเก็บของเพียงพอสำหรับใส่ของใช้ของคุณแม่และลูกของเรา
2. น้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา และความปลอดภัย : ให้เลือกวัสดุที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา และมีสายสะพายที่นุ่ม และปรับความยาวได้ เพื่อสะดวกต่อการสะพายและถือหิ้ว มีด้ามจับแข็งแรง หูหิ้วไม่หลุด มีมาตรฐาน
3. ฟังก์ชันการใช้งาน : มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้น มีช่องแยกเฉพาะสำหรับของเปียก-แห้ง หรือของสะอาด-ใช้แล้ว
4. วัสดุและสีสัน : เลือกวัสดุที่ทนทาน กันน้ำ และง่ายต่อการทำความสะอาด สีสันน่ารัก สดใส เหมาะสำหรับคุณแม่
5. แบรนด์และราคา : เลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพดี น่าเชื่อถือ และควรคำนึงถึงงบประมาณของเรา และความคุ้มค่าด้วยค่ะ
BabyGift แนะนำกระเป๋าคุณแม่คุณภาพดีน่าใช้

1. กระเป๋าแม่ Baby on Board – PRINCE & PRINCESS
Baby on Board ของ PRINCE & PRINCESS เป็นกระเป๋าใส่ของคุณแม่ ดีไซน์สวยหรูจากประเทศฝรั่งเศส มีน้ำหนักเบาเพียง 500 กรัมเท่านั้น ให้คุณแม่หิ้วได้ สะพายได้อย่างคล่องตัว ช่องกระเป๋าเปิดได้กว้าง หยิบของได้ง่าย ใส่ของได้ครบ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 10 กิโลกรัม กันน้ำได้ ทำความสะอาดง่าย มีช่องเก็บของเยอะ มีซิป 2 ทิศทาง
จุดเด่น
- กระเป๋าคุณแม่ที่มีถึง 9 ชิ้น ในหนึ่งเดียว สายสะพายยาว ปรับระดับได้ มีจุกยางรองที่พื้นกระเป๋า ป้องกันการลื่น มีสายคล้องสำหรับติดรถเข็นเด็ก
- มีส่วน Cooler Lunch Bag ตัวกระเป๋าสามารถเก็บอุณหภูมิร้อนได้ 6 ชั่วโมง และเก็บอุณหภูมิเย็นได้ 4 ชั่วโมง คงอุณหภูมิให้พร้อมรับประทานได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น นม น้ำ หรืออาหาร และสามารถแยกส่วนเก็บอุณหภูมิออกจากกระเป๋าใบใหญ่เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก
- มี Magic Tape ยึดตัวกระเป๋าให้ตั้งตรงได้ ป้องกันการหกเลอะเทอะ หยิบถุงนมได้สะดวกมากขึ้น
- มี Zipper Pouch Case กระเป๋าซิปแยก ที่สามารถเก็บของใช้คุณแม่แยกจากของลูกได้ และมีกระเป๋าใบเล็กแยกไว้สามารถเก็บจุกนมหลอกได้อีกด้วย
- มี Changing Pad แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม ปราศจากสารตะกั่ว มีถุงเก็บผ้าเปียกเพื่อแยกออกจากส่วนแห้ง

2. กระเป๋าปั๊มนม Baby on Board รุ่น Pump Bag – PRINCE & PRINCESS
คล่องตัวทุกการเดินทางด้วยกระเป๋าคุณแม่ Baby on Board จาก PRINCE & PRINCESS รุ่น Pump Bag ตัวกระเป๋าแบ่งเป็น 2 ชั้น ด้านบนใส่เครื่องปั๊มนม (กดดูยี่ห้อเครื่องปั๊มนมที่ BabyGift แนะนำเพิ่มเติมได้อีกในเว็บของเรานะคะ) และด้านล่างใส่สัมภาระอื่นๆ ได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ของคุณแม่ และลูก วัสดุทำจากโพลีเอสเตอร์ กันน้ำได้ ทำความสะอาดง่าย น้ำหนักเบาเพียง 370 กรัมเท่านั้น มีให้เลือก 2 สี ชมพู และดำ
จุดเด่น
- 2 Ways Zipper หยิบของใช้งานได้สะดวก ซิปรูดได้ 2 ทิศทาง ปากกระเป๋าเปิดกว้างง่ายต่อการหยิบของ มาพร้อมหมุดรองก้นกระเป๋า ช่วยป้องกันการเลอะสิ่งสกปรกเมื่อวางไว้นอกบ้าน
- กระเป๋าเก็บอุณหภูมิร้อน เย็นได้ถึง 4 ชั่วโมง สามารถเก็บอุณหภูมิ นม น้ำ อาหารให้ลูกพร้อมรับประทานได้อยู่เสมอ โดยสามารถใช้ร่วมกับ เจลเก็บความเย็น (Cool Pack) เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการรักษาอุณหภูมิได้มากขึ้น
- สายกระเป๋าสามารถปรับใช้ได้ 2 แบบ สะพายข้างก็ได้ สะพายหลังก็ได้ ใช้งานได้สะดวก

3. กระเป๋าผ้าอ้อม RENOLUX รุ่น EVASION
กระเป๋าผ้าอ้อมใบใหญ่รุ่น EVASION จาก RENOLUX จัดระเบียบง่าย มาพร้อมอุปกรณ์เดินทางครบครัน 10 ชิ้น ในใบเดียว ให้ทุกการเดินทางของคุณแม่ง่ายกว่าที่เคย คุณแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยที่รองแบบพกพา ซักทำความสะอาดได้ มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sophie la Girafe และ Alpha
จุดเด่น
- กระเป๋าคุณแม่ที่เหมาะกับการเดินทาง มาพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด 10 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าจัดระเบียบ, กระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว, กระเป๋าจิ๋วใส่จุกนม, กระเป๋าเก็บอุณหภูมิสำหรับขวดนม และอาหารให้ลูก, กระเป๋าใส่อุปกรณ์อาบน้ำ
- ขึ้นเครื่องง่าย เพียงเสียบเข้ากับกระเป๋าลาก พร้อมเดินทางทันที
- Mix & Match ง่าย เข้ากับทุกลุค ทุกไลฟสไตล์

4. MAMAS CHOICE กระเป๋าเก็บความเย็น สี Navy
แค่มี Mama’s Choice Sling Cooler Bag คุณแม่ก็มั่นใจได้ตลอดการเดินทาง นี่คือกระเป๋าใส่ของที่สามารถเก็บอุณหภูมิ เก็บน้ำนมแม่ได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง ความจุเยอะ สายสะพายยาว มีหูจับ สามารถหิ้วติดตัวได้สะดวกแม้ยามอุ้มลูก
จุดเด่น
- ผ้าด้านนอกเป็นไนลอน ผ้าด้านในเป็นโพลีเอสเตอร์กันน้ำได้ 100% เก็บริมด้วยหนัง เพิ่มความชิคๆ เก๋ๆ ให้คุณแม่เวลาสะพาย
- ความจุเยอะ มีช่องเก็บอุณหภูมิ สามารถจุขวดนมขนาด 150 มิลลิลิตร ได้ 9 ขวด ส่วนช่องธรรมดาสามารถใส่เครื่องปั๊มนมได้
- ด้านนอกมีช่องเสริมสำหรับเก็บทิชชู่เปียก ผ้าอ้อม หรืออุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงมีช่องเล็กสำหรับใส่บัตรหรือเงินสดโดยเฉพาะ ส่วนด้านในช่องธรรมดามีช่องตาข่ายสำหรับเก็บสายต่างๆ ของเครื่องปั๊มนม
กระเป๋าคุณแม่เป็นของจำเป็นที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของคุณแม่โดยเฉพาะ มีขนาดใหญ่ มีช่องเก็บของจุใจ ใช้วัสดุทนทาน น้ำหนักเบา มีฟังก์ชันพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกในการพกพาของใช้จำเป็นสำหรับทั้งคุณแม่และลูกได้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการกระเป๋ามัลติฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์กระเป๋าใส่ของลูก อยากได้คำแนะนำเป้อุ้มทารก ยี่ห้อไหนดี หรือสนใจสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้า หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เคยมีคนบอกว่า แต่งงานแล้วอย่าเพิ่งมีลูกนะ เดี๋ยวไม่มีเวลาได้ไปท่องเที่ยว เพราะถ้ามีลูกน้อยจะเดินทางแต่ครั้ง ต้องเตรียมสัมภาระของลูก 1 กระเป๋าใหญ่ ต้องรับมือกับลูกที่อาจร้องงอแง เพราะพักผ่อนไม่เต็มที่ ถึงเวลานอนแล้วไม่ได้นอน งอแงต้อให้อุ้มตลอดเวลา ก็คงเที่ยวไม่สนุก แล้วก็จะเข็ดไม่อยากไปไหนอีกเลย แต่รู้ไหมว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับลูกน้อยเลย เพราะเด็กในช่วงวัยนึง เป็นช่วงวัยที่ต้องการการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยส่งเสริมให้พัฒนาการของลูกน้อยเป็นไปอย่างดีเยี่ยม …แต่ถ้าไม่ได้พาลูกออกนอกบ้านเลย แล้วจะเรียนรู้ได้อย่างไรหล่ะ??? แต่สำหรับครอบครัวพ่อเพชรจ้า-แม่นิวเคลียร์ สามารถพาน้องไทก้าเที่ยวได้ทุกที่ได้อย่างคล่องตัว พาออกนอกบ้านตั้งแต่น้องยังเล็กๆอยู่เลยค่ะ ก็เพราะมีตัวช่วยอย่าง รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon เป็นรถเข็นเด็กที่เบาที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะเบาเพียง 3.6 kg. TRIP KOREA รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon กับทริปแรกของน้องไทก้า ในวัยประมาณ 6 เดือน เดินทางไปไกลถึงแดนกิมจิ ประเทศเกาหลี ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 3.6 kg. ช่วยให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้อย่างสบาย รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon ปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง ช่วยให้พ่อเพชรจ้าดูแลน้องไทก้าได้อย่างใกล้ชิด แบบ face to face […]
หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids
มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndromeสำหรับพ่อแม่คนไทยอาจไม่คุ้นหูกับโรคนี้ แต่ในต่างประเทศโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับคุณแม่มือใหม่ มิหนำซ้ำความรุนแรงยังอันตรายถึงชีวิตของลูกน้อย โรค Shaken Baby Syndrome คือโรคที่มักพบในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เกิดจากการที่พ่อแม่จับลูกเขย่าแรงๆ อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้น แรงเขย่าจะทำให้เนื้อสมองกระแทกกับกะโหลกศีรษะ จนสมองได้รับการกระทบกระเทือนและมีเลือดออก เพราะเส้นเลือดในสมองของเด็กเล็กๆยังไม่แข็งแรง โอกาสที่มีการฉีกขาดจึงมีมากกว่าผู้ใหญ่ สาเหตุที่ทำให้ทารกเป็น Shaken Baby Syndrome จนทำให้พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเพราะการเขย่ารุนแรงจนมีภาวะเสี่ยงเป็นโรค Shaken Baby Syndrome นี้ มักจะไม่ทิ้งร่องรอยที่ร่างกายภายนอก ทารกจึงไม่ได้รับการรักษา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้ สติปัญญา อาจเกิดอาการเป็นลมชัก ตาบอด หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วิธีสังเกตอาการภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome– อาการอาเจียน หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจดูไม่รุนแรง คล้ายภาวะปวดท้อง ช่วง 3 เดือนแรก(Baby Colic) เมื่อพาลูกน้อยไปพบแพทย์ ต้องบอกด้วยว่าเด็กโดนเขย่าอย่างรุนแรง หากเกิดภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome […]
โดยปกติแล้วคุณพ่อคุณแม่ที่ซื้อคาร์ซีท รถเข็นเด็กไป จะไม่ค่อยได้คำนึงถึงว่าใช้งานไปนานเท่าไหร่แล้ว แล้วเมื่อไหร่ถึงจะต้องซักทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค คาร์ซีท รถเข็นเด็ก จนกระทั้งเกิดความสกปรกขึ้น เช่น ฝุ่นควัน นม อาหาร หรือขนมต่างๆ หกใส่เบาะ คราบน้ำลาย คราบอาเจียน ที่ไม่สามารถเช็ดออกได้ เป็นคราบสกปรกเห็นได้ชัด ถึงจะทำความสะอาด แต่รู้ไหมว่ายิ่งทิ้งคราบแบบนั้นไว้นานเท่าไหร่ พวกเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่เกิดขึ้นจากการหมักหม่น ก็จะเกิดการสะสมมากขึ้น ส่งผลร้ายต่อเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีความบอบบาง แพ้ง่าย ทำให้เกิดโรคต่างๆได้ แนะนำการซักทำความสะอาดคาร์ซีท รถเข็นเด็ก เพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น ควรซักทำความสะอาดทุกๆ 3-6 เดือน ตามการใช้งาน เพื่อช่วยให้คาร์ซีท รถเข็นเด็ก ของลูกสะอาดพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย สำหรับการซักทำความสะอาด ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งซักทำความสะอาดได้จากร้านที่ซื้อสินค้ามา เช่น ร้าน BabyGift ที่รับบริการถึง 3 สาขา ใกล้บ้าน แต่ในช่วงวิกฤตโควิดแบบนี้ ทางเราจึงมีเทคนิคการซักทำความสะอาดด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ วิธีทำความสะอาด คาร์ซีท รถเข็นเด็ก แยกการทำความสะอาดออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือผ้าหุ้มเบาะ […]
เมื่อต้องเดินทางหรือท่องเที่ยวพร้อมกับลูกวัยเบบี๋ อาจทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านกังวลใจในการ พาลูกขึ้นเครื่อง ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพอนามัยความปลอดภัย ลูกน้อยจะเดินทางไหวไหม? ต้องเตรียมของใช้อะไรไปบ้าง? ลูกเดินทางได้อายุเท่าไร? มีอะไรที่เอาขึ้นเครื่องบินไปได้หรือไม่ได้บ้าง? จะนั่งตรงไหนให้ปลอดภัยเลี้ยงลูกได้สะดวก? ลูกหิวหรือร้องงอแงจะทำอย่างไรได้บ้างนะ? ทุกเรื่องที่คุณแม่กังวลใจจัดการได้ไม่ยาก แค่เพียงทำตามข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ค่ะ 4 เรื่องต้องรู้ก่อน พาลูกขึ้นเครื่องบิน เมื่อคุณแม่รู้ว่าจะต้องเพินทางพร้อมลูกวัยเบบี๋ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาข้อมูล สอบถามกฎและรายละเอียดจากสายการบิน และวางแผนการเดินทางและอุปกรณ์ของใช้ให้ครบถ้วน อาทิ » หาข้อมูลก่อนเดินทาง ตรวจสอบกับสายการบิน ว่าอายุเด็กทารกที่เดินทางได้คือเท่าไร เพราะแต่ละสายการบินอาจมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งตามความจริงและพัฒนาการของเบบี๋แล้ว ควรให้ลูกอายุประมาณ 3-4 เดือนขึ้นไปจึงเดินทางได้เพื่อสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัย แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินได้ โดยบางสายการบินเด็กทารกที่เดินทางได้ต้องอายุไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือบางสายการบินอาจให้ทารกอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป หรืออาจอนุญาตให้อายุน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ สอบถามหาข้อมูลเรื่องการจองตั๋ว การเลือกที่นั่ง และค่าโดยสารสำหรับเด็กเล็ก แจ้งสายการบินล่วงหน้า สอบถามเรื่องเอกสารที่ต้องใช้สำหรับเด็ก ศึกษาข้อบังคับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเครื่องบิน สอบถามหรือหาข้อมูลข้อกำหนดต่างๆ ในการขึ้นเครื่องบิน ว่าสามารถนำอุปกรณ์ของใช้อะไรบ้าง ที่ขึ้นเครื่องบินเพื่อดูแลลูกทารกระหว่างการเดินทางได้ เช่น » เตรียมพร้อมอุปกรณ์ของใช้ในการเดินทางให้ลูกทารก รถเข็นเด็ก […]
การเตรียมตัวสำหรับเด็กแรกเกิดนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีท เป้อุ้มเด็ก รถเข็นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของใช้ประจำตัวลูก ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เตียงนอนเด็กแรกเกิดซึ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยมาก ๆ ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าควรมีเตียงนอนแยกจากเตียงพ่อแม่ โดยสามารถตั้งไว้ข้างๆ เตียงของพ่อแม่ได้ แต่ไม่ควรอุ้มทารกมานอนเตียงเดียวกับเรา เพื่อป้องกันการนอนทับลูกขณะหลับ ทั้งยังช่วยป้องกันลูกตื่นเวลาที่เราเผลอพลิกตัว ทำให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เตียงนอนสำหรับเด็กมีกี่แบบ จะเลือกอย่างไรดี มียี่ห้อไหนน่าใช้บ้าง BabyGift มีข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ เตียงนอนเด็กแรกเกิดจำเป็นหรือไม่ นอนกับพ่อแม่ได้หรือเปล่า ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจเกิดความสัยขึ้นมาว่า เตียงนอนเด็กแรกเกิดนั้นมีความจำเป็นหรือไม่ สามารถให้ลูกนอนเตียงเดียวกับเราได้หรือเปล่า ? ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กทารกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับลูก ข้อมูลจาก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวไว้ว่า เด็กมีโอกาสเสียชีวิตจากการถูกทับโดยพ่อแม่จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต เช่น ในคุณพ่อคุณแม่บางคนที่หลับลึก นอนหลับสนิทมาก หรือรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้หลับลึก เช่น ยาแก้หวัด หรือยาชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้หลับสนิทก็อาจเผลอพลิกตัวนอนทับลูกโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ลูกขาดอากาศหายใจได้ หรือผ้าห่มของผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักอาจไปคลุมศีรษะเด็ก ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือมีโอกาสที่ลูกจะถูกหมอนทับหน้าทำให้ขาดอากาศหายใจได้เช่นกัน แม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่นอนดิ้นและอาจเบียดลูกตกเตียงได้ ดังนั้นแล้ว เตียงนอนเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะที่แยกที่นอนลูกเป็นสัดส่วนจึงสำคัญและจำเป็นมาก ๆ […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.