กระเป๋าคุณแม่ จำเป็นแค่ไหน ? เลือกยังไง ? พร้อมยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำ !

ใครกำลังคิดว่ากระเป๋าใส่ของแม่ ไม่ได้จำเป็นอะไร ใช้อะไรก็ได้ ลองแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ พอเป็นคุณแม่แล้วก็มีของใช้มากมายต่างๆ ทั้งของเรา ของลูกเยอะแยะไปหมดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นการมีกระเป๋าใส่ของลูกก็จะทำให้คุณแม่มีความสะดวก หยิบของง่าย เป็นระเบียบมากขึ้น และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกระเป๋าของคุณแม่กันให้มากขึ้นค่ะ

จำเป็นแค่ไหน ? กระเป๋าคุณแม่ ต่างจากกระเป๋าปกติยังไง ?

กระเป๋าใส่ของคุณแม่มีความแตกต่างจากกระเป๋าทั่วไปในหลายๆ อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความจุ ซึ่งโดยมากมักมีขนาดใหญ่ และมีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อบรรจุของใช้สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรจุของที่จำเป็นต่อการดูแลลูกได้อย่างครบครัน เช่น มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้นค่ะ แล้วเราจะเลือกกระเป๋าใส่ของลูกยังไงให้เหมาะกับเรา ใช้ได้นาน มาดูรายละเอียดกันต่อค่ะ

เลือก กระเป๋าคุณแม่ ยังไงดี ?

การเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับตัวคุณแม่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน คุณแม่จึงควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการใช้งาน เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันค่ะ

1. ขนาด และความจุ : ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงมีช่องเก็บของเพียงพอสำหรับใส่ของใช้ของคุณแม่และลูกของเรา

2. น้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา และความปลอดภัย : ให้เลือกวัสดุที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา และมีสายสะพายที่นุ่ม และปรับความยาวได้ เพื่อสะดวกต่อการสะพายและถือหิ้ว มีด้ามจับแข็งแรง หูหิ้วไม่หลุด มีมาตรฐาน

3. ฟังก์ชันการใช้งาน : มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้น มีช่องแยกเฉพาะสำหรับของเปียก-แห้ง หรือของสะอาด-ใช้แล้ว

4. วัสดุและสีสัน : เลือกวัสดุที่ทนทาน กันน้ำ และง่ายต่อการทำความสะอาด สีสันน่ารัก สดใส เหมาะสำหรับคุณแม่

5. แบรนด์และราคา : เลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพดี น่าเชื่อถือ และควรคำนึงถึงงบประมาณของเรา และความคุ้มค่าด้วยค่ะ

BabyGift แนะนำกระเป๋าคุณแม่คุณภาพดีน่าใช้

1. กระเป๋าแม่ Baby on Board – PRINCE & PRINCESS

Baby on Board ของ PRINCE & PRINCESS เป็นกระเป๋าใส่ของคุณแม่ ดีไซน์สวยหรูจากประเทศฝรั่งเศส มีน้ำหนักเบาเพียง 500 กรัมเท่านั้น ให้คุณแม่หิ้วได้ สะพายได้อย่างคล่องตัว ช่องกระเป๋าเปิดได้กว้าง หยิบของได้ง่าย ใส่ของได้ครบ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 10 กิโลกรัม กันน้ำได้ ทำความสะอาดง่าย มีช่องเก็บของเยอะ มีซิป 2 ทิศทาง 

จุดเด่น 

  • กระเป๋าคุณแม่ที่มีถึง 9 ชิ้น ในหนึ่งเดียว สายสะพายยาว ปรับระดับได้ มีจุกยางรองที่พื้นกระเป๋า ป้องกันการลื่น มีสายคล้องสำหรับติดรถเข็นเด็ก
  • มีส่วน Cooler Lunch Bag ตัวกระเป๋าสามารถเก็บอุณหภูมิร้อนได้ 6 ชั่วโมง และเก็บอุณหภูมิเย็นได้ 4 ชั่วโมง คงอุณหภูมิให้พร้อมรับประทานได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น นม น้ำ หรืออาหาร และสามารถแยกส่วนเก็บอุณหภูมิออกจากกระเป๋าใบใหญ่เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก 
  • มี Magic Tape ยึดตัวกระเป๋าให้ตั้งตรงได้ ป้องกันการหกเลอะเทอะ หยิบถุงนมได้สะดวกมากขึ้น
  • มี Zipper Pouch Case กระเป๋าซิปแยก ที่สามารถเก็บของใช้คุณแม่แยกจากของลูกได้ และมีกระเป๋าใบเล็กแยกไว้สามารถเก็บจุกนมหลอกได้อีกด้วย
  • มี Changing Pad แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม ปราศจากสารตะกั่ว มีถุงเก็บผ้าเปียกเพื่อแยกออกจากส่วนแห้ง

2. กระเป๋าปั๊มนม Baby on Board รุ่น Pump Bag – PRINCE & PRINCESS

คล่องตัวทุกการเดินทางด้วยกระเป๋าคุณแม่ Baby on Board จาก PRINCE & PRINCESS รุ่น Pump Bag ตัวกระเป๋าแบ่งเป็น 2 ชั้น ด้านบนใส่เครื่องปั๊มนม (กดดูยี่ห้อเครื่องปั๊มนมที่ BabyGift แนะนำเพิ่มเติมได้อีกในเว็บของเรานะคะ) ​และด้านล่างใส่สัมภาระอื่นๆ ได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ของคุณแม่ และลูก วัสดุทำจากโพลีเอสเตอร์ กันน้ำได้ ทำความสะอาดง่าย น้ำหนักเบาเพียง 370 กรัมเท่านั้น มีให้เลือก 2 สี ชมพู และดำ

จุดเด่น

  • 2 Ways Zipper หยิบของใช้งานได้สะดวก ซิปรูดได้ 2 ทิศทาง ปากกระเป๋าเปิดกว้างง่ายต่อการหยิบของ มาพร้อมหมุดรองก้นกระเป๋า ช่วยป้องกันการเลอะสิ่งสกปรกเมื่อวางไว้นอกบ้าน
  • กระเป๋าเก็บอุณหภูมิร้อน เย็นได้ถึง 4 ชั่วโมง สามารถเก็บอุณหภูมิ นม น้ำ อาหารให้ลูกพร้อมรับประทานได้อยู่เสมอ โดยสามารถใช้ร่วมกับ เจลเก็บความเย็น (Cool Pack) เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการรักษาอุณหภูมิได้มากขึ้น
  • สายกระเป๋าสามารถปรับใช้ได้ 2 แบบ สะพายข้างก็ได้ สะพายหลังก็ได้ ใช้งานได้สะดวก

3. กระเป๋าผ้าอ้อม RENOLUX รุ่น EVASION

กระเป๋าผ้าอ้อมใบใหญ่รุ่น EVASION จาก RENOLUX  จัดระเบียบง่าย มาพร้อมอุปกรณ์เดินทางครบครัน 10 ชิ้น ในใบเดียว ให้ทุกการเดินทางของคุณแม่ง่ายกว่าที่เคย คุณแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยที่รองแบบพกพา ซักทำความสะอาดได้ มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sophie la Girafe และ Alpha

จุดเด่น

  • กระเป๋าคุณแม่ที่เหมาะกับการเดินทาง มาพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด 10 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าจัดระเบียบ, กระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว, กระเป๋าจิ๋วใส่จุกนม, กระเป๋าเก็บอุณหภูมิสำหรับขวดนม และอาหารให้ลูก, กระเป๋าใส่อุปกรณ์อาบน้ำ 
  • ขึ้นเครื่องง่าย เพียงเสียบเข้ากับกระเป๋าลาก พร้อมเดินทางทันที
  • Mix & Match ง่าย เข้ากับทุกลุค ทุกไลฟสไตล์ 

4. MAMAS CHOICE กระเป๋าเก็บความเย็น สี Navy

แค่มี Mama’s Choice Sling Cooler Bag คุณแม่ก็มั่นใจได้ตลอดการเดินทาง นี่คือกระเป๋าใส่ของที่สามารถเก็บอุณหภูมิ เก็บน้ำนมแม่ได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง ความจุเยอะ สายสะพายยาว มีหูจับ สามารถหิ้วติดตัวได้สะดวกแม้ยามอุ้มลูก

จุดเด่น

  • ผ้าด้านนอกเป็นไนลอน ผ้าด้านในเป็นโพลีเอสเตอร์กันน้ำได้ 100% เก็บริมด้วยหนัง เพิ่มความชิคๆ เก๋ๆ ให้คุณแม่เวลาสะพาย
  • ความจุเยอะ มีช่องเก็บอุณหภูมิ สามารถจุขวดนมขนาด 150 มิลลิลิตร ได้ 9 ขวด ส่วนช่องธรรมดาสามารถใส่เครื่องปั๊มนมได้
  • ด้านนอกมีช่องเสริมสำหรับเก็บทิชชู่เปียก ผ้าอ้อม หรืออุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงมีช่องเล็กสำหรับใส่บัตรหรือเงินสดโดยเฉพาะ ส่วนด้านในช่องธรรมดามีช่องตาข่ายสำหรับเก็บสายต่างๆ ของเครื่องปั๊มนม

กระเป๋าคุณแม่เป็นของจำเป็นที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของคุณแม่โดยเฉพาะ มีขนาดใหญ่ มีช่องเก็บของจุใจ ใช้วัสดุทนทาน น้ำหนักเบา มีฟังก์ชันพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกในการพกพาของใช้จำเป็นสำหรับทั้งคุณแม่และลูกได้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการกระเป๋ามัลติฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์กระเป๋าใส่ของลูก อยากได้คำแนะนำเป้อุ้มทารก ยี่ห้อไหนดี หรือสนใจสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้า หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

แน่นอนว่าคุณแม่ทุกบ้านจะต้องตื่นเต้นกับการทานข้าวมื้อแรกของลูก แต่นอกจากความตื่นเต้นแล้ว การฝึกลูกน้อยให้มีวินัยในการรับประทานอาหารก็ถือเป็นงานหินชิ้นนึงเลยล่ะค่ะ สำหรับคุณแม่ๆ บ้านไหนที่กำลังหาวิธีฝึกลูกน้อยให้คุ้นชินกับการทานข้าวอยู่ล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าเรามีวิธีดีๆ อะไรมาฝากกันบ้าง ฝึกลูกหม่ำข้าวด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องบังคับ 1. นั่งโต๊ะและเริ่มทานข้าวพร้อมกัน  อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กมักจะชอบเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ นั่นแหละค่ะ เราลองเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวช่วยกันดีกว่า เพราะงั้นเวลาเราทานข้าว เราก็ควรให้ลูกน้อยของเรานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยเนอะ ให้เค้าเห็นว่าทุกคนมีความสุขในการรับประทานอาหาร เห็นเวลาเรานำช้อนเข้าปาก ให้เค้ารู้ว่าการทานข้าวเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำ และเค้าก็ต้องทำด้วยเหมือนกัน แม้ตอนแรกอาจจะมีร้องงอแงบ้าง แต่ก็อย่าไปยอมแพ้ค่ะ ทำบ่อยๆ ทำให้เป็นกิจวัตร เดี๋ยวเค้าก็จะชินไปเอง 2. ทานอาหารให้เป็นเวลา  คุณแม่บางบ้านอาจจะยุ่งหัวหมุนกับทั้งงานประจำและงานบ้านจนเผลอไม่ได้ทานข้าว อ๊ะๆ ถ้าคุณแม่กำลังเป็น Working Woman แบบนี้อยู่ เราขอให้คุณแม่วางงานซักนิด แล้วมาทานข้าวกับลูกน้อยเมื่อถึงเวลา เพราะเราควรฝึกให้เค้าคุ้นเคยกับเวลาที่ต้องทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น คุณแม่ก็ควรจะให้เค้าทานเวลาเดิมๆ นอกจากจะสร้างนิสัยให้เค้าแล้ว ยังเป็นการปรับระบบย่อยอาหารภายในร่างกายของลูกน้อยอีกด้วยน้า ถ้าเค้าคุ้นเคยกับเวลาแล้ว ทีนี้ล่ะ ไม่ต้องเรียกเลย พอถึงเวลาเค้าก็จะหิวขึ้นมาเอง 3. เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย  เด็กหลายๆ คนเบื่อข้าว อมข้าว เพราะอาจจะเป็นเรื่องของรสชาติที่ไม่ถูกปาก หรือเมนูอาจจะซ้ำซากจำเจจนเกินไป การเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลายเนี่ย นอกจากจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังทำให้เค้าเพลิดเพลินไปกับเมนูใหม่ๆ ด้วยนะ […]

คุณอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเชิญให้เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่บุคลลากรทางการศึกษา จำนวน 70 ท่าน ภายใต้ชื่อ “ความจำเป็นของคาร์ซีทและการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างไรให้ถูกวิธี” ณ โรงเรียนเลิศหล้า ทั้งนี้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างถูกวิธี เพื่อให้บุคลลากรทางการศึกษาได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นของคาร์ซีท และสามารถนำมาปรับใช้กับนักเรียนในโรงเรียนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการบังคับใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้

แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

หลายวันมานี้เราท่องโลกอินเทอร์เน็ตหนักมาก เพราะอยากรู้ว่าแม่ยุคใหม่เขาชอบอะไร ไอเทมไหนกำลังเป็นที่พูดถึงในกลุ่มแม่ๆ มากที่สุด จากการส่องพบว่าท็อปปิคที่ถูกพูดถึงมาก แต่ยังมีข้อมูลน้อยคือ “รถเข็นเด็ก” ไอเทมใหม่สำหรับแม่ลูกเล็กในยุคนี้นั่นเอง เราจึงไม่รอช้ารีบหาข้อมูลว่าคุณแม่ต้องการรถเข็นแบบไหนและพอจะสรุปได้ว่า คุณแม่ส่วนใหญ่ต้องการรถเข็นเด็กที่น้ำหนักเบา พับเก็บมือเดียวได้ เพราะส่วนมากไปกันสองคนแม่ลูก ต้องการระบบล้อที่ดี เข็นลื่นไหลไม่ต้องออกแรงมากส่วนใหญ่จะเข็นในสวนสาธารณะและทางเท้าซึ่งพื้นค่อนข้างขรุขระ สามารถปรับเอนได้เพราะลูกมักหลับตอนพาเที่ยว  วันนี้เลยไปคว้า รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น LUXUNA CTS มารีวิวเผื่อคุณพ่อคุณแม่จะเก็บไว้เป็นตัวเลือกเวลาต้องออกไปด้านนอกกับเจ้าตัวเล็กเพียงลำพัง รีวิวรถเข็นเด็ก Aprica” รุ่น LUXUNA CTS เห็นรูปลักษณ์ทะมัดทะแมงอย่างนี้แต่น้ำหนักเบานะจ๊ะ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานมากๆ มาสำรวจสิว่าอะไรเป็นอะไร พอใช้งานจริงจะได้ไม่ยืนงง เริ่มต้นที่ด้ามจับเลยล่ะกัน เราว่าตอบโจทย์มากนะ เพราะสามารถปรับที่จับให้อยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังลูกก็ได้ คุณแม่ที่กังวลว่าจะไม่มีปฎิสัมพันธ์กับลูกสบายใจเรื่องนี้ได้เลยและเลิศได้อีกกับล้อแบบ Auto 4 wheels ที่จะล๊อคล้อและคลายล๊อคล้อแบบอัตโนมัติในเวลาเราเปลี่ยนที่จับให้มาอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้ ถ้าใครเคยเข็นลูกแบบแม่อยู่ด้านหน้าจะนึกออกเลยว่าเวลาเราเข็นแบบนี้แล้วถ้าล้อหลังหมุนไม่ได้ พอจะเลี้ยวซ้ายที เลี้ยวขวาทีก็ต้องตีวงอ้อมกว้างไปอีก บังคับทิศทางก็ยากมาก มาเจอล้อแบบ Auto 4 Wheels สบายเลยขนาดเราลองเข็นในที่แคบ ๆ ก็ยังเข็นง่ายเรียกว่าโดนใจสุดๆ การปรับก้านเข็นไปด้านหลัง ช่วยให้เข็นได้ง่าย ปรับเอนนอนได้ 170 องศา เมื่อปรับก้านเข็นมาด้านหน้า ระบบล้อจะถูกปรับเปลี่ยนการล๊อคได้แบบอัตโนมัติ นอกจากเรื่องปรับล้อหมุนแบบ 360 องศา Auto 4 Wheels เรื่องรองรับแรงกระแทกที่ล้อก็โอเคเลย […]

BabyGift Grand Opening ฉลองเปิดสาขาใหม่ “ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์” สาขาที่ 7 อย่างเป็นทางการตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก BabyGift พร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณพ่อ-คุณแม่และลูกน้อยในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ” The Best Gift for your Baby ” ​ ขอขอบคุณ แบรนด์ Partner ผู้บริหาร และคณะกรรมการทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่มาร่วมงาน และคอยสนับสนุนเบบี้กิ๊ฟอย่างดีตลอดมาค่ะ Attitude Mom Thailand : เครื่องปั๊มนม 5 โหมด อัจฉริยะ กรวยซิลิโคนแท้ Spectra Thailand เครื่องปั้มนม Iflin baby PUR Thailand Mellow for Kids ผ้ารองกันน้ำ100% เมลโล่ Bambies Thailand Baby Natura Beaba Thailand Luxury Baby […]

เพราะคุณค่าจากน้ำนมแม่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์สารอาหารที่มีครบถ้วน เพื่อพัฒนาลูกน้อยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความฉลาด การเติบโตแข็งแรง อารมณ์ดีมีความสุข ขับถ่ายง่าย แถมนมแม่ยังมีสารสร้างภูมิคุ้มกันมากมาย ทำให้ลูกน้อยไม่เจ็บป่วยง่ายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณแม่ทุกท่านจึงปรารถนาจะให้ลูกน้อยได้รับคุณค่าอันมหัศจรรย์จากน้ำนมแม่อย่างเต็มที่ไปจนโต หรือให้นมลูกได้นานที่สุด  โดยคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ นอกจากจะให้นมแม่จากเต้าโดยตรงกับลูกน้อยแล้ว เชื่อว่าเกือบทุกคน โดยเฉพาะคุณแม่เวิร์กกิ้งมัม จะต้องทำสต๊อกน้ำนมแม่เก็บแช่แข็งหรือแช่เย็นไว้ เพื่อให้ลูกรักยังได้กินนมแม่ตลอดเวลา แม้จะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่มีคุณแม่มือใหม่หลายท่านที่ยังไม่มั่นใจหรือกังวล กับการละลายนมแม่ที่แช่แข็งมาใช้ เพราะไม่แน่ใจว่าวิธีการไหนจะสะดวก สะอาด ปลอดภัย แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และทำแบบไหนจะไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่  ดังนั้นอยากรู้ว่าแต่ละ วิธีละลายน้ำนมแม่ แตกต่างกันอย่างไรไปดูกันค่ะ ก่อนอื่น ให้เปลี่ยนช่องแช่ เพื่อละลายนมแม่ก่อน หากคุณแม่เก็บน้ำนมแม่ไว้ในช่องแช่แข็ง จำเป็นต้องนำนมแม่เปลี่ยนมาแช่ที่ช่องแช่เย็นธรรมดาด้านล่างก่อนประมาณ 1 วันหรือ 1 คืน เพื่อให้นมแม่ค่อยๆ ละลาย  ควรนำนมเก่าที่แช่แข็งไว้ตามวันเวลาที่เก็บสต๊อกไว้นานที่สุดก่อน  เพื่อไม่ให้นมเก่า เก็บไว้นานเกินไป  แล้วจึงทยอยนำนมใหม่มาใช้ไล่ตามเวลาไปเรื่อยๆ เมื่อนมแม่ละลายแล้ว  คุณแม่ควรแบ่งนมแม่จากถุงเก็บน้ำนมใส่ขวดนม แบ่งปริมาณที่ลูกกินเฉพาะมื้อนั้นๆ แล้วจึงนำมาอุ่นหรือละลายก่อนให้ลูกกิน   ซึ่งนมที่เหลือในถุงเก็บน้ำนมสามารถแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาให้ลูกกินให้หมดภายใน 2-3 วัน เท่านั้น  แต่ส่วนใหญ่คุณแม่มักจะนำมาอุ่นหรือละลายให้ลูกกินในมื้อถัดไปภายในวันเดียว หรือ 24 ชั่วโมง วิธีละลายน้ำนมแม่ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages