พาลูกขึ้นเครื่องบิน เตรียมอะไรบ้าง?

เมื่อต้องเดินทางหรือท่องเที่ยวพร้อมกับลูกวัยเบบี๋ อาจทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านกังวลใจในการ พาลูกขึ้นเครื่อง ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพอนามัยความปลอดภัย ลูกน้อยจะเดินทางไหวไหม? ต้องเตรียมของใช้อะไรไปบ้าง? ลูกเดินทางได้อายุเท่าไร? มีอะไรที่เอาขึ้นเครื่องบินไปได้หรือไม่ได้บ้าง? จะนั่งตรงไหนให้ปลอดภัยเลี้ยงลูกได้สะดวก? ลูกหิวหรือร้องงอแงจะทำอย่างไรได้บ้างนะ? ทุกเรื่องที่คุณแม่กังวลใจจัดการได้ไม่ยาก แค่เพียงทำตามข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ค่ะ
4 เรื่องต้องรู้ก่อน พาลูกขึ้นเครื่องบิน
เมื่อคุณแม่รู้ว่าจะต้องเพินทางพร้อมลูกวัยเบบี๋ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาข้อมูล สอบถามกฎและรายละเอียดจากสายการบิน และวางแผนการเดินทางและอุปกรณ์ของใช้ให้ครบถ้วน อาทิ
» หาข้อมูลก่อนเดินทาง

ตรวจสอบกับสายการบิน ว่าอายุเด็กทารกที่เดินทางได้คือเท่าไร
เพราะแต่ละสายการบินอาจมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งตามความจริงและพัฒนาการของเบบี๋แล้ว ควรให้ลูกอายุประมาณ 3-4 เดือนขึ้นไปจึงเดินทางได้เพื่อสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัย แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินได้ โดยบางสายการบินเด็กทารกที่เดินทางได้ต้องอายุไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือบางสายการบินอาจให้ทารกอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป หรืออาจอนุญาตให้อายุน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์
สอบถามหาข้อมูลเรื่องการจองตั๋ว การเลือกที่นั่ง และค่าโดยสารสำหรับเด็กเล็ก
- สอบถามข้อมูลการจองตั๋วเครื่องบินของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่การจองตั๋วให้ลูกคุณพ่อคุณแม่สามารถกดจองได้ แบบปกติ โดยจองตั๋วให้ตัวเองก่อนแล้วค่อยเลือกเพิ่มผู้โดยสารที่เดินทางด้วย อย่าลืมระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเด็กทารก
- สำหรับค่าโดยสารหากลูกน้อยยังเป็นเด็กทารกส่วนใหญ่จะอนุโลมให้นั่งตักคุณพ่อคุณแม่ในการเดินทางได้ สายการบินอาจจะเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แต่หากเด็กมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ก็มักจะเก็บค่าโดยสารอัตราปกติ เหมือนผู้ใหญ่ และจะต้องจองที่นั่งแยกให้ลูก แต่อย่างไรก็ตามหากต้องเดินทางทริที่ใช้เวลานาน เพื่อความสะดวกในการดูแลลูกทารกบนเครื่องบิน แนะนำให้จองที่นั่งแยกอีก 1 ที่นั่ง เพื่อจะได้มีพื้นที่ให้ลูกนอนหลับ คุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกนั่งตักตลอดเวลา หรือจะได้มีพื้นที่วางของ หยิบจับของใช้ส่วนตัวต่างๆ เข้าออกได้ง่ายยิ่งขึ้น (แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับที่นั่งแยกเพิ่มขึ้นด้วย)
- การเลือกที่นั่ง แนะนำให้เลือกที่นั่งติดกับทางเดิน เพื่อให้คุณแม่สะดวกในการดูแลลูกน้อย ลุกเดินหรือขอน้ำอุ่นน้ำร้อนกับพนักงานบริการบนเครื่องบินได้สะดวก จะหยิบจับสิ่งของหรืออุ้มลูก แขนขาจะได้ไม่ติดขัดหรือทำให้คนข้างๆ รู้สึกอึดอัดหรือรำคาญ และควรสอบถามสายการบินตอนจองตั๋ว เพื่อจะได้เลือกที่นั่งใกล้กับที่เปลี่ยนผ้าอ้อมที่บางสาบการบินมีติดตั้งเพื่อให้บริการไว้ หรือที่นั่งที่มีพื้นที่กว้างกว่าที่นั่งทั่วไป ก็จะได้เดินทางและดูแลลูกน้อยได้สะดวกขึ้น
แจ้งสายการบินล่วงหน้า สอบถามเรื่องเอกสารที่ต้องใช้สำหรับเด็ก
- เมื่อคุณพ่อคุณแม่จองตั๋วการเดินทาง ต้องอย่าลืมระบุว่ามีเด็กทารกเดินทางด้วย เพื่อที่ทางสายการบินจะได้รับทราบ และมีการเตรียมตัวเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณพ่อคุณแม่ในวันเดินทาง เพราะแม้ว่าจะมีสายการบินที่ไม่คิดค่าโดยสารเด็กทารก หรือจะให้ลูกนั่งตัก แต่การอุ้มลูกไปขึ้นเครื่องเลยดดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถือเป็นการไม่เหมาะสม สายการบินมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงการจองหรืออาจยกเลิกการเดินทางได้ ดังนั้นต้องแจ้งให้สายการบินทราบตอนที่จองตั๋วทันทีว่าเราจะมีเด็กทารกเดินทางไปด้วย
- สอบถามและจัดเตรียมเอกสารของลูกที่ใช้ในการเช็กอินขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากการเดินทางดยเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กหรือเด็กทารก พ่อแม่หรือผู้ปกครองจำเป็นจะต้องใช้ใบสูติบัตรฉบับจริง หรือพาสปอร์ตในการเช็คอินทุกครั้ง หรือผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุตั้งแต่ 7 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี ในวันเดินทาง จะใช้เอกสารได้ทั้งใบสูติบัตรฉบับจริง หรือบัตรประชาชนเด็ก หรือพาสปอร์ตในการเช็คอิน รวมถึงหากเดินทางไปต่างประเทศก็จะต้องมีทั้งสูติบัตรตัวจริง พาสปอร์ต และวีซ่าของประเทศปลายทางเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไปอีกด้วย
ศึกษาข้อบังคับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเครื่องบิน
สอบถามหรือหาข้อมูลข้อกำหนดต่างๆ ในการขึ้นเครื่องบิน ว่าสามารถนำอุปกรณ์ของใช้อะไรบ้าง ที่ขึ้นเครื่องบินเพื่อดูแลลูกทารกระหว่างการเดินทางได้ เช่น
- สายการบินห้ามนำนมหรืออาหารเหลวขึ้นเครื่องบินจำนวนเท่าไร อาหารหรือของใช้แบบไหนขึ้นเครื่องไม่ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องทิ้งไว้หน้า Gate เพราะตามกฏของสายการบิน ของเหลวหรือนมที่พกพาไปต้องไม่เกิน 100 ml. ต่อชิ้น คุณแม่จะได้เตรียมนมผงแบ่งไว้ แล้วขอน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจากสายการบินเพื่อมาชงนมให้ลูก
- เบาะนั่งของลูกบนเครื่องบิน สายการบินส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินลำใหญ่ จะมีเปลไว้อำนวยความสะดวกสำหรับเด็กทารก รวมทั้งมีที่นั่งคาร์ซีตให้สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 2 ขวบ และมีการเสียค่าโดยสารแบบผู้ใหญ่ ในขณะที่บางสายการบินผู้ปกครองจะต้องอุ้มเด็กทารกไว้ หรือบางสายการบินก็มีที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กต่ำกว่า 6 เดือนไว้บริการ ฉะนั้นหากคุณแม่ลองเช็กกับสายการบินไว้ล่วงหน้าก็จะทำให้ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์บางอย่างไปให้ยุ่งยาก
- เช็กโควตาน้ำหนัก สัมภาระ ที่โหลดหรือนำขึ้นเครื่องบินว่าสามารถนำไปได้แค่ไหน? เพื่อจะได้จัดเตรียมของใช้สำหรับลูกน้อยตัวเองให้เหมาะสมพอดี ไม่ต้องหอบของพะรุงระรังเดินในสนามบินหรือหิ้วขึ้นเครื่อง หรือมีสัมภาระน้ำหนักเกินจนต้องมายุ่งยากเสียเวลาและเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกในวันเดินทางจริง
» เตรียมพร้อมอุปกรณ์ของใช้ในการเดินทางให้ลูกทารก

รถเข็นเด็ก เลือกที่พับได้สะดวก ขนาดเล็กคล่องตัว
รถเข็นเด็กถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการเดินทางทุกเวลาและทุกสถานที่ เพื่อช่วยให้ลูกน้อยได้นั่งหรือนอนพักผ่อนในรถเข็นได้ เป็นอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงให้คุณพ่อคุณแม่สะดวก ไม่ต้องอุ้มลูกจนเมื่อยล้าตลอดเวลา ฉะนั้นแน่นอนว่าเมื่อต้องพาลูกเบบี๋เดินทางจะขาดรถเข็นเด็กไม่ได้ เพราะไม่มีใครจะอุ้มลูกเดินไปเดินมาได้ในตลอดทริป คุณพ่อคุณแม่จึงควรรถเข็นเด็ก ประจำติดบ้านไว้ ไม่ใช่แค่เวลามีทริปต้องไปเที่ยวที่ไหน แต่เพราะเราจะต้องใช้เสมอเวลาพาลูกไปนอกบ้านรวมถึงไปโรงพยาบาลเพื่อพาลูกไปหาหมอตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน
เลือกรถเข็นเด็กเล็กให้เหมาะกับการเดินทาง
คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกรถเข็นให้ลูกที่สามารถใช้ได้คุ้มค่าตั้งแต่แรกเกิด โดยควรเลือกซื้อรถเข็นที่มีคุณภาพ แข็งแรง สามารถพับได้มีขนาดเล็ก หรือหิ้วพกพาได้ง่าย เผื่อไว้สำหรับการเดินทาง เพื่อนำติดไปด้วยเวลาเดินทางและขึ้นเครื่องบินทุกที่ ซึ่งรถเข็นจะสามารถเช็คอินแล้วโหลดขึ้นเครื่องพร้อมกระเป๋าเดินทางของครอบครัวได้เลย แต่กรณีเราต้องใช้เข็นลูกน้อยในสยามบิน ก็สามารถใช้รถเข็นจนถึงที่หน้า Gate หรือประตูทางเข้าเครื่องบินได้ โดยที่เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องจะมีเจ้าหน้าที่ของสายการบินเอารถเข็นไปเก็บใต้ท้องเครื่องให้ และนำออกมาให้อีกครั้งเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
แต่ในเฉพาะบางสายการบิน มีการอนุญาตให้นำเรถเข็นเด็กแบบที่พับได้ มีขนาดและน้ำหนักเล็กไม่เกินตามที่กำหนด สามารถนำขึ้นเครื่องไปด้วยได้ ฉะนั้นหากเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่พับได้ง่ายมีขนาดเล็ก ก็อาจจะนำไปเก็บบนเคบินในเครื่องได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายเมื่อโหลใต้ท้องเครื่อง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว

เป้อุ้มเด็ก เลือกที่แข็งแรงปลอดภัย อุ้มลูกทั้งวันได้สบายๆ ไม่ปวดหลังปวดไหล่ ไม่ทำให้ลูกและคุณแม่อึดอัด
เป้อุ้มเด็กเป็นอุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงที่สำคัญอย่างหนึ่งในการเดินทาง เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้สะดวกและไม่ต้องใช้พื้นที่หรือหิ้วให้ยุ่งยากไม่คล่องตัวเหมือนรถเข็น เนื่องจากสำหรับบางครอบครัวการนำรถเข็นโหลดไปกับเครื่องบิน และนำติดตัวไปในการเดินทาง อาจยุ่งยากหรือมีสัมภาระมากเกินไป จึงไม่อยากจะพกพาไปด้วย หรือจะใช้เป้อุ้มเด็กสลับกับรถเข็นในการเดินทาง ก็จะช่วยให้ปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามสถานการณ์ในแต่ละสถานที่
ฉะนั้นคุณแม่จึงควรมองหาเป้อุ้มเด็กคุณภาพติดไว้ใช้ประจำบ้าน เพื่อจะได้เดินทางหรือทำสิ่งต่างๆ ไปพร้อมกับมีลุกน้อยติดตัวไว้อย่างมั่นใจ โดยควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่มีมาตรฐาน ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย ทนทานแข็งแรง มีเนื้อหาหรือผิวสัมผัสนุ่ม สวมใส่สบาย ไม่ระคายคืองผิวลูกน้อย

กระเป๋าสัมภาระลูก เลือกที่เก็บอุณหภูมิหรือความเย็นได้ มีขนาดกำลังดี พกพาสะดวก
คุณแม่ควรมีกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระของกินของใช้ให้ลูก ในแบบที่สามารถพกพาหรือสะพายขึ้นเครื่องบินได้สะดวก มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ชวดแบ่งนม ใส่ทิชชูเปียก ใส่ผ้าอ้อมและของใช้ลูกได้หลายช่อง ควรเป็นกระเป๋าที่มีขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป เปิดปิดสะดวกหยิบของใช้ได้ง่าย ยิ่งหากมีช่องหรือสามารถเก็บอุณหภูมิได้ ก็จะได้นำอาหารหรือเก็บของกินที่ต้องรักษาอุณหภูมิให้ลูกได้ไปพร้อมกัน เท่านี้ก็จะนำของใช้จำเป็นของลูกใส่ไปในกระเปาใบนี้ได้ทั้งหมด
อุปกรณ์การกินบนเครื่อง เลือกที่เก็บได้ถูกสุขอนามัย ไม่เลื่อนหลุดตกแตกง่าย พกพาสะดวก
แนะนำให้คุณแม่จัดเตรียมอุปกรณ์การกินบนเครื่องบินให้ลูกน้อยไว้ด้วย เช่น ช้อนตักอาหารแบบพับได้ มีกล่องเก็บ กล่องจานหรือชามอาหารแบบพกพาที่มีฝาปิด แบบที่ไม่แตกหักได้ ไม่เลื่อนหลุดจากมือหรือจากโต๊ะอาหารเวลาป้อนลูกทารก และควรเลือกอุปกรณ์การกินที่ไม่เกิดเสียงกระทบกันจนเกิดความรำคาญหรือมีเสียงดังหนวกหู กับผู้โดยสารคนอื่น
» เตรียมพร้อมเมื่อต้องเดินทาง
- พาลูกตรวจสุขภาพ ปรึกษาคุณหมอก่อนพาลูกเดินทาง เพื่อมั่นใจว่าลูกแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้
- ให้ลูกพักผ่อนเต็มที่มากๆ ก่อนเดินทาง โดนเฉพาะเมื่อต้องเดินไฟลต์ยาวๆ เพื่อลดอาการงอแงหงุดหงิด และไม่ทำให้ลูกรู้สึกเหนื่อยกับการเดินทาง เมื่อต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
- เตรียมของใช้จำเป็นให้ลูกน้อยครบถ้วน เช่น ของในกระเป๋าใบเล็กถือขึ้นเครื่องต้องมี ผ้าอ้อมไว้ให้เพียงพอ มีนมที่แบ่งไว้ มีอาหาร หรือขนมขบเคี้ยวใหลูก ทิชชู่เปียก ยาประจำตัว จุกนมหลอก และของเล่นหรือตุ๊กตาที่ลูกชอบ เพื่อแก้เบื่อ โดยให้ลูกเล่นได้แบบไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น
- คุณแม่ควรแต่งกายให้สะดวกกับการให้นมลูก และสะดวกกับการลุกนั่งเดินทาง หากมีเครื่องปั๊มนมก็นำไปด้วยได้ ส่วนลูกน้อยควรแต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ไม่ให้ลูกร้อนหรือหนาวเกินไป
- บอร์ดดิ้งหรือเข้าเครื่องบินเป็นคนท้ายๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องยืนรอผู้โดยสารคนอื่นจัดเก็บของ หรือให้ลูกต้องนั่งรอนานๆ ก่อนเครื่องบินขึ้นจนงอแง แต่หากสายการบินประกาศให้ผู้ที่เดินทางกับเด็กเล็กสามารถเข้าเครื่องบินก่อนได้ ก็ควรเข้าไปก่อนได้เลย
- ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมที่โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมที่มีให้บริการในห้องน้ำ หรือตำแหน่งบริเวณที่สายการบินจัดไว้ให้เสมอ
- ช่วงเวลาเครื่องบินขึ้น-ลง หรือปรับระดับการบิน จะมีเสียงดังและความกดอากาศ ควรให้ลูกดูดนม น้ำ น้ำผลไม้ หรือดูดจุกนมหลอก เพื่อลดปัญหาความกดอากาศและแรงดันที่อาจทำให้ลูกปวดหู กลัวหรือร้องไห้งอแง
บ้านไหนที่มีแพลน พาลูกขึ้นเครื่องบิน เร็วๆนี้ ก็หวังว่าจะได้นำทริคที่ BabyGift นำมาฝากไปใช้ไม่มากก็น้อยนะคะ และแม่ๆที่กำลังหาตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็นเด็ก เป้อุ้ม กระเป๋าสัมภาระต่างๆ สามารถสัมผัสสินค้าตัวจริงได้ที่ BabyGift ทุกสาขาใกล้บ้านได้เลยค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
การเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณทำไมถึงต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยจึงจำเป็นต่อคุณและลูกน้อยล่ะ? หลายประเทศได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของคาร์ซีท carseat สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบ เนื่องจากคุณจะต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจร และหากคุณเดินทางพร้อมกับลูกน้อย โดยที่คุณจะต้องอุ้มลูกไว้ที่ตัก ก็อาจจะมีโอกาสที่คุณไม่สามารถที่จะอุ้มลูกได้อย่างมั่นคงและเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกของคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสูงค่ะ ดังนั้นการมีคาร์ซีท ที่ปลอดภัยในรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ ทั้งนี้พึงระวังไว้ว่าการใช้คาร์ชีทที่ไม่ถูกต้อง อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่เด็กมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณควรต้องเลือกใช้คาร์ซีท carseat ให้ถูกต้องพร้อมกับศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยนะค่ะ หากไม่มีคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแล้ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จากสถิติได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบนั่งบนรถยนต์ที่ปราศจากคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยและประสบอุบัติเหตุ อัตราการเสียชีวิตจะมากกว่าการนั่งบนรถยนต์ที่ติดตั้งคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยถึง 4 เท่า***ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานคาร์ซีท carseat ไม่ถูกวิธี จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 โดยองค์การทางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ( Japan Automobile Federation :JAF) เกี่ยวกับการใช้งาน คาร์ซีท carseat พบว่า 32.7 % ของคาร์ซีท carseat ที่ใช้งานนั้นติดตั้งอย่างไม่แน่นหนา ขณะที่อีก 67.3 % นั้นถูกพบว่ายังใช้งานได้ไม่ถูกต้องนัก ไม่ว่าจะเป็นการรัดสะโพกที่หลวมเกินไป หรือ การใช้งานที่หัวเข็มขัดที่ใช้ยึดที่นั่งไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกใช้คาร์ซีท carseat ที่ถูกต้องแล้ว แต่หากการใช้งานไม่ถูกวิธีก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีทให้ถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคาร์ซีท คุณควรศึกษาข้อมูลว่า คาร์ซีท […]
คลอดก่อนกำหนด เกิดขึ้นได้ ถ้าไม่ทำตาม 5 ข้อนี้ ปกติแล้วคุณแม่จะอุ้มท้องลูกน้อยทั้งหมด 40 สัปดาห์ อันที่จริงส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครถึงหรอกนะคะ เพราะว่าคุณหมอจะอนุญาตให้คลอดได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 37 เป็นต้นไปแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นช่วงก่อนสัปดาห์ที่ 37 นี้ คุณแม่ก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ คอยระแวดระวังสัญญาณเตือน ถ้าพบก็รีบไปหาคุณหมอ อย่าชะล่าใจเลยนะคะ ส่วนในระหว่างนี้มาดูกันว่ามีอะไรที่คุณแม่จะสามารถเลี่ยงได้บ้างเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด 1. เซย์โนกับบุหรี่และแอลกอฮอล์กันดีกว่า แน่นอนว่าบุหรี่และแอลกอฮอล์ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับแม่ท้อง ก็ขนาดกับคนธรรมดายังไม่ดีเลยใช่มั้ยล่ะ เหตุผลนึงก็เพราะ ทั้งบุหรี่และแอลกอฮอล์มีสารที่จะไปยับยั้งหรือชะลอการเติบโตของลูกน้อยค่ะ นอกจากนี้คุณแม่ก็อย่าได้ไปอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่เลยเชียว เพราะสารนิโคตินในบุหรี่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้แม้คุณแม่จะไม่ใช่คนที่สูบก็ตาม อ่านมาถึงตรงนี้คุณแม่อาจจะเริ่มกังวล เมื่อตอนเย็นเดินผ่านคนสูบบุหรี่ ลูกจะเป็นอะไรมั้ยนะ? คุณแม่ทำจิตใจให้สบายค่ะ เราแอบไปถามคุณหมอมาให้แล้ว คุณหมอบอกว่าถ้าเจอก็ให้เดินหนี เจอผ่านๆ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าไปนั่งใกล้ๆ แถวนั้นเด็ดขาดเลยนะคะ 2. ขอแค่แม่อย่าเครียด เพราะความเครียดจะทำให้มดลูกขอคุณแม่บีบตัวค่ะ ซึ่งเอาจริงๆแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 24 เป็นต้นไป คุณแม่ก็จะรู้สึกถึงอาการที่มดลูกบีบตัวนี้ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่า อาการท้องแข็ง แต่ว่าอาการท้องแข็งเนี่ย ไม่ควรจะเกิดถี่ๆ ติดกัน ถ้าพูดเป็นตัวเลขก็คือ ไม่ควรถึง 6 ครั้งภายในหนึ่งชั่วโมง […]
ลดอาการแพ้ท้อง ตอนตั้งครรภ์ทำให้คุณแม่หลายคนคิดว่าการจะมีลูกซักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก อาการหลัก ๆ ก็เลยจะมีวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าหากคุณแม่มีอาการนี้แบบนี้อยู่ หรืออยากลดอาการแพ้ท้อง เราเลยมีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่มาช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องมาฝากกันค่ะ แพ้ท้อง เกิดจากอะไร? อาการแพ้ท้องเกิดจากฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ในร่างกายของคุณแม่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทางร่างกายและจิตใจ จนมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และอื่น ๆ 8 เคล็ดลับที่ช่วยลดอาการแพ้ท้อง 1. กลิ่นหอมสดชื่นเบา ๆ ช่วยได้ คุณแม่ที่ได้กลิ่นน้ำหอมฉุน กลิ่นเทียน กลิ่นธูป หรืออื่น ๆ แล้วมีอาการคลื่นไส้ ให้รีบออกมาจากตรงนั้นเลยค่ะ เพราะเรื่องกลิ่นก็มีผลกับอาการแพ้ท้อง คุณแม่ควรจะอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท หากลิ่นสดชื่นธรรมชาติ ไม่ฉุน ก็จะช่วยให้คุณแม่อาการดีขึ้น รู้สึกเวียนหัวน้อยลง แล้วก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้ด้วย 2. ดื่มน้ำลดอาการหน้ามืด อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของการอาเจียน การดื่มน้ำเปล่าอุณภูมิปกติหรือน้ำส้มคั้นสักแก้วก็จะช่วยให้คุณแม่สดชื่นขึ้นได้ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำด้วยค่ะ และที่สำคัญคุณแม่ต้องดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำด้วยนะคะ […]
การเตรียมตัวสำหรับเด็กแรกเกิดนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีท เป้อุ้มเด็ก รถเข็นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของใช้ประจำตัวลูก ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เตียงนอนเด็กแรกเกิดซึ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยมาก ๆ ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าควรมีเตียงนอนแยกจากเตียงพ่อแม่ โดยสามารถตั้งไว้ข้างๆ เตียงของพ่อแม่ได้ แต่ไม่ควรอุ้มทารกมานอนเตียงเดียวกับเรา เพื่อป้องกันการนอนทับลูกขณะหลับ ทั้งยังช่วยป้องกันลูกตื่นเวลาที่เราเผลอพลิกตัว ทำให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เตียงนอนสำหรับเด็กมีกี่แบบ จะเลือกอย่างไรดี มียี่ห้อไหนน่าใช้บ้าง BabyGift มีข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ เตียงนอนเด็กแรกเกิดจำเป็นหรือไม่ นอนกับพ่อแม่ได้หรือเปล่า ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจเกิดความสัยขึ้นมาว่า เตียงนอนเด็กแรกเกิดนั้นมีความจำเป็นหรือไม่ สามารถให้ลูกนอนเตียงเดียวกับเราได้หรือเปล่า ? ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กทารกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับลูก ข้อมูลจาก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวไว้ว่า เด็กมีโอกาสเสียชีวิตจากการถูกทับโดยพ่อแม่จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต เช่น ในคุณพ่อคุณแม่บางคนที่หลับลึก นอนหลับสนิทมาก หรือรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้หลับลึก เช่น ยาแก้หวัด หรือยาชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้หลับสนิทก็อาจเผลอพลิกตัวนอนทับลูกโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ลูกขาดอากาศหายใจได้ หรือผ้าห่มของผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักอาจไปคลุมศีรษะเด็ก ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือมีโอกาสที่ลูกจะถูกหมอนทับหน้าทำให้ขาดอากาศหายใจได้เช่นกัน แม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่นอนดิ้นและอาจเบียดลูกตกเตียงได้ ดังนั้นแล้ว เตียงนอนเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะที่แยกที่นอนลูกเป็นสัดส่วนจึงสำคัญและจำเป็นมาก ๆ […]
อุ่นนมแม่ น้ำนมแม่ สารอาหารที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อการเติบโตของลูกน้อย และสร้างภูมิคุ้มกันที่สำคัญให้กับลูกน้อย ในปัจจุบัน คุณแม่จึงมักนิยมให้ลูกได้ทานน้ำแม่มากขึ้น แต่ด้วยภาระที่คุณแม่ที่ไม่สะดวกต่อการให้น้ำนมลูกได้ตลอดเวลา จึงทำให้คุณแม่นิยมปั้มนมใส่ถุงสต๊อกนำไปแช่เย็นไว้อย่างดี และในเวลาที่ลูกหิวก็นำนมแม่ออกมาอุ่นให้กับลูกน้อยกิน ซึ่งวิธีนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณแม่ได้เป้นอย่างมากอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณตา คุณยาย ใครๆก็สามารถนำนมมาอุ่นแล้วก็ป้อนให้กับลูกน้อยได้ แต่ทุกคนรู้กันไหวว่า ถ้าอุ่นนมผิดวิธี จะทำให้น้ำนมแม่นั้นเสียคุณค่าทางอาหารไป วันนี้ทาง BABY GIFT EXPERT จึงจะมาแชร์วิธีการ การอุ่นนมที่ถูกวิธีให้กับทุกคนได้รู้กันค่ะ ก่อนอื่นที่จะไปรู้วิธีการการอุ่นนม เรามารู้จักกันก่อนว่าก่อนอุ่นนมที่ดี มีข้อห้ามหรือข้อแนะนำอะไรบ้าง วิธีการอุ่นนมแม่แบบทั่วไป อุ่นนมแม่ด้วยวิธีแบบทั่วไปนั้นใครๆก็สามารถทำได้ แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือ อุณหภูมิน้ำอาจจะไม่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา ต้องใช้ระยะเวลา มีความยุ่งยาก และหลายขั้นตอน ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ที่ไม่สะดวก หรือไม่มีเวลามาก อาจจะไม่เหมาะกับวิธีการนี้ และที่สำคัญยังไม่ทันต่อการใช้งาน เพราะบางครั้งลูกน้อยอาจจะหิวไม่เป็นเวลา หรือตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วร้องทานนม อุ่นนมแม่ […]
รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี หรือน้ำหนัก 2.5 – 15 kg เพื่อความสุขแบบ Double ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สบายกว่าช่วยให้การเดินทางสำหรับคุณแม่และลูกน้อยเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า Function 1 : ลดแรงสั่นสะเทือนแบบ Double ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกถึง 2 จุดระบบรองรับแรงกระแทกใต้ที่นั่ง และระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% Function 2 : ระบายอากาศแบบ Double ด้วยเบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้นเบาะรองนอน ถักทอด้วยเส้นใย Silky Air มีความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก Function 3 : ลดความอับชื้นแบบ Double ด้วยระบบ DoubleThermo Medical Sysem ช่วยระบายอากาศให้ความรู้สึกสบายตัวแผ่นฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง ลดความร้อนสะสมบริเวณหลัง และลดอุณหภูมิของร่างกายลูกน้อยในขณะหลับได้ดี Function […]






