คาร์ซีทหมุนได้ 7 รุ่นโดนใจแม่ ปี 2024

คาร์ซีท ( Car Seat ) หนึ่งในอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่พ่อแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญ ควรเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะในความเป็นจริง เราควรใช้คาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาล เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง นอกจากนี้ร่างกายของเด็กในช่วงแรกเกิดก็ยังมีความบอบบางจึงต้องใส่ใจและได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

คาร์ซีทก็มีหลากหลายแบบ หลายประเภท ( อ่านบทความประเภทของคาร์ซีท Click ) แต่วันนี้ที่อยากจะชวนพ่อแม่ทุกคนมาดูกันคือ คาร์ซีทแรกเกิดหมุนได้ 360 องศา ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในคาร์ซีที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งความปลอดภัย และมีความสะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก

4 เหตุผล ทำไมควรใช้คาร์ซีทหมุนได้

  1. ติดตั้งครั้งเดียวจบ ไม่ต้องติดตั้งใหม่ เพราะสามารถหมุนคาร์ซีท จากแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear-Facing) สำหรับเด็กแรกเกิด มาเป็นแบบหันหน้าออกไปหน้ารถ (Forward-Facing) สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป
  2. อุ้มลูกขึ้น-ลงรถได้สะดวกยิ่งขึ้น ป้องกันอันตรายจากศีรษะลูกกระแทกกับหลังคารถในขณะที่อุ้มลูกลงคาร์ซีทเข้ารถ
  3. สะดวกสบายสำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องปวดหลัง เพราะจะทำให้คุณแม่ไม่ต้องเอี้ยวตัว หรือก้มตัวลงไปเยอะในขณะที่พาลูกเข้าคาร์ซีท
  4. ช่วยฝึกให้ลูกนั่งคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น เพราะในกรณีที่ลูกตื่นหรือจังหวะรถหยุดติดไฟแดง คุณแม่ก็สามารถหันคาร์ซีทมานั่งเล่นกับลูก เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือให้นมได้อย่างสะดวก และทำใกล้ชิดกับลูกมากขึ้นขณะเดินทาง

คาร์ซีทหมุนได้ เลือกแบบไหนดี

  1. หมุนง่ายแค่ไหน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่อยากจะเน้นย้ำให้พ่อแม่ทุกคนตรวจสอบ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะควรคำนึงถึงการใช้งานจริง ว่าระบบการหมุนมีความซับซ้อน หลายขั้นตอนแค่ไหน และหมุนได้ง่ายแค่ไหน เพราะต่อให้คาร์ซีทหมุนได้แต่หมุนยาก ซับซ้อน ก็ไม่สะดวกต่อการใช้งานจริง พ่อแม่ทุกคนควรเลือกที่ใช้งานได้ง่ายจะดีที่สุด
  2. เบาะควรปรับได้ ควรดูว่าคาร์ซีทนั้นมีการปรับเอนหรือเพิ่มความสูง-ต่ำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเราต้องคอยปรับให้เข้ากับสรีระของลูกที่โตขึ้นทุกวัน และช่วงแรกเกิดเด็กต้องการการพักผ่อนมากที่สุด ซึ่งก็ควรปรับเอนได้มากที่สุดเท่าที่มากได้ หรือไม่ควรต่ำกว่า 135 องศา ที่อยู่ในช่วงองศาการนอนที่ปลอดภัยของเด็กแรกเกิด
  3. การระบายอากาศ อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีทหมุนได้หรือหมุนไม่ได้ เพราะถ้าหากใช้กับเด็กแรกเกิดแล้ว เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเด็กแรกเกิดร่างกายยังควบคุมอุณหภูมิไม่ไม่ดี ทารกจึงเหงื่ออกตามหลังและคอมากเป็นพิเศษ การระบายอากาศที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคาร์ซีทแรกเกิด
  4. การติดตั้ง ควรเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับการติดตั้งของตัวรถที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งปัจจุบันคาร์ซีทมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ
    • การติดตั้งด้วยระบบ Belt หรือการติดตั้งด้วยระบบสายเข็มขัดนิรภัยของตัวรถ คาร์ซีทที่ติดตั้งแบบนี้ ข้อดีคือ จะทำให้สามารถติดตั้งได้กับรถทุกรุ่น ไม่ต้องกลัวว่ารถที่มีอยู่จะติดได้หรือไม่ได้ บ้านไหนที่มีรถหลายคัน แต่มีคาร์ซีทแค่ตัวเดียว การติดตั้งแบบ Belt ก็จะสะดวก เพราะไม่ต้องกลัวว่ารถคันไหนจะติดได้ไหม แต่ข้อเสียคือ ขั้นตอนติดตั้งมีหลายขั้นตอน ต้องมีการศึกษาและเข้าใจ เพื่อที่จะติดตั้งได้ถูกต้องและปลอดภัย
    • การติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX คือระบบการติดตั้งคาร์ซีทแบบใหม่ตามมาตรฐานสากล มีลักษณะการติดตั้งแบบการยึดติดคาร์ซีทกับตัวรถยนต์ด้วยตัวยึดแท่งเหล็กที่มีความแข็งแรง ข้อดีคือ เพิ่มความสะดวกในการติดตั้งคาร์ซีท ไม่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ในปัจจุบัน รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีการติดตั้งแบบ ISOFIX ให้มาด้วย
  5. การรับประกัน นอกจากจะซื้อคาร์ซีทจากแหล่งที่เชื่อถือได้แล้ว คาร์ซีทนั้นควรมีการรับประกันจากบริษัทด้วย หากมีการชำรุด ก็สามารถส่งซ่อมหรือมีอะไหล่ให้เปลี่ยน ปัจจุบันนอกจากการรับประกันสินค้าแล้ว บางรุ่นยังมีการรับประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย เพราะคาร์ซีทที่ผ่านอุบัติเหตุรุนแรกมาแล้วจะมีความปลอดภัยลดลง ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
  6. ตราสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัยต้องมี  หลังจากมีประกาศจากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) มาแล้ว ว่าคาร์ซีทในประเทศไทย จะต้องผลิตหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยของยุโรปเท่านั้นคาร์ซีทที่ผ่านมาตรฐานของยุโรป จะมีสัญลักษณ์มาตรฐาน ECE R44/04 และ ECE R129 (i-SIZE) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด 

การใช้คาร์ซีทให้ปลอดภัย

  1. ไม่ควรใช้คาร์ซีทมือสอง เพราะคาร์ซีทมือสองที่ผ่านการใช้งาน วัสดุจะมีการเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะคาร์ซีทที่เราไม่ทราบประวัติการใช้งานที่แท้จริง ว่าเคยผ่านอุบัติเหตุมาก่อนหรือไม่ เพราะสภาพภายนอกอาจจะดูสมบูรณ์และชิ้นส่วนที่มีผลต่อความปลอดภัย อาจมีการแตกหัก หรือเปราะบางจะไม่สามารถปกป้องลูกน้อยเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้
  2. ควรให้เด็กแรกเกิดนั่งคาร์ซีทหันหน้าเข้าหาเบาะ จนถึงอายุ 2 ปี หรืออย่างน้อย 1 ปี เพราะการนั่งเข้าหาเบาะจะช่วยปกป้องคอและหลังของเด็กที่บอบบางได้เป็นอย่างดี
  3. การใช้คาร์ซีทควรติดเข็มขัดนิรภัย 5 จุด ทุกครั้งและควรปรับสายเข็มขัดให้ไม่หลวม ไม่ตึงจนเกินไป ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเด็กได้
  4. การใช้คาร์ซีทเด็กแรกเกิดควรเลือกคาร์ซีทที่มีหมอน Support สำหรับเด็กแรกเกิด เพราะร่างกายของเด็กช่วงแรกเกิดยังบอบบาง ต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ
  5. เมื่อเด็กโตขึ้น มีขนาดตัวที่เพิ่มขึ้น เบาะ Support ต่างๆของคาร์ซีท ควรถอดออกตามอายุหรือในคู่มือกำหนด เพื่อทำให้เด็กนั่งคาร์ซีทได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย

คาร์ซีทหมุนได้ 7 รุ่น น่าใช้ โดนใจแม่ ประจำปี 2024

Ailebebe รุ่น Kurutto R The First

ุดเด่น 

  • หมุนได้ง่าย ด้วยมือเดียว 360 องศา หมุนลื่น ไม่ทำให้เด็กตกใจ 
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาที่สุด 100 mm. ปกป้องทารกได้ปลอดภัยสูง 
  • ผ้า AG Pure ต้านแบคทีเรีย 99% อ่อนโยนต่อทารก 
  • ผ้าตาข่าย W Russell ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง อากาศถ่ายเท ไม่ร้อน หลังไม่เปียก
  • เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมระบบ Jumping Harness พาลูกนั่งหรือออกจากคาร์ซีทได้รวดเร็วมาก 
  • ขาค้ำยัน มีระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน หากติดตั้งไม่ถูกวิธี 
  • เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ ลดการกระแทกและป้องกันการกระแทกซ้ำ ๆ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น 

Ailebebe รุ่น Kurutto R Grance 

ุดเด่น 

  • หมุนได้ง่าย ด้วยมือเดียว 360 องศา หมุนลื่น ไม่ทำให้เด็กตกใจ 
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาที่สุด 100 mm. ปกป้องทารกได้ปลอดภัยสูง 
  • ผ้าตาข่าย W Russell ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง อากาศถ่ายเท ไม่ร้อน หลังไม่เปียก
  • เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมระบบ Jumping Harness พาลูกนั่งหรือออกจากคาร์ซีทได้รวดเร็วมาก 
  • ขาค้ำยัน มีระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน หากติดตั้งไม่ถูกวิธี 
  • เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ ลดการกระแทกและป้องกันการกระแทกซ้ำ ๆ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น

Ailebebe รุ่น Kurutto 6i Premium

จุดเด่น 

  • หมุนได้ง่าย ด้วยมือเดียว 360 องศา หมุนลื่น ไม่ทำให้เด็กตกใจ 
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04
  • ซัพพอร์ตหนานุ่ม 50 mm. ปกป้องศีรษะทารกได้อย่างปลอดภัย 
  • ผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น
  • เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ ลดการกระแทกและป้องกันการกระแทกซ้ำ ๆ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง อากาศถ่ายเท ไม่ร้อน หลังไม่เปียก 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 4 ปี หรือ น้ำหนัก 0-18 กก. 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น 

Aprica รุ่น Fladea Grow 360 Premium 

คาร์ซีทโด่งดังจากญี่ปุ่น เด่นเรื่องการปรับนอนราบได้เลย ถึง 170 องศา คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเดินทางไกล เดินทางบ่อย รุ่นนี้ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว เพราะเป็นคาร์ซีทที่ทำให้เด็กแรกเกิดนอนสบายมาก อีกทั้งฟังก์ชั่นต่าง ๆ ออกแบบโดยกุมารแพทย์ เชื่อถือได้เลยว่านั่งสบายและปลอดภัยสุด ๆ ด้วย 

จุดเด่น 

  • หมุนได้ 360 องศา ล็อค 4 ทิศทาง ปลอดภัย พาลูกขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวก 
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ปรับคาร์ซีทให้นอนราบได้ ถึง 170 องศา ให้เด็กนอนพักผ่อนได้สบายกว่า 
  • เด็กคลอดก่อนกำหนดใช้ได้อย่างปลอดภัย การนอนราบทำให้หายใจสะดวกมากขึ้น
  • มี Support สำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ ปกป้องร่างกายบอบบางของทารกแรกเกิดได้ดี 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0 – 4 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น 

Renolux รุ่น Gaia

จุดเด่น 

  • หมุนง่ายได้ถึง 360° สะดวก ช่วยอุ้มลูกเข้าหรือออกคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจาก ADAC เยอรมัน และ TCS สวิตเซอร์แลนด์ 
  • เทคโนโลยี Softness Cushion ใช้โครงเหล็กทั้งตัว ฉีดหุ้มด้วยโฟมพิเศษ ทำให้เบาะนุ่มพิเศษ นั่งสบายเหมือนโซฟา 
  • ปรับเลื่อนระดับเพิ่มพื้นที่วางขาได้ ให้ลูกนั่งหันหน้าเขาเบาะได้นานที่สุด 4 ปี หรือส่วนสูง 105 cm.
  • ผ้า Cool Soft สัมผัสเย็น ทักถอพิเศษแบบ Topstiches นั่งแล้วไม่เกิดการกดทับ 
  • มี Side Protection ป้องกันการชนด้านข้าง รองรับแรงกระแทกได้ดี 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-105 cm. หรือ อายุ 0 – 4 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศฝรั่งเศส 

KINDERKRAFT รุ่น I-360​

จุดเด่น 

  • คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา เพียงกดปุ่ม
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
  • ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX และ Support leg
  • ปรับการใช้งานได้ 3 STEP ติดตั้งได้ทั้ง หันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rearward Facing) หันหน้าไปหน้ารถ (Forward Facing) และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทเด็กโต (Booster Seat)​
  • Head Support หนา 3 ชั้น ปกป้องศีรษะและลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา
  • Side Protect เสริมการ์ดด้านข้าง ป้องกันการกระแทกได้อย่างปลอดภัย​
  • ปรับเอนนอนได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อยแต่ละวัยจนถึงส่วนสูง 150 cm.​
  • ปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้ 12 ระดับ ตามสรีระลูกน้อยแต่ละวัยจนถึงส่วนสูง 150 cm.​

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 12 ปี หรือ ความสูง 40 – 150 cm.​

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศอเยอรมันนี

KINDERKRAFT รุ่น I-GROW​

จุดเด่น

  • ​คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา เพียงกดปุ่มก็หมุนง่าย
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
  • ติดตั้งปลอดภัยสูง ด้วยระบบ ISOFIX และ TOP TETHER ตะขอเกี่ยวเบาะรถยนต์
  • ปรับการใช้งานได้ 3 STEP ติดตั้งได้ทั้ง หันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rearward Facing) หันหน้าไปหน้ารถ (Forward Facing) และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทเด็กโต (Booster Seat)​
  • โครงคาร์ซีทใหญ่ แข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับรงกระแทกได้ดี​
  • ปรับเอนนอนได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อยแต่ละวัยจนถึงส่วนสูง 150 cm.​
  • ปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้ 12 ระดับ ตามสรีระลูกน้อยแต่ละวัยจนถึงส่วนสูง 150 cm.​

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 12 ปี หรือ ความสูง 40 – 150 cm.​

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมันนี

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับลูกน้อยของเราตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อความปลอดภัยขณะนั่งรถยนต์ ประกอบกับมีการออกกฏหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ให้ใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ยกเว้นรถรับจ้างหรือรถสาธารณะ ดังนั้นทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะต้องให้ลูกน้อยนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ปัจจุบันคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ   จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย      ผู้ปกครองบางท่านอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย ขอบอกว่า คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ค่ะ คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งในรถยนต์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด คาร์ซีทจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรง หรือลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ซึ่งคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก มีตั้งแต่คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต นอกจากจะมีหลากหลายแบบแล้วก็ยังมีหลายยี่ห้อด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรดี จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ให้กับลูกรักของเรา มารู้จักกับแต่ละประเภทของคาร์ซีทให้มากขึ้นก่อน ไปดูยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำกันค่ะ  คาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]

ชื่อลูกเป็นอะไรที่ยากที่สุดในทั้งหมดทั้งมวลของการท้อง คุณแม่บางคนอาจมีชื่อลูกที่คิดไว้ในใจอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีอุปสรรคบ้างประปราย อย่างเช่น ไม่ถูกใจคุณพ่อ หรือไม่ถูกโฉลกกับวันเกิดของลูกน้อย ยิ่งพอโลกก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแบบนี้ คุณแม่ก็อาจจะรู้สึกกลัวว่าชื่อของลูกน้อยที่เราตั้งไปจะตกยุคตกสมัยรึเปล่า เพราะงั้นมันก็เลยเป็นเรื่องยากมากเลยจริงๆ นะคะ ความจริงแล้ว การตั้งชื่อก็มีหลักอยู่นะ ถ้าคุณแม่ยังไม่ทราบ เราจะเล่าให้ฟังค่ะ 1.ตั้งชื่อลูกแบบมีความหมายมงคล อันนี้เป็นวิธีที่นิยมที่สุด เพราะเราก็อยากให้ลูกประสบกับความมีสิริมงคลในชีวิต คุณแม่อาจจะซื้อหนังสือการตั้งชื่อลูกมาอ่าน หรืออาจจะลองเซิร์ชหาจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ หลักการตั้งชื่อแบบนี้มีมาแต่โบราณเลยนะคะ อย่างเมื่อก่อน เค้าก็จะนิยมใช้คำว่า ทอง หรือ บุญ นำหน้าชื่อ เพราะสองคำนี้มีความหมายที่ดีเป็นสิริมงคล ส่วนสมัยนี้ อาจจะไม่ได้ใช้คำตรงๆ แบบนี้ แต่ก็สื่อถึงความหมายที่ดีเหมือนกัน 2. การตั้งชื่อตามหลักความเชื่อหรือศาสนา เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและศาสนา ไม่น่าแปลกใจเลยล่ะค่ะ ที่เราอาจจะเคยได้ยินชื่อแปลกๆ ที่เราไม่คุ้นหู เช่น ฟาติฮะ ยามิละห์ ฯลฯ เพราะชื่อเหล่านี้เป็นชื่อในศาสนา แต่ทั้งนี้ ชื่อที่เป็นชื่อทางศาสนาที่ใช้เป็นชื่อจริงจะสามารถตั้งได้เฉพาะตอนเกิดเท่านั้นนะคะ เพราะว่าสมมติถ้าคุณแม่ตั้งชื่อธรรมดาไป แล้วไปขอทางเขตเปลี่ยนชื่อตอนโต ทางนายทะเบียนก็จะไม่ให้เราเปลี่ยนค่ะ เพราะชื่อที่เราจะนำมาเปลี่ยนจะต้องมีความหมายอยู่ในพจนานุกรมภาษาไทยด้วย 3. การตั้งชื่อจากวันเกิด คนไทยมีความเชื่อเรื่องดวงอย่างมาก เพราะงั้นการตั้งชื่อลูกจากวันเกิดจึงเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เลย ส่วนมากเราก็จะไปให้พระช่วยตั้งให้ โดยให้วันเดือนปีเกิดของลูกเราไป […]

การนอนหลับให้เพียงพอต่อวันอย่างมีคุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กเล็กเลยนะคะ เพราะระหว่างที่ลูกน้อยนอนหลับร่างกายก็จะสร้าง “โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ ฮอร์โมนการเจริญเติบโต” ขึ้นมา ช่วยให้ลูกน้อยเติบโตสมวัย มีภูมิคุ้มกันโรค ช่วยเรื่องความจำและการเรียนรู้ของสมองด้วยค่ะ แต่หาก ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน คุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องรู้วิธีดูแลนะคะ เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการและอารมณ์ของลูกน้อยได้ แต่ก็ไม่ควรกังวลมากไปค่ะ เพราะทารกจะเริ่มมีวงจรการนอนที่เป็นปกติหลังจากเดือนที่ 6 เป็นต้นไป เด็กแต่ละวัย ควรนอนกี่ชั่วโมงต่อวัน ทารกแรกเกิด – 2 เดือน ทารกแรกเกิดจะนอนตอนกลางวันเหมือนกับนอนตอนกลางคืน จะนอนประมาณ 2 – 4 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 4 – 16 ชั่วโมง ทารกวัย 3 เดือน – 5 เดือน เด็กเล็กวัยนี้สามารถฝึกให้หลับเวลาเดิมได้แล้ว เพราะวัยนี้จะเริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้น จะนอนประมาณ 2 – 4 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 4 – 13 ชั่วโมง เด็กวัย 6 เดือน – 11 เดือน วัยนี้จะนอนเป็นเวลาแล้ว เมื่อถึงเวลาเดิมที่เคยนอนก็จะหลับได้เอง […]

อุ้มลูกบ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่า “ลูกติดมือ”          ลูกติดมือ พฤติกรรมแบบนี้เกิดจากการอุ้มลูกบ่อย แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมเด็กถึงอยากให้อุ้ม เด็กแรกเกิด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก ช่วงนี้เด็กจะยังชินกับการอยู่ในท้องของคุณแม่ที่เคลื่อนไหวตลอด มีความอบอุ่น และได้ยินเสียงหัวใจเต้นของแม่ตลอดเวลา การอุ้ม การสัมผัส จะช่วยให้เด็กปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ หลังจากออกมาจากครรภ์ของแม่ เพราะการอุ้มเป็นการทำให้เค้ากลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงเหมือนอยู่ในครรภ์ของแม่ ทำให้เค้าหยุดร้องไห้ รู้สึกปลอดภัยจากการได้รับความอบอุ่นจากอ้อมอกพ่อแม่ จึงทำให้เด็กมักจะอยากให้พ่อแม่อุ้มอยู่บ่อยๆ           ซึ่งจากบทความของโรงพยาบาลเปาโลได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “ ช่วงเด็กทารกวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน จะเป็นวัยที่หากเขาต้องการสื่อสารอะไรกับคนอื่นก็จะใช้วิธีการร้องไห้เท่านั้น ซึ่งเมื่อร้องไห้คุณแม่หรือคนเลี้ยงส่วนใหญ่ก็จะเดินเข้าไปอุ้ม ซึ่งจริง ๆ การอุ้มเด็กในวัยนี้ยังไม่เป็นการตามใจจนทำให้เขาติดมือได้ แต่ความจริงการอุ้มยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้เด็กรู้สึกผูกพันกับคุณแม่หรือคนที่เลี้ยงได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจว่ามีคนคอยดูแลเขา ทำให้เขาหายกลัวหายกังวล และเมื่อเขารู้สึกเช่นนี้พออายุมากขึ้นเขาก็จะร้องไห้น้อยลงไปเรื่อย ๆ และทำให้เขาเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดีไม่เรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ หรือคนเลี้ยงจนเกินไป เพราะฉะนั้นการอุ้มเด็กในวัยนี้ยังไม่ทำให้เกิดอาการติดมือ “           เพราะฉะนั้นในช่วง 6 เดือนแรก […]

ว่ากันว่า “น้ำนมของแม่นั้นดีที่สุด” มีคำแนะนำทางการแพทย์ว่าควรให้ทารกกินนมแม่ไปจนถึงอายุ 2 ขวบหรือนานกว่านั้น แม้ว่าลูกน้อยจะอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว ก็ควรกินน้ำนมของแม่ร่วมกับการกินอาหารอื่น ๆ เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการ เพราะในน้ำนมของแม่นั้นมีความสำคัญต่อลูกน้อยมาก ๆ ในน้ำนมมีสารอาหารที่ดีต่อลูกน้อยหลายอย่าง ทั้งยังมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยปกป้องลูกน้อยให้แข็งแรง นอกจากนี้ การให้ลูกกินน้ำนมของแม่ก็ยังมีข้อดีต่อตัวคุณแม่เองด้วยเช่นกัน ประโยชน์ของนมแม่ มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ  ประโยชน์ นมแม่ อาหารเปี่ยมคุณค่าสำหรับลูกน้อย  นมแม่นั้นเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด เพราะเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้กับลูก ประโยชน์ของนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย และในขณะที่ทารกกินน้ำนมจากเต้าของนั้น ก็เป็นการช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูกด้วย ทั้งยังทำให้ทารกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยนอกจากนี้ สำหรับคุณแม่เอง การให้ลูกกินนมก็ยังจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และเบาหวาน โดยองค์การอนามัยโลก และยูนิเซฟมีคำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมของแม่เอาไว้ดังนี้ค่ะ  ประโยชน์ของนมแม่ มีอะไรบ้าง ?   ชวนรู้ การให้นมลูกก็มีประโยชน์ต่อคุณแม่เองด้วย   ประโยชน์ของนมแม่ นอกจากจะดีต่อลูกน้อยแล้ว การที่คุณแม่ให้นมลูก ก็มีข้อดีต่อตัวคุณแม่เองด้วย ดังนี้   Tips ในการให้นม สำหรับคุณแม่มือใหม่  เมื่อได้รู้ประโยชน์ของนมแม่กันแล้ว เชื่อว่าคุณแม่หลายๆ ท่านก็อยากจะให้ลูกน้อยของเราได้กินนมตั้งแต่แรกเกินไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ แต่ในบางคนก็ต้องกลับไปทำงานประจำหลังพ้นช่วงลาคลอด […]

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี หรือน้ำหนัก 2.5 – 15 kg เพื่อความสุขแบบ Double ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สบายกว่าช่วยให้การเดินทางสำหรับคุณแม่และลูกน้อยเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า Function 1 : ลดแรงสั่นสะเทือนแบบ Double ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกถึง 2 จุดระบบรองรับแรงกระแทกใต้ที่นั่ง และระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% Function 2 : ระบายอากาศแบบ Double ด้วยเบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้นเบาะรองนอน ถักทอด้วยเส้นใย Silky Air มีความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก Function 3 : ลดความอับชื้นแบบ Double ด้วยระบบ DoubleThermo Medical Sysem ช่วยระบายอากาศให้ความรู้สึกสบายตัวแผ่นฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง ลดความร้อนสะสมบริเวณหลัง และลดอุณหภูมิของร่างกายลูกน้อยในขณะหลับได้ดี Function […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages