คาร์ซีทแบบกระเช้า คืออะไร ? เลือกยังไงให้เหมาะกับลูกคุณ

การเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยนั้นมีสิ่งที่จำเป็นอยู่หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ก่อนคลอดไปจนถึงการเลี้ยงดูลูกตามช่วงวัยต่าง ๆ และสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งก็คือ คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย อย่างคาร์ซีทเด็กแรกเกิด ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ขณะนั่งรถยนต์ เพื่อช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บรุนแรงแก่เด็ก ๆ หากเกิดอุบัติที่ไม่คาดคิด
ซึ่งปัจุบันมีคาร์ซีทหลากหลายรูปแบบมากมาย ทั้ง คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 ปี คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป คาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กโตอายุ 4 – 12 ปี รวมถึง คาร์ซีทแบบกระเช้า ที่นิยมใช้กันมากขึ้น คาร์ซีทกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน เหมาะกับเด็กช่วงวัยใด ควรเลือกซื้ออย่างไรบ้าง มารู้จักให้มากขึ้นผ่านบทความนี้กันค่ะ
คาร์ซีทแบบกระเช้า เลือกยังไง ให้เหมาะกับลูกน้อย หาคำตอบได้ในบทความนี้
คาร์ซีทกระเช้า คืออะไร ?
คาร์ซีทแบบกระเช้า (Infant Car Seat) หรือคาร์ซีทแบบ Newborn Only เป็นคาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุไม่เกิน 24 เดือน เหมาะสำหรับการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับตะกร้า และมีที่สำหรับจับถือหิ้ว สามารถวางไว้ในรถได้ และยกออกได้เลยโดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกจากคาร์ซีท ทำให้ไม่รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยรวมถึงเคลื่อนย้ายได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ในบางรุ่นก็สามารถนำไปใส่กับรถเข็นเด็กได้ด้วย สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการพาลูกน้อยไปทำธุระนอกบ้าน เช่น พาไปหาหมอ พาไปหาคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย เป็นต้น
ข้อดี
- มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย สามารถถอดออกมาเดินถือได้เลย
- มีที่นั่งกระชับ เหมาะสมกับสรีระของเด็ก ช่วยให้เด็กนอนในท่าทางที่สบายและอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง
- มีความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถใส่กับรถเข็นเด็กได้ในบางรุ่น หรือปรับเป็นเปลนอนได้
- มีความปลอดภัย สามารถติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ได้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด
ข้อเสีย
- มีความบอบบาง เพราะมีขนาดเล็ก ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ทำให้โครงสร้างและชิ้นส่วนต่างๆ มีขนาดเล็กและบอบบางตามไปด้วย
- มีระยะการใช้งานสั้นๆ เนื่องจากกระเช้าคาร์ซีทมีขนาดเล็ก จึงใช้สำหรับเด็กแรกเกิด – 1 ปี เท่านั้น
- ไม่ทนทานเท่ากับคาร์ซีทประเภทอื่นๆ ด้วยเพราะมีน้ำหนักเบา มีโครงสร้างที่เล็กและไม่แข็งแรงเท่ากับคาร์ซีทประเภทอื่นๆ

คาร์ซีทแบบกระเช้า เหมาะกับการใช้งานแบบใด ?
- กระเช้าคาร์ซีท เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ เพราะมีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย น้ำหนักไม่มากจนเกินไป
- เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งใกล้และไกล เพราะสามารถยกออกจากรถได้ในขณะที่เด็กหลับอยู่ โดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกมาจากคาร์ซีท สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ และสามารถนำไปติดตั้งในรถเข็นเด็กได้อีกด้วย
- เหมาะสำหรับการใช้งานช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี เพราะกระเช้าคาร์ซีทมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก หากเด็กมีน้ำหนักมากขึ้นหรือมีความสูงเพิ่มขึ้น ก็อาจจะนั่งไม่สะดวกได้
เลือกคาร์ซีทแบบกระเช้าอย่างไรดี ?
ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่าคาร์ซีทแบบกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง และเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบใด แล้วเราจะมีวิธีเลือกคาร์ซีทกระเช้าอย่างไรดีให้เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุด มาดูวิธีเลือกกันเลยค่ะ
1. เลือกจากระบบการติดตั้ง
ปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Belt (ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยของตัวรถยนต์) โดยสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน และระบบ ISOFIX หรือระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป โดยส่วนใหญ่จะมีในรถยนต์ที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนที่เหมาะกับรถยนต์ของเรา อาจสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์เพิ่มเติม จะได้เลือกอย่างถูกต้องค่ะ
2. เลือกจากรูปแบบและขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน
กระเช้าคาร์ซีทนั้นเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด – 18 เดือนเท่านั้น หากลูกน้อยโตกว่านี้ อาจทำให้ลูกนั่งได้ไม่สบายและรู้สึกอึดอัดได้ ควรเลือกเป็นแบบที่ทำความสะอาดได้ง่าย ถอดซักได้ ระบายอากาศดี และซัพพอร์ตกับสรีระของเด็กเล็ก ทั้งนี้ ควรเลือกขนาดคาร์ซีทให้มีความเหมาะสมกับขนาดเบาะรถของเราด้วย เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างพอดีและมีความมั่นคงแน่นหนา เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อยค่ะ

3. เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์เรา
การเลือกคาร์ซีทนั้น ควรเลือกจากการตั้งคำถามที่ว่า สามารถนำมาประกอบเข้ากับรถเข็นได้หรือไม่ สามารถปรับให้เอนราบเพื่อทำเป็นเปลนอนได้หรือไม่ มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เช่น ระบบ Side impact ป้องกันการชนด้านข้าง ที่ช่วยลดแรงกระแทก และอื่นๆ
4. เลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพ และวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าแต่ละอย่างนั้น ก็คือการเลือกซื้อของจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันคุณภาพ และจัดจำหน่ายโดยตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากมีการชำรุดก็สามารถส่งซ่อมกับศูนย์ได้ หรือสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ในกรณีที่มีการชำรุดเสียหายรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุในบางแบรนด์
5. เลือกที่มีสัญลักษณ์รับประกันความปลอดภัย
โดยเลือกคาร์ซีทที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐาน ECE R129 (i – Size) อันเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรปในการใช้ควบคุมการผลิตคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และเบาะต้องนั่งสบายมากขึ้น เนื่องจากมีข้อบังคับให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 เดือน ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear – Facing) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2556 และยังเป็นมาตรฐานที่มีการทดสอบความปลอดภัยของคาร์ซีทอย่างเข้มงวด และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย
BabyGift แนะนำคาร์ซีทแบบกระเช้า สำหรับลูกน้อยของคุณ

1. KINDERKRAFT คาร์ซีทกระเช้า รุ่น MINK PRO
คาร์ซีทแบบกระเช้าที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด สามารถถอด และถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป R129 (i – Size) มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับยุโรป R129 (i-Size) อันเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด
- สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น Apino และ รถเข็นรุ่น NEA
- สามารถปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย
- น้ำหนักเบา 3.5 กิโลกรัม ถอดออก และถือหิ้วได้สะดวก
- มี Head Support เมมโมรี่โฟมหนา 3 ชั้น เสริมด้านในด้วย EPS โฟม ปกป้องศีรษะ และลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา
- มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง เสริมความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
- มีเข็มขัดนิรภัย 3 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง ให้เด็กนั่งได้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์
- มีหลังคาบังแดด ช่วยปกป้องสายตาทารกที่ยังบอบบางให้หลับสนิทมากขึ้น
- โครงคาร์ซีทแข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้สูง
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40 – 75 เซนติเมตร มีน้ำหนักระหว่าง 0 – 13 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ Belt
แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี

2. KINDERKRAFT คาร์ซีทกระเช้า รุ่น I-CARE
คาร์ซีทแบบกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถถอดและถือหิ้วเหมือนตระกร้าได้ มีการออกแบบเชิงโมดูลาร์ ดีไซน์ สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้เพื่อรองรับสรีระเด็กได้ดีที่สุด พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป R129 (i – Size) มั่นใจได้ในด้านคุณภาพการใช้งาน
จุดเด่น
- ได้มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับยุโรป R129 (i-Size) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด
- สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น NEA
- สามารถปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 4 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย
- น้ำหนักเบา 4.2 กิโลกรัม
- มี Head Support เมมโมรี่โฟมหนานุ่มที่สุด ถึง 3 ชั้น ช่วยปกป้องศีรษะ และลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา
- มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
- มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง
- มีหลังคาบังแดด ปกป้องสายตาทารกที่ยังบอบบางให้หลับสนิทมากขึ้น
- โครงคาร์ซีทแข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้สูง
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40 – 87 เซนติเมตร มีน้ำหนักระหว่าง 0 – 13 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ Belt และสามารถใช้ฐานติดตั้งระบบ ISOFIX ได้
แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี

3. JOIE ตระกร้าคาร์ซีทเด็ก รุ่น Gemm
กระเช้าคาร์ซีทสำหรับเด็กอ่อนในรูปแบบตระกร้าหิ้ว ทำให้ลูกน้อยหลับสบายแม้ในขณะเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับเด็กวัยแรกแกิดโดยเฉพาะ มีการรับประกันความแข็งแรงของโครงสร้าง 3 ปี ผ่านการทดสอบ ECE R44/04 จากยุโรป มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ได้มาตรฐานจากสากล
จุดเด่น
- ผ่านการทดสอบมาตรฐาน ECE R44/04 จากยุโรป
- น้ำหนักเบา เพียง 4.62 กิโลกรัม
- เบาะรองรับสรีระเด็กแรกเกิดได้ดี ระบายอากาศได้ดี และสามารถถอดซักได้
- หลังคาป้องกันแสง UV สามารถถอดออกได้ และหูหิ้วปรับระดับได้
- มีสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุดตามมาตรฐานสากล สามารถปรับระดับได้
- การติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อย
- สามารถใช้ฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ในการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX หรือเข็มขัดนิรภัย เพียงนำตระกร้าหิ้วไปวานบน ฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นในการใช้งาน
- สามารถใช้กับรถเข็นรุ่น Litetrax4 DLX / Pact / Tourist / Muze LX / Versatrax / Finiti
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 13 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศอังกฤษ
ปัจจุบันมีกฏหมายคาร์ซีทที่ระบุเอาไว้ว่า เด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องมีที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งกำหนดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ดังนั้นแล้ว การเลือกคาร์ซีทให้กับลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูก และช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้ หากคุณต้องการคาร์ซีทที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพดี BabyGift เป็นร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งคาร์ซีทแบบกระเช้าได้ทุกรุ่น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
รวมสุดยอดวิธี เลือกเป้อุ้มทารก เพราะเป้อุ้มเด็ก เป็นเครื่องทุ่นแรงที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่ ที่เรียกได้ว่าคืออุปกรณ์คู่กายคู่ใจที่พาคุณแม่และลูกน้อยไปทำกิจวัตรด้วยกันได้เสมอ เป้อุ้มลูกนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกประจำบ้านที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน ยิ่งเป็นครอบครัวเล็กที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก ในช่วงเวลาที่คุณพ่อไปทำงานนอกบ้าน ยิ่งถือเป็นของใช้ที่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานและกิจกรรมอื่นๆได้ พร้อมเลี้ยงลูกได้แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งในยุคสมัยที่การหาเงินได้ฝืดเคือง และข้าวของใช้ราคาสูงเช่นนี้ การเลือกซื้อเป้อุ้มลูกทั้งที เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และเลือกใช้ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แต่จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ทนทานปลอดภัย ใช้งานได้นานจนลูกโต ลองมาอ่านเทคนิคดีๆ เหล่านี้กันเลย 1 ตอบโจทย์การใช้งาน การเลี้ยงลูกของครอบครัว นั่นคือการเลือกให้ตรงกับสไตล์การเลี้ยงลูกของครอบครัว การทำงานของคุณพ่อคุณแม่และการเดินทางของคนในบ้าน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ขนาดของครอบครัวและคนช่วยเลี้ยงลูก เพราะหากเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คุณพ่อไปทำงาน จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มลูก สำหรับเวลาทำงานบ้าน ทำธุระหรือจำเป็นต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน แม้แต่เป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะได้ใช้เวลาคุณแม่ต้องทำธุระ ผลัดกันใช้เวลาเดินทางไปข้างนอก สิ่งของที่ใช้กับลูก เวลาที่ต้องพาลูกออกนอกบ้าน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องพกไปมาก การใช้เป้อุ้มเด็กก็จะทำให้สะดวก พ่อแม่ถือของใช้ และซื้อของได้สบาย ไม่ต้องใช้มืออุ้มหรือเข็นลูก หรือหากเวลาไปไหนที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดการใช้เป้อุ้มเด็กก็จะไม่ต้องเปลืองพื้นที่เพราะพับเก็บได้ พกพาง่ายกว่ารถเข็น การเดินทางของครอบครัว หมายถึงสังเกตการใช้ชีวิตของครอบครัวว่า ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมญาติบ่อยหรือเปล่า ใช้เวลาพาลูกออกนอกบ้านนานแค่ไหน หากต้องไปที่ไหนไม่นานนัก การใช้เป้อุ้มเด็กจะมีความคล่องตัวสะดวกกว่ารถเข็น […]
เส้นไหมทอละเอียด Silky Air นวัตกรรมใหม่จาก Aprica ที่มีในรถเข็นเด็ก รุ่น Luxuna Light และรุ่น Luxuna CTS Silky Air เส้นไหมทอละเอียดนุ่มเบาสบายระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่นลดภาระการเคลื่อนย้ายตัวของเด็ก Silky Air เป็นการผสมกันกับไหมและเส้นไฟเบอร์เรียงยาวละเอียดให้ความยืดหยุ่นเบาสบาย เมื่อเทียบกับผ้าคอตตอนแบบเก่าที่ผสมกับฟองน้ำที่มีความยืดหยุ่นต่ำระบายอากาศได้ไม่ดี มาเลือกความเบาสบายให้ลูกของคุณกับ Silky Air กับคุณสมบัติพิเศษ 3 ข้อ ดังนี้ 1. เบาะรองนั่งสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มการระบายความชื้นมากขึ้นอีก 10% เพราะ Silky Air เป็นวัสดุที่สามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม การระบายความชื้นได้ดีเป็นตัวบ่งบอกว่าความร้อนไม่สามารถก่อตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพในการระบายความชื้นขึ้นอยู่กับความแตกต่างลักษณะรูปร่างของเด็กด้วย 2. สัมผัสที่อ่อนนุ่ม ผลิตจากวัสดุที่อ่อนนุ่มและสามารถระบายอากาศได้ดีให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก 3. สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้า เบาะรองนั่งสามารถถอดออกและนำไปซักในเครื่องซักผ้าได้อย่างง่ายดายจึงทำให้คงความสะอาดตลอดเวลา สรุป ด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมกับนวัตกรรมใหม่ ของ Silky Air ทั้ง 3 ประการ จึงนำมาใช้กับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light และรุ่น Luxuna CTS ได้เหมาะสมที่สุดกับเด็กแรกเกิด และเหมาะสมที่สุดกับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการรถเข็นเด็กที่เบาและง่ายต่อการเดินทางไปทุกที่ กับคุณสมบัติพิเศษที่สามารถใช้คู่กับเป้อุ้มเด็ก Colan CTS ได้อีกด้วย รวดเร็วและสะดวกในการปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ คุณแม่สามารถเลือกใช้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งได้อย่างง่ายดาย นวัตกรรมใหม่ในการใช้รถเข็นเด็กและเป้อุ้มเข้าด้วยกัน เป็นตัวช่วยให้คุณแม่พร้อมออกเดินทางได้ทุกสถานการณ์
เพราะนมแม่ คือสุดยอดอาหารมื้อแรกและเป็นอาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจมอบคุณค่าน้ำนมแม่นี้ให้แก่ลูกรักได้นานที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยส่วนใหญ่มักจะเตรียมพร้อมตั้งแต่ตั้งครรภ์ และหลังคลอดก็ให้นมแม่จากเต้าทันทีและเต็มที่ และเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนยอ่มวางแผนที่จะ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เพื่อให้ลูกได้กินนมแม่ในช่วงที่ต้องไปทำงาน และมีน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้กินต่อเนื่องยาวนาน แต่การ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ นอกจากคุณแม่ต้องมีวินัยในการปั๊มนมสม่ำเสมอทุกๆ 2-3 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณแม่จำเป็นเรียนรู้ข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ในการเก็บน้ำนมแม่ เพื่อให้น้ำนมแม่ที่นำมาให้ลูกกินในภายหน้ายังมีคุณค่าครบถ้วนเต็มที่ ให้ลูกรักมีพัฒนาการดีทุกด้าน เก่ง ฉลาด และสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นมาดูกันว่า วิธีการทำสต๊อกน้ำนมแม่ต้องทำอย่างไร อุปกรณ์ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เครื่องปั๊มนม เป็นผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้คุณแม่ได้ปั๊มนมเก็บไว้ และกระตุ้นให้น้ำนมมาได้มากอย่างต่อเนื่อง และสามารถปั๊มนมแม่ได้ ตั้งแต่ที่บ้านไปจนถึงเมื่อต้องกลับไปทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้เลือกมากมาย หาซื้อได้ง่ายทั้งทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยคุณแม่ควรพิถีพิถันหาข้อมูล และเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมที่ถูกใจ เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้งานเมื่อต้องไปทำงานนอกบ้านหรือออกข้างนอก เช่น คุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน กับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก อาจจะต้องเลือกเครื่องปั๊มนมที่ให้ความสะดวก และมีระบบการทำงานที่แตกต่างกันนั่นเอง เครื่องปั๊มนมยุคใหม่ ก็มีให้คุณแม่ได้เลือกมากมายหลายแบบ หลายการใช้งานและหลายราคา อาทิ เครื่องปั๊มนมชนิดปั๊มมือ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้แบตเตอรี่ และ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้ไฟฟ้า แถมยังมีทั้งแบบที่ปั๊มนมเดี่ยวข้างเดียว แบบปั๊มนมได้คู่พร้อมกันสองข้าง รวมถึงสามารถชาร์จไฟจากพาวเวอร์ได้อีกด้วย สิ่งสำคัญคือการเลือกเครื่องปั๊มนมที่ได้มาตรฐาน มีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับหรือได้รับความนิยมจากคุณแม่ทั่วไป ราคาเหมาะสม […]
Aprica ก่อตั้งเมื่อปี 1947 ปี โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี Aprica จึงได้รับการยอมรับและไว้ว่างใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น Aprica เป็นบริษัทแรกในโลก ที่มีการใช้หุ่นจำลองเด็กทารกขนาด 5 kg. ที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท โดยหุ่นจำลองนี้มีข้อต่อและอวัยวะในร่างกายเช่นเดียวกับเด็กทารก ติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจวัดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระแทกในอุบัติเหตุจำลองรูปแบบต่างๆ ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น
รถเข็นเด็กยี่ห้อไหน ที่หมอเด็กเลือกให้ลูกตัวเอง โดยหมอวิน เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ #รถเข็นเด็ก และ #สิ่งพึงกระทำ#อุปกรณ์ยังชีพสำหรับแม่สายชิล บอกก่อนเลยว่า รถเข็นเด็ก นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้จำเป็นครับ หากมองในแง่ของการเลี้ยงดูและความปลอดภัย ไม่เหมือนคาร์ซีท ที่จำเป็นมาก ๆ ๆ (ไม้ยมก … ล้านตัว) แต่ “รถเข็นเด็ก” ก็เป็น gadget ที่ยากจะปฏิเสธ เพราะมันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะมากครับ แต่ถ้าใครเป็นสายอุ้ม … อุ้มโลดจ้ะ แต่มันก็จะเมื่อยถึงเมื่อยมาก จริง ๆ… ดังนั้นเลือกรถเข็นเด็กที่เหมาะกับเงินในกระเป๋า และความสบายตัวของลูกละกันครับ รถเข็นเด็ก …ประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตาม … มีการรายงานว่า สามารถเกิดอุบัติเหตุได้หากใช้รถเข็นเด็กแบบไม่เหมาะสมครับ มีหลายเคสที่มาด้วยรถคว่ำหรือไหลจากที่สูงจนคว่ำทำให้หัวลูกกระแทกพื้นได้ครับ … จน AAP หรือสมาคมกุมารเวชศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาต้องออกมาแนะนำรถเข็นเด็ก ว่าสิ่งที่พ่อแม่พึงกระทำยามใช้รถเข็นเด็กครับ……นั่นคือ และทิ้งท้ายครับ ปัจจุบันพ่อแม่หลายคนนิยม รถเข็นเด็กแบบพับเล็ก ๆ ที่จับเป็นแบบก้าน ซึ่งดีในแง่การเดินทางและเอาขึ้นเครื่องเนอะ แต่หมอขอแนะนำแบบนี้ครับ รถเข็นเด็กพับเล็กไม่เหมาะกับเด็กแรกเกิดครับ เพราะไม่มีที่รองคอ และที่นั่งมักทำให้เด็ก fix กับที่ไม่ค่อยได้ครับ รอโตกว่านี้ตอนจะไปเที่ยวต่างประเทศค่อยว่ากันครับ แต่หากลูกยังเล็กแนะนำอันที่แข็งแรงมีที่รองคอดีกว่าเนอะ … ร้าน Baby Gift ตัวแทนจำหน่ายรถเข็นเด็ก Aprica แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างเรา ๆ […]
การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ 1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา วิธีแก้ไข: 2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม วิธีแก้ไข: 3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก วิธีแก้ไข: 4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไข: 5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ วิธีแก้ไข: บทสรุป ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.