คาร์ซีทแบบกระเช้า คืออะไร ? เลือกยังไงให้เหมาะกับลูกคุณ

การเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยนั้นมีสิ่งที่จำเป็นอยู่หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ก่อนคลอดไปจนถึงการเลี้ยงดูลูกตามช่วงวัยต่าง ๆ และสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งก็คือ คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย อย่างคาร์ซีทเด็กแรกเกิด ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ขณะนั่งรถยนต์ เพื่อช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บรุนแรงแก่เด็ก ๆ หากเกิดอุบัติที่ไม่คาดคิด 

ซึ่งปัจุบันมีคาร์ซีทหลากหลายรูปแบบมากมาย ทั้ง คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 ปี คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป คาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กโตอายุ 4 – 12 ปี รวมถึง คาร์ซีทแบบกระเช้า ที่นิยมใช้กันมากขึ้น คาร์ซีทกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน เหมาะกับเด็กช่วงวัยใด ควรเลือกซื้ออย่างไรบ้าง มารู้จักให้มากขึ้นผ่านบทความนี้กันค่ะ 

คาร์ซีทแบบกระเช้า เลือกยังไง ให้เหมาะกับลูกน้อย หาคำตอบได้ในบทความนี้ 

คาร์ซีทกระเช้า คืออะไร ? 

คาร์ซีทแบบกระเช้า (Infant Car Seat) หรือคาร์ซีทแบบ Newborn Only เป็นคาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุไม่เกิน 24 เดือน เหมาะสำหรับการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับตะกร้า และมีที่สำหรับจับถือหิ้ว สามารถวางไว้ในรถได้ และยกออกได้เลยโดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกจากคาร์ซีท ทำให้ไม่รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยรวมถึงเคลื่อนย้ายได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ในบางรุ่นก็สามารถนำไปใส่กับรถเข็นเด็กได้ด้วย สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการพาลูกน้อยไปทำธุระนอกบ้าน เช่น พาไปหาหมอ พาไปหาคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย เป็นต้น 

ข้อดี  

  • มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย สามารถถอดออกมาเดินถือได้เลย  
  • มีที่นั่งกระชับ เหมาะสมกับสรีระของเด็ก ช่วยให้เด็กนอนในท่าทางที่สบายและอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง 
  • มีความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถใส่กับรถเข็นเด็กได้ในบางรุ่น หรือปรับเป็นเปลนอนได้  
  • มีความปลอดภัย สามารถติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ได้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด 

ข้อเสีย  

  • มีความบอบบาง เพราะมีขนาดเล็ก ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ทำให้โครงสร้างและชิ้นส่วนต่างๆ มีขนาดเล็กและบอบบางตามไปด้วย  
  • มีระยะการใช้งานสั้นๆ เนื่องจากกระเช้าคาร์ซีทมีขนาดเล็ก จึงใช้สำหรับเด็กแรกเกิด – 1 ปี เท่านั้น 
  • ไม่ทนทานเท่ากับคาร์ซีทประเภทอื่นๆ ด้วยเพราะมีน้ำหนักเบา มีโครงสร้างที่เล็กและไม่แข็งแรงเท่ากับคาร์ซีทประเภทอื่นๆ

คาร์ซีทแบบกระเช้า เหมาะกับการใช้งานแบบใด ?   

  • กระเช้าคาร์ซีท เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ เพราะมีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย น้ำหนักไม่มากจนเกินไป  
  • เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งใกล้และไกล เพราะสามารถยกออกจากรถได้ในขณะที่เด็กหลับอยู่ โดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกมาจากคาร์ซีท สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ และสามารถนำไปติดตั้งในรถเข็นเด็กได้อีกด้วย 
  • เหมาะสำหรับการใช้งานช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี เพราะกระเช้าคาร์ซีทมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก หากเด็กมีน้ำหนักมากขึ้นหรือมีความสูงเพิ่มขึ้น ก็อาจจะนั่งไม่สะดวกได้ 

เลือกคาร์ซีทแบบกระเช้าอย่างไรดี ?  

ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่าคาร์ซีทแบบกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง และเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบใด แล้วเราจะมีวิธีเลือกคาร์ซีทกระเช้าอย่างไรดีให้เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุด มาดูวิธีเลือกกันเลยค่ะ   

1. เลือกจากระบบการติดตั้ง
ปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Belt (ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยของตัวรถยนต์) โดยสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน และระบบ ISOFIX หรือระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป โดยส่วนใหญ่จะมีในรถยนต์ที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนที่เหมาะกับรถยนต์ของเรา อาจสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์เพิ่มเติม จะได้เลือกอย่างถูกต้องค่ะ

2. เลือกจากรูปแบบและขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน
กระเช้าคาร์ซีทนั้นเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด – 18 เดือนเท่านั้น หากลูกน้อยโตกว่านี้ อาจทำให้ลูกนั่งได้ไม่สบายและรู้สึกอึดอัดได้ ควรเลือกเป็นแบบที่ทำความสะอาดได้ง่าย ถอดซักได้ ระบายอากาศดี และซัพพอร์ตกับสรีระของเด็กเล็ก ทั้งนี้ ควรเลือกขนาดคาร์ซีทให้มีความเหมาะสมกับขนาดเบาะรถของเราด้วย เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างพอดีและมีความมั่นคงแน่นหนา เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อยค่ะ

3. เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์เรา
การเลือกคาร์ซีทนั้น ควรเลือกจากการตั้งคำถามที่ว่า สามารถนำมาประกอบเข้ากับรถเข็นได้หรือไม่ สามารถปรับให้เอนราบเพื่อทำเป็นเปลนอนได้หรือไม่ มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เช่น ระบบ Side impact ป้องกันการชนด้านข้าง ที่ช่วยลดแรงกระแทก และอื่นๆ

4. เลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพ และวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าแต่ละอย่างนั้น ก็คือการเลือกซื้อของจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันคุณภาพ และจัดจำหน่ายโดยตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากมีการชำรุดก็สามารถส่งซ่อมกับศูนย์ได้ หรือสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ในกรณีที่มีการชำรุดเสียหายรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุในบางแบรนด์

5. เลือกที่มีสัญลักษณ์รับประกันความปลอดภัย
โดยเลือกคาร์ซีทที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐาน ECE R129 (i – Size) อันเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรปในการใช้ควบคุมการผลิตคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และเบาะต้องนั่งสบายมากขึ้น เนื่องจากมีข้อบังคับให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 เดือน ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear – Facing) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2556 และยังเป็นมาตรฐานที่มีการทดสอบความปลอดภัยของคาร์ซีทอย่างเข้มงวด และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย   

BabyGift แนะนำคาร์ซีทแบบกระเช้า สำหรับลูกน้อยของคุณ

1. KINDERKRAFT คาร์ซีทกระเช้า รุ่น MINK PRO 

คาร์ซีทแบบกระเช้าที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด สามารถถอด และถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป R129 (i – Size) มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ  

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับยุโรป R129 (i-Size) อันเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด  
  • สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น Apino และ รถเข็นรุ่น NEA 
  • สามารถปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย  
  • น้ำหนักเบา 3.5 กิโลกรัม ถอดออก และถือหิ้วได้สะดวก 
  • มี Head Support เมมโมรี่โฟมหนา 3 ชั้น เสริมด้านในด้วย EPS โฟม ปกป้องศีรษะ และลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา  
  • มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง เสริมความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล  
  • มีเข็มขัดนิรภัย 3 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง ให้เด็กนั่งได้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์  
  • มีหลังคาบังแดด ช่วยปกป้องสายตาทารกที่ยังบอบบางให้หลับสนิทมากขึ้น  
  • โครงคาร์ซีทแข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้สูง  

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40 – 75 เซนติเมตร มีน้ำหนักระหว่าง 0 – 13 กิโลกรัม 

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี

2. KINDERKRAFT คาร์ซีทกระเช้า รุ่น I-CARE  

คาร์ซีทแบบกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถถอดและถือหิ้วเหมือนตระกร้าได้ มีการออกแบบเชิงโมดูลาร์ ดีไซน์ สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้เพื่อรองรับสรีระเด็กได้ดีที่สุด พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป R129 (i – Size) มั่นใจได้ในด้านคุณภาพการใช้งาน 

จุดเด่น  

  • ได้มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับยุโรป R129 (i-Size) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด  
  • สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น NEA   
  • สามารถปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 4 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย  
  • น้ำหนักเบา 4.2 กิโลกรัม  
  • มี Head Support เมมโมรี่โฟมหนานุ่มที่สุด ถึง 3 ชั้น ช่วยปกป้องศีรษะ และลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา  
  • มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล  
  • มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง  
  • มีหลังคาบังแดด ปกป้องสายตาทารกที่ยังบอบบางให้หลับสนิทมากขึ้น  
  • โครงคาร์ซีทแข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้สูง  

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40 – 87 เซนติเมตร มีน้ำหนักระหว่าง 0 – 13 กิโลกรัม  

การติดตั้ง : ระบบ Belt  และสามารถใช้ฐานติดตั้งระบบ  ISOFIX  ได้ 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี 

3. JOIE ตระกร้าคาร์ซีทเด็ก รุ่น Gemm 

กระเช้าคาร์ซีทสำหรับเด็กอ่อนในรูปแบบตระกร้าหิ้ว ทำให้ลูกน้อยหลับสบายแม้ในขณะเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับเด็กวัยแรกแกิดโดยเฉพาะ มีการรับประกันความแข็งแรงของโครงสร้าง 3 ปี ผ่านการทดสอบ  ECE R44/04 จากยุโรป มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ได้มาตรฐานจากสากล 

 จุดเด่น  

  • ผ่านการทดสอบมาตรฐาน ECE R44/04 จากยุโรป 
  • น้ำหนักเบา เพียง 4.62 กิโลกรัม 
  • เบาะรองรับสรีระเด็กแรกเกิดได้ดี ระบายอากาศได้ดี และสามารถถอดซักได้ 
  • หลังคาป้องกันแสง UV สามารถถอดออกได้ และหูหิ้วปรับระดับได้ 
  • มีสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุดตามมาตรฐานสากล สามารถปรับระดับได้ 
  • การติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อย  
  • สามารถใช้ฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ในการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX หรือเข็มขัดนิรภัย เพียงนำตระกร้าหิ้วไปวานบน ฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นในการใช้งาน 
  • สามารถใช้กับรถเข็นรุ่น Litetrax4 DLX / Pact / Tourist / Muze LX / Versatrax / Finiti 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 13 กิโลกรัม 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX  

แบรนด์ : ประเทศอังกฤษ

ปัจจุบันมีกฏหมายคาร์ซีทที่ระบุเอาไว้ว่า เด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องมีที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งกำหนดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ดังนั้นแล้ว การเลือกคาร์ซีทให้กับลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูก และช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้ หากคุณต้องการคาร์ซีทที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพดี BabyGift เป็นร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งคาร์ซีทแบบกระเช้าได้ทุกรุ่น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ  

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คุณแม่มือใหม่กับการเอาลูกน้อยเข้าเต้า ให้นมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง ฟังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ เพราะการที่แขนของคุณแม่ต้องแบกรับน้ำหนักลูกและต้องก้มตัวให้นมลูกน้อยบ่อย ๆ อาจจะทำให้คุณแม่ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดแขน หรือ เมื่อยล้าได้สะสมจนส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้ เพราะเห็นถึงปัญหาของคุณแม่หลังคลอด หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จึงถูกออกแบบมาเพื่อคุณแม่ให้นมโดยเฉพาะเลยค่ะ หมอนออกแบบตามสรีระศาสตร์ทารก ช่วยประคองคอและหลังของลูกน้อย พร้อมช่วยลดอาการปวดเมื่อยของคุณพ่อคุณแม่เวลาอุ้มทารกได้ด้วยค่ะ หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จำเป็นต้องมีไหม? คุณแม่ที่เชี่ยวชาญในการอุ้มทารกเป็นอย่างดี อุ้มลูกน้อยได้สบายหายห่วง เบาะอุ้มให้นมอาจจะดูไม่จำเป็นเท่าไหร่ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เวลาให้นมลูกยังต้องเกร็งแขน จนต้องใช้วิธีเอาหมอนหนุนมาวางซ้อนกันหลาย ๆ ใบ เพื่อรองรับลูกน้อย ยกลูกให้ถึงเต้านม หมอนรองให้นมก็ถือว่าจำเป็นต้องมีค่ะ เพราะจะช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในระดับที่ให้นมได้สะดวกมากขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยของคุณแม่ และที่สำคัญหมอนทั่วไปไม่เหมาะกับการให้ทารกนอนระหว่างให้นม เพราะหมอนไม่ได้โค้งกระชับรองรับสรีระทารกค่ะ วิธีเลือกซื้อหมอนรองให้นม 1. เลือกจากรูปทรงหมอนรองให้นมมีหลายรูปแบบ เช่น รูปตัวยู, เบาะตามสรีระทารก เป็นต้น คุณแม่ควรจะเลือกแบบที่ตัวเองถนัด ที่สำคัญคุณสมบัติหลักควรจะกระชับรองรับสรีระทารกได้เป็นอย่างดี 2. กระชับแนบตัวลูก หรือ ตัวคุณแม่หมอนรองให้นมควรจะแนบกระชับตัวลูกน้อย รองรับตามสรีระเด็กทารก เพื่อให้คุณแม่อุ้มได้ถูกท่า หากเป็นแบบหมอนรูปตัวยู ควรจะปรับสายได้เพื่อให้แนบกระชับกับเอวคุณแม่ ไม่ให้หมอนเลื่อนหลุดง่าย […]

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน คงเริ่มรู้จักกับคาร์ซีทกันบ้างแล้ว ว่าเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในขณะเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า คาร์ซีทที่ติดตั้งในรถยนต์แต่ละประเภทนั้น จะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาคำตอบกันว่า วิธีติดตั้งคาร์ซีท ตำแหน่งไหนปลอดภัยมากที่สุด วิธีติดตั้งคาร์ซีท มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี  ตำแหน่งที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุด สำหรับประเทศไทย ตำแหน่งในรถยนต์ที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุดก็คือ “เบาะหลังฝั่งคนนั่ง” ด้วยเหตุผลดังนี้…  รถยนต์ SUV หรือ รถตู้ ติดตั้งคาร์ซีทเบาะไหนดี  ติดตั้งคาร์ซีทที่รถตู้ ส่วนใหญ่แล้วรถที่มีนั่งมากกว่า 2 ตอน ควรจะติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะแถวสุดท้ายของตัวรถ แต่ก็จะมีข้อควรระวังในเรื่องของการติดตั้ง เช่น ควรจะขยับเบาะให้ห่างจากประตูหลัง เพื่อให้มีระยะห่างกับประตูพอสมควร เพื่อเป็นการเซฟตี้ลูกน้อยให้ปลอดภัยมากที่สุด  Alphard ติดตั้งคาร์ซีทได้ไหม ติดตั้งเบาะไหนดี  ติดตั้งคาร์ซีทที่รถ Toyota Alphard ควรจะติดตั้งที่เบาะแถวแรก หรือ แถวตอนสุดท้ายของตัวรถ ไม่ควรติดตั้งที่เบาะด้านหน้า เนื่องจากมีถุงลมนิรภัย (Airbag) และคาร์ซีทบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองของคนขับลดน้อยลง และสำหรับคาร์ซีทที่มีฟังก์ชั่นหมุนได้ เมื่อติดตั้งไปแล้วจะทำให้หมุนยากหรือหมุนไม่ได้เลย เนื่องจากเบาะรถมีขนาดพอดีตัว พื้นที่จำกัด ทำให้เวลาหมุนแล้วตัวคาร์ซีทจะไปติดที่ข้างเบาะ […]

ความปรารถนาสูงสุดของคุณพ่อคุณแม่ คือการได้เห็นลูกน้อยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมด้วยความเก่ง ฉลาด เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคต ดังนั้นเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจเต็มที่ที่จะให้น้ำนมแม่แก่ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดและมอบนมแม่ให้เป็นสุดยอดอาหารของลูกรักไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจึงเห็นว่าปัจจุบัน คุณแม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อจะเป็นคุณแม่นักปั๊ม ทำนมแม่สต๊อกไว้ให้ลูกน้อยกันแต่เนิ่นๆ แต่คุณแม่รู้ไหมว่า…นอกจากการปั๊มนมที่ต้องพิถีพันใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้ว วิธีการเก็บสต๊อกนมแม่ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณแม่เก็บไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี อาจทำให้นมแม่ก็เก็บบูดเสีย ลูกกินไม่ได้ รวมถึงหากเช่เย็นเก็บหรือละลายในอุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็ทำให้นมแม่สูญเสียคุณค่าสารอาหารสำคัญและจำเป็นต่อสมองและร่างกายของลูกน้อยไปแบบน่าเสียดาย  เสียทั้งกำลังกาย กำลังใจ นมแม่ที่โภชนาการดีๆมากมาย กลับเสียหายไปไร้ประโยชน์ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บน้ำนมแม่สต๊อกที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับเรื่องการเก็บนมแม่ไว้ไม่ให้เหม็นหืน เพื่อให้ลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ขั้นตอนการปั๊มและ วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ระยะเวลาการเก็บน้ำนมแม่ วิธีเก็บนมแม่สต๊อก ระยะเวลาที่เก็บได้ ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่เข้าตู้เย็น เก็บได้ 1 ชั่วโมง ตั้งทิ้งไว้ในห้องปรับอากาศ  (ไม่เข้าตู้เย็น) เก็บได้ 4 ชั่วโมง ในกระติกน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งตลอดเวลา เก็บได้ 1 วัน ใส่ตู้เย็น ช่อง/ชั้นธรรมดา เก็บได้ 3-5 วัน ใส่ตู้เย็นแบบ 1 […]

ช่วงนี้บอกได้เลยว่า กราฟความเป็นห่วงและกังวลของแม่ๆ ก็คงจะพุ่งปรี๊ดทะลุเพดาน เพราะมีเชื้อโรคตัวร้ายอย่าง COVID ที่ความร้ายกาจนั้นอยู่ที่มันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเกิดมายุคไหน ก็คงจะหนีไม่พ้นจากการปลูกฝังให้ล้างมือ แต่เด็กๆ ยุคนี้จะไม่หยุดอยู่แค่ที่ล้างมือค่ะ เพราะเราจะมีขั้นตอนเพื่อสุขอนามัยที่ดีที่เยอะกว่านั้น มาดูกันเลยค่ะ ว่ายุคแห่งสงคราม “โรค” เช่นนี้ เราจะฝึกให้ลูกน้อยดูแลสุขอนามัยของตัวเองยังไงได้บ้าง 1. ล้างมือให้นานกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมีท่า  ตอนนี้คงจะพูดแค่ว่าให้ล้างมือให้สะอาดไม่ได้อีกต่อไป แต่จะต้องเน้นให้ล้างมือนานกว่าเดิม เพราะมือที่ดูเหมือนว่าสะอาดแล้ว อาจจะไม่ได้สะอาดอย่างที่เห็น การล้างมือที่ถูกต้องที่เราอยากให้คุณแม่ปลูกฝังลูกๆ ก็คือการล้างมือแบบ 7 ขั้นตอนค่ะ ลองมาดูกันนะ ว่าทำแบบไหนบ้าง แม้ขั้นตอนจะดูเยอะไปซักนิด แต่คุณแม่มั่นใจได้เลยค่ะ ว่าถ้าลูกน้อยทำครบ 7 ขั้นตอนนี้ ต่อให้เชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่ในซอกเล็บยังต้องกลัว! การันตีมือสะอาดหมดจด ตั้งแต่ข้อมือยันปลายเล็บเลยล่ะ! 2. มือกับหน้า ไม่ควรมาเจอกัน  แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบังคับไม่ให้ลูกๆ ใช้มือสัมผัสหน้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะห้ามไม่ได้นะคะ คุณแม่อาจจะต้องค่อยๆ สอนไป อาจจะแกล้งบอกเค้าว่ามือกับหน้าโกรธกันอยู่ ไม่ควรมาเจอกัน หรือเวลาลูกจะใช้มือมาจับที่หน้า อย่าดุ อย่าทำเสียงดัง หรือทำให้เค้าตกใจ แต่ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจให้เค้าใช้มือไปจับอย่างอื่นแทน ถ้าวิธีพวกนี้ไม่เวิร์ค เราอาจจะใช้วิธีคุยกับเค้าไปตรงๆ เล่าให้เค้าฟังว่าที่มือของเค้ามีเชื้อโรค ซึ่งมันจะมากัดที่หน้าถ้าเผลอเอามือไปจับก็ได้เช่นกันค่า […]

เครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของคุณแม่ลูกอ่อน โดเฉพาะคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดอาการคัดเต้านม ซึ่งการที่คุณแม่ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสต็อกน้ำนมได้ตามความต้องการ ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อมากมาย และก็มีหลายประเภทให้เลือกซื้อ คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหน จะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? BabyGift มีเครื่องปั๊มนมน่าใช้ในปี 2025 มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันเลยค่ะ  เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ?  เครื่องปั๊มนมแบบไหนที่ถูกใจคุณแม่บ้าง ?  เครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดทำให้ไม่ได้ให้ลูกกินนมจากเต้าเหมือนตอนอยู่บ้าน เครื่องปั๊มนมนั้นก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ทำให้คุณแม่ปั๊มนมเก็บลงสต็อกได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นน้ำนม เสมือนว่ามีทารกดูดน้ำนมอย่างเสมอซึ่งช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม และทำให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ลูกดูดนมสต็อกในขวดแทนการดูดจากเต้า เรียกว่าเครื่องปั๊มนมนั้นมีความจำเป็นมากทีเดียวเลยค่ะ แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? ก็ต้องดูว่าแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ได้มากน้อยอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่อาจจะกำลังสงสัยว่าเครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ ? โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ    BabyGift แนะนำเครื่องปั๊มนม 10 อันดับน่าใช้ประจำปี 2025   รู้กันแล้วว่ามีกี่ประเภท ตอนนี้เราลองมาดูยี่ห้อน่าใช้กันต่ะค่ะ ปัจจุบันตามท้องตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบปั๊มมือ และแบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย […]

ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าเรื่องพาหะธาลัสซีเมียนี่เป็นอะไรที่ไกลตัวมากๆ แต่พอตั้งท้องเท่านั้นแหละ การเป็นพาหะฯ นี่เรื่องใกล้ตัวสุดๆ แถมทำให้กังวลมากมายเลยล่ะค่ะ ถ้าคุณแม่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็แสดงว่าคุณแม่อาจจะกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกันใช่มั้ย สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าพาหะธาลัสซีเมียคืออะไร วันนี้เราก็นำความรู้มาฝากกันค่ะ เคยได้ยินผ่านๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพาหะธาลัสซีเมียคืออะไร? อันที่จริง การเป็นพาหะธาลัสซีเมียไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนไทยเลยนะ เพราะมีคนไทยตั้งกว่า 24 ล้านคนที่เป็นพาหะโรคนี้ เผลอๆ เวลาเดินตามถนนเราอาจจะเจอคนที่เป็นพาหะอยู่เต็มไปหมด แถมเรายังอาจจะเป็นด้วยก็ได้นะ คนที่เป็นพาหะของโรคนี้ง่ายๆ ก็คือ คนที่มีเชื้อธาลัสซีเมีย “แฝง” อยู่ในร่างกาย เพราะงั้นคนที่เป็นพาหะจะมีสุขภาพที่แข็งแรงปกติเหมือนคนทั่วไปนี่แหละ ไม่ได้ออกอาการอะไร แต่อาจจะเลือดจางนิดหน่อย โรคธาลัสซีเมียนี้เป็นโรคที่ติดต่อได้ทางพันธุกรรม เพราะงั้น หากทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะทั้งคู่ ลูกที่คลอดออกมาก็สามารถเป็นโรคธาลัสซีเมียได้ถึง 25% เลยนะ พูดง่ายๆ คือ พาหะก็เหมือนมีโรคอยู่ครึ่งนึง แม่มีครึ่ง พ่อมีครึ่ง พอมารวมกัน ลูกก็มีโอกาสที่จะได้รับโรคนี้ไปเต็มๆ เลยนั่นเอง แต่คุณแม่ก็อย่าเพิ่งกังวลเกินไปนะคะ เพราะหากคุณหมอตรวจพบว่าทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะแล้ว ขั้นต่อไปคุณหมอจะดูว่าเป็นธาลัสซีเมียชนิดไหน เพราะถ้าเป็นคนละชนิดกัน ก็หายห่วง! พาหะธาลัสซีเมียมีกี่ชนิด แล้วต่างกันยังไง? พาหะธาลัสซีเมียมี 2 ชนิด ก็คือ อัลฟ่ากับเบตา อัลฟ่านี่จะค่อนข้างรุนแรง แต่มากน้อยก็แล้วแต่ยีนส์ที่แฝงอยู่นั่นแหละ ส่วนถ้าเป็นกลุ่มเบตาก็จะไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages