เปรียบเทียบ Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เลือกรุ่นไหนให้เหมาะกับลูกน้อย ?

Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ
เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ

ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ?
1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size)
2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ
3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
4. รองรับศีรษะทารกได้อย่างปลอดภัย : ซัพพอร์ตศีรษะหนาถึง 100 mm. เพื่อปกป้องศีรษะและลำตัวของทารกได้อย่างแน่นหนา
5. การปกป้องครบทุกด้าน : ออกแบบคาร์ซีททรงไข่ Egg shield protection เบาะลึกโอบทั่วตัว ไม่ให้ส่วนใดของทารกยื่นออกไปจากขอบคาร์ซีท

6. การปกป้องจากแสงแดด : หลังคาคลุมยาวถึงปลายเท้า 98 ซม. ช่วยป้องกันแสงแดดและยูวี
7. การระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ : ช่องระบายอากาศ 1,695 ช่อง ช่วยหมุนเวียนอากาศและรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม
8. สะดวกในการใช้งาน : หมุน 360 องศาด้วยมือเดียว เพื่อความสะดวกในการอุ้มลูกเข้า-ออกจากคาร์ซีท
9. โครงสร้างแข็งแรงทนทาน : ผลิตจากไฟเบอร์กลาสที่มีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าพลาสติกทั่วไป
10. องศาการนั่งปลอดภัย : ช่วยให้ทารกนอนหลังตรง ป้องกันการงอของกระดูกสันหลัง และทำให้ทารกรู้สึกปลอดภัยและสบายมากขึ้นอีกด้วย
11. Made in Japan : คาร์ซีท Ailebebe ผลิตที่ Yuki Factory ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
เปรียบเทียบ Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2

1. ผ้าฆ่าเชื้อ AG Pure
Kurutto R The First 1 มีผ้าฆ่าเชื้อ AG Pure 3 จุด ได้แก่ ข้างซัพพอร์ต, เบาะรองนั่ง, และผ้าซับน้ำลาย ส่วน Kurutto R The First 2 เพิ่มเป็น 4 จุด ครอบคลุมข้างซัพพอร์ต, เบาะรองนั่ง, นวมหุ้มเข็มขัด, และผ้าซับน้ำลาย ช่วยปกป้องลูกน้อยจากแบคทีเรียและเชื้อโรคในทุกส่วนที่สัมผัส

2. ขนาดเบาะซัพพอร์ตทารก
Kurutto R The First 1 มีขนาดเบาะซัพพออร์ตปกติ (Size L) ในขณะที่ Kurutto R The First 2 มีขนาดเบาะใหญ่กว่า (Size LL) ซึ่งการเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกน้อยนั่งสบายและปลอดภัยตลอดการเดินทาง

3. ซัพพอร์ตศีรษะด้านข้างและด้านหลัง
Kurutto R The First 1 มีซัพพอร์ตด้านข้างขนาด 100 mm. และซัพพอร์ตด้านหลัง 70 mm. ซึ่งให้การปกป้องที่มั่นคง ขณะที่ Kurutto R The First 2 มีซัพพอร์ตด้านข้างขนาดเดียวกัน แต่ซัพพอร์ตด้านหลังจะบางกว่าเล็กน้อยที่ 60 mm. ซึ่งเหมาะกับการยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหวมากขึ้น

4. ฟีเจอร์เข็มขัดนิรภัย
ทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์ “สายเข็มขัดยกขึ้นอัตโนมัติ” ที่ทำให้การใส่เข็มขัดให้ลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายและสะดวก แต่ Kurutto R The First 2 เพิ่มฟีเจอร์ “นวมหุ้มเข็มขัดพับขึ้นอัตโนมัติ” ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพาลูกน้อยขึ้นลงจากคาร์ซีทได้

5. เสริมโฟมเพิ่มความสบายในการนั่ง
Kurutto R The First 1 ไม่มีการเสริมวัสดุ Polyurethane Foam ในเบาะ ทำให้เบาะมีความแข็งเล้กน้อย แต่ Kurutto R The First 2 ได้รับการเสริมวัสดุ Polyurethane Foam ทำให้การนั่งสบายขึ้น เหมาะสำหรับการเดินทางที่ยาวนานขึ้น

6. สีของคาร์ซีทและดีไซน์
Kurutto R The First 1 มีสี Luna Black และ Stella Navy ที่สวยเรียบหรู ขณะที่ Kurutto R The First 2 มาในสีใหม่ที่ทันสมัยกว่า ได้แก่ Pearl Black และ Pearl Beige ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัยมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่คงเริ่มเห็นความแตกต่างระหว่าง Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 แล้วนะคะ โดยทั้งสองรุ่นมีฟังก์ชันและนวัตกรรมเหมือนกัน เช่น ระบบหมุน 360 องศา, การรองรับศีรษะทารก, โครงสร้างแข็งแรง และการระบายอากาศที่ดี ซึ่งออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกน้อย
แต่สำหรับรุ่น Kurutto R The First 1 จะเหมาะกับทารกแรกเกิดที่ต้องการความปลอดภัยและสะดวกสบาย ขณะที่รุ่น Kurutto R The First 2 เพิ่มฟีเจอร์เสริมที่ให้ความสะดวกสบายและรองรับได้มากขึ้น ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว ทั้งสองรุ่นมั่นใจได้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้รับความปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกน้อยค่ะ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R หรือการเลือกซื้อคาร์ซีท สามารถคลิกที่ลิงก์นี้เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ https://shop.babygiftretail.com/product-category/all/ailebebe
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ใครกำลังคิดว่ากระเป๋าใส่ของแม่ ไม่ได้จำเป็นอะไร ใช้อะไรก็ได้ ลองแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ พอเป็นคุณแม่แล้วก็มีของใช้มากมายต่างๆ ทั้งของเรา ของลูกเยอะแยะไปหมดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นการมีกระเป๋าใส่ของลูกก็จะทำให้คุณแม่มีความสะดวก หยิบของง่าย เป็นระเบียบมากขึ้น และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกระเป๋าของคุณแม่กันให้มากขึ้นค่ะ จำเป็นแค่ไหน ? กระเป๋าคุณแม่ ต่างจากกระเป๋าปกติยังไง ? กระเป๋าใส่ของคุณแม่มีความแตกต่างจากกระเป๋าทั่วไปในหลายๆ อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความจุ ซึ่งโดยมากมักมีขนาดใหญ่ และมีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อบรรจุของใช้สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรจุของที่จำเป็นต่อการดูแลลูกได้อย่างครบครัน เช่น มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้นค่ะ แล้วเราจะเลือกกระเป๋าใส่ของลูกยังไงให้เหมาะกับเรา ใช้ได้นาน มาดูรายละเอียดกันต่อค่ะ เลือก กระเป๋าคุณแม่ ยังไงดี ? การเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับตัวคุณแม่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน คุณแม่จึงควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการใช้งาน เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันค่ะ 1. ขนาด และความจุ : ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงมีช่องเก็บของเพียงพอสำหรับใส่ของใช้ของคุณแม่และลูกของเรา 2. น้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา และความปลอดภัย : ให้เลือกวัสดุที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา และมีสายสะพายที่นุ่ม และปรับความยาวได้ […]
ไขข้อสงสัยที่สาวๆอยากรู้ “แม่เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม?” วันนี้ Baby Gift มีคำตอบค่ะ ปัจจุบันการศัลยกรรมเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงและเข้าถึงทุกเพศทุกวัยทั่วโลก โดยเฉพาะการอัพไซส์ แม่เสริมหน้าอก เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้นสาวๆจะมีหน้าอกที่สวยงามและขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ รวมถึงมีร่องอกที่ชิดและชัดเจนกว่าเดิม ส่งผลให้สาวๆเกิดความมั่นใจในรูปร่างตัวเองมากยิ่งขึ้น เมื่อสาวๆนิยมหันมาเสริมหน้าอก กันมากขึ้นจนเริ่มมีการตั้งคำถามว่า คุณแม่เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม? คำตอบคือ ได้ค่ะ คุณแม่ที่เสริมหน้าอกมาแล้ว สามารถให้นมลูกได้ตามปกติและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เพราะปัจจุบันการเสริมหน้าอกใช้เทคนิคใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปใต้หรือเหนือกล้ามเนื้อเต้านม ซึ่งอยู่คนละส่วนกับที่ใช้ผลิตน้ำนม และไม่ได้มีการตัดท่อน้ำนมหรือตกแต่งบริเวณหัวนม ส่วนในกรณีที่คุณแม่เสริมหน้าอกลังเลเรื่อง คุณแม่เสริมหน้าอก สามารถปั๊มนมได้ไหม? คำตอบคือ ทำได้ค่ะ คุณแม่ที่เสริมหน้าอกมาแล้ว สามารถปั๊มนมได้ตามปกติ โดยเลือกใช้เครื่องปั๊มนมที่มีคุณภาพ รองรับการปั๊มนมสำหรับคนที่เสริมหน้าอก อย่างไรก็ตาม การเสริมหน้าอกควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และเพื่อความสบายใจของคุณแแม่ควรปรึกษาคุณหมอในการวางแผนมีลูกเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเป็นกรณีไป ได้คำตอบแบบนี้แล้วคุณแม่มั่นใจหายห่วง เตรียมพร้อมรับมือเตรียมตัวเป็นคุณแม่กันดีกว่าค่ะ
เชื่อว่าอาการปวดหลังหรืออาการปวดเมื่อยตามร่างกายนั้น ต้องเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนเคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องนั่งหรืออยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน ๆ และก็อาจจะมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างเบาะยางพาราและเบาะเมมโมรี่โฟมเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย เนื่องจากวัสดุดังกล่าวให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายและช่วยคลายความปวดได้ แต่ทราบหรือไม่คะว่า ปัจจุบันนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Vetagel (เวทาเจล) ซึ่งเป็นวัสดุเจลประเภทหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้เร็ว และลดแรงกดทับได้ดีกว่ามาก ทั้งยังเป็นที่นิยมในประเทศเกาหลีอีกด้วย vetagel คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง มีประโยชน์ทางด้านสุขภาพของเราอย่างไร ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ Vetagel คือ อะไร ? ชวนรู้จักเจลชนิดพิเศษเพื่อสุขภาพ นำเข้าจากเกาหลีใต้ vetagel คือวัสดุเจลชนิดหนึ่ง เป็นเจลใสสีเขียวชนิดพิเศษ ผลิตขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ เนื้อเจลจะมีคุณสมบัติเหนียว แข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูงมาก แม้มีแรงกดทับหนัก ๆ ก็ไม่เสียรูปทรงง่าย สามารถกระจายแรงกดทับได้ดีและคืนตัวได้เร็ว เมื่อเรากดลงไปในเนื้อเจล เนื้อเจลจะเด้งดึ๋งคืนตัวทันที (Fast Recovery Property) ทำให้เกิดแรงกดทับได้น้อยมาก ๆ ซึ่งแตกต่างจากวัสดุชนิดอื่น ๆ เช่น เมมโมรี่โฟมหรือยางพาราที่เมื่อเราใช้มือกดลงไป วัสดุจะค่อย ๆ คืนตัวช้า ๆ […]
ปัจจุบัน คาร์ซีท (Car Seat) หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ทั้ง คาร์ซีทแรกเกิด คาร์ซีทเด็กโต บูสเตอร์ซีท มีเกณฑ์การทดสอบความปลอดภัยต่างกันและผ่านมาตรฐานมาจากหลายประเทศ แต่ทราบหรือไม่ว่า คาร์ซีทในประเทศไทย มีประกาศจากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) มาแล้ว ว่าคาร์ซีทจะต้องผลิตหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยของยุโรปเท่านั้น ทั้งนี้ ยังมีประกาศเพิ่มข้อบังคับให้คาร์ซีทต้องผ่านการทดสอบการชนจากด้านข้างด้วย ซึ่งตรงกับข้อบังคับของ มาตรฐานคาร์ซีท R129 (i-Size) เป็นมาตรฐานฉบับใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดของ มาตรฐาน ECE R129 (i-Size) มาก่อน ว่าเพิ่มความปลอดภัยจุดไหนบ้าง เราจะพาไปทำความเข้าใจกันเลย คาร์ซีทในประเทศไทย ใช้มาตรฐานใหม่ ECE R129 (i-Size) จากเดิม ประกาศมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standards) ของคาร์ซีท จากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จะเริ่มบังคับใช้ภายในปี 2566 ให้ผู้ประกอบการที่ทำหรือนำเข้าคาร์ซีท ต้องทำหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน มอก.3418-2565 โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานสากล ECE R44/04 (มาตรฐานยุโรป) ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) […]
1.เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 2. วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็กต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 3. ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ 4. โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 5. มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย 6. โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น 7. ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง
วิตามินมีความสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะตอนท้อง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่วิตามินที่เราได้รับเป็นปกตินั้นจะต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับเราเอง และอีกส่วนหนึ่งสำหรับลูกน้อย วิตามินส่วนใหญ่ก็จะสามารถพบได้ในอาหารทั่วไปเลยนะคะ หรือคุณแม่บางท่านอาจจะเลือกที่จะเสริมวิตามินเพิ่มเติมก็ได้อยู่ แต่ก่อนที่เราจะมองหาอาหารที่อุดมด้วยวิตามินมาทานนั้น เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าแม่ท้องควรจะเน้นวิตามินตัวไหนเป็นพิเศษกันบ้าง 1. วิตามินบี 1 วิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่จะช่วยไม่ให้คุณแม่เกิดอาการเหน็บชา และมีความจำเป็นต่อร่างกายในการสร้างและการทำงานของเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทต่างๆ ของทารก สำหรับคุณแม่ที่ได้รับวิตามินตัวนี้น้อยเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อหัวใจและปอดของลูกน้อยได้ค่ะ อาหารที่มีวิตามินบี 1 ไข่ไก่ ข้าวซ้อมมือ แป้งสาลี 2. วิตามินบี 2 และบี 6 สำหรับวิตามินตัวนี้นั้นจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองรวมถึงระบบประสาทของทารกเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าได้รับวิตามินตัวนี้น้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้สมองของลูกน้อยพัฒนาได้อย่างไม่เต็มที่นะคะ อาหารที่มีวิตามินบี 2 และบี 6 เช่น ตับและไข่แดง 3. กรดโฟลิก กรดโฟลิกเป็นวิตามินที่ช่วยเรื่องของการสร้างอวัยวะให้แก่ลูกน้อย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของสมองพิการและความพิการของร่างกายส่วนอื่น ๆ อาหารที่มีกรดโฟลิก เช่น ผักโขม อาโวคาโด ข้าวโพด 4. วิตามินบี 12 วิตามินบี 12 ก็เป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องของการทำงานระบบประสาทเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีส่วนในเรื่องของการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วยนะ และเม็ดเลือดแดงก็มีความสำคัญในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองของลูกน้อยของเรานั่นเอง อาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น ไข่ ตับ และผลิตภัณฑ์จากนม 5. วิตามินซี วิตามินซีจะมาช่วยคุณแม่ในเรื่องของภูมิคุ้มกัน […]






