คาร์ซีท Ailebebe นวัตกรรมสุดล้ำ ปกป้องลูกน้อยได้ดีที่สุด

คาร์ซีท Ailebebe นวัตกรรมสุดล้ำ ปกป้องลูกน้อยได้ดีที่สุด

คาร์ซีท เป็นผลิตภัณฑ์จำเป็นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่พ่อแม่ต้องมั่นใจเป็นอย่างมากก่อนการตัดสินใจ ว่าสินค้านี้จะปลอดภัยมากเพียงพอในการปกป้องดูแลลูกน้อยตลอดการเดินทาง แบรนด์ Ailebebe ผู้นำด้านการผลิตคาร์ซีทในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมการออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ ได้เข้าใจในเรื่องความปลอดภัยนี้ จนสามารถคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เป็นเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวในคาร์ซีท Ailebebe แบรนด์นี้แตกต่างจากคาร์ซีททั่วไปอย่างไร มาทำความรู้จัก คาร์ซีทเอเลเบเบ ไปพร้อม ๆ กันเลย

คาร์ซีทเอเลเบเบ คืออะไร

Ailebebe (Ai-le-be-be) อ่านว่า เอ-เล-เบ-เบ คือแบรนด์คาร์ซีทที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ออกแบบและผลิตโดยบริษัท Carmate จากเดิมเป็นผู้ออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีความปลอดภัยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2509 จนถึงปัจจุบัน มากว่า 50 ปีแล้ว 

และด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ออกแบบเบาะนั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก หรือ คาร์ซีท ด้วยการใช้ประสบการณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย รวมถึงคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้คาร์ซีทปลอดภัยมากขึ้น ภายใต้แนวคิด “Safety and Comfort ความปลอดภัยที่มาพร้อมกับความสบาย” จนเป็นแบรนด์ Ailebebe คาร์ซีทที่คุณพ่อคุณแม่วางใจใช้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น 

โดยความหมายของแบรนด์ Ailebebe มาจากภาษาฝรั่งเศส “Aile” แปลว่า ปีก และ “bebe” แปลว่าทารก รวมเป็น “ทารกมีปีก หรือว่า เทวดา นางฟ้า” สื่อความหมายว่าลูกน้อยเปรียบเสมือนเทวดานางฟ้าตัวน้อย ๆ ของคุณพ่อคุณแม่ 

Ailebebe แตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร

1. มีศูนย์ทดสอบความปลอดภัยของตัวเอง 

เอเลเบเบ คือผู้นำด้านด้านความปลอดภัยอย่างแท้จริงในญี่ปุ่น เพราะมีห้องทดสอบการชนเป็นของตัวเอง พร้อมมีอุปกรณ์ทดสอบความปลอดภัยคุณภาพระดับเดียวกันกับมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (UN standard) เช่น เครื่องทดสอบการชนแบบลดความเร็ว หุ่นจำลองสรีระเหมือนเด็กตั้งแต่อายุ 0- 10 ขวบ และเซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกที่ใช้ติดหุ่นจำลองมากสุดถึง 32 จุด

รวมถึงห้องทดสอบการชนของ Ailebebe ยังได้รับอนุญาตให้เป็นศูนย์กลางในการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (UN R44) ในอุตสาหกรรมคาร์ซีทระดับแนวหน้าของเอเชีย ด้านความเร็วในการทดสอบการชนจะใช้ระดับเดียวกันกับมาตรฐานยุโรป ตั้งแต่ความเร็ว 0 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง / 50 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง / 70 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง / 100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

2. คาร์ซีทเอเลเบเบทุกรุ่น มีมาตรฐานระดับยุโรป

คาร์ซีทตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต ให้ความสำคัญกับการปกป้องศีรษะทารกเป็นอันดับหนึ่งง รวมถึงลำคอ กระดูกสันหลัง และป้องกันการกระแทกด้านข้างได้อย่างแน่นหนาเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จึงได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสหภาพยุโรป R129 (i-Size) และ ECE R44/04 ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด 

รวมถึงในประเทศไทยก็ใช้มาตรฐานยุโรป เนื่องจากมีประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จะเริ่มบังคับใช้ภายในปี 2566 ให้ผู้ประกอบการที่ทำหรือนำเข้าคาร์ซีท ต้องทำหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน มอก.3418-2565 โดยใช้มาตรฐานสากล UN R 44 (มาตรฐานยุโรป) ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก 

3. ซัพพอร์ตเด็กแรกเกิด หนาที่สุด 100 mm.

ศีรษะเด็กแรกเกิดจะมีขนาด 1 ใน 4 ของร่างกาย ถือว่ามีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบกับขนาดของร่างกายโดยรวม ฉะนั้นคาร์ซีทเด็กแรกเกิด อย่าง รุ่น Kurutto R จึงให้ความสำคัญกับการปกป้องศรีษะทารกเป็นอันดับหนึ่ง Head Support ข้างศีรษะ จึงมีความหนานุ่มเป็นพิเศษ ถึง 100 mm. เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยฉบับใหม่ของยุโรป R129 (i-Size) ด้วย เพื่อช่วยป้องกันการกระแทกจากด้านข้างได้อย่างปลอดภัย

4. คาร์ซีท Kurutto คือ คาร์ซีททรงไข่อย่างแท้จริง

อวัยวะทุกส่วนของเด็กแรกเกิดยังบอบบางมาก การปกป้องอย่างรอบด้านจึงจำเป็นอย่างที่สุด รุ่น Kurutto จึงออกแบบให้เป็นคาร์ซีททรงไข่ Egg-Shell Protection มีหลังคาคลุมถึงปลายเท้า 98 cm. จึงช่วยโอบปกป้องร่างกายทารกได้อย่างรอบด้าน 360 องศา ไม่ให้มีอวัยวะใดของลูกยื่นออกมานอกคาร์ซีท 

นอกจากนี้ หลังคาคลุมถึงปลายเท้า ยังกันความร้อน กันแดด กันแสงยูวีได้ 99% ปกป้องดวงตาของทารกให้นอนหลับสนิทมากขึ้น และการคลุมมิดชิดยังช่วยกันเศษกระจกที่จะกระเด็นใส่ลูกน้อยเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย 

5. Kurutto ช่องระบายอากาศ 1,695 ช่อง นั่งแล้วไม่ร้อน

เด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก ยังควบคุมอุณหภูมิในร่างกายได้ไม่เต็มที่ จึงคลายความร้อนได้ช้า มีเหงื่อออกเยอะ ยิ่งถ้าหากอยู่ในคาร์ซีทที่ไม่มีช่องระบายอากาศเป็นเวลานาน ๆ ก็จะยิ่งสะสมความร้อน จนทำให้เป็นไข้ ไม่สบายตัว หรือ กลัวการนั่งคาร์ซีทได้เลย 

รุ่น Kurutto จึงแก้ปัญหาด้วยการออกแบบให้ด้านหลังคาร์ซีทมีช่องระบายอากาศมากที่สุด ถึง 1,695 ช่อง เพราะเป็นจุดที่สะสมความร้อนและเหงื่อออกง่ายมากกว่าจุดอื่น ๆ ช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ระบายอากาศ ให้อากาศหมุนเวียน คาร์ซีทจึงนั่งเย็นสบาย นั่งนาน ๆ ได้โดยไม่รู้สึกร้อนเลย 

 6. ใช้งานสะดวกสบาย คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว

Kurutto (คุรุตโตะ) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า หมุนได้ จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น Kurutto ด้วย และยังเป็นคาร์ซีทรุ่นเดียวในญี่ปุ่นที่หมุนง่ายด้วยมือเดียว หมุนแล้วไม่มีเสียงรบกวนลูกน้อยเลยแม้แต่นิดเดียว โดยฟังก์ชั่นการหมุนสำคัญมากสำหรับเด็กแรกเกิด เพราะเด็กแรกเกิดบอบบาง ต้องระมัดระวังในการพาเข้าหรือออกจากคาร์ซีท การหมุนหันมาหาแม่ได้ จะช่วยให้อุ้มลูกขึ้นลงรถได้สะดวก ไม่เสี่ยงหกล้ม แม้ที่จอดรถจะแคบ 

นอกจากนี้ คาร์ซีทหมุนได้ ยังช่วยฝึกให้ลูกนั่งคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น เพราะหากลูกร้องไห้ หรือ จังหวะรถจอดติดไฟแดง คุณแม่ก็สามารถหันคาร์ซีทมาสบตา เล่นกับลูก เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือให้นมได้อย่างสะดวก พร้อมติดตั้งครั้งเดียวจบ สามารถปรับใช้งานได้ ทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) ได้เลย 

7. โครงสร้างไฟเบอร์กลาส เสริมตารางวาฟเฟิล

“ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) หรือ เส้นใยแก้ว” มักจะถูกใช้เป็นวัสดุช่วยเสริมแรงให้กับพลาสติก เพราะมีความแข็งแรง ทนแรงกระแทกได้สูง ป้องกันความร้อน และสามารถดัดขึ้นรูปได้ ในอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นจึงนิยมนำมาผลิต เช่น คอนโซลหน้ารถ ชิ้นส่วนเครื่องบินเล็ก ชิ้นส่วนรถแข่ง เป็นต้น 

รวมถึงคาร์ซีทแรกเกิด Ailebebe ที่ Made in Japan ก็เลือกใช้ไฟเบอร์กลาสในการทำโครงคาร์ซีทด้วย เพราะต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ และยังดัดรูปทรงให้รองรับสรีระทารกได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ฉีกขาดหรือแตกหักง่าย  ๆ พร้อมออกแบบบริเวณด้านหลังให้เป็นโครงสร้างคล้าย “ตารางวาฟเฟิล” ป้องกันการกระแทก เสริมความแข็งแรงอีกชั้น เพื่อให้มั่นใจว่าความแข็งแรงของไฟเบอร์กลาสรวมกับตารางวาฟเฟิล จะทนต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี 

คาร์ซีท Ailebebe แบ่งการใช้งานกี่รูปแบบ 


เนื่องจากสรีระเด็กแรกเกิดและเด็กแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกัน Ailebebe เข้าใจในความสำคัญเหล่านี้ จึงได้ออกแบบคาร์ซีทให้รองรับสรีระเด็กที่แตกต่างกันตามช่วงวัย ไม่เลือกออกแบบคาร์ซีทที่ใช้ได้ครอบคลุมหลายช่วงวัยเหมือนแบรนด์อื่น ๆ โดย Ailebebe ได้แบ่งการใช้งานคาร์ซีทออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้… 

1. คาร์ซีทแบบ Convertible
  • คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี
    เป็นคาร์ซีทเฉพาะทางเพื่อเด็กแรกเกิดอย่างแท้จริง เหมาะใช้เป็นคาร์ซีทตัวแรกให้ลูก สามารถปรับใช้งานได้ 2 รูปแบบ ทั้ง แบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และปรับหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) 
2. คาร์ซีทแบบ Forward – facing Seat

จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ 

  • คาร์ซีทสำหรับเด็ก อายุ 1 – 7 ปี
    คาร์ซีทเด็กโต เหมาะใช้เป็นคาร์ซีทตัวที่ 2 ให้กับลูก จะใช้งานแบบหันหน้าไปหน้ารถ (Forwardfacing) อย่างเดียว ตัวคาร์ซีทจะมีลักษณะที่เบาะกว้าง ปรับเอนนอนได้ในตัว พนักพิงใหญ่และสูง ปรับเป็น BoosterSeat ได้
  • คาร์ซีทสำหรับเด็ก อายุ 1-10 ปี
    คาร์ซีทเด็กโต มาตรฐานใหม่ จะเหมาะใช้เป็นคาร์ซีทตัวที่ 2 ให้กับลูก จะใช้งานแบบหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) อย่างเดียว ตัวคาร์ซีทจะมีลักษณะเบาะกว้าง ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ พนักพิงปรับขึ้นได้ตามความสูง และใช้เป็น Booster Seat แบบมีพนักพิงตามมาตรฐาน R129 เท่านั้น
  • คาร์ซีทสำหรับเด็ก อายุ 1-11 ปี
    คาร์ซีทเด็กโต เหมาะใช้เป็นคาร์ซีทตัวที่ 2 ให้กับลูก จะใช้งานแบบหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) อย่างเดียว ตัวคาร์ซีทจะมีลักษณะเบาะกว้าง ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ พนักพิงปรับขึ้นได้ตามความสูง ถอดพนักพิงออกเป็น Booster Seat พกพาได้

คาร์ซีทแรกเกิดเอเลเบเบ มีรุ่นอะไรบ้าง 

1. Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 2

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาถึง 100 mm.
  • ผ้า AG Pure ต้านแบคทีเรีย 99% อ่อนโยนต่อทารก
  • ผ้าตาข่าย W Russell ระบายอากาศดี 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง
  • หมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว ไร้เสียงรบกวน 
  • หลังคาคลุมถึงปลายเท้า 98 cm. 
  • เข็มขัดนิรภัย 5 จุด ระบบ Jumping Harness 
  • ขาค้ำยัน ระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน หากติดตั้งไม่ถูกต้อง

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

2. Ailebebe รุ่น Kurutto R Grance 2

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาถึง 100 mm. 
  • ผ้าตาข่าย W Russell ระบายอากาศดี 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง 
  • หมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว ไร้เสียงรบกวน 
  • หลังคาคลุมได้ 79 cm. 
  • เข็มขัดนิรภัย 5 จุด ระบบ Jumping Harness 
  • ขาค้ำยัน ระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน หากติดตั้งไม่ถูกต้อง

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

คาร์ซีทเด็กโตเอเลเบเบ มีรุ่นอะไรบ้าง 

1. Ailebebe รุ่น Papatto R

  • มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับยุโรป ECE R129 (i-Size)
  • มี Top Tether ตะขอเกี่ยวเบาะหลัง ป้องกันคาร์ซีทคว่ำหน้า
  • เข็มขัดนิรภัย 5 จุด ระบบ Jumping harness พาลูกเข้า-ออกคาร์ซีทง่ายขึ้น ​
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาขึ้น ด้วย EPP FOAM เสริม MEMORY FOAM​
  • เนื้อผ้าตาข่าย W Russell ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดีกว่าผ้าตาข่ายทั่วไป 2 เท่า
  • เนื้อผ้า Ag Pure ต้านแบคทีเรีย 99% จดสิทธิบัตรเฉพาะแบรนด์ AILEBEBE​
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 864 ช่อง ระบายอากาศดี
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ ได้ 120 องศา  
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีทแบบมีพนักพิงได้ (Booster Seat)

การใช้งาน : เด็กโต 1 – 10 ปี หรือ ส่วนสูง 76 – 135 cm. 

การติดตั้ง : ระบบ Isofix 

2. Ailebebe รุ่น Swing Moon Premium S Natural

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • มีหมอนรองศีรษะหนานุ่ม ปลอดภัยสูง 
  • มีหมอนรองสะโพก นอนสบายขึ้น 
  • ผ้าธรรมชาติ สัมผัสนุ่มสบาย 
  • ผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง ระบายอากาศดี 
  • พนักพิงปรับได้ตามความสูง 120 cm.  
  • ปรับเอนนอนได้ในตัว ถึง 3 ระดับ 120 องศา นอนสบายกว่า 
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้ 

การใช้งาน : เด็กโต 1 – 7 ปี หรือ น้ำหนัก 9-25 กก. 

การติดตั้ง : ระบบ Belt

3. Ailebebe รุ่น Saratto Premium

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • ใช้ Impact Shield หรือ ที่กั้นหน้า ช่วยป้องกันการกระแทก เด็กไม่ต้องคาดเบลท์คาร์ซีท ไม่อึดอัด 
  • ผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี  
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง ระบายอากาศดี 
  • ปรับพนักพิงปรับได้ตามความสูง ถึง 145 cm.  
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ 120 องศา  
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้ หรือ จะถอดพนักพิงเป็นบูสเตอร์ซีทแบบพกพาได้ 

การใช้งาน : เด็กโต 1 – 11 ปี หรือ น้ำหนัก 9-36 กก. 

การติดตั้ง : ระบบ Belt

4. Ailebebe รุ่น Swing Moon Standard

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04 
  • ผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง ระบายอากาศดี 
  • พนักพิงปรับได้ตามความสูง 120 cm.
  • ปรับเอนนอนได้ในตัว ถึง 3 ระดับ 120 องศา นอนสบายกว่า 
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้

การใช้งาน : เด็กโต 1 – 7 ปี หรือ น้ำหนัก 9-25 กก. 

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

เปรียบเทียบคาร์ซีทเด็กโต Ailebebe

คาร์ซีท Ailebebe ร้านตัวแทนนำเข้า กับ ร้านมือสอง ต่างกันอย่างไร 

การซื้อคาร์ซีท Ailebebe จากร้านตัวแทนนำเข้า จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า เนื่องจากจะมีโชว์รูมหรือหน้าร้านตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหลายสาขา ที่สามารถเข้าไปสอบถาม ดูสินค้าของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ และยังได้รับบริการครบวงจร ตั้งแต่การรับประกันสินค้า บริการซ่อมบำรุงรักษา และอะไหล่แท้พร้อมให้บริการ จากผู้นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งเฉพาะตัวแทนนำเข้าจะได้รับสิทธิพิเศษเป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิตในประเทศญี่ปุ่น พร้อมมีหนังสือรับรองการเป็นผู้จัดจำหน่ายคาร์ซีท Ailebebe ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 

แตกต่างจากร้านหิ้วคาร์ซีท  ที่ส่วนใหญ่จะจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก หรือมีเพียงสาขาเดียวนอกห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นการนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้ผลิต และมักนำเข้ามาโดยการขนส่งที่ไม่ได้รับมาตรฐาน และมีความแออัดเนื่องจากต้องเน้นนำเข้าปริมาณมาก หากคาร์ซีทที่ถูกอัดแน่น หรือได้รับการกระทบกระเทือนขณะขนส่ง อาจทำให้เสื่อมประสิทธิภาพการป้องกันความปลอดภัยได้ และรวมถึงการไม่ได้รับการ Training วิธีดูแลซ่อมบำรุงจากบริษัทผู้ผลิต อาจทำให้การให้บริการขาดความเชี่ยวชาญได้ 

ด้วยการยกตัวอย่างมานั้น ทำให้ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ ร้าน Baby Gift ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายคาร์ซีท Ailebebe อย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย มากว่า 15 ปี เป็นร้านที่มีความน่าเชื่อถือและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง รวมถึงสามารถสื่อสารกับบริษัท Carmate ผู้ผลิตคาร์ซีท Ailebebe ที่ประเทศญี่ปุ่นได้โดยตรง พร้อมมีบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างใส่ใจ รับประกันโครงสร้างคาร์ซีท 5 ปี รับประกันอุบัติเหตุ 7 ปี มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาการซ่อมอย่างถูกต้องและมีอะไหล่แท้จากญี่ปุ่นให้เปลี่ยนอีกด้วย 

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถกดติดตามได้ที่ เพจ Baby Gift Retail หรือ Ailebebe Thailand หรือ แอดไลน์ได้ที่ Baby Gift เรายินดีให้บริการค่ะ 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

Kids Item 2018-2019 ของเพจ Daddy’s day ได้แก่ แท่น แทน แท่น แท๊นนนนนน Aprica Nano smart คันนี้เลย หลายคนถามมาเรื่องรถเข็นเด็ก ว่าใช้รุ่นไหนยังไงดี ทาง Daddy’s Day ขอเลือกคันนี้เลย เอาจริงๆ รถเข็นที่บ้านมี 3 คัน ตั้งแต่ไฮเทคสุดแต่หนักมาก  ไม่ไฮเทค พับง่ายแต่น้ำหนักยังหนักอยู่ จนมาลงตัวกับ Nano smart ที่สุด ชอบมากสุด ใช้ดีต้องบอกต่อเลย บ้านเราได้ทดลองใช้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะต้องเดินเยอะ แถมทางที่ไปหลายที่ มีทั้งทางเรียบ ขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยสารพัด รถเข็นคันนี้เอาอยู่หมด ตอบโจทย์มาก #พับเล็กพร้อมเดินทาง แบบสุดๆ 1. ที่ชอบที่สุดคือน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพราะรถเข็นน้ำหนักแค่ 5.6 kg เท่านั้น แบกสบาย ( มีกระเป๋าใส่มาให้ด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่ได้ใช้เพราะรีบ ต้องแบกของเยอะ ) Daddy แบกของคนเดียวสบายๆเลย […]

Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ  เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ    ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ?  1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size)  2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ  3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด  […]

มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndromeสำหรับพ่อแม่คนไทยอาจไม่คุ้นหูกับโรคนี้ แต่ในต่างประเทศโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับคุณแม่มือใหม่ มิหนำซ้ำความรุนแรงยังอันตรายถึงชีวิตของลูกน้อย โรค Shaken Baby Syndrome คือโรคที่มักพบในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เกิดจากการที่พ่อแม่จับลูกเขย่าแรงๆ อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้น แรงเขย่าจะทำให้เนื้อสมองกระแทกกับกะโหลกศีรษะ จนสมองได้รับการกระทบกระเทือนและมีเลือดออก เพราะเส้นเลือดในสมองของเด็กเล็กๆยังไม่แข็งแรง โอกาสที่มีการฉีกขาดจึงมีมากกว่าผู้ใหญ่ สาเหตุที่ทำให้ทารกเป็น Shaken Baby Syndrome จนทำให้พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเพราะการเขย่ารุนแรงจนมีภาวะเสี่ยงเป็นโรค Shaken Baby Syndrome นี้ มักจะไม่ทิ้งร่องรอยที่ร่างกายภายนอก ทารกจึงไม่ได้รับการรักษา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้ สติปัญญา อาจเกิดอาการเป็นลมชัก ตาบอด หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วิธีสังเกตอาการภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome– อาการอาเจียน หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจดูไม่รุนแรง คล้ายภาวะปวดท้อง ช่วง 3 เดือนแรก(Baby Colic) เมื่อพาลูกน้อยไปพบแพทย์ ต้องบอกด้วยว่าเด็กโดนเขย่าอย่างรุนแรง หากเกิดภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome […]

แม่ท้องร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เนื่องฮอร์โมนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพิ่มสูงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ โดยการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนดังกล่าวจะส่งผลให้เส้นเอ็นและข้อต่อเกิดการคลายตัวมากขึ้น รวมทั้งทำให้โครงสร้างภายในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับทารกในครรภ์ หนึ่งในนั้นการเปลี่ยนแปลของร่างกายก็คือสภาพผิวที่แห้งง่าย สีผิวเปลี่ยน คุณแม่บางคนเกิดกระได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงขนาดท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังบริเวณท้อง หน้าอก ต้นขา เกิดการยืดตึงจนเกิดรอยแตก การดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ รวม ITEM ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ BabyGift คัดสรรคุณภาพ 1. ผลิตภัณฑ์ป้องกันการแตกลาย ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของคุณแม่ว่าเป็นเนื้อครีมหรือเนื้อเซรั่ม ควรใช้ก่อนที่จะเกิดปัญหาเรื่องผิวแตกลายจะเป็นการดูและผิวได้ดีที่สุด  2. เข็มขัดพยุงครรภ์  รองรับน้ำหนักของครรภ์ที่ขยายใหญ่และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังช่วยในการบรรเทาอาการปวดหลังของแม่ท้องได้อีกด้วย การเริ่มใช้ขึ้นอยู่กับคุณแม่แต่ละคนเลยว่ารู้สึกหนักหรือหน่วงท้องเมื่อไหร่ 3. คาร์ซีทสำหรับแม่ท้อง   อุปกรณ์เสริมบนรถยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แม่ท้องและลูกในครรภ์  คาร์ซีทแม่ท้อง แบรนด์ Tummy Shleid  นวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลีย เปลี่ยนจากการที่เข็มขัดนิรภัยรถรัดหน้าท้อง มารัดที่ต้นขาแทน  4. ผลิตภัณฑ์น้ำฆ่าเชื้อธรรมชาติ   แม่ท้องอยู่ในช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาจทำให้ป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย ติดเชื้อได้ง่าย การใช้แอลกอฮอล์เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน การใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจากธรรมชาติเพิ่มความปลอดภัยได้   5. เครื่องอบ UV   นวัตกรรมการฆ่าเชื้อขั้นสูงด้วยแสงยูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีมาตรฐานใกล้เคียงกับการฆ่าเชื้อในวงการแพทย์ สามารถใช้ได้ทั้ง โทรศัพท์มือถือ ของใช้ต่างๆ

คุณแม่ท้อง..เคยมีผู้ใหญ่หรือคนรู้จักทักหรือเตือนเรื่องความเชื่อต่างๆ บ้างไหม? เราเชื่อค่ะว่าคุณแม่ท้องหลายๆ ท่านจะต้องเคยได้ยินได้ฟังความเชื่อต่างๆ ที่เคยบอกกันมาระหว่างท้องแน่นอน ซึ่งความเชื่อที่มีมาช้านานในบางสิ่งก็เป็นเรื่องกุศโลบายที่ดีและน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดอันตรายหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ความเชื่อบางอย่างก็ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในปัจจุบันกันแล้ว ครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำว่าความเชื่อแบบไหนที่ไม่เหมาะกับยุคสมัยนี้ และไม่น่าจะนำมาปฏิบัติกันแล้ว เพื่อให้คุณแม่ดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องนำมาคิดให้เป็นกังวลกันต่อไปค่ะ เชื่อแบบนี้ …ไม่ดีแน่ มาดูความเชื่อที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยและข้อมูลความเป็นจริงในปัจจุบันว่ามีอะไรบ้าง ห้ามแม่ท้องเตรียมของใช้ไว้ให้ลูกก่อน เพราะแต่เดิมการแพทย์ยังไม่ทันสมัยเท่าตอนนี้ การตั้งครรภ์และคลอดลูกน้อยสมัยก่อนจึงยังไม่ค่อยมีความปลอดภัยมากนัก  หลายบ้านจึงมีความเชื่อว่าการเตรียมของใช้เด็กอ่อนไว้ล่วงหน้า  อาจจะทำให้ลูกไม่ได้เกิดมาหรือมีเหตุบางอย่างทำให้คุณแม่เป็นอันตราย แต่ยุคสมัยและความเจริญทางการแพทย์เปลี่ยนไป แม่ตั้งครรภ์ยุคใหม่เกือบทุกคนมักคลอดได้อย่างเรียบร้อยดี และลูกน้อยก็ออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากมีการฝากครรภ์ การตรวจและดูแลครรภ์ตลอด 9 เดือนจากแพทย์  จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องงดการซื้อของใช้เพื่อการเลี้ยงลูกไว้ล่วงหน้าแต่อย่างใด ซึ่งหากคุณแม่ยังมีความเชื่อแบบนี้ โดยไม่ได้เตรียมของใช้ให้ลูกไว้ ในช่วงหลังคลอดทั้งคุณแม่คุณพ่อและครอบครัวอาจเกิดความยุ่งยาก เมื่อต้องการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความสะดวกในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อม อุปกรณ์ทำความสะอาด ใช้อาบน้ำสระผมลูก เครื่องปั๊มนม คาร์ซีทที่ควรต้องใช้ติดรถไว้เพื่อพาลูกน้อยกลับบ้านทันทีหลังคลอด  และอื่นๆ หากไม่มีก็จะต้องรีบไปซื้อหามาอย่างฉุกละหุก จนเกิดความวุ่นวายหลังคลอดได้นั่นเอง  ดังนั้นหากคุณแม่ได้เตรียมของใช้ไว้พร้อมทุกอย่างก่อนตั้งครรภ์ หลังคลอดก็สามารถหยิบจับมาดูแลลูกได้ทั้นที เรียกว่าเตรียมมีไว้ใช้อย่างสะดวกดีที่สุดค่ะ คนท้องห้ามกินของดำ  จากความเชื่อเดิมที่มีหลายคนบอกว่า แม่ท้องห้ามดื่มกินอาหารที่มีสีดำ เช่น เฉาก๊วย โอเลี้ยง ซีอิ๊ว กาละแม และอื่นๆ เพราะจะทำให้ลูกน้อยที่คลอดออกมาผิวดำนั้น  ทุกวันนี้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้กันแล้วว่า […]

ลูกน้อยที่ทั้งฉลาดและอารมณ์ดี คือลูกน้อยที่คุณแม่ทุกๆ บ้านใฝ่ฝัน ว่าแต่คุณแม่ทราบมั้ยคะว่า ทั้งความฉลาดและความอารมณ์ดีนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของโชคหรือดวงหรอกนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถปลูกฝังและฟูมฟักได้ตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในท้อง สำหรับบทความนี้ เรามีวิธีง่ายๆ ที่คุณแม่ท่านไหนก็ทำได้ที่บ้านมาฝากกัน ลองไปดูกันเลยค่ะ 1. อารมณ์ลูกเริ่มจากแม่ คุณแม่อาจจะเคยได้ยินมาว่าอารมณ์ของคุณแม่จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นเลยที่บอกว่าแม่ที่เครียดตอนตั้งครรภ์ หรือเป็นซึมเศร้านั้นจะส่งผลต่อบุคลิกภาพและอารมณ์ของลูกน้อย อันนี้ก็เพราะว่ามันจะมีฮอร์โมนตัวนึงที่เรียกว่าคอร์ติซอล ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อยในท้องค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าคุณแม่ทำอารมณ์ตัวเองให้ดีและสดใสอยู่เสมอ ร่างกายก็จะลดการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลเสียตัวนี้ แล้วก็ไปเพิ่มฮอร์โมนตัวดี ที่ไปช่วยกระตุ้นการพัฒนาและการรับรู้ต่างๆ แทนนั่นเองค่ะ 2. อ่านนิทานให้ลูกน้อยฟัง ลูกน้อยจะเริ่มรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณแม่ตั้งแต่ 2-3 เดือนเลยนะ แถมพอเข้าเดือนที่ 3-4 ประสาทหูก็จะทำงานดีขึ้นด้วยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ก็เริ่มพูดคุยกับเค้าตอนนี้ได้เลย นอกจากนี้ คุณแม่ยังควรจะอ่านนิทานให้เค้าฟัง เพราะนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการด้านการได้ยินของลูกน้อยแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคุณแม่อีกด้วยนะ 3. เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม อาหารที่เหมาะสมจะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตและการสร้างเซลล์ต่างๆ ส่วนอาหารที่คุณแม่ควรรับประทานก็อย่างเช่น 4. ส่องไฟกระตุ้นการมองเห็น ตอนอายุครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มพัฒนาด้านการมองเห็น และจะสามารถเห็นแสงไฟส่องทะลุผนังหน้าท้องของคุณแม่เข้ามาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นการส่องไฟที่หน้าท้องก็ถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการและเซลล์สมองส่วนรับภาพได้เหมือนกันนะ วิธีการเล่นกับลูกน้อยด้วยการใช้ไฟส่องก็คือ ให้คุณแม่ใช้ไฟฉายมาวนเป็นวงกลมที่หน้าท้องรอบๆ สะดือ ลูกจะขยับตอบรับกับแสงไฟนั้นให้คุณแม่รู้สึกได้ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages