9 เทคนิค แก้ปัญหา ลูกไม่ยอมกินข้าว

ลูกไม่ยอมกินข้าว เป็นปัญหาที่พบเป็นประจำของหลาย ๆ บ้านเลยนะคะ สำหรับเรื่องการกินข้าวยากของลูกน้อย โดยเฉพาะคุณหนูวัย 1 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง พอถึงเวลากินข้าวเมื่อไหร่ ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักใจไม่น้อยเลย ทั้งกินข้าวน้อย อมข้าว ห่วงเล่นจนใช้เวลานานเกินไปสำหรับอาหาร 1 มื้อ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องให้เวลา ให้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้นได้ มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ฝึกให้ลูกทานข้าวเป็นเวลา
ให้คุณแม่ทำข้อตกลงกับลูกว่า เข็มนาฬิกาชี้เลขนี้ เวลานี้ คือเวลาทานอาหาร ลูกควรจะหยุดเล่น แล้วมาทานข้าวด้วยกัน หลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกค่อยกลับไปเล่นต่อ หรือ จะบอกลูกว่าเวลานี้ต้องทานอาหาร ลูกคือคนสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่อยากทานข้าวด้วย เราต้องทานพร้อมกัน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักเวลาของมื้ออาหาร และรู้ว่าทุก ๆ คนในบ้านก็ทำเหมือนกัน

สร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก
การทานอาหารร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างวินัยการทานอาหารให้ลูกได้ พ่อ แม่ ลูก ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ไม่ปล่อยให้ลูกทานคนเดียว หรือ แยกโต๊ะลูกออกไป ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญในบ้าน เป็นเหมือนผู้ใหญที่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน
ฝึกให้ลูกนั่งเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก
คุณพ่อคุณแม่ห้ามตามป้อนข้าว เพราะการเดินป้อนจะทำให้ลูกไม่มีวินัยในการทานอาหาร ซึ่งการนั่งเก้าอี้ทานข้าวนอกจากช่วยเรื่องมีวินัยแล้ว ยังช่วยเสริมสร้าง EF ให้ลูกด้วย (Executive Function คือ กระบวนการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความคิด การวางแผน) เพราะหลังจากลูกนั่งเก้าอี้แล้วลูกจะรู้ได้ทันทีว่าถึงเวลาทานอาหารแล้ว ลูกจะรู้หน้าที่ว่าต้องทานอาหาร การที่ลูกเข้าใจแบบนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการทานอาหารที่ดี
ขณะทานอาหารไม่ควรดูทีวี แท็บเล็ต หรือเล่นของเล่นไปด้วย
ลูกควรจะทานข้าวโดยไม่ดูทีวีหรือดูแท็บเล็ตไปด้วย เพราะจะทำให้ลูกทานอาหารช้า อมข้าว หรือไม่ยอมกินข้าวได้ และควรนำของเล่นออกจากบริเวณโต๊ะอาหารด้วย เพราะหากลูกเห็นของเล่น ก็จะทำให้ลูกไม่สนใจเรื่องอาหารที่อยู่ตรงหน้า คุณพ่อคุณแม่จะต้องพูดให้ลูกสนใจเมนูที่อยู่ตรงหน้า เช่น อาหารหน้าตาคล้ายอะไรคะ สีอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกโฟกัสอาหารที่จะต้องทาน
มื้ออาหารต้องผ่อนคลาย
คุณพ่อคุณแม่จะต้องเข้าใจก่อน ว่าการฝึกลูกให้มีวินัยในทานอาหารจะต้องค่อยไปค่อยไป ลูกทำได้บางข้อก็ต้องอดทนฝึกไป และต้องเชื่อมั่นในตัวลูกว่าจะทำข้อต่อไปได้แน่นอน ฉะนั้น ต้องไม่ดุ ไม่ตี ไม่บังคับให้ลูกต้องกิน หากลูกยังไม่ให้ความร่วมมือในการกินข้าว ก็ควรใช้วิธีดึงความสนใจ เช่น “มาดูสิข้าวหนูหน้าตาเหมือนตัวการ์ตูนเลย” “มาเลือกช้อนกินข้าวกัน เอาสีอะไรดีคะ” หรือชื่นชมสิ่งที่ลูกทำได้วันนี้ เช่น “วันนี้หนูระบายสีได้ดูดีมากเลย” “หนูเดินลากรถเก่งมากเสียพลังงานไปหนูต้องกินข้าวเยอะ ๆ นะคะ” หรือ “กินข้าวแล้วเรามาอ่านนิทานกันนะ” หากลูกสนใจและตอบคำถาม อย่าลืมชื่นชมลูกด้วย บรรยากาศการทานอาหารจะได้ดีไปด้วย

ตกแต่งเมนูอาหารให้น่ารับประทาน
อาหารหน้าตาดี ก็ดึงดูดลูกให้สนใจทานอาหารได้ดีเลย และเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกเบื่อกับเมนูเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ก็ตกแต่งข้าวลูกให้เป็นตัวการ์ตูนที่ลูกรู้จักในนิทาน ปั้นข้าวให้เป็นลูกบอล ทอดไข่ดาวให้จากพิมพ์ ตัดผักให้คล้ายต้นไม้แบบธรรมชาติ จะช่วยให้ลูกหยิบทานได้ง่ายและรู้สึกสนุกไปด้วย อย่าลืมสังเกตชนิดและลักษณะอาหารที่ลูกชอบด้วย ครั้งหน้าจะได้เตรียมเพิ่มให้ และที่สำคัญอย่าลืมเรื่องรสชาติ ต้องอร่อยถูกใจลูกจะได้ทานไปเพลิน ๆ เลย
กำหนดเวลามื้ออาหาร
การทานอาหารของลูกควรจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 45 นาที เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ให้เก็บจานข้าว แม้ว่าลูกจะยังกินไม่หมดหรือกินได้น้อยก็ตาม เพื่อเป็นการฝึกให้ลูกได้รู้เวลาว่า หากเขาไม่กินภายในช่วงเวลานี้ เขาก็จะไม่ได้กินอีก ต้องรอมื้อต่อไป โดยช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องแข็งใจทนลูกงอแงอยู่บ้าง แต่หากลูกเห็นผู้ใหญ่ทำ เขาก็จะเริ่มทำตามและปรับตัวได้มากขึ้น นอกจากนี้พ่อแม่ไม่ควรแสดงความวิตกกังวลหรือโกรธ แต่ให้งดของหวาน ขนม หรืออาหารว่างต่าง ๆ ทั้งหมดก่อนจะถึงมื้อถัดไปเพื่อให้ลูกเกิดความหิว ซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกเจริญอาหารและรับผิดชอบเรื่องการกินได้ดีขึ้น

มีจานชามช้อนที่ดึงดูดใจ
ชุดทานอาหารสุดโปรด จะช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกกับการกินอาหารด้วยตัวเองในทุกมื้อ คุณแม่จึงควรเตรียมอุปกรณ์ฝึกหัดกินอาหารให้ลูก โดยเลือกที่มีคุณภาพ ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย มีสีสันสดใส ไม่มีเหลี่ยมแหลมคม เหมาะสมกับวัย และยังช่วยให้ลูกมีความสุขที่ได้กินอาหารกับอุปกรณ์ที่เป็นของเขาเอง แบรนด์สำหรับเด็กที่แนะนำ เช่น Grosmimi , Twistshake, Ange Baby เป็นต้น

เลือกเก้าอี้ทานข้าวเด็กที่มีคุณภาพดี
เก้าอี้ทานข้าวเด็กที่มีคุณภาพดีก็สำคัญ ลูกจะได้นั่งทานอาหารอย่างสะดวกสบาย ดังนั้นเก้าอี้ทานข้าวเด็กต้องเบาะนุ่ม มีถาดอาหาร มีวางแก้วกันตก พร้อมปรับระดับความสูงของเก้าอี้ได้ เพื่อที่จะได้นั่งระดับเดียวกับโต๊ะอาหารของคุณพ่อคุณแม่ และที่วางขาก็ต้องต้องปรับระดับขึ้น – ลงได้ตามความสูงของลูกด้วย ส่วนการใช้ประโยชน์ได้ยาวนานคุ้มค่า แนะนำให้เลือกแบบที่ปรับเอนได้ เช่น Prince & Princess เก้าอี้กินข้าวเด็ก Fairy High Chair II, Idawin เก้าอี้ทานข้าวเด็ก รุ่น Wooden High Chair, Kinderkraft เก้าอี้นั่งกินข้าวรุ่น Fini Chair
คุณพ่อคุณแม่ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับและฝึกวินัยลูกดูนะคะ แต่อย่าเครียดมากไปหากลูกยังทำไมได้ เพราะวินัยในการทานอาหารจะต้องค่อย ๆ ฝึกฝนกันไป สุดท้ายลูกเราก็จะทำได้เองค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เพราะนมแม่ คือสุดยอดอาหารมื้อแรกและเป็นอาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจมอบคุณค่าน้ำนมแม่นี้ให้แก่ลูกรักได้นานที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยส่วนใหญ่มักจะเตรียมพร้อมตั้งแต่ตั้งครรภ์ และหลังคลอดก็ให้นมแม่จากเต้าทันทีและเต็มที่ และเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนยอ่มวางแผนที่จะ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เพื่อให้ลูกได้กินนมแม่ในช่วงที่ต้องไปทำงาน และมีน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้กินต่อเนื่องยาวนาน แต่การ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ นอกจากคุณแม่ต้องมีวินัยในการปั๊มนมสม่ำเสมอทุกๆ 2-3 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณแม่จำเป็นเรียนรู้ข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ในการเก็บน้ำนมแม่ เพื่อให้น้ำนมแม่ที่นำมาให้ลูกกินในภายหน้ายังมีคุณค่าครบถ้วนเต็มที่ ให้ลูกรักมีพัฒนาการดีทุกด้าน เก่ง ฉลาด และสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นมาดูกันว่า วิธีการทำสต๊อกน้ำนมแม่ต้องทำอย่างไร อุปกรณ์ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เครื่องปั๊มนม เป็นผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้คุณแม่ได้ปั๊มนมเก็บไว้ และกระตุ้นให้น้ำนมมาได้มากอย่างต่อเนื่อง และสามารถปั๊มนมแม่ได้ ตั้งแต่ที่บ้านไปจนถึงเมื่อต้องกลับไปทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้เลือกมากมาย หาซื้อได้ง่ายทั้งทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยคุณแม่ควรพิถีพิถันหาข้อมูล และเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมที่ถูกใจ เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้งานเมื่อต้องไปทำงานนอกบ้านหรือออกข้างนอก เช่น คุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน กับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก อาจจะต้องเลือกเครื่องปั๊มนมที่ให้ความสะดวก และมีระบบการทำงานที่แตกต่างกันนั่นเอง เครื่องปั๊มนมยุคใหม่ ก็มีให้คุณแม่ได้เลือกมากมายหลายแบบ หลายการใช้งานและหลายราคา อาทิ เครื่องปั๊มนมชนิดปั๊มมือ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้แบตเตอรี่ และ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้ไฟฟ้า แถมยังมีทั้งแบบที่ปั๊มนมเดี่ยวข้างเดียว แบบปั๊มนมได้คู่พร้อมกันสองข้าง รวมถึงสามารถชาร์จไฟจากพาวเวอร์ได้อีกด้วย สิ่งสำคัญคือการเลือกเครื่องปั๊มนมที่ได้มาตรฐาน มีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับหรือได้รับความนิยมจากคุณแม่ทั่วไป ราคาเหมาะสม […]
ในความคิดหรือความเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่าน ยังมีความคิดและดูจากโฆษณาต่างๆ จนทำให้เชื่อว่า ตอนท้องแม่ต้องดื่มนมมากๆ เพื่อบำรุงให้แม่และลูกแข็งแรง ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะเรื่องของการกินอาหารและกินนมของแม่ท้องนั้น วิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดคือกินอย่างเหมาะสม หลากหลายไม่ซ้ำและกินมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการกินนมในแม่ท้อง ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะมีข้อมูลออกมาบอกว่า การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มนมวัวมากเกินไป จะเป็นสาเหตุให้ลูกแพ้นมวัวได้ตั้งแต่แรกเกิด เราจึงขอนำความรู้ดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการและการกินนมวัวมาอธิบายให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เข้าใจ เพื่อให้กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมาฝากค่ะ แม่ท้องกินนมวัวมาก ลูกอาจแพ้ได้จริงหรือ? ข้อมูลนี้เป็นความจริงค่ะ เพราะการที่ร่างกายคุณแม่ได้รับสารอาหารอะไรมากจนเกินไป จะสามารถกระตุ้นให้ลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ตั้งแต่หลังคลอด นั่นคือนมวัวที่กินมากไปนั้น จะไปทำให้เกิดการสะสมของแคลเซียมและโปรตีนนมวัว เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ จนกระตุ้นให้เกิดการแพ้ โดยจะมีอาการแสดงของการแพ้นมวัวได้แก่ ซึ่งปกติแล้วการที่ลูกน้อยจะแพ้นมวัว แพ้อาหาร หรือเป็นภูมิแพ้ได้นั้น สาเหตุใหญ่หลักๆ คือ นอกจากนี้ยังไม่รวมกับโปรตีนในนมวัวที่คุณแม่ได้รับจากอาหารอื่นๆ ที่แฝงไปด้วยนมอีก เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม เนย ชีส ยิ่งทำให้คุณแม่ได้รับโปรตีนจากนมวัวมากเกินไป ทำให้ลูกน้อยแพ้นมวัวได้ตั้งแต่หลังคลอด นมอะไร? ที่คุณแม่ท้องดื่มได้บ้าง โดยนมวัวที่คุณแม่ดื่มได้ในปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ซึ่งนมสำหรับแม่ท้องที่แนะนำคือ นมนมสดพาสเจอไรส์ชนิดพร่องมันเนย เพราะได้คุณค่าสารอาหารที่ต้องการโดยที่ตัวแม่ตั้งครรภ์ไม่ต้องรับไขมันมากเกินไป แต่ข้อเสียคือนมชนิดนี้อายุสั้น เก็บไว้ได้ไม่นาน กรณีที่คุณแม่ดื่มนมชนิดนี้ไม่ได้ก็อาจเลือกนมชนิดอื่นแทน เช่น […]
ผ้าฆ่าเชื้อ AG Pure เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก ที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ผ้าชนิดนี้จึงถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เด็กหลายประเภท โดยเฉพาะในผ้าหุ้มคาร์ซีทแบรนด์ Ailebebe ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ผ้า AG Pure ในคาร์ซีทฆ่าเชื้อโรคได้จริงไหม ปลอดภัยสำหรับผิวบอบบางของทารกหรือไม่ มาทำความรู้จักกันเลยค่ะ AG Pure คืออะไร ? ผ้าฆ่าเชื้อแบคทีเรียปลอดภัยต่อทารกไหม ? AG Pure คือผ้าฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่จดสิทธิบัตรโดย Ailebebe มีคุณสมบัติพิเศษในการฆ่าเชื้อด้วยเส้นใย Agreza® ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยสถาบัน Toyobo STC Co., Ltd. จากประทศญี่ปุ่น โดยมีการผสมซิลเวอร์ไอออน ทำให้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99% ผ้าชนิดนี้ได้รับการทดสอบความปลอดภัยจากสถาบัน Boken Quality Efracing Organization และผ่านมาตรฐาน EN71-3 ของยุโรป ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับของเล่นเด็ก ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผิวหนังของทารกและเด็กเล็ก แม้ในกรณีที่เด็กเอาเข้าปากก็ไม่มีอันตราย กลไกการฆ่าเชื้อของเส้นใย Agreza® ด้วยพลัง Silver ion กลไกการฆ่าแบคทีเรียจะใช้ […]
อีกปัญหาหนึ่งของแม่ลูกอ่อนเกือบทุกบ้าน คือการอุ้มลูกน้อยทุกๆวัน พอนานๆก็อาจเริ่มมีอาการปวดแขน ปวดข้อมือกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ? ได้เวลาหาตัวช่วยอย่าง #เป้อุ้มเด็ก ที่จะช่วยให้อุ้มลูกได้นานมากยิ่งขึ้น แบบไม่ปวดหลังปวดเมื่อย ลูกนั่งสบายอุ่นใจที่ได้ใกล้ชิดแม่ พร้อมกับแม่ทำกิจกรรมอย่างอื่นไปได้ด้วย หรือเมื่อจำเป็นต้องพาลูกออกนอกบ้าน ก็สามารถอุ้มลูกได้อย่างคล่องตัว พ่อแม่หลายคน อาจสงสัยว่าถ้าไปเลือกซื้อเป้อุ้มที่ร้าน ลองใส่ครั้งแรกต้องทำยังไง?วันนี้ BABYGIFT มาแชร์ วิธีใส่เป้อุ้มเด็ก แบบ Hipseat อย่างถูกวิธีและปลอดภัย ตามมาดูกันเลยค่ะ ขั้นตอนที่ 1 เอา Hipseat ไว้ด้านหลังของคุณ ขั้นตอนที่ 2 แขม่วท้องเล็กน้อย ติดสายคาดให้แน่นที่สุดพร้อมล็อคเข็มขัด ขั้นตอนที่ 3 หมุน Hipseat มาไว้ด้านหลังของคุณ ขั้นตอนที่ 4 อุ้มเด็กนั่งบน Hipseat อย่างระมัดระวัง ขั้นตอนที่ 5 ค่อยๆใส่สายสะพายทีละข้าง โดยใช้มือประคองลูกตลอดเวลา ขั้นตอนที่ 6 เอื้อมมือไปติดตัวล็อคด้านหลัง พร้อมปรับให้กระชับตัว ขั้นตอนที่ 7 ช้อนก้นเด็กอีกครั้ง ให้นั่งชิดกับคนอุ้มมากที่สุด เป็นยังไงกันบ้างคะ วิธีใส่เป้อุ้มเด็กง่ายๆ เพียง 7 ขั้นตอน เท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถอุ้มลูกด้วย เป้อุ้มเด็ก […]
วันหยุดนี้ พาลูกเที่ยว ที่ไหนดี ? คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาสถานที่ พาลูกเที่ยว วันหยุดนี้ห้ามพลาด กับ 4 พิกัดสวนสัตว์ ในเมืองไทย ซึ่งแต่ละที่มีไฮไลต์เด็ดๆที่แตกต่างกัน มีทั้งสัตว์ท้องถิ่นในเมืองไทย สัตว์หายาก และสัตว์จากทวีปอื่นๆ ทั่วทุกมุมโลก วันหยุดนี้ พาลูกเที่ยว เลือกเช็คอินได้เลย !! รับรองถูกใจเจ้าตัวเล็ก แถมคุณพ่อคุณแม่ยังได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย !! สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี ค่าบัตรผ่านประตู :ผู้ใหญ่ : 150 บาทเด็ก สูงไม่เกิน 135 ซม : 30 บาทผู้ใหญ่ ชาวต่างชาติ : 250 บาทเด็ก ชาวต่างชาติ : 100 บาทข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา : 70 บาทผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ : ฟรี เวลาทำการ : 8:00-18:00 […]
คุณแม่ทุกคนล้วนแต่คิดถึงลูกในท้องมาเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของอาหารการกินและการบำรุง แต่คุณแม่หลายๆ คนตอนนี้กลับต้องมานั่งเครียดกับปัญหาน้ำหนักของตัวเองที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจนเกินจะควบคุมได้ ถ้าพูดแบบชาวบ้านๆ เค้าเรียกกันว่า “น้ำหนักลงแม่หมด” ค่ะ และคุณลูกก็ยังตัวเล็กเหมือนเดิมนะ เพราะงั้น ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าน้ำหนักคุณแม่ขึ้นมากจนเกินไป ก็อย่าเพิ่งดีใจว่าลูกของคุณแม่ตัวใหญ่สมบูรณ์ เพราะความจริงแล้ว อาหารที่คุณแม่ทานเข้าไปนั้นอาจจะไม่ได้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ หากแต่เป็นอาหารเพิ่มเนื้อหนังคุณแม่ต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นแป้งเอย ไขมันเอย ทราบอย่างนี้แล้ว ก่อนจะนำอะไรเข้าปาก ลองฉุกคิดกันซักนิดก่อนดีกว่า ว่าอาหารคำนี้จะไปเป็นของคุณแม่หรือของคุณลูก น้ำหนักช่วงไตรมาส 2 ควรเป็นประมาณไหน? คุณแม่ทราบหรือเปล่าคะว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องนั้นจะมีความต้องการพลังงานมากกว่าสาวๆ ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 300 กิโลแคลอรีต่อวัน นั่นหมายถึงว่า โดยปกติแล้วเราจะต้องการพลังงานแค่ 2,000 กิโลแคลอรีใช่มั้ยคะ แต่คุณแม่ๆ ก็จะต้องการที่ประมาณ 2,300 กิโลแคลเพื่อที่จะนำมาสร้างเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของลูกน้อย ความจริงแล้ว ไม่มีใครสามารถบอกเป็นตัวเลขได้เป๊ะๆ ว่าน้ำหนักคุณแม่ควรจะเพิ่มขึ้นที่เท่าใด เพราะจะต้องคำนึงถึงน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ด้วย แต่ถ้าจะให้พูดโดยรวมๆ น้ำหนักของคุณแม่ควรจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 7 กิโลกรัม และไม่ควรเกิน 13 กิโลกรัมค่ะ ในช่วงไตรมาสที่ 2 นั้น น้ำหนักของคุณแม่จะขึ้นเร็วกว่าในช่วงไตรมาสแรกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉลี่ยแล้วจะขึ้นที่ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์เลยทีเดียวนะ เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คุณแม่ส่วนใหญ่สามารถทานอะไรได้มากขึ้น […]






