6 ไอเท็มสุดฮิต ลูกน้อยพกติดตัว ห่างไกล COVID

เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากกักตัวอยู่บ้านและนั่งเรียนออนไลน์มาร่วมหลายเดือน ตอนนี้หนูๆ ทั้งหลายก็คงจะจะได้กลับไปเข้าเรียนในโรงเรียนจริงๆกับเพื่อนแล้ว แต่สำหรับแม่ๆ ถึงแม้ดูเผินๆ แล้ว สถานการณ์ของเจ้าเชื้อโรคตัวร้าย COVID ดูเหมือนจะดีขึ้น 100 ทั้ง 100 ก็คงยังวางใจได้ไม่เต็มที่ ยังกังวลกันแน่นอน
สำหรับคุณแม่บ้านไหนที่กำลังกังวลกลัวว่า เอ๊ะลูกน้อยจะของเราจะไปติดเชื้อโรคมาไหม หรือของที่ให้ลูกไปเพียงพอไหมน้า เรานำลิสต์ของจำเป็นที่ลูกน้อยควรพกเพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจาก COVID มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเล้ย!

1. อาวุธเลเวล 100 หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตอนนี้ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เห็นแต่คนใส่หน้ากากเต็มไปหมด เพราะหน้ากากเป็นอาวุธชั้นดีที่จะช่วยคุ้มครองทั้งตัวผู้ใส่ และผู้อื่นไปในเวลาเดียวกัน และแน่นอนค่ะ คุณแม่สามารถหาซื้อไซส์เด็กได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโตก็มีวางขายอยู่ทั่วไปเลยค่ะ คุณแม่อาจเลือกแบบใช้แล้วทิ้ง หรืออาจเป็นแบบผ้าที่สามารถนำกลับมาซักใช้ใหม่ได้ก็ได้
อย่าลืมสวมหน้ากากให้ลูกน้อยทันทีเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน จะให้ดีให้คุณแม่เตรียมหน้ากากสำรองใส่กระเป๋านักเรียนไปเผื่ออีกซักสองสามอันเผื่อเค้าทำหายระหว่างวัน ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนแรกๆ เค้าอาจจะยังไม่ค่อยชิน อาจมีโยเย หรือดึงหน้ากากออกบ้าง แต่ถ้าเค้าได้เห็นเพื่อนๆ ในห้องใส่ ลูกๆ ก็จะยอมใส่ตามไปโดยอัตโนมัติเลยค่ะ

2. กระติกน้ำส่วนตัว พกไว้อุ่นใจ ยุคนี้เป็นยุคของการไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ก็เพราะว่าเจ้าโรค COVID นี้มันสามารถติดต่อกันผ่านสารคัดหลั่งอย่างน้ำมูก หรือน้ำลายได้ยังไงล่ะ! เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว คุณแม่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะ ว่าการพกกระติกน้ำส่วนตัวนี่เป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ หลายคนจะชอบทานขนมด้วยกัน ดื่มน้ำด้วยกัน เพราะงั้น คุณแม่อย่าลืมกำชับกับลูกๆ นะคะ ว่าให้ดื่มจากกระติกน้ำของตัวเองอย่างเดียว

3. ช้อนส้อมของหนู คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ แม้ว่าโรงเรียนส่วนใหญ่จะมีช้อนส้อมเตรียมเอาไว้ให้ แต่ว่ากันตรงๆ เราก็คงจะหมดห่วงไม่ได้ 100% ว่าช้อนส้อมเหล่านั้นล้างสะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อมามากพอแล้วหรือยัง เพราะอย่างนี้นี่แหละค่ะ เราถึงจะต้องเตรียมช้อนส้อมให้ลูกน้อยไปจากที่บ้าน หาถุงซิปล็อกเล็กๆ หรือกล่องใส่ช้อนส้อมน่ารักๆ พกใส่กระเป๋าเอาไว้ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าลูกๆ จะต้องไปเสี่ยงกับเชื้อโรคที่อาจอยู่ตามช้อนส้อมส่วนรวมรึเปล่า

4. เจลแอลกอฮอล์คู่ใจ ตอนนี้ใครก็คงเถียงไม่ได้ว่าเจลแอลกอฮอล์นั้นเป็นคู่หูคู่ใจกับหน้ากาก เพราะเรามักจะพกคู่กันเสมอ ถ้าเปรียบหน้ากากเป็นอัศวิน เจลแอลกอฮอล์นี่ก็คงจะเป็นม้าขาวที่จะมาช่วยฆ่าเชื้อโรคร้ายที่เราอาจสัมผัสไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้มีการผลิตเจลแอลกอฮอล์หลอดเล็กๆ พกพาสะดวกออกมามากมาย นอกจากนี้ ยังมีแอลกอฮอล์แบบขวดเล็กหัวสเปรย์มาให้คุณแม่เลือกซื้อ ที่ทั้งใช้ง่ายและราคาสมเหตุสมผล ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณแม่ต้องเลือกเจลแอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากกว่า 70% นะคะ และที่สำคัญ อย่าลืมดูให้ดี เพราะเจลแอลกอฮอล์ที่เรานำมาล้างมือนั้นต้องเป็นแบบเอทิลแอลกอฮอล์เท่านั้นนะ!

5. Face shield เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น จะว่าไป Face shield นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นแค่ออปชั่นเสริม เพราะไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้น อีกทั้งน้องๆ หนูๆ หลายๆ คนอาจรู้สึกรำคาญ เพราะเหมือนมีอะไรมาบังที่หน้าตลอดเวลา แต่การสวม Face Shield ก็ถือเป็นการเพิ่มเกราะป้องกันให้ลูกน้อยของเราอีกชั้นอยู่นะ เพราะถึงแม้ลูกของคุณแม่จะใส่หน้ากากตลอดเวลา แต่เด็กคนอื่นๆ อาจไม่ใช่ และ Face Shield นี่แหละค่ะ จะเป็นตัวช่วยปกป้องลูกน้อยของคุณแม่จากละอองฝอยของน้ำลายที่อาจกระเด็นมาเวลาเด็กๆ คุยกัน คุณแม่อาจจะลองหาซื้อ Face Shield ไซส์เด็กแบบลายการ์ตูนที่ลูกน้อยชอบ หลอกล่อเค้าซักนิด ใส่ไว้หน่อยก็ไม่เสียหายนะ

6. กระดาษเปียกตัวกู้สถานการณ์ กระดาษเปียกนี่เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะมือเลอะ โต๊ะเลอะ เก้าอี้เลอะ แค่มีกระดาษเปียกก็หมดห่วง คุณแม่อาจจะเริ่มปลูกฝังการรักษาความสะอาดให้กับลูกน้อยด้วยการใช้กระดาษเปียกนี้ก็ได้นะคะ สอนให้เค้ารู้จักทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ก่อนที่เค้าจะจับ แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าลูกน้อยรู้จักใช้ รู้จักประหยัด กระดาษเปียกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ลูกน้อยมีสุขอนามัยที่ดีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ควรเลือกซื้อกระดาษเปียกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับเด็กนะคะ เพราะกระดาษเปียกชนิดนี้จะปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ จะช่วยให้ลูกน้อยไม่เกิดอาการแพ้ด้วยค่า
และ 6 ไอเท็มด้านบนนี้ ก็คืออาวุธที่สำคัญในยุค New Normal ที่แม่ๆ ควรจัดใส่กระเป๋านักเรียนให้ลูกน้อยพกติดตัว แต่อย่าลืมสอนใช้อุปกรณ์แต่ละอย่างให้ถูกต้องด้วยนะคะ ลูกน้อยจะได้ใช้อย่างถูกวิธีและทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยไอเท็มเหล่านี้บวกกับมาตรการการคัดกรองของโรงเรียน และการจัดห้องเรียนแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญในการเว้นระยะห่างระหว่างกัน หรือ Social Distancing คุณแม่ก็สามารถปลดล็อกความกลัวเรื่อง COVID ไปได้มากโขแล้วล่ะ!
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
หน้ากากอนามัย สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ด้วยแสง UV ทั้ง หน้ากากอนามัยแบบผ้า หน้ากากอนามัยN95 แต่จะต้องถูกฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกวิธี ถึงจะสามารถนำกลับมาใช้งานซ้ำได้อย่างปลอดภัย และหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคที่ติดอยู่ที่หน้ากากอนามัย เหล่านี้ได้นั้นก็คือ ใช้ แสง UV-C ในการฆ่าเชื้อ ก่อนนำกลับมาใช้งานซ้ำ เรามาดูกันว่าต้องมีวิธีการอย่างไรบ้าง ? หน้ากากอนามัยแบบผ้า หน้ากากอนามัยประเภทนี้ควรเปลี่ยนทุกวันหลังการใช้งาน และสามารถซักทำความสะอาดได้ปกติ ซักได้ทุกวัน โดยมีข้อแนะนำดังนี้ หลังจากตากเรียบร้อยแล้ว ก็นำ หน้ากากอนามัย มาเข้า ตู้อบแสง UV เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ รวมถึงฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ด้วย วิธีการง่ายๆคือ นำ หน้ากากอนามัย ใส่เข้าไปใน ตู้อบแสง UV อย่างน้อย 30 นาที โดยจะต้องวางหน้ากากให้แสง UV สามารถฉายแสงทั้งด้านนอกและด้านใน หน้ากากอนามัยN95 สำหรับการนำ หน้ากากอนามัย N95 กลับมาใช้ซ้ำ เราจะแนะนำให้ใช้ ตู้อบแสง UV เพียงอย่างเดียวในการฆ่าเชื้อ แต่ก็ยังมีหลายคนกังวลว่าหากนำมาฆ่าเชื้อโรคโดยใช้แสง UV แล้ว จะทำให้คุณสมบัติของ หน้ากากอนามัย ชนิดนี้จะลดลงไหม? […]
บ้านไหน ? กำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกอยู่บ้างเอ่ยยย พ่อแม่หลายคนถาม หมอแอม เข้ามากันเยอะมาๆๆ ว่าเวลาซื้อรถเข็นให้ลูกควรดูเรื่องอะไรบ้าง เลือกรถเข็นให้ลูกยังไง? ให้เหมาะกับสถานการณ์โควิด และสภาพแดดบ้านเราแบบนี้ ?? วันนี้ หมอแอม มีหลักการเลือกรถเข็นเด็ก ง่ายๆ สไตล์คุณหมอมาฝากกันค่ะ จะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงช่วงนี้ที่มีสถานการณ์โควิดระบาด และคิดว่าน่าจะอยู่กับเราไปอีกสักพัก เด็กเล็ก 0-2 ขวบที่ยังใส่แมสก์เหมือนผู้ใหญ่ไม่ได้ คำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกา และกรมอนามัย คือ แนะนำว่าเด็กเล็กๆให้หาผ้าคลุม หรือใช้รถเข็นเด็กแล้วคลุมผ้าไว้แทนการใส่แมสก์ได้ค่ะ ทีนี้จะเลือกรถเข็นยังไงล่ะ? ให้เหมาะกับลูก เหมาะกับบ้านเรา และเหมาะกับสถานการณ์โควิด หรือสารพัดโรคระบาดของเด็กเล็กได้ วันนี้หมอแอมมีหลักการเลือกรถเข็นเด็กมาฝากค่ะ หลักการเลือกรถเข็นเด็ก 5 ข้อ เพจเรื่องเด็กๆ by หมอแอม 1) อันดับแรกที่ หมอแอม ดู คือ โครงสร้างต้องแข็งแรง และมีระบบลดการสั่นสะเทือน […]
คุณแม่มือใหม่กับการเอาลูกน้อยเข้าเต้า ให้นมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง ฟังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ เพราะการที่แขนของคุณแม่ต้องแบกรับน้ำหนักลูกและต้องก้มตัวให้นมลูกน้อยบ่อย ๆ อาจจะทำให้คุณแม่ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดแขน หรือ เมื่อยล้าได้สะสมจนส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้ เพราะเห็นถึงปัญหาของคุณแม่หลังคลอด หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จึงถูกออกแบบมาเพื่อคุณแม่ให้นมโดยเฉพาะเลยค่ะ หมอนออกแบบตามสรีระศาสตร์ทารก ช่วยประคองคอและหลังของลูกน้อย พร้อมช่วยลดอาการปวดเมื่อยของคุณพ่อคุณแม่เวลาอุ้มทารกได้ด้วยค่ะ หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จำเป็นต้องมีไหม? คุณแม่ที่เชี่ยวชาญในการอุ้มทารกเป็นอย่างดี อุ้มลูกน้อยได้สบายหายห่วง เบาะอุ้มให้นมอาจจะดูไม่จำเป็นเท่าไหร่ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เวลาให้นมลูกยังต้องเกร็งแขน จนต้องใช้วิธีเอาหมอนหนุนมาวางซ้อนกันหลาย ๆ ใบ เพื่อรองรับลูกน้อย ยกลูกให้ถึงเต้านม หมอนรองให้นมก็ถือว่าจำเป็นต้องมีค่ะ เพราะจะช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในระดับที่ให้นมได้สะดวกมากขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยของคุณแม่ และที่สำคัญหมอนทั่วไปไม่เหมาะกับการให้ทารกนอนระหว่างให้นม เพราะหมอนไม่ได้โค้งกระชับรองรับสรีระทารกค่ะ วิธีเลือกซื้อหมอนรองให้นม 1. เลือกจากรูปทรงหมอนรองให้นมมีหลายรูปแบบ เช่น รูปตัวยู, เบาะตามสรีระทารก เป็นต้น คุณแม่ควรจะเลือกแบบที่ตัวเองถนัด ที่สำคัญคุณสมบัติหลักควรจะกระชับรองรับสรีระทารกได้เป็นอย่างดี 2. กระชับแนบตัวลูก หรือ ตัวคุณแม่หมอนรองให้นมควรจะแนบกระชับตัวลูกน้อย รองรับตามสรีระเด็กทารก เพื่อให้คุณแม่อุ้มได้ถูกท่า หากเป็นแบบหมอนรูปตัวยู ควรจะปรับสายได้เพื่อให้แนบกระชับกับเอวคุณแม่ ไม่ให้หมอนเลื่อนหลุดง่าย […]
รวมสุดยอดวิธี เลือกเป้อุ้มทารก เพราะเป้อุ้มเด็ก เป็นเครื่องทุ่นแรงที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่ ที่เรียกได้ว่าคืออุปกรณ์คู่กายคู่ใจที่พาคุณแม่และลูกน้อยไปทำกิจวัตรด้วยกันได้เสมอ เป้อุ้มลูกนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกประจำบ้านที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน ยิ่งเป็นครอบครัวเล็กที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก ในช่วงเวลาที่คุณพ่อไปทำงานนอกบ้าน ยิ่งถือเป็นของใช้ที่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานและกิจกรรมอื่นๆได้ พร้อมเลี้ยงลูกได้แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งในยุคสมัยที่การหาเงินได้ฝืดเคือง และข้าวของใช้ราคาสูงเช่นนี้ การเลือกซื้อเป้อุ้มลูกทั้งที เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และเลือกใช้ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แต่จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ทนทานปลอดภัย ใช้งานได้นานจนลูกโต ลองมาอ่านเทคนิคดีๆ เหล่านี้กันเลย 1 ตอบโจทย์การใช้งาน การเลี้ยงลูกของครอบครัว นั่นคือการเลือกให้ตรงกับสไตล์การเลี้ยงลูกของครอบครัว การทำงานของคุณพ่อคุณแม่และการเดินทางของคนในบ้าน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ขนาดของครอบครัวและคนช่วยเลี้ยงลูก เพราะหากเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คุณพ่อไปทำงาน จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มลูก สำหรับเวลาทำงานบ้าน ทำธุระหรือจำเป็นต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน แม้แต่เป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะได้ใช้เวลาคุณแม่ต้องทำธุระ ผลัดกันใช้เวลาเดินทางไปข้างนอก สิ่งของที่ใช้กับลูก เวลาที่ต้องพาลูกออกนอกบ้าน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องพกไปมาก การใช้เป้อุ้มเด็กก็จะทำให้สะดวก พ่อแม่ถือของใช้ และซื้อของได้สบาย ไม่ต้องใช้มืออุ้มหรือเข็นลูก หรือหากเวลาไปไหนที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดการใช้เป้อุ้มเด็กก็จะไม่ต้องเปลืองพื้นที่เพราะพับเก็บได้ พกพาง่ายกว่ารถเข็น การเดินทางของครอบครัว หมายถึงสังเกตการใช้ชีวิตของครอบครัวว่า ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมญาติบ่อยหรือเปล่า ใช้เวลาพาลูกออกนอกบ้านนานแค่ไหน หากต้องไปที่ไหนไม่นานนัก การใช้เป้อุ้มเด็กจะมีความคล่องตัวสะดวกกว่ารถเข็น […]
การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ 1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา วิธีแก้ไข: 2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม วิธีแก้ไข: 3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก วิธีแก้ไข: 4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไข: 5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ วิธีแก้ไข: บทสรุป ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!
โบราณเค้าว่าสามีที่แพ้ท้องแทนภรรยา(เมีย)คือสามีที่รักภรรยามาก…จริงหรอ? คือฟังแล้วก็สงสัยจริงๆ นะคะ ว่าผู้ชายแพ้ท้องได้ด้วยหรอ วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ อาการแพ้ท้องแทนภรรยานั้น ถึงจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จริงค่ะ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับว่ารักมากหรือรักน้อยหรอกนะคะ จริงๆ แล้วอาการนี้ไม่ใช่อาการที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายค่ะ แต่เป็นอาการที่เกิดจากจิตใจของคุณพ่อต่างหาก โดยหลักๆ แล้วคุณพ่อก็จะมีอาการเหมือนคุณแม่เวลาแพ้ท้องนั่นแหละค่ะ จะรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เป็นตะคริว หน้ามืด วิงเวียน ประมาณนี้ สาเหตุมันเกิดมาจากอะไรกันนะ? มีนักวิจัยได้ทำการวิจัยในเรื่องนี้และพบว่าสาเหตุมันเกิดมาจากการที่คุณพ่อเริ่มวิตกกังวลบวกกับความตื่นเต้นที่กำลังจะมีสมาชิกครอบครัวเพิ่ม แล้วก็รวมไปถึงความห่วงใยที่มีต่อคุณแม่จึงทำให้ฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้คุณพ่อมีอาการแพ้ท้องเหมือนคุณแม่ค่ะ อาการแบบนี้ทางการแพทย์เค้าจะเรียกว่า โคเวด ซินโดรม (Couvade Syndrome) อาการแพ้ท้องแทนภรรยาเป็นแบบไหนบ้างนะ? จะแพ้นานไหมแล้วควรทำอย่างไรดีล่ะ? ก็เหมือนๆ กับคุณแม่ ระยะการแพ้ท้องของคุณพ่อมักจะเป็นในช่วงเดือนแรกๆ และจะค่อยๆ หายไปในช่วงเดือนที่สี่ แต่ว่าคุณพ่อบางท่านอาจจะแพ้ท้องจนคุณแม่คลอดเลยก็มีค่ะ ซึ่งก็อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอาการทางจิตเวช นั่นหมายความว่าหากคุณพ่อสามารถจัดการกับความคิดของตัวเองได้ก็จะทำให้อาการดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อไม่สามารถทำได้ ก็ลองทำวิธีด้านล่างนี้ดูเพื่อช่วยบรรเทาอาการในเบื้องต้นก็ได้นะ แม้อาการแพ้ท้องแทนภรรยาจะเป็นอาการที่ค่อนข้างทรมาน แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่นะเพราะคุณพ่อจะได้เข้าใจหัวอกคุณแม่มากขึ้นไงคะ หากคุณพ่อท่านไหนมีอาการแปลกๆ ช่วงที่คุณแม่ท้อง ก็อาจจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยานี่แหละค่ะ ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณคือผู้ถูกเลือก






