4 เปลนอนทารก น่าใช้ รุ่นขายดีที่สุด ปี 2024

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้

วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย 

  1. เปลนอนทารก ควรระบายอากาศได้ดี
    เปลนอนที่ระบายอากาศได้ดี มักจะใช้ผ้าเนื้อนุ่ม เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าพีช หรือ เสริมด้วยผ้าตาข่าย ที่ช่วยลดความร้อนสะสม ให้อากาศถ่ายเทตลอดเวลา ทำให้ทารกนอนสบาย ลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้บริเวณผิวหนัง ผดร้อน ผดผื่น ในทารกแรกเกิดได้เป็นอย่างดี
  2. เปลนอนทารก เบาะไม่ควรแข็ง หรือ นุ่มจนเกินไป
    เบาะรองนอนทารก ควรใช้วัสดุที่นุ่มพอดี ไม่นุ่มจนยวบ เพราะเวลาลูกนอนคว่ำอาจเกิดความเสี่ยงหน้าจมที่เบาะได้ และต้องไม่แข็งเกินไป เพราะจะทำให้ทารกรู้สึกไม่สบายตัวตอนนอน 
  3. เลือกเปลนอนทารก ให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวลูกน้อย
    เบาะนอนทารก จะแข็งหรือนุ่มมากเพียงใด คุณพ่อคุณแม่ต้องดูน้ำหนักและขนาดตัวของลูกน้อยประกอบกัน เช่น ถ้าลูกน้ำหนักตัวเยอะ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเบาะที่แข็งขึ้นมาอีกระดับ เบาะจะได้ไม่ยุบตัวง่ายเกินไปเมื่อใช้งานไปสักระยะ
  4. ควรเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่มีรอยยุบ หรือ ร่อง
    ก่อนจะเลือกซื้อควรสังเกตให้ดีว่าเปลนอนทารกจะต้องไม่มีรอยยุบใด ๆ เพื่อป้องกันทารกนอนดิ้นไปตกร่อง ทำให้บาดเจ็บ หรือ หายใจไม่ออกได้ และเนื่องจากทารกกระดูกยังไม่แข็งแรง การที่นอนในลักษณะผิดท่าทางอาจมีผลเสียงต่อการเจริญเติบโตของกระดูกได้
  5. เปลนอนทารก ทำความสะอาดได้ง่าย
    ปลอกเบาะนอน ต้องถอดทำความสะอาดได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย เพราะถ้าหากปล่อยให้สกปรก สะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ก็อาจทำให้ทารกมีปัญหาทางด้านสุขภาพตามมาได้ เพราะในแต่ละวัน ลูกน้อยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงสัมผัสกับเบาะนอน 
  6. เปลนอนทารกแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี
    ความแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนจะตัดสินใจซื้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สอบถามโครงสร้างของเตียงว่าทำจากวัสดุอะไร เช่น เหล็ก หรือ อลูมิเนียม เพราะโครงเตียงแข็งแรงก็จะรับน้ำหนักลูกน้อยได้อย่างปลอดภัย 

เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?

 1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น

 ข้อดีเตียง Bedside Crib 

  • ออกแบบมาเพื่อเด็กแรกเกิดนอนสบาย บางรุ่นปรับเป็นคอกกั้นได้ 
  • เตียงเปิดข้างได้ สะดวกในการตื่นมาดูแลและให้นมลูก 
  • รอบเตียงหุ้มด้วยผ้า จับปีนป่ายได้ ไม่อันตรายกับทารก 
  • มีมุ้งกันแสง มุ้งกันแมลง ระบายอากาศดี 
  • เบาะนุ่มระดับพอดี ลดโอกาสการเกิดโรค SLDS (โรคไหลตายในทารก)
  • สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน 

ข้อเสียเตียง Bedside Crib 

  • การใช้งานระยะสั้น เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดโดยเฉพาะ

2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก 

ข้อดีเตียงไม้ 

  • ออกแบบมาเพื่อแยกที่นอนทารกกับคุณพ่อคุณแม่ 
  • บางรุ่นเปิดข้างเตียงได้ สะดวกในการดูแลลูก 
  • ช่องไม้ระบายอากาศเยอะ อากาศถ่ายเทได้ดี
  • วัสดุไม้แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้เยอะ 
  • สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน

ข้อเสียเตียงไม้ 

  • มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายได้ลำบาก 
  • เตียงไม้เนื้อจะแข็ง ไม่มีผ้าหุ้ม สร้างอันตรายให้ทารกได้ 

3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่

ข้อดี Playpen 

  • ออกแบบมาเพื่อทารกแรกเกิดและสำหรับเด็กวัยคลาน 
  • เปิดข้างเตียงได้ สะดวกในการดูแลลูกน้อย 
  • ปรับเป็นคอกกั้นเด็กได้ ช่วยในการเลี้ยงลูกวัยคลาน 
  • วัสดุหุ้มด้วยผ้า เด็กจับปีนป่ายได้ ไม่อันตรายกับทารก 
  • ใช้งานได้นานขึ้น สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน 

ข้อเสีย Playpen 

  • คอกกั้นขนาดเล็ก อาจทำให้ลูกขาดโอกาสเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว 

4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี

ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า 

  • ออกแบบมาเพื่อกล่อมเด็กแรกเกิดนอนสบาย บางรุ่นปรับเป็นคอกกั้นได้ 
  • เปิดข้างเตียงได้ สะดวกในการดูแลและให้นมลูกในเวลากลางคืน 
  • มีระบบไกวอัตโนมัติ ช่วยให้ทารกหลับสนิท ลดการงอแง 
  • พ่อแม่มีเวลามากขึ้น ไม่ต้องคอยอุ้มกล่อมนอน 
  • รอบเตียงหุ้มด้วยผ้า ไม่อันตรายกับทารก 
  • เบาะนุ่มระดับพอดี ลดโอกาสการเกิดโรค SLDS (โรคไหลตายในทารก) 
  • สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน   

ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า 

  • บางรุ่นใช้งานได้ระยะสั้น 9 เดือน ควรหารุ่นที่ปรับใช้งานเป็นคอกกั้นเด็ก เพื่อการใช้งานคุ้มค่านานขึ้น 

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

เปลนอนทารก รุ่นขายดีที่สุดปี 2024 ใน ร้านเบบี้ กิ๊ฟ

1. เปลไกวไฟฟ้า รุ่น Sleep & Play Auto Swing แบรนด์ Prince & Princess 

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 2 ปี รองรับน้ำหนักได้ 25 กิโลกรัม 
  • ใช้งานได้นาน ปรับเป็นคอกกั้นเด็กได้ ฝึกพัฒนาการ นั่ง คลาน ยืน 
  • มีระบบ Sensor จับการขยับของเตียง เมื่อทารกเคลื่อนไหว เพื่อไกวเปลอัตโนมัติ 
  • ระบบไกวไฟฟ้า ปรับการไกวได้ 5 ระดับ  
  • ตั้งเวลาการไกวให้หยุดเองอัตโนมัติ ได้ตั้งแต่ 8, 15, 30 นาที  
  • เตียงเปิดข้างได้ วางชิดกับเตียงคุณแม่ พร้อมสายคล้องกันเตียงเลื่อน ปลอดภัยขึ้น 
  • เตียงปรับระดับความสูง – ต่ำได้ 7 ระดับ สูงสุด 44 cm.  
  • เตียงปรับองศาเอียงได้ ลดภาวะกรดไหลย้อนหรือแหวะนมในเด็ก  

2. เตียงนอนทารกและคอกกั้นเด็ก รุ่น Sleep & Play แบรนด์ Prince & Princess

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 3 ปี รองรับน้ำหนักได้ 15 กิโลกรัม 
  • เตียงเปิดข้างได้ วางชิดกับเตียงคุณแม่ สะดวกสบายมากขึ้น 
  • ปรับเป็นคอกกั้นเด็กได้ เสริมพัฒนาการลูก รับน้ำหนักได้ถึง 15 Kg. 
  • มีระบบสั่น กล่อมลูกน้อยหลับสนิทนานขึ้น 
  • เตียงปรับระดับความสูง – ต่ำได้ 5 ระดับ สูงถึง 52 Cm. 
  • เตียงปรับองศาเอียงได้ ลดภาวะกรดไหลย้อนในเด็ก 
  • มีมุ้งกันแมลงทรงโดม ป้องกันแสง 1 ฝั่ง ลูกน้อยหลับสนิทแสงไม่ส่องตา 
  • โมบายเสริมพัฒนาการลูก 4 ฟังก์ชัน 

3. เตียงนอนเด็กแรกเกิด Cozee Breeze Plus Bedside crib

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 1 ปี รองรับน้ำหนักได้ 15 – 20 กิโลกรัม 
  • เปิดข้างวางชิดเตียงแม่ได้ และยังช่วยให้สะดวกเมื่อวางลูกน้อย 
  • มีล้อ มีขาโยก ช่วยกล่อมลูกน้อยได้ 
  • ช่องตาข่ายระบายอากาศ มองเห็นลูกจากด้านนอกได้ 
  • ปรับความสูงได้ 6 ระดับ 
  • ปรับเอียงได้ ป้องกันอาการท้องอืดและกรดไหลย้อน 
  • เบาะนอนนุ่ม ทำจากเส้นใยข้าวโพด 
  • ถอดพับเก็บและประกอบง่าย ภายใน 30 วินาที

4. เตียงนอนเด็กแรกเกิด Cozee Lite Bed side crib with Rocking รุ่น มีขาโยก (ไลท์) 

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 1 ปี รองรับน้ำหนักได้ 15- 20 กิโลกรัม 
  • เปิดข้างวางชิดเตียงแม่ได้ และยังช่วยให้สะดวกเมื่อวางลูกน้อย  
  • มีล้อ มีขาโยก ช่วยกล่อมลูกน้อยได้  
  • ช่องตาข่ายระบายอากาศ มองเห็นลูกจากด้านนอกได้  
  • ปรับความสูงได้ 6 ระดับ  
  • ปรับเอียงได้ ป้องกันอาการท้องอืดและกรดไหลย้อน  
  • เบาะนอนนุ่ม ทำจาก deluxe foam 
  • ถอดพับเก็บและประกอบง่าย ภายใน 30 วินาที

คุณพ่อคุณแม่คงรู้จัก เปลนอนทารก กันดีแล้วใช่ไหมคะ ถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ร้านเบบี้กิ๊ฟ 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ! กำลังกังวลกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ ว่าตอนท้องอ่อนๆ จะสามารถทำอะไรได้บ้างทำอะไรไม่ได้บ้าง วันนี้เราเลยนำเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงมาบอกกันค่ะ ไม่แปลกใจที่คุณแม่บางท่านจะกังวลมากๆ ในช่วงท้องอ่อน เพราะในช่วงสามเดือนแรกนั้น อวัยวะต่างๆ ของลูกน้อยในท้องของคุณแม่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ค่ะ ดังนั้นในระยะนี้จึงมีความเสี่ยงต่อการแท้งมากกว่าในไตรมาสอื่นๆ ช่วงนี้คุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว หรือการใช้ยาต่างๆ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ กังวลได้แต่อย่าเครียดนะ เพราะความเครียดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องพึงระวังไว้ด้วย กำลังคิดจะไปทานแซลมอน ลาบก้อย หอยนางรมฉลองสมาชิกใหม่กันอยู่รึเปล่า ช่วงนี้คุณแม่อาจจะต้องงดไว้ก่อนนะ เพราะอาหารที่ปรุงไม่สุกส่วนใหญ่อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้คุณแม่ท้องเสียหรืออาเจียนได้ แถมยังอาจทำให้เป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งเจ้าโรคนี้เนี่ยมันเกิดจากเชื้อปรสิตทอกโซพลาสมา กอนดิไอ(Toxoplasma gondii) ที่สามารถแพร่ไปสู่ลูกน้อยในท้องของคุณแม่ได้ค่ะ เห็นชื่อน่ากลัวแบบนี้ มันก็น่ากลัวจริงๆ นะ เพราะหากติดโรคนี้ตอนท้องก็อาจจะทำให้แท้งไปเลย หรือไม่ก็ลูกอาจจะเสียชีวิตในท้อง ไม่ก็อาจมีอาการของโรคเมื่อคลอดออกมา สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ถ้าคุณแม่ที่ติดเชื้อนี้ตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะมีขนาดศีรษะที่ไม่ปกติ อาจจะเล็กหรือไม่ก็ใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แถมพอโตไปก็อาจจะตาบอดหรือสติปัญญาอาจจะด้อยกว่าเด็กอื่นๆ ด้วยนะ แต่แต่แต่ ถ้าคุณแม่เคยเป็นโรคนี้ก่อนท้องแล้วก็ชิวชิวค่า เพราะร่างกายคุณแม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่กลับมาเป็นอีกแล้วล่ะ คุณแม่ที่กำลังใช้ยาอยู่ หยุดก่อนค่ะ! ได้ถามคุณหมอรึยังว่ายาตัวนั้นคนท้องทานได้มั้ย คุณแม่อย่าชะล่าใจไปน้าเพราะยามีหลายประเภทแล้วก็ออกฤทธิ์แตกต่างกัน เพราะงั้นยาบางตัวอาจมีผลต่อการสร้างอวัยวะของลูกน้อยได้ เช่นพวกยารักษาสิว Isotretinoin นี่ตัวดีเลยค่ะ เพราะมันเป็นยาที่รุนแรงมาก มากจนอาจทำให้ลูกพิการได้เลยนะ หรือพวกยาที่ใช้รักษาไมเกรน เช่น Cafergot เพราะมันทำให้มดลูกของพวกเราบีบตัวจึงอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ พอคุณแม่ทานยาเข้าไปปุ๊ป ลูกก็จะได้ยาพวกนี้ผ่านทางรกด้วยค่ะ แต่ผลกระทบต่อลูกก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่คุณแม่ทานเข้าไปนะ เพราะฉะนั้นหากจะทานยา […]

ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เชื้อไวรัสโคโรน่า มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง คนเป็นเพิ่มขึ้นวันละ 30 กว่าคนทุกวัน ลักษณะการแพร่ระบาดอยู่ในระยะที่ 2 และคนส่วนใหญ่ก็เพียงแค่ตามหาหน้ากากอนามัยที่ตอนนี้ราคาแพงขึ้นเป็นเท่าตัว หรือแม้แต่เจลแอลกอฮอล์ที่มีการทำปลอมแปลงออกมาอีกมากมายเพราะหวังกอบโกยเงิน ในช่วงวิกฤต แบบนี้ แต่บริษัทประกันต่างๆ กลับออกกรมธรรม์ประกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า เพื่อช่วยเหลือสำหรับผู้ที่เกิดการติด เชื้อไวรัสโคโรน่า อย่างแท้จริง และทุกประกันก็ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อตรวจพบเจอโรค ก็จ่ายทันที (Update 15/03/63) สินทรัพย์ประกันภัย แผน4 ** นอกจากนี้ ยังได้รับความคุ้มครองเพิ่ม กรณีประสบอุบัติเหตุ หากเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ จะได้รับเงินประกัน และค่าปลงศพ 2,000-8,000 บาท ตามข้อกำหนดของแต่ละกรมธรรม์ โดยเงื่อนไขสำหรับผู้เอาประกันภัย ต้องมีอายุระหว่าง 1-99 ปี แต่จะไม่คุ้มครองสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย (Pre-Existing Condition) ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต SCB แผน B – Covid 19 Plus แผน 3 สินมั่นคงประกันภัย ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรน่า กรุงเทพประกันภัย ประกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า วิริยะประกันภัย Covid Shield แผน […]

Baby Shower เป็นการจัดงานเลี้ยงฉลองเพื่อรับขวัญทารกที่ใกล้คลอด แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่จะเป็นญาติและเพื่อนสนิท ซึ่งจะนำของขวัญมามอบให้คุณแม่ เพื่อต้อนรับเจ้าตัวน้อยของครอบครัวนั่นเอง เป็นการแบ่งปันความรักให้กับครอบครัวและเพื่อนๆ เป็นที่นิยมในต่างประเทศ และปัจจุบันคนไทยเริ่มนิยมธรรมเนียมนี้เพิ่มมากขึ้น เริ่มจากการตั้งงบประมาณ ดูจากจำนวนแขกที่เชิญ หาสถานที่ ที่เราและแขกเดินทางสะดวก หรือถ้าบ้านมีบริเวณรับแขกจำนวนเยอะได้ ก็จัดที่บ้านได้เลยค่ะ  เลือกธีมงาน ส่งคำเชิญแบบออนไลน์สะดวกที่สุดค่ะ เตรียมของตกแต่งในงาน เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม ตามธรรมเนียมว่าที่คุณแม่ จะมี Registered list ว่าของที่อยากได้มีอะไรบ้าง  ก็จะทำให้คุณแม่ได้ของใช้เบบี๋ได้ตรงกับใจที่ต้องการ และลิสต์ของรับขวัญจะมีตามนี้นะคะ 1. เสื้อผ้าเด็กอ่อน รวมไปถึงถุงมือ ถุงเท้า หมวก ผ้าห่อตัว ผ้าห่ม จัดแบบยกเซตไปเลยรับรองว่าคุณแม่เป็นปลื้มแน่ๆ 2. เก้าอี้ทานข้าว บางคนอาจคิดว่า กว่าจะได้ใช้ต้องรอเด็กโตก่อน ประมาณ 6 เดือนขึ้นไป แต่เอาจริงๆแล้ว แป๊บๆเองนะคะ ได้ใช้ยาวๆจนเด็กโต 3 – 4 ปีได้เลย นะคะ 3. เปลไกว ยิ่งเป็นแบบอัตโนมัติยิ่งดี จะได้ช่วยให้แม่ๆได้พักผ่อนไปพร้อมกับลูกๆ 4. เป้อุ้มเด็ก ไอเทมนี้ไม่ควรพลาด ตัวช่วยคุณแม่ที่คุณพ่อสามารถแบ่งเบาได้ด้วย พ่อใช้ก็ชิลๆ แม่ใช้ก็ชิคๆ […]

Renolux บริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อแม่และเด็ก มานานกว่า 40 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในเมือง Nord-Isère ใกล้กับเมือง Lyon เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของเด็ก โดยเฉพาะในด้านการผลิตคาร์ซีท จนในปัจจุบันมีการพัฒนากระบวนการผลิตโฟมโพลียูรีเทนแบบพิเศษ ที่เป็นเอกสิทธ์เฉพาะของบริษัท          ทำให้จากความเชี่ยวชาญและความรู้ที่สั่งสมมาช่วยให้เราสามารถคิดสร้างสรรค์และควบคุมแต่ละขั้นตอนของการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กของเราทุกขั้นตอนภายในไซต์ 17,000 ตารางเมตรที่ตั้งอยู่ใน Nord-Isère ได้อย่างมีประสิทธิภาพ          ปัจจุบันความรู้ทางอุตสาหกรรมของ Renolux ช่วยให้เราเชี่ยวชาญในเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคพอลิเมอไรเซชันผ่านกระบวนการจดสิทธิบัตรของเรา (โฟมโพลียูรีเทน) งานโลหะ (การเจาะการตัดการรัดการเชื่อม) สิ่งทอ (การเคลือบการตัดการทำ) และการประกอบในที่สุด มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกวัน          เพราะฉะนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ของ Renolux จะไม่ใช่แค่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั่วไปเท่านั้น แต่ยังได้ความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปี ในการให้บริการผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่มีคุณภาพของ Renolux           คาร์ซีท Renolux Renofix คาร์ซีทเด็กโตที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้ำหนัก 15 – 36 KG. […]

ลูกน้อยที่ทั้งฉลาดและอารมณ์ดี คือลูกน้อยที่คุณแม่ทุกๆ บ้านใฝ่ฝัน ว่าแต่คุณแม่ทราบมั้ยคะว่า ทั้งความฉลาดและความอารมณ์ดีนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของโชคหรือดวงหรอกนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถปลูกฝังและฟูมฟักได้ตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในท้อง สำหรับบทความนี้ เรามีวิธีง่ายๆ ที่คุณแม่ท่านไหนก็ทำได้ที่บ้านมาฝากกัน ลองไปดูกันเลยค่ะ 1. อารมณ์ลูกเริ่มจากแม่ คุณแม่อาจจะเคยได้ยินมาว่าอารมณ์ของคุณแม่จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นเลยที่บอกว่าแม่ที่เครียดตอนตั้งครรภ์ หรือเป็นซึมเศร้านั้นจะส่งผลต่อบุคลิกภาพและอารมณ์ของลูกน้อย อันนี้ก็เพราะว่ามันจะมีฮอร์โมนตัวนึงที่เรียกว่าคอร์ติซอล ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อยในท้องค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าคุณแม่ทำอารมณ์ตัวเองให้ดีและสดใสอยู่เสมอ ร่างกายก็จะลดการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลเสียตัวนี้ แล้วก็ไปเพิ่มฮอร์โมนตัวดี ที่ไปช่วยกระตุ้นการพัฒนาและการรับรู้ต่างๆ แทนนั่นเองค่ะ 2. อ่านนิทานให้ลูกน้อยฟัง ลูกน้อยจะเริ่มรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณแม่ตั้งแต่ 2-3 เดือนเลยนะ แถมพอเข้าเดือนที่ 3-4 ประสาทหูก็จะทำงานดีขึ้นด้วยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ก็เริ่มพูดคุยกับเค้าตอนนี้ได้เลย นอกจากนี้ คุณแม่ยังควรจะอ่านนิทานให้เค้าฟัง เพราะนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการด้านการได้ยินของลูกน้อยแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคุณแม่อีกด้วยนะ 3. เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม อาหารที่เหมาะสมจะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตและการสร้างเซลล์ต่างๆ ส่วนอาหารที่คุณแม่ควรรับประทานก็อย่างเช่น 4. ส่องไฟกระตุ้นการมองเห็น ตอนอายุครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มพัฒนาด้านการมองเห็น และจะสามารถเห็นแสงไฟส่องทะลุผนังหน้าท้องของคุณแม่เข้ามาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นการส่องไฟที่หน้าท้องก็ถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการและเซลล์สมองส่วนรับภาพได้เหมือนกันนะ วิธีการเล่นกับลูกน้อยด้วยการใช้ไฟส่องก็คือ ให้คุณแม่ใช้ไฟฉายมาวนเป็นวงกลมที่หน้าท้องรอบๆ สะดือ ลูกจะขยับตอบรับกับแสงไฟนั้นให้คุณแม่รู้สึกได้ […]

ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน ที่กำลังนับวันรอคอยได้เห็นหน้าลูกน้อย เชื่อว่าคุณแม่คงจะวางแผนและตั้งใจจะให้นมแม่แก่ลูกน้อยทันทีหลังคลอดทุกคน และน่าจะเตรียมของใช้สำหรับการเลี้ยงลูกน้อย บางคนอาจจะมองหาเครื่องปั๊มนม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการให้นมแม่กันบ้างแล้วด้วย…จริงไหมคะ? แต่นอกจากการเตรียมของใช้เพื่อให้นมแม่แล้ว  คุณแม่ต้องไม่ลืมหันกลับมาสำรวจร่างกาย ด้วยการเช็กสุขภาพเต้านมและหัวนม ว่าพร้อมให้นมแม่ได้ทันทีหลังคลอดหรือไม่? มีส่วนไหนผิดปกติหรือมีปัญหาจนเป็นอุปสรรคในการให้นมแม่หรือเปล่า?  เราจึงชวนคุณแม่ตั้งครรภ์มาเรียนรู้วิธีตรวจเช็กหัวนมและเต้านม พร้อมแนะนำข้อมูลในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้คุณแม่พร้อมให้นมลูกน้อยได้เต็มที่ทันทีหลังคลอดค่ะ ชวนแม่ท้อง…ตรวจหัวนมและเต้านมด้วยตัวเอง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรตรวจลักษณะของเต้านมและหัวนมของตัวเอง เพื่อเช็กความผิดปกติของหัวนม ซึ่งบางครั้งคุณแม่อาจจะไม่ได้เคยสังเกตหรือรู้ว่าก่อนว่าลักษณะหัวนมของตัวเอง อาจมีปัญหาที่ส่งผลต่อการให้นมลูกน้อยได้ เช่น  หัวนมบอด หัวนมสั้น  หัวนมแบน หัวนมบุ๋ม รวมถึงหัวนมใหญ่ ซึ่งลักษณะหัวนมเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ และยิ่งคุณแม่แก้ไขได้เร็วเท่าไร ลูกน้อยก็จะได้รับคุณค่าจากนมแม่ได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น  ฉะนั้นมาสังเกตดูกันว่า หัวนมของคุณแม่เป็นแบบไหน และแบบไหนที่ผิดปกติ รู้ได้อย่างไรว่าหัวนมผิดปกติ คุณแม่สามารถตรวจสอบและสังเกตหัวนมได้ด้วยตัวเองว่าปกติหรือไม่  แบบไหนหัวนมสั้น หัวนมบอด เพื่อการแก้ไขปัญหาที่มีให้ได้ก่อนคลอดลูกน้อย  ด้วยวิธีการต่างๆ ได้แก่ 1. ดูขนาดของหัวนมและเต้านม โดยมองด้วยตาเปล่าและสัมผัสคลำเพื่อสำรวจว่า มีก้อนผิดปกติในเต้านมหรือไม่ เต้านมดูไม่บิดเบี้ยว หัวนมไม่แตกเป็นรอยแยก มีหัวนมแบนราบหรือบุ๋มลงไปหรือเปล่า 2. Pinch Test คือการวางหัวแม่มือและนิ้วชี้ของคุณแม่ไว้ที่ฐานของหัวนมใกล้กับขอบลานนม จากนั้นค่อยๆ กดนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เข้าหากันเพื่อบีบหัวนมเบาๆ 2.1 Waller’s Test การวางมือบนเต้านมให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้คุณแม่ วางราบไปกับผิวหนัง […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages