4 เปลนอนทารก น่าใช้ รุ่นขายดีที่สุด ปี 2024

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้

วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย 

  1. เปลนอนทารก ควรระบายอากาศได้ดี
    เปลนอนที่ระบายอากาศได้ดี มักจะใช้ผ้าเนื้อนุ่ม เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าพีช หรือ เสริมด้วยผ้าตาข่าย ที่ช่วยลดความร้อนสะสม ให้อากาศถ่ายเทตลอดเวลา ทำให้ทารกนอนสบาย ลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้บริเวณผิวหนัง ผดร้อน ผดผื่น ในทารกแรกเกิดได้เป็นอย่างดี
  2. เปลนอนทารก เบาะไม่ควรแข็ง หรือ นุ่มจนเกินไป
    เบาะรองนอนทารก ควรใช้วัสดุที่นุ่มพอดี ไม่นุ่มจนยวบ เพราะเวลาลูกนอนคว่ำอาจเกิดความเสี่ยงหน้าจมที่เบาะได้ และต้องไม่แข็งเกินไป เพราะจะทำให้ทารกรู้สึกไม่สบายตัวตอนนอน 
  3. เลือกเปลนอนทารก ให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวลูกน้อย
    เบาะนอนทารก จะแข็งหรือนุ่มมากเพียงใด คุณพ่อคุณแม่ต้องดูน้ำหนักและขนาดตัวของลูกน้อยประกอบกัน เช่น ถ้าลูกน้ำหนักตัวเยอะ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเบาะที่แข็งขึ้นมาอีกระดับ เบาะจะได้ไม่ยุบตัวง่ายเกินไปเมื่อใช้งานไปสักระยะ
  4. ควรเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่มีรอยยุบ หรือ ร่อง
    ก่อนจะเลือกซื้อควรสังเกตให้ดีว่าเปลนอนทารกจะต้องไม่มีรอยยุบใด ๆ เพื่อป้องกันทารกนอนดิ้นไปตกร่อง ทำให้บาดเจ็บ หรือ หายใจไม่ออกได้ และเนื่องจากทารกกระดูกยังไม่แข็งแรง การที่นอนในลักษณะผิดท่าทางอาจมีผลเสียงต่อการเจริญเติบโตของกระดูกได้
  5. เปลนอนทารก ทำความสะอาดได้ง่าย
    ปลอกเบาะนอน ต้องถอดทำความสะอาดได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย เพราะถ้าหากปล่อยให้สกปรก สะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ก็อาจทำให้ทารกมีปัญหาทางด้านสุขภาพตามมาได้ เพราะในแต่ละวัน ลูกน้อยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงสัมผัสกับเบาะนอน 
  6. เปลนอนทารกแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี
    ความแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนจะตัดสินใจซื้อแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สอบถามโครงสร้างของเตียงว่าทำจากวัสดุอะไร เช่น เหล็ก หรือ อลูมิเนียม เพราะโครงเตียงแข็งแรงก็จะรับน้ำหนักลูกน้อยได้อย่างปลอดภัย 

เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?

 1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น

 ข้อดีเตียง Bedside Crib 

  • ออกแบบมาเพื่อเด็กแรกเกิดนอนสบาย บางรุ่นปรับเป็นคอกกั้นได้ 
  • เตียงเปิดข้างได้ สะดวกในการตื่นมาดูแลและให้นมลูก 
  • รอบเตียงหุ้มด้วยผ้า จับปีนป่ายได้ ไม่อันตรายกับทารก 
  • มีมุ้งกันแสง มุ้งกันแมลง ระบายอากาศดี 
  • เบาะนุ่มระดับพอดี ลดโอกาสการเกิดโรค SLDS (โรคไหลตายในทารก)
  • สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน 

ข้อเสียเตียง Bedside Crib 

  • การใช้งานระยะสั้น เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดโดยเฉพาะ

2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก 

ข้อดีเตียงไม้ 

  • ออกแบบมาเพื่อแยกที่นอนทารกกับคุณพ่อคุณแม่ 
  • บางรุ่นเปิดข้างเตียงได้ สะดวกในการดูแลลูก 
  • ช่องไม้ระบายอากาศเยอะ อากาศถ่ายเทได้ดี
  • วัสดุไม้แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้เยอะ 
  • สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน

ข้อเสียเตียงไม้ 

  • มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายได้ลำบาก 
  • เตียงไม้เนื้อจะแข็ง ไม่มีผ้าหุ้ม สร้างอันตรายให้ทารกได้ 

3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่

ข้อดี Playpen 

  • ออกแบบมาเพื่อทารกแรกเกิดและสำหรับเด็กวัยคลาน 
  • เปิดข้างเตียงได้ สะดวกในการดูแลลูกน้อย 
  • ปรับเป็นคอกกั้นเด็กได้ ช่วยในการเลี้ยงลูกวัยคลาน 
  • วัสดุหุ้มด้วยผ้า เด็กจับปีนป่ายได้ ไม่อันตรายกับทารก 
  • ใช้งานได้นานขึ้น สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน 

ข้อเสีย Playpen 

  • คอกกั้นขนาดเล็ก อาจทำให้ลูกขาดโอกาสเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว 

4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี

ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า 

  • ออกแบบมาเพื่อกล่อมเด็กแรกเกิดนอนสบาย บางรุ่นปรับเป็นคอกกั้นได้ 
  • เปิดข้างเตียงได้ สะดวกในการดูแลและให้นมลูกในเวลากลางคืน 
  • มีระบบไกวอัตโนมัติ ช่วยให้ทารกหลับสนิท ลดการงอแง 
  • พ่อแม่มีเวลามากขึ้น ไม่ต้องคอยอุ้มกล่อมนอน 
  • รอบเตียงหุ้มด้วยผ้า ไม่อันตรายกับทารก 
  • เบาะนุ่มระดับพอดี ลดโอกาสการเกิดโรค SLDS (โรคไหลตายในทารก) 
  • สามารถใช้ได้จนลูกอยู่ในวัยคลาน วัยหัดเดิน   

ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า 

  • บางรุ่นใช้งานได้ระยะสั้น 9 เดือน ควรหารุ่นที่ปรับใช้งานเป็นคอกกั้นเด็ก เพื่อการใช้งานคุ้มค่านานขึ้น 

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

เปลนอนทารก รุ่นขายดีที่สุดปี 2024 ใน ร้านเบบี้ กิ๊ฟ

1. เปลไกวไฟฟ้า รุ่น Sleep & Play Auto Swing แบรนด์ Prince & Princess 

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 2 ปี รองรับน้ำหนักได้ 25 กิโลกรัม 
  • ใช้งานได้นาน ปรับเป็นคอกกั้นเด็กได้ ฝึกพัฒนาการ นั่ง คลาน ยืน 
  • มีระบบ Sensor จับการขยับของเตียง เมื่อทารกเคลื่อนไหว เพื่อไกวเปลอัตโนมัติ 
  • ระบบไกวไฟฟ้า ปรับการไกวได้ 5 ระดับ  
  • ตั้งเวลาการไกวให้หยุดเองอัตโนมัติ ได้ตั้งแต่ 8, 15, 30 นาที  
  • เตียงเปิดข้างได้ วางชิดกับเตียงคุณแม่ พร้อมสายคล้องกันเตียงเลื่อน ปลอดภัยขึ้น 
  • เตียงปรับระดับความสูง – ต่ำได้ 7 ระดับ สูงสุด 44 cm.  
  • เตียงปรับองศาเอียงได้ ลดภาวะกรดไหลย้อนหรือแหวะนมในเด็ก  

2. เตียงนอนทารกและคอกกั้นเด็ก รุ่น Sleep & Play แบรนด์ Prince & Princess

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 3 ปี รองรับน้ำหนักได้ 15 กิโลกรัม 
  • เตียงเปิดข้างได้ วางชิดกับเตียงคุณแม่ สะดวกสบายมากขึ้น 
  • ปรับเป็นคอกกั้นเด็กได้ เสริมพัฒนาการลูก รับน้ำหนักได้ถึง 15 Kg. 
  • มีระบบสั่น กล่อมลูกน้อยหลับสนิทนานขึ้น 
  • เตียงปรับระดับความสูง – ต่ำได้ 5 ระดับ สูงถึง 52 Cm. 
  • เตียงปรับองศาเอียงได้ ลดภาวะกรดไหลย้อนในเด็ก 
  • มีมุ้งกันแมลงทรงโดม ป้องกันแสง 1 ฝั่ง ลูกน้อยหลับสนิทแสงไม่ส่องตา 
  • โมบายเสริมพัฒนาการลูก 4 ฟังก์ชัน 

3. เตียงนอนเด็กแรกเกิด Cozee Breeze Plus Bedside crib

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 1 ปี รองรับน้ำหนักได้ 15 – 20 กิโลกรัม 
  • เปิดข้างวางชิดเตียงแม่ได้ และยังช่วยให้สะดวกเมื่อวางลูกน้อย 
  • มีล้อ มีขาโยก ช่วยกล่อมลูกน้อยได้ 
  • ช่องตาข่ายระบายอากาศ มองเห็นลูกจากด้านนอกได้ 
  • ปรับความสูงได้ 6 ระดับ 
  • ปรับเอียงได้ ป้องกันอาการท้องอืดและกรดไหลย้อน 
  • เบาะนอนนุ่ม ทำจากเส้นใยข้าวโพด 
  • ถอดพับเก็บและประกอบง่าย ภายใน 30 วินาที

4. เตียงนอนเด็กแรกเกิด Cozee Lite Bed side crib with Rocking รุ่น มีขาโยก (ไลท์) 

  • เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – 1 ปี รองรับน้ำหนักได้ 15- 20 กิโลกรัม 
  • เปิดข้างวางชิดเตียงแม่ได้ และยังช่วยให้สะดวกเมื่อวางลูกน้อย  
  • มีล้อ มีขาโยก ช่วยกล่อมลูกน้อยได้  
  • ช่องตาข่ายระบายอากาศ มองเห็นลูกจากด้านนอกได้  
  • ปรับความสูงได้ 6 ระดับ  
  • ปรับเอียงได้ ป้องกันอาการท้องอืดและกรดไหลย้อน  
  • เบาะนอนนุ่ม ทำจาก deluxe foam 
  • ถอดพับเก็บและประกอบง่าย ภายใน 30 วินาที

คุณพ่อคุณแม่คงรู้จัก เปลนอนทารก กันดีแล้วใช่ไหมคะ ถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ร้านเบบี้กิ๊ฟ 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน ที่กำลังนับวันรอคอยได้เห็นหน้าลูกน้อย เชื่อว่าคุณแม่คงจะวางแผนและตั้งใจจะให้นมแม่แก่ลูกน้อยทันทีหลังคลอดทุกคน และน่าจะเตรียมของใช้สำหรับการเลี้ยงลูกน้อย บางคนอาจจะมองหาเครื่องปั๊มนม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการให้นมแม่กันบ้างแล้วด้วย…จริงไหมคะ? แต่นอกจากการเตรียมของใช้เพื่อให้นมแม่แล้ว  คุณแม่ต้องไม่ลืมหันกลับมาสำรวจร่างกาย ด้วยการเช็กสุขภาพเต้านมและหัวนม ว่าพร้อมให้นมแม่ได้ทันทีหลังคลอดหรือไม่? มีส่วนไหนผิดปกติหรือมีปัญหาจนเป็นอุปสรรคในการให้นมแม่หรือเปล่า?  เราจึงชวนคุณแม่ตั้งครรภ์มาเรียนรู้วิธีตรวจเช็กหัวนมและเต้านม พร้อมแนะนำข้อมูลในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้คุณแม่พร้อมให้นมลูกน้อยได้เต็มที่ทันทีหลังคลอดค่ะ ชวนแม่ท้อง…ตรวจหัวนมและเต้านมด้วยตัวเอง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรตรวจลักษณะของเต้านมและหัวนมของตัวเอง เพื่อเช็กความผิดปกติของหัวนม ซึ่งบางครั้งคุณแม่อาจจะไม่ได้เคยสังเกตหรือรู้ว่าก่อนว่าลักษณะหัวนมของตัวเอง อาจมีปัญหาที่ส่งผลต่อการให้นมลูกน้อยได้ เช่น  หัวนมบอด หัวนมสั้น  หัวนมแบน หัวนมบุ๋ม รวมถึงหัวนมใหญ่ ซึ่งลักษณะหัวนมเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ และยิ่งคุณแม่แก้ไขได้เร็วเท่าไร ลูกน้อยก็จะได้รับคุณค่าจากนมแม่ได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น  ฉะนั้นมาสังเกตดูกันว่า หัวนมของคุณแม่เป็นแบบไหน และแบบไหนที่ผิดปกติ รู้ได้อย่างไรว่าหัวนมผิดปกติ คุณแม่สามารถตรวจสอบและสังเกตหัวนมได้ด้วยตัวเองว่าปกติหรือไม่  แบบไหนหัวนมสั้น หัวนมบอด เพื่อการแก้ไขปัญหาที่มีให้ได้ก่อนคลอดลูกน้อย  ด้วยวิธีการต่างๆ ได้แก่ 1. ดูขนาดของหัวนมและเต้านม โดยมองด้วยตาเปล่าและสัมผัสคลำเพื่อสำรวจว่า มีก้อนผิดปกติในเต้านมหรือไม่ เต้านมดูไม่บิดเบี้ยว หัวนมไม่แตกเป็นรอยแยก มีหัวนมแบนราบหรือบุ๋มลงไปหรือเปล่า 2. Pinch Test คือการวางหัวแม่มือและนิ้วชี้ของคุณแม่ไว้ที่ฐานของหัวนมใกล้กับขอบลานนม จากนั้นค่อยๆ กดนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เข้าหากันเพื่อบีบหัวนมเบาๆ 2.1 Waller’s Test การวางมือบนเต้านมให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้คุณแม่ วางราบไปกับผิวหนัง […]

คุณแม่ฉีดวัคซีนกันหรือยังงงงง อย่ามัวแต่รีรอนะ เพราะว่าวัคซีนนั้นสำคัญมาก แต่ใครที่ฝากท้องกับคุณหมอแล้วก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวคุณหมอก็จะนัดฉีดเอง คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่าเวลาท้องแล้วจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง วันนี้เราเลยนำความรู้เกี่ยวกับวัคซีนที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ ปกติแล้วการได้รับวัคซีนของคุณแม่ท้องจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ก็คือช่วงก่อนตั้งครรภ์กับช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ด้านล่างคือวัคซีนต่างๆ ที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ค่ะ 1. วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน (Rubella Vaccine) ใครเตรียมตัวเป็นคุณแม่ก็ไปฉีดวัคซีนตัวนี้ล่วงหน้าสัก 3 เดือนเป็นอย่างน้อยนะคะ อ๊ะๆ คนที่ยังไม่ได้ฉีดกำลังตกใจกันอยู่ใช่มั้ย อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่เคยฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนท้อง คุณแม่ก็แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ ในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก หลักๆ คืออย่าไปที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพราะมันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคเลยล่ะ ยิ่งถ้าไปเจอคนที่ไอหรือจามหรือเป็นไข้อะไรพวกนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่เลย เพราะถ้าหากคุณแม่ติดเชื้อไวรัสหัดเยอรมันตัวนี้เข้าในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก มันจะส่งผลให้ลูกในท้องมีความพิการที่อวัยวะต่างๆ เช่น ตา หู หัวใจ แขน ขาหรือสมองได้ค่ะ คุณแม่ที่เป็นหัดเยอรมันจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมนี่แหละ แต่จะแถมด้วยผื่นขึ้นตามตัว แต่ว่าถ้าคุณแม่ติดเชื้อไวรัสนี้ในช่วงเดือนท้ายๆ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะลูกของเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากเชื้อนี้เนื่องจากเค้าเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว 2. วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (Hepatitis B Vaccine) ไวรัสตัวนี้พบเยอะมากได้ประเทศไทยค่ะ คนที่เป็นก็จะแสดงอาการไม่เหมือนกันหรอก แต่ถ้าเป็นขั้นรุนแรงแล้วล่ะก็สามารถเสียชีวิตได้เลยค่ะ คนที่เป็นโรคนี้หนักๆ ตัวจะเหลือง อ่อนเพลียมากตลอดเวลาแล้วตับก็จะถูกทำลาย เจ้าเชื้อตัวนี้สามารถติดจากแม่สู่ลูกในท้องได้ แต่ก็ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไรนะคะ ที่บอกว่าติดต่อก็คือว่า ถ้าเกิดคุณแม่มีเชื้อนี้ […]

คุณแม่มือใหม่กับการเอาลูกน้อยเข้าเต้า ให้นมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง ฟังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ เพราะการที่แขนของคุณแม่ต้องแบกรับน้ำหนักลูกและต้องก้มตัวให้นมลูกน้อยบ่อย ๆ อาจจะทำให้คุณแม่ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดแขน หรือ เมื่อยล้าได้สะสมจนส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้ เพราะเห็นถึงปัญหาของคุณแม่หลังคลอด หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จึงถูกออกแบบมาเพื่อคุณแม่ให้นมโดยเฉพาะเลยค่ะ หมอนออกแบบตามสรีระศาสตร์ทารก ช่วยประคองคอและหลังของลูกน้อย พร้อมช่วยลดอาการปวดเมื่อยของคุณพ่อคุณแม่เวลาอุ้มทารกได้ด้วยค่ะ หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จำเป็นต้องมีไหม? คุณแม่ที่เชี่ยวชาญในการอุ้มทารกเป็นอย่างดี อุ้มลูกน้อยได้สบายหายห่วง เบาะอุ้มให้นมอาจจะดูไม่จำเป็นเท่าไหร่ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เวลาให้นมลูกยังต้องเกร็งแขน จนต้องใช้วิธีเอาหมอนหนุนมาวางซ้อนกันหลาย ๆ ใบ เพื่อรองรับลูกน้อย ยกลูกให้ถึงเต้านม หมอนรองให้นมก็ถือว่าจำเป็นต้องมีค่ะ เพราะจะช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในระดับที่ให้นมได้สะดวกมากขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยของคุณแม่ และที่สำคัญหมอนทั่วไปไม่เหมาะกับการให้ทารกนอนระหว่างให้นม เพราะหมอนไม่ได้โค้งกระชับรองรับสรีระทารกค่ะ วิธีเลือกซื้อหมอนรองให้นม 1. เลือกจากรูปทรงหมอนรองให้นมมีหลายรูปแบบ เช่น รูปตัวยู, เบาะตามสรีระทารก เป็นต้น คุณแม่ควรจะเลือกแบบที่ตัวเองถนัด ที่สำคัญคุณสมบัติหลักควรจะกระชับรองรับสรีระทารกได้เป็นอย่างดี 2. กระชับแนบตัวลูก หรือ ตัวคุณแม่หมอนรองให้นมควรจะแนบกระชับตัวลูกน้อย รองรับตามสรีระเด็กทารก เพื่อให้คุณแม่อุ้มได้ถูกท่า หากเป็นแบบหมอนรูปตัวยู ควรจะปรับสายได้เพื่อให้แนบกระชับกับเอวคุณแม่ ไม่ให้หมอนเลื่อนหลุดง่าย […]

เชื่อว่าอาการปวดหลังหรืออาการปวดเมื่อยตามร่างกายนั้น ต้องเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนเคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องนั่งหรืออยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน ๆ และก็อาจจะมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างเบาะยางพาราและเบาะเมมโมรี่โฟมเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย เนื่องจากวัสดุดังกล่าวให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายและช่วยคลายความปวดได้ แต่ทราบหรือไม่คะว่า ปัจจุบันนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Vetagel (เวทาเจล) ซึ่งเป็นวัสดุเจลประเภทหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้เร็ว และลดแรงกดทับได้ดีกว่ามาก ทั้งยังเป็นที่นิยมในประเทศเกาหลีอีกด้วย vetagel คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง มีประโยชน์ทางด้านสุขภาพของเราอย่างไร ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   Vetagel คือ อะไร ? ชวนรู้จักเจลชนิดพิเศษเพื่อสุขภาพ นำเข้าจากเกาหลีใต้ vetagel คือวัสดุเจลชนิดหนึ่ง เป็นเจลใสสีเขียวชนิดพิเศษ ผลิตขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ เนื้อเจลจะมีคุณสมบัติเหนียว แข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูงมาก แม้มีแรงกดทับหนัก ๆ ก็ไม่เสียรูปทรงง่าย สามารถกระจายแรงกดทับได้ดีและคืนตัวได้เร็ว เมื่อเรากดลงไปในเนื้อเจล เนื้อเจลจะเด้งดึ๋งคืนตัวทันที (Fast Recovery Property) ทำให้เกิดแรงกดทับได้น้อยมาก ๆ ซึ่งแตกต่างจากวัสดุชนิดอื่น ๆ เช่น เมมโมรี่โฟมหรือยางพาราที่เมื่อเราใช้มือกดลงไป วัสดุจะค่อย ๆ คืนตัวช้า ๆ […]

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน คงเริ่มรู้จักกับคาร์ซีทกันบ้างแล้ว ว่าเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในขณะเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า คาร์ซีทที่ติดตั้งในรถยนต์แต่ละประเภทนั้น จะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาคำตอบกันว่า วิธีติดตั้งคาร์ซีท ตำแหน่งไหนปลอดภัยมากที่สุด วิธีติดตั้งคาร์ซีท มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี  ตำแหน่งที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุด สำหรับประเทศไทย ตำแหน่งในรถยนต์ที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุดก็คือ “เบาะหลังฝั่งคนนั่ง” ด้วยเหตุผลดังนี้…  รถยนต์ SUV หรือ รถตู้ ติดตั้งคาร์ซีทเบาะไหนดี  ติดตั้งคาร์ซีทที่รถตู้ ส่วนใหญ่แล้วรถที่มีนั่งมากกว่า 2 ตอน ควรจะติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะแถวสุดท้ายของตัวรถ แต่ก็จะมีข้อควรระวังในเรื่องของการติดตั้ง เช่น ควรจะขยับเบาะให้ห่างจากประตูหลัง เพื่อให้มีระยะห่างกับประตูพอสมควร เพื่อเป็นการเซฟตี้ลูกน้อยให้ปลอดภัยมากที่สุด  Alphard ติดตั้งคาร์ซีทได้ไหม ติดตั้งเบาะไหนดี  ติดตั้งคาร์ซีทที่รถ Toyota Alphard ควรจะติดตั้งที่เบาะแถวแรก หรือ แถวตอนสุดท้ายของตัวรถ ไม่ควรติดตั้งที่เบาะด้านหน้า เนื่องจากมีถุงลมนิรภัย (Airbag) และคาร์ซีทบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองของคนขับลดน้อยลง และสำหรับคาร์ซีทที่มีฟังก์ชั่นหมุนได้ เมื่อติดตั้งไปแล้วจะทำให้หมุนยากหรือหมุนไม่ได้เลย เนื่องจากเบาะรถมีขนาดพอดีตัว พื้นที่จำกัด ทำให้เวลาหมุนแล้วตัวคาร์ซีทจะไปติดที่ข้างเบาะ […]

เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages