เคล็ดลับในการเลือกซื้อคาร์ซีท

การเลือกซื้อคาร์ซีท

เคล็ดลับในการเลือกซื้อคาร์ซีท

  • ไม่มีคาร์ซีทตัวไหนที่ที่ดีที่สุดหรือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคน เพราะฉะนั้นการเลือกคาร์ซีทที่ดีควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของเด็ก ติดตั้งได้อย่างถูกต้องและเหมาะกับรถของคุณ และใช้งานอย่างถูกวิธีได้ทุกครั้งที่คุณเดินทาง
  • อย่าตัดสินใจเลือกซื้อจากราคาเพียงอย่างเดียว เพราะราคาที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่าคุณจะได้คาร์ซีทที่ปลอดภัยกว่าหรือใช้ง่ายกว่า
  • หลีกเลี่ยงการใช้คาร์ซีทมือสองที่คุณไม่รู้ประวัติการใช้งานโดยเด็ดขาด และที่สำคัญ
    • ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ที่มีสภาพเก่าเกินไป ควรตรวจดูได้วันที่ผลิตที่ตัวคาร์ซีทหรือสอบถามจากผู้ผลิตว่าคาร์ซีทตัวนี้เป็นรุ่นปีอะไร ยังควรใช้งานอีกหรือไม่
    • ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีสภาพชำรุด
    • ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ไม่มีชื่อรุ่น วันที่ผลิต หมายเลขรุ่น เพราะถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้กำกับไว้คุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการเรียกคืนคาร์ซีทตัวนั้นเนื่องจากการบกพร่องของผู้ผลิตหรือไม่
    • ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ไม่มีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย คุณจำเป็นต้องศึกษาการใช้งานอย่างละเอียด
    • ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีส่วนปะกอบและอะไหล่ไม่ครบ คาร์ซีทมือสองส่วนใหญ่มักมีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่สำคัญหายไป ตรวจสอบกับผู้ผลิตให้มั่นใจว่าคาร์ซีทมือสองที่คุณได้รับมานั้นมีอุปกรณ์ต่างๆ ติดมาด้วยอย่างครบถ้วน
    • ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีการถูกเรียกคืนโดยผู้ผลิต คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือติดต่อไปที่ กรมทางหลวง NHTSA โทร 888/327-4236 หรือเว็ปไซต์ NHTSA (เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา)
  • ห้ามใช้คาร์ซีทที่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะปานกลางหรือรุนแรง คาร์ซีทที่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยมาแล้วอาจจะยังใช้งานต่อไปได้ แต่ผู้ผลิตบางรายแนะนำให้ควรเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุแม้จะเป็นแค่อุบัติเหตุเล็กๆ กรมทางหลวงหรือ NHTSA ได้พิจารณาลักษณะการเกิดอุบัติและประเมิณว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยไว้ดังนี้
    • หากรถที่ประสปอุบัติเหตุยังสามารถใช้งานขับต่อไปได้หลังเกิดอุบัติเหตุ
    • ประตูฝั่งที่ติดกับคาร์ซีทไม่ได้รับความเสียหาย
    • ไม่มีใครในรถได้รับบาดเจ็บ
    • ถุงลมนิรภัยไม่ได้ทำงาน
    • ไม่มีร่องรอยการชำรุดเสียหายของคาร์ซีท

แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจว่าควรใช้คาร์ซีทมือสองนั้นหรือไม่ ลองสอบถามไปยังผู้ผลิตโดยตรงจะดีที่สุดค่ะ

***ขอบคุณแหล่งที่มา : เวปไซด์ www.healthychildren.org