อุ่นนมแม่ อย่างไร? ให้ลูกได้สารอาหารครบถ้วน

นมแม่ คืออาหารมหัศจรรย์ของลูกน้อย อุดมด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ครบถ้วนและเหมาะสมที่สุดสำหรับลูกน้อย ซึ่งคุณค่าสารอาหารในนมแม่ สำคัญที่สุดต่อการช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกทุกด้าน ได้แก่

  • สารอาหารสร้างพัฒนาการสมอง ทั้ง ดีเอชเอ เอเอ  กรดไขมันจำเป็นโอเมก้า3 โอเมก้า 6 ทอรีนและอื่นๆ ที่ช่วยพัฒนาระบบประสาทและการทำงานของสมองลูกน้อย
  • สารอาหารเพื่อร่างกายลูกน้อยเติบโตแข็งแรง เพราะมีทั้งโปรตีนที่มีประโยชน์และย่อยง่าย  แคลเซียม ธาตุเหล็ก ไขมัน  คาร์โบไฮเดรต  growth factor และวิตามินที่จำเป็นต่างๆ อีกมากมาย เพื่อให้ลูกมีร่างกายสูงใหญ่ แข็งแรงสมวัยเสมอ
  • นมแม่มีสารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันธรรมชาติให้ลูก เทียบเท่ากับวัคซีนเป็นพันเข็ม ซึ่งเป็นสารภูมิคุ้มกันโรคที่ไม่สามารถหาได้จากอาหารอื่น  ช่วยลดภูมิแพ้ และป้องกันการติดเชื้อจากโรคภัยต่างๆ  ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ไม่เจ็บป่วยง่ายนั่นเอง
  • นมแม่ มีสารที่ช่วยในเรื่องระบบย่อยและฮอร์โมนต่างๆ  ช่วยให้ลูกขับถ่ายง่าย  อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส ยิ้มง่าย และยังได้รับความอบอุ่นปลอดภัย สร้างสายสัมพันธ์แห่งความผูกพันจากใจคุณแม่  ทำให้คุณหนูเลี้ยงง่าย อารมณ์ดีมีความสุข

อุ่นนมแม่ให้ถูก ลูกได้คุณค่าเต็มที่

เมื่อรู้ว่านมแม่มีคุณค่ามหาศาลอย่างนี้แล้ว คุณแม่ต้องให้ลูกน้อยกินนมแม่ให้นานที่สุด  เพื่อให้ลูกได้รับคุณค่าน้ำนมให้มากที่สุด ด้วยการทำสต๊อกนมแม่เก็บไว้ให้ลูก และให้ความสำคัญกับการอุ่นนมแม่ที่แช่แข็งหรือทำสต๊อกไว้มาให้ลูกกินด้วย เพราะหากอุ่นนมแม่ไม่ถูกวิธี อาจทำให้ลูกเจ็บป่วยท้องเสีย แถมยังสูญเสียสารอาหารที่มีคุณค่าในนมแม่ไป   เราจึงขอแนะนำวิธีการอุ่นนมที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่ดีที่สุดมาฝากกันค่ะ

วิธี อุ่นนมแม่ จากช่องแช่แข็ง

  • นำนมแม่ในถุงเก็บน้ำนมที่แช่แข็งจากช่องฟรีซ ย้ายลงมาแช่ในช่องธรรมดาด้านล่าง เพื่อเตรียมก่อนจะใช้ 1 คืน  ให้นมแม่ค่อยๆ ละลายในวันรุ่งขึ้น  โดยนำนมเก่าที่คุณแม่ปั๊มเก็บไว้มาใช้ก่อนตามลำดับวัน เวลา ที่เขียนไว้หน้าถุงเก็บน้ำนม
  • เมื่อนมแม่ละลาย ให้แบ่งนมแม่ใส่ขวด ในปริมาณที่ลูกกินเฉพาะมื้อต่อมื้อเท่านั้น แล้วจึงค่อยนำมาอุ่น ซึ่งนมส่วนที่เหลือในช่องตู้เย็นธรรมดาจะสามารถเก็บให้ลูกกินได้อีก 2-3 วัน
  • ไม่ควรนำนมแช่เข็ง ออกมาวางปล่อยให้ละลายเองที่อุณหภูมิห้อง เพราะอาจทำให้คุณแม่ทิ้งไว้จนลืมเวลา หรือทิ้งไว้นานเกินไป จนทำให้นมแม่เสียได้
  • วิธีการอุ่นนมแม่ที่ดีและถูกต้องคือ นำนมแม่ไปแช่ไว้ในถ้วยหรือกะละมังเล็กๆ ที่ใส่น้ำอุ่น หรือน้ำธรรมดาอุณหภูมิห้อง  จนนมแม่หายเย็น
  • ห้ามอุ่นนมแม่ด้วยการนำไปใส่ไมโครเวฟ หรือแช่ในน้ำร้อน  นมแม่ควรผ่านความร้อนให้น้อยที่สุด เพราะความร้อนจะไปทำลายสารอาหารสำคัญในนมแม่ เช่น วิตามินบางตัว สารภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และอื่นๆ  รวมทั้งน้ำนมอาจจะร้อนเกินไปจนลวกปากลูกน้อยได้
  • หลังนมละลาย อาจมีชั้นของไขมันนมลอยอยู่ด้านบน แยกกับส่วนที่เห็นเป็นน้ำ ให้คุณแม่ค่อยๆเขย่าหรือแกว่งเบาๆ ให้นมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันก่อนให้ลูกน้อยกิน
  • น้ำนมแช่แข็งที่ละลายแล้วอาจมีกลิ่นหืนนิดหน่อย แต่ไม่เสีย ลูกน้อยสามารถกินได้ไม่มีอันตราย
  • ถ้าลูกน้อย ไม่ปฏิเสธหรือยอมกินนมเย็นๆ ได้ อาจไม่ต้องนำมาแช่ในน้ำอุ่น โดยเมื่อนมแม่ละลายตัวเข้ากันในช่องแช่เย็นธรรมดาแล้ว ก็สามารถนำมาให้ลูกกินนมแบบเย็นๆ ได้ทันที

ปัจจุบันมีเครื่องอุ่นนม ที่ช่วยอำนวยความสะดวกคุณแม่ในการละลายนมแม่แช่แข็ง ซึ่งมีการทำงานที่หลากหลายทั้งอุ่นนม ละลายน้ำแข็ง อุ่นอาหาร และฆ่าเชื้อได้  โดยคุณแม่ควรพิจารณาเลือกซื้อที่มีมาตรฐานความปลอดภัย  สามารถเลือกปรับอุณหภูมิได้ตามความเหมาะสม เพื่อรักษาคุณค่าของนมแม่ไว้ให้ครบถ้วน

ข้อควรระวัง

  • คุณแม่ควรทดสอบอุณหภูมิของน้ำนม ด้วยการหยดใส่หลังมือ โดยต้องไม่รู้สึกร้อนหรือเย็นเกินไป  เพราะนมที่ร้อนเกินไปอันตรายต่อทางเดินอาหารของลูก ตั้งแต่อาการพุพอง จนอาจกระตุ้นให้เกิดเนื้องอกในกระเพาะอาหาร  และยังทำลายเซล์เม็ดเลือดขาวในนมแม่  ส่วนนมที่เย็นเกินไป จะทำให้ลูกทารกมีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำได้ด้วย
  • คุณแม่ควรดมกลิ่นนมสต็อกหลังจากละลายน้ำแข็ง หรืออุ่นนมแม่แล้วทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่านมมีลักษณะเสียหรือไม่ ซึ่งนมที่เสียจะมีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นรุนแรงมาก
  • นมแม่ที่อุ่นจนละลายแล้ว ไม่สามารถเก็บได้นานเกิน 2-3 ชั่วโมง ในอุณหภูมิห้อง  ดังนั้นจึงควรให้ลูกกินนมจนหมด หรือเก็บต่อได้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง แล้วต้องทิ้งไป
  • ไม่ควรนำนมแช่แข็งที่ละลายแล้ว กลับไปแช่แข็งใหม่

เรื่องเข้าใจผิดของการ อุ่นนมแม่ ทำเสียคุณค่าน้ำนม 

  1. นำนมไปแช่ในน้ำร้อน หรือนำไปนึ่งได้ เพื่อให้ละลายเร็ว
    ความจริงคือ ไม่ควรนำนมแม่ไปละลายในน้ำร้อน เพราะความร้อนจะทำให้สารอาหารสำคัญในนมแม่ที่มีคุณค่าต่อลูกน้อยเสียไป
  2. ละลายนมแม่ หรืออุ่นให้ร้อนเร็วได้ด้วยไมโครเวฟ
    ความจริงคือ ห้ามนำนมไปอุ่นหรือทำให้ร้อนในไมโครเวฟ  เนื่องจากความร้อนจะไปทำลายสารภูมิคุ้มกัน และสารอาหารจำเป็นในนมแม่ ทำให้ลูกไม่ได้รับสารอาหารที่สำคัญครบถ้วน และน้ำนมอาจร้อนเกินไปจนลวกปากลูกได้ด้วย
  3. หากลูกนมแม่ที่อุ่นแล้วไม่หมด  ยังเก็บนมแม่นั้นให้ลูกกินมื้อถัดไปได้อีก
    ความจริงคือ ไม่ควรนำนมที่ออกมาอุ่นแล้ว หรือนมที่เหลือ มาให้ลูกกินในมื้อถัดไป  เพราะนมที่ละลายแล้วจะเก็บได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง  นมอาจจะเสียหรือบูด เสี่ยงทำให้ลูกน้อย ปวดท้อง ท้องเสียหรือเจ็บป่วยได้
  4. ลูกกินนมเย็นไม่ได้ เดี๋ยวปวดท้อง ท้องเสีย!
    ความจริงคือ  การกินนมแม่ที่ละลายแล้วแบบเย็น ไม่ทำให้ลูกปวดท้องหรือ ท้องเสีย และนมแม่ก็ยังมีคุณค่าสารอาหารที่จำเป็นต่อลูกน้อย  แต่หากลูกไม่ชอบกินนมเย็น คุณแม่ก็เพียงนำขวดนมแม่มาแช่ในน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้องรอให้หายเย็นลงเท่านั้น
  5. นมแม่ที่ละลายแล้วมีกลิ่นหืน คือเสีย! ให้ลูกกินไม่ได้
    ความจริงคือ  น้ำนมแม่ที่แช่แข็งไว้ เมื่อละลายหรืออุ่นแล้วอาจมีกลิ่นหืนได้บ้าง  แต่ไม่ได้เสีย  ลูกน้อยสามารถกินได้ เพราะยังคงมีคุณค่าสารอาหาร และไม่มีอันตราย  ยกเว้นกรณีนมแม่มีกลิ่นรุนแรงมาก และมีรสเปรี้ยว  แสดงว่านมนั้นเสียแล้วไม่ควรให้ลูกกิน

ข้อมูลเพิ่มเติม :
https://www.si.mahidol.ac.th/th/division/HpH/admin/news_files/718_49_1.pdf, FB: สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ,
https://www.phyathai.com/
https://library.thaibf.com/ (คลังข้อมูล มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย)

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากกักตัวอยู่บ้านและนั่งเรียนออนไลน์มาร่วมหลายเดือน ตอนนี้หนูๆ ทั้งหลายก็คงจะจะได้กลับไปเข้าเรียนในโรงเรียนจริงๆกับเพื่อนแล้ว แต่สำหรับแม่ๆ ถึงแม้ดูเผินๆ แล้ว สถานการณ์ของเจ้าเชื้อโรคตัวร้าย COVID ดูเหมือนจะดีขึ้น 100 ทั้ง 100 ก็คงยังวางใจได้ไม่เต็มที่ ยังกังวลกันแน่นอน สำหรับคุณแม่บ้านไหนที่กำลังกังวลกลัวว่า เอ๊ะลูกน้อยจะของเราจะไปติดเชื้อโรคมาไหม หรือของที่ให้ลูกไปเพียงพอไหมน้า  เรานำลิสต์ของจำเป็นที่ลูกน้อยควรพกเพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจาก COVID มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเล้ย! 1. อาวุธเลเวล 100 หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า  ตอนนี้ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เห็นแต่คนใส่หน้ากากเต็มไปหมด เพราะหน้ากากเป็นอาวุธชั้นดีที่จะช่วยคุ้มครองทั้งตัวผู้ใส่ และผู้อื่นไปในเวลาเดียวกัน และแน่นอนค่ะ คุณแม่สามารถหาซื้อไซส์เด็กได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโตก็มีวางขายอยู่ทั่วไปเลยค่ะ คุณแม่อาจเลือกแบบใช้แล้วทิ้ง หรืออาจเป็นแบบผ้าที่สามารถนำกลับมาซักใช้ใหม่ได้ก็ได้ อย่าลืมสวมหน้ากากให้ลูกน้อยทันทีเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน จะให้ดีให้คุณแม่เตรียมหน้ากากสำรองใส่กระเป๋านักเรียนไปเผื่ออีกซักสองสามอันเผื่อเค้าทำหายระหว่างวัน ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนแรกๆ เค้าอาจจะยังไม่ค่อยชิน อาจมีโยเย หรือดึงหน้ากากออกบ้าง แต่ถ้าเค้าได้เห็นเพื่อนๆ ในห้องใส่ ลูกๆ ก็จะยอมใส่ตามไปโดยอัตโนมัติเลยค่ะ 2. กระติกน้ำส่วนตัว พกไว้อุ่นใจ  ยุคนี้เป็นยุคของการไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ก็เพราะว่าเจ้าโรค COVID นี้มันสามารถติดต่อกันผ่านสารคัดหลั่งอย่างน้ำมูก หรือน้ำลายได้ยังไงล่ะ! เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว คุณแม่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะ ว่าการพกกระติกน้ำส่วนตัวนี่เป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ หลายคนจะชอบทานขนมด้วยกัน ดื่มน้ำด้วยกัน […]

ความสะอาดของอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับลูกน้อยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเด็กเล็กยังร่างกายไม่แข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานได้ยังไม่เต็มที่ หากสัมผัสกับเชื้อโรคก็จะมีโอกาสป่วยได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องหาวิธีทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย เพื่อให้มั่นใจว่าสะอาดปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้ ได้มีการนำนวัตกรรมการฆ่าเชื้อด้วยพลังงานจากรังสี UV-C โดยการปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องอบ UV ขนาดเล็กที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย ในบทความนี้ BabyGift ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องอบยูวีพร้อมสินค้าแนะนำมาฝากกันแล้วค่ะ   เครื่องอบ UV คืออะไร ? เครื่องอบ UV หรือ ตู้อบ UV (UVC Sterilizer) เป็นการนำหลอดสังเคราะห์แสง UV-C หรือ Germicidal Lamp มาติดตั้งไว้ภายในเครื่องอบบริเวณด้านบน หรือบริเวณฝาปิดด้านบน เมื่อเครื่องทำงานด้วยโหมด UV จะเป็นการปล่อยรังสี UV-C จากหลอด UV ด้วยปริมาณค่าความยาวคลื่นแสงถึง 254 นาโนเมตร ลงไปตกกระทบกับพื้นผิวของสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในตู้ ในปริมาณที่สม่ำเสมอ และระยะเวลานานเพียงพอจนเข้าไปทำลาย DNA และ RNA ของเชื้อโรคได้ จากแต่เดิมการฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ ด้วยการลวกน้ำร้อน หรือการนึ่งด้วยไอร้อน อาจเหมาะกับการฆ่าเชื้อแค่สิ่งของที่โดนน้ำและทนความร้อนได้ เช่น […]

คุณแม่มือใหม่กับการเอาลูกน้อยเข้าเต้า ให้นมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง ฟังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ เพราะการที่แขนของคุณแม่ต้องแบกรับน้ำหนักลูกและต้องก้มตัวให้นมลูกน้อยบ่อย ๆ อาจจะทำให้คุณแม่ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดแขน หรือ เมื่อยล้าได้สะสมจนส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้ เพราะเห็นถึงปัญหาของคุณแม่หลังคลอด หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จึงถูกออกแบบมาเพื่อคุณแม่ให้นมโดยเฉพาะเลยค่ะ หมอนออกแบบตามสรีระศาสตร์ทารก ช่วยประคองคอและหลังของลูกน้อย พร้อมช่วยลดอาการปวดเมื่อยของคุณพ่อคุณแม่เวลาอุ้มทารกได้ด้วยค่ะ หมอนรองให้นม เบาะอุ้มให้นม จำเป็นต้องมีไหม? คุณแม่ที่เชี่ยวชาญในการอุ้มทารกเป็นอย่างดี อุ้มลูกน้อยได้สบายหายห่วง เบาะอุ้มให้นมอาจจะดูไม่จำเป็นเท่าไหร่ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เวลาให้นมลูกยังต้องเกร็งแขน จนต้องใช้วิธีเอาหมอนหนุนมาวางซ้อนกันหลาย ๆ ใบ เพื่อรองรับลูกน้อย ยกลูกให้ถึงเต้านม หมอนรองให้นมก็ถือว่าจำเป็นต้องมีค่ะ เพราะจะช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในระดับที่ให้นมได้สะดวกมากขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยของคุณแม่ และที่สำคัญหมอนทั่วไปไม่เหมาะกับการให้ทารกนอนระหว่างให้นม เพราะหมอนไม่ได้โค้งกระชับรองรับสรีระทารกค่ะ วิธีเลือกซื้อหมอนรองให้นม 1. เลือกจากรูปทรงหมอนรองให้นมมีหลายรูปแบบ เช่น รูปตัวยู, เบาะตามสรีระทารก เป็นต้น คุณแม่ควรจะเลือกแบบที่ตัวเองถนัด ที่สำคัญคุณสมบัติหลักควรจะกระชับรองรับสรีระทารกได้เป็นอย่างดี 2. กระชับแนบตัวลูก หรือ ตัวคุณแม่หมอนรองให้นมควรจะแนบกระชับตัวลูกน้อย รองรับตามสรีระเด็กทารก เพื่อให้คุณแม่อุ้มได้ถูกท่า หากเป็นแบบหมอนรูปตัวยู ควรจะปรับสายได้เพื่อให้แนบกระชับกับเอวคุณแม่ ไม่ให้หมอนเลื่อนหลุดง่าย […]

การทำความสะอาดและ ฆ่าเชื้อขวดนม เป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจมาก ๆ ไม่แพ้ขั้นตอนการ “เลือกขวดนม” และเลือกน้ำยาสำหรับ “ล้างขวดนม” เลยค่ะ เพราะลูกน้อยเบบี๋วัยแรกเกิดยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคต่าง ๆ เหมือนผู้ใหญ่ การละเลย ไม่ใส่ใจในขั้นตอนการฆ่าเชื้อขวดนมนี้ อาจส่งผลให้ลูกน้อยเจ็บป่วยจากเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นได้ จากแต่เดิมวิธี ฆ่าเชื้อขวดนม ที่คุ้นเคยกันตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่คุณย่าคือวิธีการ “ฆ่าเชื้อด้วยการต้ม” ซึ่งต้องใช้เวลานานเกินครึ่งชั่วโมง เพื่อรอให้น้ำร้อนถึงจุดเดือดที่จะสามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งวิธีนี้ก็ยังทำให้ขวดนมเสื่อมสภาพเร็วอีกด้วย ปัจจุบันจึงมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกคุณแม่ในการฆ่าเชื้อขวดนม ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และเพิ่มความมั่นใจในเรื่องของการทำความสะอาดฆ่าเชื้อขวดนมได้มากขึ้น มีวิธีใดบ้างนั้นเรามาดูกันค่ะ 1.การฆ่าเชื้อด้วยเครื่องนึ่งไฟฟ้า การฆ่าเชื้อด้วยการนึ่ง ถือเป็นวิธีการที่ง่าย และใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการต้ม เพียงแค่เติมน้ำตามปริมาณที่กำหนด วางฐานรองนึ่งให้เข้าที่ นำขวดนมที่ถอดชิ้นส่วนล้างอย่างสะอาดแล้ว มาวางคว่ำลง แล้วปิดฝากดปุ่มให้เครื่องทำงาน เครื่องจะทำให้น้ำที่เราเติมไปเดือดและละเหยไอน้ำให้ลอยขึ้นไปฆ่าเชื้อ หลังจากเครื่องทำงานเสร็จ เพียงนำที่คีบขวดนมออกมามาผึ่งให้แห้งก็สามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างสบายใจค่ะ ข้อดี  – สะดวก ใช้งานง่าย และเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก และเป็นวิธีที่ผู้ใหญ่ในบ้านน่าจะคุ้นเคยกันดีข้อเสีย  – ต้องหมั่นล้างคราบตระกรันบริเวณถาดใส่น้ำด้านล่างให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดเชื้อรา และเชื้อโรคบางชนิดแอบแฝงได้ 2.การฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟ วิธีนี้ถือเป็นหลักการเดียวกับเครื่องนึ่งไฟฟ้า คือเป็นการทำให้น้ำเดือดและละเหยเป็นไอน้ำขึ้นมาฆ่าเชื้อ เหมาะสำหรับบ้านที่มีเครื่องไมโครเวฟอยู่แล้ว หรือผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา […]

หน้ากากอนามัย สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ด้วยแสง UV ทั้ง หน้ากากอนามัยแบบผ้า หน้ากากอนามัยN95 แต่จะต้องถูกฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกวิธี ถึงจะสามารถนำกลับมาใช้งานซ้ำได้อย่างปลอดภัย และหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคที่ติดอยู่ที่หน้ากากอนามัย เหล่านี้ได้นั้นก็คือ ใช้ แสง UV-C ในการฆ่าเชื้อ ก่อนนำกลับมาใช้งานซ้ำ เรามาดูกันว่าต้องมีวิธีการอย่างไรบ้าง ? หน้ากากอนามัยแบบผ้า หน้ากากอนามัยประเภทนี้ควรเปลี่ยนทุกวันหลังการใช้งาน และสามารถซักทำความสะอาดได้ปกติ ซักได้ทุกวัน โดยมีข้อแนะนำดังนี้ หลังจากตากเรียบร้อยแล้ว ก็นำ หน้ากากอนามัย มาเข้า ตู้อบแสง UV  เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ รวมถึงฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ด้วย วิธีการง่ายๆคือ นำ หน้ากากอนามัย ใส่เข้าไปใน ตู้อบแสง UV อย่างน้อย 30 นาที โดยจะต้องวางหน้ากากให้แสง UV  สามารถฉายแสงทั้งด้านนอกและด้านใน หน้ากากอนามัยN95 สำหรับการนำ หน้ากากอนามัย N95 กลับมาใช้ซ้ำ เราจะแนะนำให้ใช้ ตู้อบแสง UV  เพียงอย่างเดียวในการฆ่าเชื้อ แต่ก็ยังมีหลายคนกังวลว่าหากนำมาฆ่าเชื้อโรคโดยใช้แสง UV แล้ว จะทำให้คุณสมบัติของ หน้ากากอนามัย ชนิดนี้จะลดลงไหม? […]

เรามั่นใจ 100% เลยว่าแม่ทุกคนอยากเห็นหน้าลูกน้อยเร็วๆ นับวันรอกันแทบไม่ไหว แต่ไม่มีแม่คนไหนแน่นอนที่อยากให้ลูกคลอดออกมาก่อนกำหนด ปกติแล้วคุณแม่ก็จะอุ้มท้องกันอยู่ที่ 37-40 สัปดาห์อ่ะเนอะ เพราะว่าถ้าคลอดก่อนหน้านี้ อวัยวะหรือสมองบางส่วนของลูกน้อยก็ยังอาจจะยังเติบโตไม่เต็มที่เท่าไหร่ ปอดก็ยังไม่แข็งแรง หายใจเองไม่ได้ ตัวเล็ก ถ้าคลอดออกมาก่อนก็ต้องอยู่ในตู้อบ นอกจากค่าใช้จ่ายจะสูงมากแล้ว ลูกยังน่าสงสารที่ต้องมีสายระโยงรยางค์ช่วยให้เค้าหายใจได้ ตอนท้องนี่ก็จะกังวลตลอด ปวดท้องนิดนึงก็กลัวว่าจะคลอดแล้วรึเปล่า แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าจะคลอดก่อนกำหนดก็มักจะมีอาการเตือนที่ไม่ใช่แค่ปวดท้องนะ เราลองไปดูกันดีกว่าว่ามีอาการประมาณไหนบ้าง 5 อาการแบบนี้เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด! 1.เจ็บท้องถี่ มีเลือดออกทางช่องคลอด เวลาท้อง การมีเลือดออกไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะงั้นถ้าคุณแม่มีเลือดออกในช่วงก่อนสัปดาห์ที่ 37 ไม่ว่าจะน้อยหรือเยอะ ให้รีบไปหาคุณหมอด่วนๆ เลย ส่วนคุณแม่บางคนอาจจะมีอาการเจ็บท้องถี่ร่วมด้วย ความรู้สึกมันจะเหมือนปวดอยากเข้าห้องน้ำแต่ถ่ายไม่ออก อาการนี้มันจะเกิดจากการที่มดลูกบีบตัว เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้นะ 2. ตัวบวมความดันสูงปรี๊ด คุณแม่หลายๆ คนอาจจะมีอาการมือบวม เท้าบวม ถ้าไม่ได้บวมเยอะมากจนน่าตกใจก็ไม่ได้ผิดปกติอะไรนะ เพราะหลายๆ คนก็เป็นกัน แต่คุณแม่บางคนมีอาการบวมทั้งตัว น้ำหนักขึ้นเร็ว จุกตรงลิ้นปี่ ความดันสูงมากจนอาจจะแตะ 200 เลยก็มี อันนี้คืออาการของคุณแม่ที่ครรภ์เป็นพิษต้องพบคุณหมอโดยเร็ว เพราะว่านอกจากจะอันตรายต่อลูกในท้องแล้วยังอันตรายต่อคุณแม่ด้วย ความดันที่ขึ้นสูงปรี๊ดแบบนี้อาจมีโอกาสทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ด้วยนะ ส่วนใหญ่คุณแม่ที่มีอาการแบบนี้จะต้องอยู่ในการดูแลของคุณหมอ หากมีอาการไม่ดีขึ้นอาจจะต้องโดนผ่าคลอดฉุกเฉินเพื่อรักษาชีวิตของคุณแม่และลูกน้อยในท้องไว้ค่ 3. […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages