กันไว้ดีกว่าแก้ 13 สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไม่ควรกิน

เมื่อรู้ว่าตัวเองก้าวเข้าสู่สถานะคุณแม่ตั้งครรภ์เต็มตัวแล้ว สิ่งแรกที่บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายแอบกังวลอยู่ไม่น้อย คงจะหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกิน ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุด เพราะจากประสบการณ์ตรงของการเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว บรรดาเพื่อนสนิท คนใกล้ชิด มักจะวนเวียนมาถามว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินอะไร หรือสามารถกินอะไรได้บ้าง ยิ่งถ้าไม่มีอาการแพ้ท้อง ถือว่าโชคดีสองชั้น อยากกินทุกอย่างที่ขวางหน้าแน่นอน หรือแพ้ท้องแล้วก็ดันอยากจะกินอาหารที่ไม่ควรกินอีก เพราะโน้นก็อร่อย นี่ก็ของชอบ ไม่รู้ว่ากินเข้าไปแล้วจะมีผลกระทบต่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์รึเปล่า วันนี้คุณแม่เลยอยากจะแนะนำอาหารคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องใหม่ไม่ควรรับประทานให้ฟังว่า

1. อาหารที่มีรสจัด
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดมากๆ เพราะระบบย่อยอาหารจะผิดปกติไปจากเดิม การกินอาหารรสจัดๆ ไม่ว่าจะเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด จะทำให้มีโอกาสปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ นำไปสู่อาหารเป็นพิษได้ง่าย

2. อาหารที่ก่อโรคไหลย้อน
ในช่วงตั้งครรภ์ โอกาสที่คุณแม่จะเป็นโรคกรดไหลย้อนเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนโดยเฉพาะ อาหารทอด, อาหารจำพวกแป้งที่ต้องอุ่นซ้ำ, อาหารที่มีรสจัด, ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชีส รวมถึงยาบางชนิด เช่น ยาขยายหลอดลม เป็นต้น


3. อาหารที่กินแล้วท้องผูก
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า อาการท้องผูกกลายเป็นของคู่กันของคุณแม่ตั้งครรภ์ไปแล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวารได้ง่าย คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก หรือลดปริมาณการกินให้น้อยลง แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีกากใยสูง อย่างผักและผลไม้แทน ควบคู่ไปกับอาหารหลัก 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม

4. อาหารที่กินแล้วแพ้
คุณแม่ที่รู้ตัวว่าแพ้อาหารชนิดใด ก็อย่าเผลอรับประทานเข้าไปนะ ควรระมัดระวังการกินมากกว่าปกติ เพราะบางคนจะมีอาการแพ้มากขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ อาจเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ ทำให้มีการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียนได้

5. อาหารสำเร็จรูป หรือ อาหารกระป๋อง
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปอย่างเด็ดขาด เพราะจะมีสารเคมีเจือปน หรือหากเลี่ยงไม่ได้ ควรอ่านฉลาก ดูวันหมดอายุ เช็คสภาพกระป๋องไม่บุบ ไม่บวม ก่อนซื้อมารับประทานทุกครั้ง เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่รับประทานเข้าไปมีอะไรบ้าง บางอย่างเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมาก เช่น ผงชูรส ที่จะทำให้ร่างกายขาดน้ำและปวดศีรษะมาก

6. อาหารหมักดอง
แม้ว่าอาหารเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่ลดอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า อาหารหมักดองมีส่วนประกอบของเกลือและน้ำตาล หรือขัณฑสกรอยู่สูงจะส่งผลให้คุณแม่มีอาการบวมเพราะความเค็มที่มากขึ้น และวิธีการหมักดองที่ไม่สะอาดอาจเป็นเหตุทำให้คุณแม่ปวดท้อง ท้องเสีย หากรุนแรง ก็จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องได้

7. อาหารไขมันสูง
เป็นอีกหนึ่งตัวร้ายที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง เพราะถ้าทานเข้าไปแล้วจะย่อยยาก และทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง อึดอัด และน้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นได้ง่าย

8. อาหารที่ไม่สุก อาหารดิบ
อาหารที่ปรุงไม่สุก คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรกิน เช่น ไข่ดิบ ไข่ลวก แหนม เนื้อปลาดิบ ซูชิปลาดิบ สเต็กที่ไม่สุก ปลาแซลมอนรมควัน หอยนางรม รวมถึงอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่อุ่นซ้ำผ่านความร้อนไม่ทั่วถึง

9. หลีกเลี่ยงผงชูรส
อาหารที่ดีไม่ควรใส่ผงชูรสเลย ผงชูรสทำมาจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาล และถูกสังเคราะห์จนกลายเป็นสาร “โมโนโซเดียม กลูตาเมต” (MSG) ซึ่งไม่มีคุณค่าทางอาหารแม้แต่น้อย เป็นสาเหตุของโรคร้าย เช่น ไตวาย ตับอักเสบ ฯลฯ ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ต้องบอกกับทางร้านว่าไม่ต้องใส่ผงชูรส เพื่อสุขภาพของแม่และที่สำคัญคือลูกน้อยในครรภ์

10. อาหารที่เพิ่มน้ำหนัก
นอกจากอาหารที่มีไขมันสูงแล้ว อีกหนึ่งประเภทอาหารประเภทของหวาน ขนมเค้ก หากรับประทานมากจนเกินไปจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและมีโอกาสเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์อีก ไม่ถึงกับห้ามคุณแม่ไม่ให้กิน แต่ให้ลดปริมาณน้อยลงเนอะ หลังคลอดค่อยว่ากันอีกทีดีกว่าจ้า

11. ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน
คุณแม่สมัยใหม่หลายคนมักจะติดการดื่มชาและกาแฟกันเป็นจำนวนมาก ถึงเวลาตัวเองตั้งครรภ์ก็จะลำบากหน่อย แต่เพื่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์แล้วคงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการดื่มชาแก่ๆ จะทำให้ท้องผูกง่าย คนที่มีอาการท้องผูกอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยง และยังมีชาบางชนิดที่ไม่ควรดื่ม เช่น ชาดอกคำฝอย เพราะชาชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว ซึ่งเป็นอันตรายต่อคุณแม่ ส่วนกาแฟนั้นดื่มมากเกินไปคุณแม่ใจสั่นแน่นอน และนอนไม่หลับอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งการพักผ่อนของคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้างดได้ควรจะงดนะคะ

12. น้ำอัดลม
น้ำอัดลมช่วยให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ และมีน้ำตาลที่ช่วยเพิ่มพลังงาน แต่ในแง่ของคุณค่าทางอาหารนั้นไม่มีเลย ยิ่งดื่มมากๆ ก็ทำให้คุณแม่อ้วน แนะนำว่าควรหันมาดื่มน้ำสะอาด และน้ำผลไม้คั้นสดแทนจะมีประโยชน์มากกว่า

13. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เข้าใจว่าไลฟ์สไตล์คุณแม่สมัยใหม่บางคนจะต้องพบปะผู้คนมากมาย ทำให้มีงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่ตลอด จำเป็นต้องมีการดื่มแอลกอฮอล์บ้าง แต่พอคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องงดอย่างเด็ดขาด เพราะการคิดแค่จะจิบเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้คุณแม่ติด และเผลอดื่มไม่รู้ตัว เพราะถ้าดื่มมากเกินไปก็ไม่ดีต่อลูก หรือดื่มจนติดเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง (Alcoholism) ถือเป็นเรื่องอันตรายมากๆ เพราะอาจทำให้ลูกน้อยเสียชีวิตในครรภ์ หรือเมื่อคลอดออกมาแล้วมีน้ำหนักตัวน้อย เติบโตช้า ศีรษะเล็ก ใบหน้าเล็ก คางสั้น ปัญญาอ่อน และเกิดความพิการของหัวใจและหลอดเลือดได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้น้ำตาลกลูโคสและกรดอะมิโนผ่านทางรกและสายสะดือได้น้อยลง จึงทำให้ทารกได้รับออกซิเจนและสารอาหารจำเป็นต่างๆ ไม่เพียงพอ

นอกจากอาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญ และมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์แล้ว คุณแม่ทั้งหลายก็อย่าลืมทำจิตใจให้ผ่องใส เบิกบาน ไม่เครียด แฮปปี้ตลอดเวลาด้วยนะ และถ้ามีเวลาว่างอีกนิดก็ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและลูกน้อยในครรภ์ด้วยจ้า…เป็นกำลังใจให้คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายด้วยนะจ๊ะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

อาหารที่จะช่วยบำรุงสายตาให้กับลูกน้อย >>>ขอบคุณข้อมูล : Mother&Care

คุณแม่มือใหม่มักจะชอบถามว่า “ฝากท้องเมื่อไหร่ดี” คำตอบง่ายๆ สั้นๆ ก็คือ ตอนนี้เลยค่ะ! คุณแม่ควรรีบไปฝากครรภ์ทันทีเมื่อทราบว่ามีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องนะคะ เนื่องจากระยะเวลาตลอด 40 สัปดาห์ที่ตั้งครรภ์นั้นถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะเวลาฝากครรภ์คุณแม่จะได้ยาบำรุงมาทานด้วย แถมยังได้รับการดูแลดีๆ จากคุณหมออีกต่างหาก เจอคุณหมอบ่อยๆ จะได้อุ่นใจ ไม่ต้องมานั่งกังวลเวลาเกิดอาการแปลกๆ กับตัวเราด้วย เวลาไปฝากครรภ์คุณหมอคุณพยาบาลจะถามอะไรบ้างนะ? เวลาไปฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอและคุณพยาบาลจะถามคำถามเหล่านี้กับคุณแม่ค่ะ ตื่นเต้นจัง จะต้องตรวจอะไรบ้างนะ? ประโยชน์ของการฝากครรภ์มีอะไรบ้างนะ? นอกจากนี้ การพบคุณหมอทุกๆ เดือนก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกอุ่นใจและได้รับการแนะนำว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในแต่ละไตรมาสอีกด้วยค่ะ เวลาไปฝากครรภ์จะเตรียมเงินไปเท่าไหร่ดี ค่าใช้จ่ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลเลยค่ะ หากเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล คุณแม่อาจใช้สิทธิ 30 บาทในการฝากครรภ์ได้ ส่วนถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน การฝากครรภ์แต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่าย มากน้อยขึ้นอยู่กับการตรวจรักษาในวันนั้นค่ะ หรือบางโรงพยาบาลอาจมีแพ็กเกจการฝากครรภ์แบบเหมาจ่ายด้วยนะ ฝากครรภ์ที่ไหนดีนะ เลือกไม่ถูกเลย คุณแม่สามารถไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกก็ได้นะ โดยโรงพยาบาลหรือคลินิกนี้ควรจะอยู่ใกล้บ้านหรือเดินทางได้สะดวก เพราะเมื่อคุณแม่เริ่มท้องแก่แล้วอาจมีปัญหาในการเดินทางได้ค่ะ สถานที่ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่คลอดไม่จำเป็นต้องเป็นที่่เดียวกันก็ได้นะคะ การฝากครรภ์นั้นไม่มีคำว่าเร็วเกินไป แต่หากคุณแม่ประวิงเวลาไม่ยอมไปฝากครรภ์หรือไปไม่ตรงตามที่คุณหมอนัดแล้วล่ะก็ จะส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ได้แน่นอนเลยล่ะ

วันหยุดสัปดาห์นี้ คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยู่บ้านกับเจ้าตัวเล็ก ยังไม่มีแพลนทำอะไรกันบ้าง?ลองมาดู กิจกรรมครอบครัว สนุกๆแม้อยู่ที่บ้าน ที่ Baby Gift นำมาฝากกันค่ะ รับรองว่าวันหยุดนี้ไม่เงียบเหงาแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย !! ทำอาหารเมนูพิเศษร่วมกัน สิ่งที่มีค่ามากกว่า การมอบของขวัญให้แก่กัน คือ การที่ครอบครัวพูดคุยและใช้เวลาดีๆด้วยกัน เชื่อว่าในวันจันทร์ถึงศุกร์ คนในครอบครัวก็ต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องทำ จนอาจไม่มีเวลาว่างที่จะได้อยู่ร่วมกันมาก การทำอาหารเมนูพิเศษร่วมกันในวันหยุด จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมครอบครัว ที่สามารถสร้างช่วงเวลาดีๆให้กับลูกน้อย และสร้างความสันพันธ์ในครอบครัวได้ดีเลยทีเดียว นอกจากจะช่วยฝึกทักษะด้านทำครัวให้กับเจ้าตัวเล็กแล้ว การได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการและกระบวนการคิดได้หลายๆด้าน เสริมสร้างจินตนาการได้ดี เด็กจะจดจำและเรียนรู้ได้ง่ายกว่าการมองเห็นเพียงภาพจากในหนังสือ หรือจากที่โรงเรียน รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นแววตาที่ตื่นเต้น และมีความสุขของเขาอย่างแน่นอน แต่งานนี้ไม่ง่ายเลย คุณแม่อาจจะต้องเตรียมตัวรับมือกับความวุ่นวายของลูกๆเป็นพิเศษ วันหยุดสัปดาห์นี้ อย่าลืมลองถามเจ้าตัวเล็กว่าอยากทานเมนูอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แล้วเตรียมของให้พร้อมเข้าครัวกันเลย จัดสวนปลูกต้นไม้กับเจ้าตัวเล็ก อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำได้ง่ายๆที่บ้านกับเจ้าตัวเล็ก สำหรับบ้านที่ชอบธรรมชาติและมีพื้นที่ว่างนอกตัวบ้าน วันหยุดนี้ลองจูงมือลูกน้อยของคุณและคนในครอบครัว มาจัดสวนปลูกต้นไม้ง่ายๆ คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะ นอกจากของเล่นที่ซื้อให้เด็กๆจะช่วยเสริมพัฒนาการแล้ว ของเล่นจากธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญและเป็นประโยชน์มากๆเช่นกัน การที่เด็กได้คลุกคลีกับพื้นดิน ต้นไม้ หรือแมลง จะทำให้เด็กเข้าใกล้ธรรมชาติและรู้จักโลกนี้มากยิ่งขึ้น การปลูกต้นไม้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ลูกเรียนรู้การมีความรับผิดชอบและดูแลต้นไม้นั้นๆ นอกจากจะทำให้สนุกสนานเพลิดเพลินกับธรรมชาติแล้ว ยังช่วยทำให้คนในบ้านมีเวลาร่วมกันมากขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านร่มรื่นน่าอยู่ ระหว่างปลูกต้นไม้นั้นคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถสอนเจ้าตัวเล็กได้ ทั้งเรื่องดิน เรื่องพืช […]

ตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้เต็มที่ตามความตั้งใจ เพื่อให้ลูกน้อยทารกได้กินน้ำนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและต่อเนื่องยาวนานที่สุด คือ เครื่องปั๊มนม เพราะเครื่องปั๊มนมที่ดีจะมีข้อดีและมีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยมากมาย  ได้แก่ แต่การที่คุณแม่จะใช้ เครื่องปั๊มนม ให้ได้คุ้มค่า จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ปรึกษาผู้มีประสบการณ์และเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแม่เอง เพราะปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้คุณแม่เลือกซื้อมากมาย หลายแบบ และมีราคาที่แตกต่าง  คุณแม่จึงต้องพิจารณาเลือกถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ และเรียนรู้ว่าเลือกแบบไหนจะเหมาะกับเราและลูกน้อย ฉะนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักกับเครื่องปั๊มนมแบบต่างๆ ที่มีขายในปัจจุบัน   การทำงานที่น่าสนใจลักษณะการใช้งาน และคุณสมบัติที่น่ารู้ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อในแบบที่ใช่มากที่สุด 1. เครื่องปั๊มนม แบบปั๊มมือ  2. เครื่องปั๊มนมแบบใช้แบตเตอรี่ 3. เครื่องปั๊มนมแบบใช้ไฟฟ้า เลือก เครื่องปั๊มนม แบบไหน? ที่ใช่สำหรับคุณแม่ เพราะเครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยคู่ใจ ให้คุณแม่ทำสต๊อกน้ำนมแม่ให้ลูกน้อยได้เต็มที่ ดังนั้นคุณแม่จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณภาพของเครื่องปั๊มนมเป็นสำคัญ โดยควรเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะกับครอบครัว และมีประสิทธิภาพต่างๆ ดังนี้  

ในความคิดหรือความเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่าน ยังมีความคิดและดูจากโฆษณาต่างๆ จนทำให้เชื่อว่า ตอนท้องแม่ต้องดื่มนมมากๆ  เพื่อบำรุงให้แม่และลูกแข็งแรง  ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะเรื่องของการกินอาหารและกินนมของแม่ท้องนั้น วิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดคือกินอย่างเหมาะสม หลากหลายไม่ซ้ำและกินมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการกินนมในแม่ท้อง ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะมีข้อมูลออกมาบอกว่า การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มนมวัวมากเกินไป จะเป็นสาเหตุให้ลูกแพ้นมวัวได้ตั้งแต่แรกเกิด  เราจึงขอนำความรู้ดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการและการกินนมวัวมาอธิบายให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เข้าใจ เพื่อให้กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมาฝากค่ะ แม่ท้องกินนมวัวมาก ลูกอาจแพ้ได้จริงหรือ? ข้อมูลนี้เป็นความจริงค่ะ เพราะการที่ร่างกายคุณแม่ได้รับสารอาหารอะไรมากจนเกินไป จะสามารถกระตุ้นให้ลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ตั้งแต่หลังคลอด  นั่นคือนมวัวที่กินมากไปนั้น จะไปทำให้เกิดการสะสมของแคลเซียมและโปรตีนนมวัว  เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ จนกระตุ้นให้เกิดการแพ้  โดยจะมีอาการแสดงของการแพ้นมวัวได้แก่ ซึ่งปกติแล้วการที่ลูกน้อยจะแพ้นมวัว แพ้อาหาร หรือเป็นภูมิแพ้ได้นั้น สาเหตุใหญ่หลักๆ คือ นอกจากนี้ยังไม่รวมกับโปรตีนในนมวัวที่คุณแม่ได้รับจากอาหารอื่นๆ ที่แฝงไปด้วยนมอีก เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม เนย ชีส  ยิ่งทำให้คุณแม่ได้รับโปรตีนจากนมวัวมากเกินไป ทำให้ลูกน้อยแพ้นมวัวได้ตั้งแต่หลังคลอด นมอะไร? ที่คุณแม่ท้องดื่มได้บ้าง โดยนมวัวที่คุณแม่ดื่มได้ในปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ซึ่งนมสำหรับแม่ท้องที่แนะนำคือ นมนมสดพาสเจอไรส์ชนิดพร่องมันเนย เพราะได้คุณค่าสารอาหารที่ต้องการโดยที่ตัวแม่ตั้งครรภ์ไม่ต้องรับไขมันมากเกินไป แต่ข้อเสียคือนมชนิดนี้อายุสั้น เก็บไว้ได้ไม่นาน  กรณีที่คุณแม่ดื่มนมชนิดนี้ไม่ได้ก็อาจเลือกนมชนิดอื่นแทน เช่น […]

การใช้ชีวิตของคุณแม่ทุกคนจะเปลี่ยนไปแน่นอนเมื่อเริ่มตั้งท้อง เพราะฮอร์โมนในร่างกายของเราเปลี่ยนไป ทำให้ทั้งร่างกาย สุขภาพ และอารมณ์ของเราไม่เหมือนเดิม คุณแม่ที่ตั้งท้องมาถึงไตรมาส 2 จะต้องเจอกับปัญหาสุขภาพอะไรกันบ้าง เราไปดูกันค่ะ 1. ตะคริว ขอบอกเลยค่ะ ว่าอาการตะคริวนี่ถือว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยของแม่ท้องเลยทีเดียว เพราะมดลูกที่ใหญ่ขึ้นไปกดทับบริเวณเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีพอ โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ในช่วงที่คุณแม่นอนราบนั่นเอง 2. ตกขาว อาการตกขาวก็เป็นอาการหนึ่งที่คุณแม่ต้องเจอเช่นเดียวค่ะ ถ้าตกขาวเป็นสีขาวปกติก็เป็นเรื่องทั่วไปนะ ไม่ได้มีปัญหาหรือน่าห่วงอะไร แต่เมื่อใดที่ตกขาวมีสีเปลี่ยนไป หรือมีกลิ่นเหม็นแล้วล่ะก็ คุณแม่จะต้องรีบไปพบคุณหมอนะคะ เพราะนั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าคุณแม่กำลังติดเชื้อทางช่องคลอดค่ะ 3. ฟันผุและปัญหาทางช่องปาก แม่ท้องจะต้องการแคลเซียมมากกว่าปกติ เพราะจะต้องแบ่งกับลูกน้อยด้วย และคุณแม่ที่รับแคลเซียมไม่เพียงพอจะพบกับปัญหาฟันผุ เนื่องจากโดนลูกแบ่งแคลเซียมไปนั่นเองค่ะ ส่วนสำหรับปัญหาทางช่องปากนั้น คุณแม่ส่วนใหญ่จะพบกับปัญหาเลือดออกตามไรฟันค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรจะไปพบทันตแพทย์เป็นประจำนะคะ 4. เลือดกำเดา ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปนำไปสู่ปัญหาในโพรงจมูกของคุณแม่ค่ะ เพราะฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ผลิตเลือดเพิ่มขึ้นไปด้วย เส้นเลือดฝอยภายในจมูกจึงบวมและแตกออกมาได้ง่าย เพราะอย่างนั้นถ้าคุณแม่รู้สึกระคายเคืองในจมูก ขอแนะนำให้คุณแม่ใช้น้ำเกลือที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปล้างจมูกนะคะ และห้ามใช้ของแข็งแหย่เข้าไปในโพรงจมูกโดยเด็ดขาดเลยค่ะ 5. ผิวแตกลาย เนื่องจากท้องที่ใหญ่ขึ้น ผิวของคุณแม่จึงแตกเป็นลายทางค่ะ โดยผิวที่แตกลายนี้เราสามารถหาครีมมาทาเพื่อบรรเทาได้นะคะ แต่ในคุณแม่บางคนอาจจะเจออาการคันร่วมด้วย ซึ่งถ้าคุณแม่เผลอเกาแล้วนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดบาดแผลและนำไปสู่การติดเชื้อได้ค่ะ 6. เส้นเลือดขอด น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages