เตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน ให้พร้อมก่อนคลอด ต้องมีอะไรบ้าง?

ห้องนอนเด็กอ่อน เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หากกำลังวางแผนที่จะมีลูกน้อย หรือบางครอบครัวคุณแม่อาจกำลังตั้งครรภ์ และเตรียมพร้อมที่จะจัดบ้าน จัดห้องนอนเพื่อต้อนรับลูกน้อย เพราะห้องนอนที่ดีของลูกน้อยวัยทารกจะส่งผลต่อทั้งสุขภาพ พัฒนาการและอารมณ์จิตใจในอนาคต
ด้วยเพราะลูกน้อยทารกต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน และการนอนเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้โกร๊ธฮอร์โมน หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตหลั่งเต็มที่ ทำให้ลูกเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งหากลูกน้อยนอนหลับไม่เต็มที่ หรือมีสิ่งต่างๆ รบกวนเวลานอน ทำให้นอนไม่เพียงพอ ลูกจะงอแง หงุดหงิดง่าย เติบโตได้ไม่ดี แถมยังส่งผลต่ออารมณ์จิตใจ ทำให้เป็นเด็กเลี้ยงยากและอารมณ์ไม่ดี ยิ่งหากห้องนอนไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุไว้อย่างดี ลูกก็อาจจะมีอันตรายในขณะนอนจนถึงชีวิตได้อีกด้วย
ฉะนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องนอนให้ลูกทารก จึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านต้องพิถีพิถันใส่ใจ ควรเลือกซื้อ จัดวางและเตรียมพร้อมให้ลูกในแบบที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย จะดีที่สุด

5 เรื่องต้องคิด ก่อนเตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน
ก่อนเลือกซื้อและจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ในห้องเด็กอ่อนให้ลูกน้อย มีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเป็นสำคัญนั่นคือ การเลือกห้องนอนให้ลูก ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับ 5 เรื่อง นั่นคือ
- ห้องต้องมีพื้นที่กว้างเหมาะสม เพื่อให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์เช่น เตียง เปล และชั้นวางของได้สะดวก ไม่คับแคบจนทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปแล้วดูแลลูกลำบาก สามารถจัดวางของต่างๆ ได้ในระยะห่างกันพอดี ไม่อยู่ใกล้จนลูกโตแล้วเอื้อมมาคว้าหยิบจับจนสิ่งต่างๆ หล่น โค่นล้มจนเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ห้องนอนลูก ควรอยู่ใกล้ห้องคุณพ่อคุณแม่ หรือใกล้กับห้องนั่งเล่นของบ้าน เพื่อให้ทุกคนที่ใกล้ชิดสามารถเข้ามาช่วยเหลือและดูแลลูกน้อยได้ง่ายและเข้าออกได้สะดวก
- ควรเป็นห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอ และปรับได้ โดยควรเป็นห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอให้คุณพ่อคุณแม่ได้มองเห็นและดูแลลูกได้ชัดเจน จะได้รู้ว่าลูกทำอะไร และสามารถหยิบจับของใช้ได้ไม่ผิดพลาด นอกจากนี้ควรมีม่านหรือมูลี่ไว้บังแดดหรือแสงที่ส่องมาด้วย เพื่อจะไม่ให้แสงนั้นแยงตาลูกน้อยเวลานอน ส่วนในเวลากลางคืนเมื่อลูกหลับ อาจจะต้องมีการใช้ดวงไฟอ่อนๆไว้ด้วย เผื่อกรณีคุณพ่อคุณแม่ติดกล้องวงจรปิดหรือเบบี้มอนิเตอร์เอาไว้ดูลูกน้อยนอนได้นั่นเอง
- เป็นห้องที่ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีเสียงดัง และสิ่งแวดล้อมใกล้ๆ ห้องนอนลูก ควรจะมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่ใกล้กับห้องครัว เพื่อไม่ให้มีเสียงทำครัวหรือกลิ่นอาหารเข้ามาได้ ไม่ใกล้ที่มีคนพลุกพล่านหรือใกล้ที่จอดรถและห้องที่มีเสียงดัง
- มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ใกล้ถนน ห้องนอนของลูกน้อยควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ควรอยู่ใกล้ถนน ใกล้ที่จอดรถ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง สารพิษ หรือควันรถยนต์เข้ามาในห้องนอนของลูก หากกรณีจำเป็นต้องใช้ห้องนอนที่ใกล้สิ่งแวดล้อมเหล่านี้ ควรต้องปิดห้องให้มิดชิด และมีเครื่องปรับอากาศหรืออุปกรณ์ช่วยฟอกอากาศ เพื่อป้องกันฝุ่นและเชื้อโรค
- ห้องนอนควรมีประตูปิดมิดชิด พื้นเรียบและไม่ลื่น ไม่เปิดง่าย จนทำให้เด็กโตหรือสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ง่าย รวมทั้งพื้นห้องควรจะเรียบไม่ขรุขระ สะอาด และปลอดภัยไม่ลื่นง่ายเกินไป เพื่อให้คุณแม่สามารถอุ้มลูกเดิน หรือเข้าออกได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง
Checklist ห้องนอนเด็กอ่อน ต้องมีอะไรบ้าง

เตียงนอน
ควรเป็นเตียงนอนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งเตียงนอนเด็กอ่อน ควรเป็นเตียงที่มีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นเตียงใหญ่พอที่จะใช้สำหรับให้ลูกเวลาโตได้อีกระยะหนึ่ง เตียงไม่มีมุมหรือเหลี่ยมแหลมคมที่เป็นอันตราย หากเป็นเตียงที่มีซี่กรง ควรมีความถี่ของซี่กรงรอบเตียงหรือราวกันตกห่างกันไม่เกิน 6 ซม. ไม่ควรใช้เตียง 2 ชั้นในเด็กเล็ก เพราะยังช่วยตัวเองไม่ได้ จึงอาจจะพลัดตกลงมาจนเป็นอันตรายได้

อุปกรณ์เครื่องนอน
นอกจากเตียงแล้ว ควรเตรียมเครื่องนอน เช่น ฟูก เบาะนอนสำหรับลูกน้อยให้พอดีกับเตียงนอน รวมถึงควรมี หมอนที่ต้องไม่อ่อนนุ่มหรือใหญ่เกินไป เพราะอาจกดทับใบหน้าและจมูกของลูกได้ ควรมีมุ้งครอบเตียงเพื่อป้องกันยุงและแมลงด้วย
ที่นอน ต้องเป็นฟูกที่นุ่มแต่ไม่นิ่มจนอ่อนยวบ เพราะลูกอาจจะจมไปกับที่นอนจนหายใจไม่ออกได้ ผ้าปูที่นอนและฟูกต้องเรียบตึง ไม่หลุดง่าย ผ้าปูที่นอนและเครื่องนอน ควรเป็นผ้าใยธรรมชาติที่ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวลูกน้อย และไม่ควรมีตุ๊กตา หรือของเล่นอยู่บนฟูกด้วย

Play Pen, Play Yard หรือเปลไกวไฟฟ้า เปลโยก ซึ่งมีที่เปลี่ยนผ้าอ้อม
คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมเพลเพน ที่ด้านบนสามารถปรับเป็นที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกได้ หรือจะใช้เพลเลนนี้ไว้สำหรับเปลี่ยนที่ให้ลูกนอนเล่น นั่งเล่นได้อย่างปลอดภัย กรณีต้องทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าปูเตียงนอนหรืออื่นๆ นอกจากนี้เปลไกวไฟฟ้า หรือเปลไกวอัตโนมัติ จะช่วยโยกไกวเพื่อกล่อมลูกน้อยให้นอนหลับ ช่วยแบ่งเบาภาระคุณแม่ในการอุ้มกล่อมลูกนอนได้อีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าเด็ก ตู้อเนกประสงค์
หรือชั้นวางอุปกรณ์ของใช้ ที่ช่วยสำหรับจัดเก็บเสื้อผ้า ผ้าอ้อมและของใช้ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อยได้พร้อมกันทั้งหมด เพื่อให้คุณแม่ได้หยิบจับนำเสื้อผ้า ผ้าอ้อมผ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หรือเครื่องใช้ของลูก แยกประเภทต่างๆ ได้เป็นระเบียบ และนำมาใช้ได้ง่าย โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เลือกที่มีขนาดพอเหมาะไม่สูงเกินไป ทำให้คุณแม่ต้องเอื้อมหยิบของใช้ การติดตั้งต้องยึดกับผนังให้แข็งแรง ไม่โยกหรือเอนจนล้มลงมาทับเตียงลูก หรือทับคุณแม่ได้ ตู้ต้องสามารถรองรับน้ำหนักของใช้ต่างๆ ได้ดี

คอกกั้นเด็ก
กรณีมีเผื่อไว้สำหรับให้ลูกน้อยที่เริ่มคืบคลาน และสามารถใช้ได้ไปจนลูกน้อยเกาะยืน เริ่มเดิน หรือเดินแล้ว เพื่อไว้จัดเป็นโซนสำหรับนอนหรือนั่งเล่น เล่นของเล่นอยู่ในบริเวณนั้น ให้ลูกมีพื้นที่เคลื่อนไหวได้อิสระ เสริมสร้างพัฒนากล้ามเนื้อและการเรียนรู้ให้ลูกน้อยได้พร้อมกัน ทั้งยังจำกัดพื้นที่ให้ลูกอยู่ในโซนที่ปลอดภัยอีกด้วย

Play Mat เสื่อหรืออุปกรณ์ปูพื้นสำหรับเด็กเล็ก
ไว้ใช้สำหรับปูไว้ในบริเวณที่นั่งหรือนอนเล่นของลูกน้อย ปูในคอกกั้นเด็ก ให้เป็นพื้นที่เล่นอิสระอย่างมีความสุขและปลอดภัยของลูกน้อย

เบบี้มอนิเตอร์ (Baby Monitor) กล้องสำหรับดูลูกน้อยแบบไร้สาย
- ตัวช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลลูกยามลูกน้อยนอนหลับ หรือเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ใกล้ ต้องไปทำธุระส่วนตัว รวมถึงกรณีที่ต้องให้พี่เลี้ยงหรือคนอื่นดูแลลูกน้อย
- เบบี้มอนิเตอร์นิยมใช้กันมากในบ้านที่มีลูกเล็กเบบี๋ โดยเฉพาะในห้องนอนของเด็กอ่อน
- สามารถดูลูกน้อยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญยังใช้ง่าย ดูได้ทุกที่ เพราะสามารถต่อแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้งานกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
- มีทั้งกล้องแบบที่สามารถเห็นภาพและเสียงด้วยระบบ AI บันทึกภาพเป็นไฟล์วิดีโอย้อนหลังได้
- สามารถนำกล้องไปติดไว้ในที่ต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งตั้งบนผนัง บนเฟอร์นิเจอร์ หรือซ่อนไว้มุมต่างๆ เพื่อดูลูกน้อยได้
- ในกล้องบางรุ่น ยังสามารถตรวจสอบอุณหภูมิ ความชื้น ฝุ่นละอองได้อีกด้วย
กล้องดูลูกน้อยแบบไร้สายเหล่านี้ ถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญประจำบ้านยุคใหม่ ที่ใช้ดูความเคลื่อนไหวของลูกผ่านแอปพลิเคชั่นบนหน้าจอมือถือ ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ เพื่อดูแลความปลอดภัยของลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิด เหมือนดูแลลูกด้วยตัวเอง ใช้ดูแลความปลอดภัยได้ทั้งกับลูกน้อย คนในครอบครัว สัตว์ สิ่งของภายในบ้านได้พร้อมกัน

เก้าอี้ให้นม หรือเก้านั่งคุณแม่
อาจเลือกซื้อไว้ใช้ในห้องนอนของลูกสัก 1 ตัว เพื่อไว้ให้คุณแม่สามารถนั่งให้นมลูกน้อยได้สะดวก ก่อนที่จะพาลูกน้อยเข้าเตียงนอน ช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องไปนั่งให้นมลูกที่โซฟา หรือนอกห้องนอนลูกน้อย เวลาลูกหิว ง่วง หรือใกล้เวลานอนก็ให้นมลูกน้อยได้สะดวกทันที

อุปกรณ์ของใช้ลูกน้อย
ที่จำเป็นในห้อง เช่น เสื้อผ้าของลูก โมบายของเล่น ที่ตัดเล็บ ตะกร้าใส่ผ้าอ้อม กล่องเก็บของเล่นไม่ให้เกะกะ ผ้าอ้อม อุปกรณ์ให้นม ตะกร้าผ้าที่ใช้แล้ว ถังขยะ เป็นต้น
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เครื่องผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค Blue Water นวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรครูปแบบใหม่ ที่ใส่ใจในสุขภาพ และความคุ้มค่า จึงได้คิดค้นวิธีที่จะสามารถ “ผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค” เองได้ที่บ้านง่าย ๆ โดยเป็นสูตร Organic 100% เพียงมี “น้ำประปา เกลือ และเครื่อง Blue Water” ที่ทำหน้าที่ปล่อยประจุไฟฟ้า ส่งผ่านไปยังน้ำ ทำให้อะตอมของน้ำแตกตัว จนเกิดปฏิกิริยา Oxidation และเกิดเป็นสารประกอบใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ ไฮโปคลอรัส เอซิส HOCl และ ไฮโปคลอไรท์ ไอออน OCl- ซึ่งกรดไฮโปคลอรัส คือกรดชนิดเดียวกันกับที่ร่างกายมนุษย์ผลิตขึ้นมาได้เองในเม็ดเลือดขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในร่างกายนั่นเอง ซึ่งเมื่อนำน้ำที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water ไปตรวจวัดประสิทธิภาพที่สถาบันวิจัยนานาชาติ และได้ผลรับรองมาดังนี้ ผลวิจัยพิสูจน์แล้วว่า น้ำเกลือฆ่าเชื้อที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water สามารถฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวต้นกำเนิดของโรคต่าง ๆ ได้ถึง 99.9% ภายในเวลา 30 วินาที นอกจากสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว […]
BabyGift Grand Opening ฉลองเปิดสาขาใหม่ “ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์” สาขาที่ 7 อย่างเป็นทางการตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก BabyGift พร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณพ่อ-คุณแม่และลูกน้อยในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ” The Best Gift for your Baby ” ขอขอบคุณ แบรนด์ Partner ผู้บริหาร และคณะกรรมการทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่มาร่วมงาน และคอยสนับสนุนเบบี้กิ๊ฟอย่างดีตลอดมาค่ะ Attitude Mom Thailand : เครื่องปั๊มนม 5 โหมด อัจฉริยะ กรวยซิลิโคนแท้ Spectra Thailand เครื่องปั้มนม Iflin baby PUR Thailand Mellow for Kids ผ้ารองกันน้ำ100% เมลโล่ Bambies Thailand Baby Natura Beaba Thailand Luxury Baby […]
“เพราะรถเข็นเด็กทุกคัน ไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน” หลายคนยังเข้าใจผิดว่ารถเข็นเด็กแต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย 1.ปรับให้นอนราบได้ 170 องศา สำหรับเด็กแรกเกิด รถเข็นเด็กแรกเกิด ที่ดีควรสามารถปรับให้นอนราบได้ 170 องศา ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด เพราะกระดูกสันหลังเป็นเส้นตรง ยังไม่แข็งแรง จึงควรจัดให้เด็กนอนในท่านอนราบที่เป็นธรรมชาติ 2. เบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย จะช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม โดยมีพื้นที่วางแขนแบบ W-Shape และวางขาแบบ M-Shape เพื่อให้ขยับตัวได้ง่าย ซึ่งเป็นท่านอนที่เป็นธรรมชาติสำหรับเด็กวัยแรกเกิด 3. ชุดหมอนรองคอและสะโพก สำหรับทารกวัยแรกเกิดที่ยังไม่แข็งแรง เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับทารกวัยแรกเกิด ที่คอยังโงนเงนไม่แข็งแรง Head Support ที่มีส่วนเว้าโค้งพอเหมาะจะช่วยสอดรับช่วงต้นคอและศีรษะ ป้องกันคอพับซึ่งอาจส่งผลต่อการปิดทับระบบทางเดินหายใจได้ Hip Support หรือหมอนรองสะโพก ช่วยประคองให้กระดูกสันหลังมั่นคงไม่โค้งหรือเอียง ช่วยจัดท่านั่งและนอนได้อย่างเป็นธรรมชาติ 4. เบาะรองนอนระบายอากาศได้ดี และช่วยรองรับสรีระได้อย่างนุ่มนวล ด้วยระบบปรับอุณหภูมิในร่างกายลูกน้อยที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ เด็กทารกจะมีความสามารถในการควบคุมอุณหภุมิต่ำกว่าผู้ใหญ่ จึงทำให้มีเหงื่อออกมากกว่า โดยเฉพาะในเวลานอนซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเสริมสร้างพัฒนาการอย่างเต็มที่ ดังนั้นเบาะที่มีคุณสมบัติช่วยระบายอากาศได้ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยลดความร้อน […]
คุณแม่ทั้งหลายรู้สึกถึงลูกดิ้นกันรึยังจ้ะ ที่เค้าว่ากันว่าเวลาลูกดิ้นเป็นช่วงที่แฮปปี้สุดๆ นั้นไม่ใช่เรื่องโม้นะ เพราะว่ามันเป็นความมหัศจรรย์ที่น่าตื่นเต้น เหมือนโลกหยุดหมุนเลยล่ะ คุณแม่ๆ มือใหม่ทั้งหลายก็คงกำลังรอช่วงเวลานี้อย่างใจจดใจจ่ออยู่ใช่มั้ยคะ เรามาลองดูกันดีกว่าว่าลูกของคุณแม่ๆ ทั้งหลายจะเริ่มดิ้นกันตอนไหน ท้องเริ่มใหญ่แล้วแต่ลูกไม่เห็นดิ้นซักที… จริงๆ แล้วขนาดท้องก็ไม่ได้บ่งบอกถึงขนาดตัวลูกในท้องของคุณแม่นะ คุณแม่จะรู้สึกถึงการดิ้นของลูกเร็วหรือช้านั้นจะขึ้นอยู่กับผนังหน้าท้องของคุณแม่ต่างหากล่ะ คุณแม่ท่านไหนที่ดั้งเดิมเป็นคนตัวเล็ก ผนังหน้าท้องบาง ก็จะรู้สึกได้เร็วกว่าคุณแม่ที่มีผนังหน้าท้องที่หนาค่ะ ในช่วงท้องอ่อนๆ ขนาดตัวของลูกจะยังเล็กมาก ต่อให้ดิ้นเป็นวงกลมม้วนสิบตลบก็ไม่มีทางมาชนกับผนังหน้าท้องให้คุณแม่รู้สึกได้ค่ะ สำหรับคุณแม่ท้องแรกจะรู้สึกถึงลูกดิ้นตอนประมาณสัปดาห์ที่ 18-25 ส่วนคุณแม่ที่เคยตั้งท้องมาแล้วจะรู้สึกตอนประมาณสัปดาห์ที่ 13-14 ค่ะ ความรู้สึกแรกคือคุณแม่จะรู้สึกเหมือนโดนปลาตอดที่หน้าท้องเบาๆ อาจจะรู้สึกจั๊กจี้นิดนึง แต่มีความสุขสุดๆ ไปเลย ลูกดิ้นตอนไหนบ้างนะ? ลูกน้อยของเรามักจะหลับซะเยอะค่ะ แต่มักจะชอบตื่นมาแดนซ์ตอนช่วงดึกๆ ตั้งแต่ 3 ทุ่มจนเข้าตี 1 ตี 2 ราวกับจะเปิดผับในท้องของเราอย่างนั้นแหละ เอาจริงๆ แล้วลูกน้อยในท้องจะยังตื่นไม่เป็นเวลา เพราะเค้ายังไม่รู้จักกลางวันกลางคืน ส่วนใหญ่ลูกจะดิ้นหลังอาหารทั้งสามมื้อ เวลาคุณแม่ทานอะไรหวานๆ เวลาที่คุณแม่ได้ออกกำลังกายเบาๆ หรือแม้แต่เวลาที่คุณแม่หิวก็อาจจะทำให้ลูกดิ้น เพราะว่าเสียงท้องร้องของคุณแม่อาจจะกำลังกวนเค้าอยู่ พอคุณแม่เริ่มท้องแก่สักประมาณ 36 สัปดาห์ ความรู้สึกถึงการดิ้นของลูกอาจจะเปลี่ยนไปค่ะ จะช้าๆ เนิบๆ เพราะเค้าตัวใหญ่ขึ้นทำให้มีพื้นที่ในมดลูกแคบลง จะมาขยับปุปปับเหมือนเดิมก็คงไม่ได้ละ ลูกดิ้นสำคัญอย่างไร ในช่วงท้องอ่อนๆ จะเป็นช่วงที่คุณแม่กังวลมากว่าลูกยังอยู่กับเรารึเปล่าเพราะเราไม่รู้สึกถึงการขยับของเค้าเลย แต่พอเรารู้สึกว่าเค้าดิ้น เราจะอุ่นใจมากๆ ค่ะ เพราะการดิ้นของลูกน้อยทำให้เรารู้ว่าเค้ายังแข็งแรงดีอยู่นั่นเอง การนับลูกดิ้น คุณแม่มือใหม่บางท่านอาจจะเคยได้ยินเรื่องการนับลูกดิ้น แต่ก็อาจจะยังคงงงๆ ว่าจะนับยังไง การนับลูกดิ้นจริงๆ แล้วก็มีหลายวิธีนะ […]
การเดินทางโดยรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลาย ๆ ครอบครัว การเลือกใช้คาร์ซีทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องความปลอดภัยของลูกน้อยในทุกการเดินทาง และหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ คาร์ซีทหมุนได้ หรือ คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันการหมุน ที่ช่วยให้การติดตั้งและการย้ายลูกน้อยเข้า-ออกจากคาร์ซีททำได้ง่ายยิ่งขึ้น คาร์ซีทหมุนได้คืออะไร ? คาร์ซีทหมุนได้ คือ คาร์ซีทที่สามารถหมุนตัวได้รอบทิศทาง 360 องศา ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถหมุนคาร์ซีทไปทางด้านข้าง หรือ หันไปทางประตูรถได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งคาร์ซีทและการย้ายลูกน้อยเข้า-ออกจากคาร์ซีทได้ง่ายขึ้นมาก คาร์ซีทหมุนได้จำเป็นไหม ช่วยให้สะดวกขึ้นอย่างไรบ้าง ? 1. คาร์ซีทหมุนได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน : การหมุนได้ 360 องศาช่วยให้อุ้มลูกน้อยเข้า-ออกจากคาร์ซีทได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องมุดตัวหรือเอี้ยวตัวในพื้นที่แคบ ๆ ของรถ ช่วยลดความเสี่ยงที่ศีรษะจะไปกระแทกกับขอบประตูหรือพาลูกน้อยหกล้มได้เป็นอย่างดี 2. คาร์ซีทหมุนได้ รองรับการใช้งานในระยะยาว : คาร์ซีทหมุนได้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งการนั่งจากหันไปข้างหลัง (Rear-facing) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก ไปจนถึงการหมุนหันไปข้างหน้า (Forward-facing) เมื่อเด็กโตขึ้นได้ โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ 3. สะดวกในการดูแลลูก : การหมุนคาร์ซีทไปทางด้านข้างจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้ง่ายขึ้น เช่น การเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือการปลอบโยนเมื่อลูกร้องไห้งอแงได้เลย […]
ท้องทีต้องมานั่งกังวลเรื่องนู้นเรื่องนี้เต็มไปหมด นอกจากจะกังวลเรื่องการกินกับการเดินแล้ว ท่านอนก็ยังเป็นสิ่งที่แม่ท้องหลายๆ คนสงสัยว่าควรจะนอนท่าไหนกันแน่ บางคนก็บอกว่าให้นอนท่าที่สบายที่สุด บางคนก็บอกว่าให้นอนตะแคงข้างไหนก็ได้ ส่วนบางคนก็เจาะจงให้นอนตะแคงซ้าย ตกลงยังไงกันแน่นะ? แต่แน่นอนว่าท่านอนมีผลต่อทั้งสุขภาพของคุณแม่แล้วก็คุณลูก วันนี้เราลองมาดูคำตอบไขข้อสงสัยไปพร้อมๆ กันค่ะ ท่านอนที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ ท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับแม่ท้องที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 16 สัปดาห์ขึ้นไปคือ “ท่านอนตะแคงซ้าย” ค่ะ เพราะว่าการนอนตะแคงซ้ายจะช่วยให้มดลูกของคุณแม่ไม่ไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ที่อยู่ค่อนไปทางขวาและท่านี้ยังจะช่วยในเรื่องของระบบหมุนเวียนเลือดด้วยนะคะ เพราะพอเส้นเลือดดำไม่ถูกกดทับแล้ว เลือดก็จะสูบฉีดไปเลี้ยงหัวใจได้ดี แถมยังทำให้อาหารย่อยง่ายอีกด้วยนะ ถ้าคุณแม่นอนตะแคงขวา หัวใจก็จะทำงานหนักมากขึ้น เพราะต้องใช้แรงสูบฉีดเลือดเพิ่มขึ้น แต่เอาจริงถ้าจะให้นอนตะแคงซ้ายทั้งคืนก็คงไม่ไหว คุณแม่ก็อาจจะตะแคงซ้ายขวาสลับกันก็ได้นะ แต่เน้นไปที่ด้านซ้ายให้เยอะกว่านะคะ สำหรับคุณแม่ที่ท้องใหญ่มากๆ คุณแม่อาจจะหาหมอนมารองใต้ท้องเพื่อช่วยพยุงท้องเอาไว้ จะได้นอนหลับสบายๆ ยาวๆ ถึงเช้าไปเลยเนอะ ท่านอนที่ไม่เหมาะสมกับคุณแม่ เดาได้ง่ายมาก ก็คือท่านอนคว่ำน่ะสิ อันนี้มันก็แน่อยู่แล้วแหละนะ ท้องก็ใหญ่ขึ้นทุกวันทุกวันจะให้นอนคว่ำได้ยังไงไหว แต่อีกท่านึงที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงก็คือท่านอนหงายค่ะ อ๊ะๆ คิดไม่ถึงกันใช่ไหมล่ะคะ ที่ท่านี้ควรหลีกเลี่ยงก็เพราะมดลูกของคุณแม่นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงอาจจะไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ที่อยู่ตรงบริเวณกลางลำตัวได้ค่ะ พอทับไปแล้วคุณแม่ก็จะมีอาการเท้าบวม เป็นริดสีดวงทวาร หนักๆ หน่อยก็อาจทำให้วิงเวียนศีรษะจนถึงขั้นเป็นลมได้เลยล่ะ นอกจากนี้ยังทำให้คุณแม่ปวดหลังสุดๆ เพราะเหมือนกับต้องแบกรับน้ำหนักร่วมสิบโลไว้ทั้งคืน วิธีจัดท่านอน ไม่ใช่ว่าคุณแม่เดินมาถึงเตียงก็ล้มตึงลงไปนอนตะแคงได้เหมือนตอนไม่ท้องเลยนะ ตอนนี้เรามีลูกน้อยอยู่ในท้องแล้วก็ต้องคอยทำอะไรให้ช้าลง วิธีข้างล่างจะช่วยให้คุณแม่จัดท่านอนได้ถูกต้องแล้วก็จะช่วยลดอาการปวดหลังด้วยนะคะ เวลาจะพลิกตัวเปลี่ยนท่า คุณแม่ควรจะค่อยๆ พลิก […]






