เครื่องปั๊มนม จำเป็นไหม? ควรซื้อเมื่อไหร่ดี?

น้ำนมแม่ คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย องค์การอนามัยโลกหรือ WHO และยูนิเซฟ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ด้วยการให้นมแม่ทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และควรให้นมแม่แก่ลูกน้อยเพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ตลอดจนให้นมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารเสริมที่มีคุณค่า ปลอดภัยและเหมาะกับอายุ ตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ปี หรือมากกว่า หรือนานที่สุดตราบเท่าที่ลูกและแม่ยังมีความต้องการนมแม่อยู่
ด้วยเพราะนมแม่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนเพื่อพัฒนาลูกทุกด้านทั้งด้านสมอง ความฉลาด การเจริญเติบโต อารมณ์จิตใจ แถมการให้นมแม่ยังช่วยให้ครอบครัวประหยัด นมแม่สะอาด และสะดวกในการเลี้ยงลูกน้อย ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอดทุกคนตั้งใจที่จะให้นมแม่หลังคลอดทันที ตลอดจนมองหาอุปกรณ์ช่วยในการให้นมแม่ได้สำเร็จ เพื่อให้ลูกรักได้ประโยชน์จากนมแม่อย่างเต็มที่และยาวนาน
“ เครื่องปั๊มนม ” ถือเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณแม่ยุคใหม่ให้นมแม่ได้สะดวกมากขึ้น และเป็นตัวช่วยสำคัญในการปั๊มนมเพื่อทำสต๊อกนมแม่ไว้ในยามที่ต้องไปทำงาน ทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านต้องซื้อเป็นของใช้ประจำตัว
แต่ก็มีคุณแม่หลายท่านมีคำถามว่าเครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นหรือไม่? เพราะลูกน้อยทารกสามารถดูดนมจากเต้าคุณแม่ได้ เราจึงมาชี้ให้เห็นถึงข้อดีของเครื่องปั๊มนมว่ามีความจำเป็นหรือช่วยคุณแม่ได้แค่ไหน พร้อมคำแนะนำว่าคุณแม่ควรซื้อเมื่อไร จึงจะใช้งานได้ดีและคุ้มค่าที่สุด

เครื่องปั๊มนม ช่วยแม่ให้นมลูกได้อย่างไรบ้าง?
- กระตุ้นให้น้ำนมแม่มีต่อเนื่อง ในยามที่ลูกไม่ได้ดูดกระตุ้น หรือต้องออกไปข้างนอก เพราะกระบวนการสร้างน้ำนมแม่ในร่างกาย จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นให้ระบายออกและผลิตใหม่ หมุนเวียนกันไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้ให้ลูกดูดนม หรือปั๊มนมเพื่อกระตุ้นและระบายน้ำนมออกทุกๆ 2-3 ชั่วโมงสม่ำเสมอ น้ำนมแม่ก็จะผลิตน้อยลง จนหดหายไป ลูกก็จะไม่ได้กินนมแม่เต็มที่และยาวนาน
- ช่วยกระตุ้นเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ ให้มีมากเพียงพอต่อลูกน้อย การให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าเป็นการกระตุ้นน้ำนม และช่วยสร้างน้ำนมได้ดีที่สุด แต่การใช้เครื่องปั๊มนมจะยิ่งช่วยกระตุ้นเสริ ม ให้ร่างกายคุณแม่มีการสร้างน้ำนมมาชดเชยเพิ่มมากขึ้น เช่นหลังจากให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าเสร็จแล้ว อาจปั๊มนมต่ออีกนิด หรือปั๊มนมจากเต้านมอีกข้าง หรือให้ลูกน้อยดูดนมจากเต้า สลับกับการใช้เครื่องปั๊มนม และปั๊มนมอย่างมีวินัย จะยิ่งทำให้น้ำนมแม่มามาก และเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยเสมอ
- เป็นตัวช่วยสร้างวินัยในการให้นมแม่ เนื่องจากการให้นมแม่ได้สำเร็จตั้งแต่หลังคลอด และให้นมแม่ได้นานที่สุด คุณแม่จำเป็นต้องให้ลูกน้อยดูดนมแม่เพื่อกระตุ้นและระบายน้ำนมออกจากเต้าสม่ำเสมอ โดยไม่ควรทิ้งช่วงไว้นาน แม้ลูกจะหลับยังต้องปลุกมาเพื่อดูดนมแม่กระตุ้นทุก 2-3 ชั่วโมง แต่หากคุณแม่มีเครื่องปั๊มนม จะทำให้คุณแม่ปั๊มนมได้สม่ำเสมอ กระตุ้นและระบายน้ำนมออกจากเต้าได้ตามเวลาที่ต้องการ หรือทำได้ทันทีเมื่อเต้านมคัด แม้เวลาที่ลูกหลับ
- ช่วยให้คุณแม่ทำสต๊อกนมแม่เก็บไว้ ไม่ต้องซื้อหานมใดๆ เสริม เพราะคุณแม่จะสามารถปั๊มนม เก็บน้ำนมแม่ แช่ตู้เย็น หรือตู้แช่แข็งไว้ให้ลูกกินได้ เมื่อต้องไปไปธุระนอกบ้าน หรือเมื่อต้องกลับไปทำงานหลังคลอด ทำให้ลูกได้กินนมแม่ต่อเนื่องยาวนาน สม่ำเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้นมผสมเสริม ลูกน้อยจึงได้คุณค่าสารอาหารเต็มที่ พร้อมๆ กับครอบครัวได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย
- แบ่งเบาภาระคุณแม่ เวลาเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เมื่อต้องให้นมลูกตอนกลางคืน หรือในช่วงที่ต้องการพักผ่อน การใช้เครื่องปั๊มนมเพื่อปั๊มนมแม่เก็บไว้ล่วงหน้า จะทำให้คุณแม่ลดความอ่อนล้า ในการอดนอน หรือความเมื่อยเนื้อตัว เมื่อต้องอยู่ในท่าให้นมนานๆ ได้
- เพิ่มความมั่นใจ ว่าจะให้นมแม่ได้นานที่สุด เพราะเครื่องปั๊มนมจะอยู่คู่กายคุณแม่ ช่วยปั๊ม ช่วยกระตุ้น และช่วยทำสต๊อกนมแม่ให้คุณแม่ให้นมลูกได้สำเร็จและยาวนานที่สุด ตามที่ตั้งใจไว้ ยิ่งให้ลูกดูดเต้านมสลับกับการปั๊มนมได้สม่ำเสมอเท่าไร ลูกรักก็จะได้คุณค่าจากนมแม่เพื่อภูมิต้านทาน พัฒนาการสมองและเติบโตได้นานไปจนโต เพราะคุณแม่บางท่าน สามารถปั๊มนาทำสต๊อกนมแม่ และให้นมแม่กับลูกได้ไปจนถึงวัยอนุบาลเลยทีเดียว
- ใช้ได้คุ้มค่า และยาวนาน นอกจากเครื่องปั๊มนมจะช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ ในแบบที่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อนมอื่นใด มาเสริมให้ลูกน้อยแล้ว เครื่องปั๊มนมส่วนใหญ่จะใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่า หากคุณแม่เลือกซื้อที่ผลิตมาได้มาตรฐาน มีความคงทน ดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ใช้ถูกวิธี อาจต้องมีเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนบ้างตามกาลเวลาหรือความเหมาะสม แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะซื้อเครื่องปั๊มนมแม่แค่ 1 ชิ้น แต่จะมีนมแม่ให้ลูกกินไปจนโต
เครื่องปั๊มนมได้ เลือกซื้อได้ตามทรัพย์และสไตล์ครอบครัว
สำหรับบางบ้านที่คุณแม่สะดวกและมีเวลาเต็มที่เพื่อให้ลูกน้อยได้ดูดนมจากเต้าตลอดเวลา ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอาจไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปั๊มนมได้ แต่จากสื่อและข้อมูลต่างๆ จะเห็นว่าเครื่องปั๊มนมในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลายราคา ทำให้คุณแม่สามารถเลือกซื้อหาได้หลายแบบหลายชนิดตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง ดังนั้นเครื่องปั๊มนมจึงถือว่าไม่ได้เป็นของใช้ที่สิ้นเปลืองเท่าไร คุณแม่พอใจหรือสะดวกแบบไหนก็เลือกได้แบบนั้นเลยค่ะ
ซื้อเครื่องปั๊มนมเมื่อไรดี?
- วางแผนซื้อได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ หากคุณแม่วางแผนที่จะให้ลูกน้อยได้คุณค่านมแม่เต็มที่และนานที่สุด ควรเริ่มมองหาหรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปั๊มนมตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ โดยควรเลือกและวางแผนดูว่าควรจะใช้เครื่องปั๊มนมแบบไหนให้เหมาะกับการเลี้ยงลูก ลองทดสอบ สอบถามผู้ที่มีประสบการณ์ อ่านข้อมูลความรู้ต่างๆ และไปดูด้วยตัวเองล่วงหน้าก่อนคลอดเพื่อให้ในช่วงหลังคลอด คุณแม่จะได้มีตัวช่วยในการปั๊มนมแม่กระตุ้น ร่วมกับให้ลูกทารกแรกเกิดดูดกระตุ้นได้ทันที ไม่ต้องหาซื้อในช่วงพักฟื้น หรือกำลังเลี้ยงลูกแรกเกิด ให้เกิดฉุกละหุก
- เลือกซื้อ เปรียบเทียบกันตอนหลังคลอด * แต่หากคุณแม่ไม่ได้วางแผน เตรียมไว้ หรือซื้อในช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอดก็ยังสามารถเลือกซื้อได้ เพียงหาเวลาไปศึกษาหรือเลือกดูสักนิด ยิ่งในปัจจุบันคุณแม่สามารถเลือกซื้อ เปรียบเทียบสินค้า และสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ ก็ยิ่งทำให้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาในการเลี้ยงลูกหรือออกไปข้างนอก ก็มีเครื่องปั๊มนมใช้ ทำสต๊อกนมแม่ หรือกระตุ้นการสร้างน้ำนมให้ลูกรักได้ง่ายดาย
ส่วนจะเลือกเครื่องปั๊มนมแบบไหนดี และมีความแตกต่างอย่างไร? เรามีบทความแนะนำเอาไว้ให้คุณแม่หาข้อมูลช่วยในการพิจารณาเลือกซื้อไว้ในเว็บนี้แล้วค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับลูกน้อยของเราตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อความปลอดภัยขณะนั่งรถยนต์ ประกอบกับมีการออกกฏหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ให้ใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ยกเว้นรถรับจ้างหรือรถสาธารณะ ดังนั้นทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะต้องให้ลูกน้อยนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ปัจจุบันคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ผู้ปกครองบางท่านอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย ขอบอกว่า คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ค่ะ คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งในรถยนต์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด คาร์ซีทจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรง หรือลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ซึ่งคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก มีตั้งแต่คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต นอกจากจะมีหลากหลายแบบแล้วก็ยังมีหลายยี่ห้อด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรดี จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ให้กับลูกรักของเรา มารู้จักกับแต่ละประเภทของคาร์ซีทให้มากขึ้นก่อน ไปดูยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำกันค่ะ คาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]
ด้วยนวัตกรรมที่ถูกวิจัยและคิดค้นโดยกุมารแพทย์จากญี่ปุ่น จึงทำให้มี 10 คุณสมบัติพิเศษ จากรถเข็นเด็ก Aprica นี้ ที่ช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ ว่าลูกน้อยปลอดภัยตลอดการเดินทางแน่นอนค่ะ Sofa Cushion ที่สุดของความนุ่มสบายด้วยนวัตกรรมใหม่ ยกโซฟามาไว้ในรถเข็นเด็ก ช่วยรองรับแรงกระแทก เข็นได้กับทุกพื้นผิวให้ลูกน้อยเพลดเพลินนุ่มสบายในทุกการเดินทาง Double Shock ลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกได้ถึง 2 จุด ใต้ที่นั่ง และที่ล้อ Ergonomic Design ที่รองรับการเจริญเติบโต 3 ช่วงวัย ได้อย่างลงตัว Multi-Shockless โครงสร้างแบบลดรอยต่อ โครงสร้างของรถเข็นเด็กถูกเชื่อมต่อส่วนต่างๆเป็นชิ้นเดียวกัน จึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดการสั่นสะเทือนได้ดี แม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน Double Thermo System ลดความอับชื้นแบบ Double ลูกน้อยรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตัวช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมด้วยฉนวนกับความร้อนพิเศษ ช่วยสะท้อนความร้อนจากพื้นพร้อมช่องระบายอากาศที่ด้านหลัง ช่วยระบายความร้อนได้ดี ลดความร้อนสะสมบริเวณหลังของลูกน้อย ให้ความรู้สึกสบายตัว เบาะรองนอนทรงนาฬิกาทราย เหมาะกับสรีระของลูกน้อยวัยแรกเกิด เพราะเด็กทารกจะนอนในท่ากางแขนกางขา เบาะรองนอนทรง WM สามารถรับสรีระได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้เคลื่อนไหวขยับแขนขาได้อย่างเป้นธรรมชาติ High Seat […]
คาร์ซีท ( Car Seat ) หนึ่งในอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่พ่อแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญ ควรเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะในความเป็นจริง เราควรใช้คาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาล เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง นอกจากนี้ร่างกายของเด็กในช่วงแรกเกิดก็ยังมีความบอบบางจึงต้องใส่ใจและได้รับการดูแลเป็นพิเศษ คาร์ซีทก็มีหลากหลายแบบ หลายประเภท ( อ่านบทความประเภทของคาร์ซีท Click ) แต่วันนี้ที่อยากจะชวนพ่อแม่ทุกคนมาดูกันคือ คาร์ซีทแรกเกิดหมุนได้ 360 องศา ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในคาร์ซีที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งความปลอดภัย และมีความสะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก 4 เหตุผล ทำไมควรใช้คาร์ซีทหมุนได้ คาร์ซีทหมุนได้ เลือกแบบไหนดี การใช้คาร์ซีทให้ปลอดภัย คาร์ซีทหมุนได้ 7 รุ่น น่าใช้ โดนใจแม่ ประจำปี 2024 Ailebebe รุ่น Kurutto R The First จุดเด่น การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น Ailebebe รุ่น Kurutto R […]
ไขข้อข้องใจที่ใครๆหลายๆคน พูดกันว่า ทำไม คาร์ซีท Ailebebe แพง ! มาดูกันสิว่าแพงเพราะอะไร แล้วที่ว่าแพงจริงหรือไม่ คาร์ซีท Ailebebe ทุกตัว จะถูกผลิตขึ้นจากโรงงานผู้ผลิตที่ญี่ปุ่นโดยตรง โดยมีแรงงานซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญสูง จึงทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานและค่าแรงสูงตามไปด้วย คาร์ซีท เหมือนกัน…แต่วัสดุภายในไม่เหมือนกันAilebebe เราไม่ได้เลือกใช้วัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เราเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย มาช่วยรองรับแรงกระแทกที่ต่างกัน…อ่านซักนิดก่อนซื้อ คาร์ซีท ให้ลูก ส่วนประกอบของ คาร์ซีท มาตรฐานความปลอดภัย การผลิต คาร์ซีท ไม่ได้มองเพียงแค่เรื่องตวามสะดวกหรือความถูกต้องในการติดตั้งเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการลดการเคลื่อนที่หน้า-หลังของ คาร์ซีท ในขณะเกิดอุบัติเหตุ ที่ส่งผลให้เด็กได้รับบาดเจ็บได้อีกด้วย จึงมีการคิดค้นการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และ Belt ที่ต้องสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 ข้อ จึงเป็นที่มาของการแยกออกเป็น 2 รุ่นย่อย ดังนั้น คาร์ซีท Ailebebe ถึงราคาจะแพง แต่คุ้มค่า คุ้มเกินราคา เมื่อเปรียบเทียบกับนวัตกรรมด้านการปกป้อง ทั้งโครงสร้าง วัสดุรองรับแรงกระแทก และการติดตั้งมาตรฐานสากล กับความปลอดภัยในการเดินทางอย่างปลอดภัยของลูกน้อยที่คุณรัก
ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ? มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ 1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว […]
เพราะคุณค่าจากน้ำนมแม่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์สารอาหารที่มีครบถ้วน เพื่อพัฒนาลูกน้อยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความฉลาด การเติบโตแข็งแรง อารมณ์ดีมีความสุข ขับถ่ายง่าย แถมนมแม่ยังมีสารสร้างภูมิคุ้มกันมากมาย ทำให้ลูกน้อยไม่เจ็บป่วยง่ายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณแม่ทุกท่านจึงปรารถนาจะให้ลูกน้อยได้รับคุณค่าอันมหัศจรรย์จากน้ำนมแม่อย่างเต็มที่ไปจนโต หรือให้นมลูกได้นานที่สุด โดยคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ นอกจากจะให้นมแม่จากเต้าโดยตรงกับลูกน้อยแล้ว เชื่อว่าเกือบทุกคน โดยเฉพาะคุณแม่เวิร์กกิ้งมัม จะต้องทำสต๊อกน้ำนมแม่เก็บแช่แข็งหรือแช่เย็นไว้ เพื่อให้ลูกรักยังได้กินนมแม่ตลอดเวลา แม้จะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่มีคุณแม่มือใหม่หลายท่านที่ยังไม่มั่นใจหรือกังวล กับการละลายนมแม่ที่แช่แข็งมาใช้ เพราะไม่แน่ใจว่าวิธีการไหนจะสะดวก สะอาด ปลอดภัย แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และทำแบบไหนจะไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่ ดังนั้นอยากรู้ว่าแต่ละ วิธีละลายน้ำนมแม่ แตกต่างกันอย่างไรไปดูกันค่ะ ก่อนอื่น ให้เปลี่ยนช่องแช่ เพื่อละลายนมแม่ก่อน หากคุณแม่เก็บน้ำนมแม่ไว้ในช่องแช่แข็ง จำเป็นต้องนำนมแม่เปลี่ยนมาแช่ที่ช่องแช่เย็นธรรมดาด้านล่างก่อนประมาณ 1 วันหรือ 1 คืน เพื่อให้นมแม่ค่อยๆ ละลาย ควรนำนมเก่าที่แช่แข็งไว้ตามวันเวลาที่เก็บสต๊อกไว้นานที่สุดก่อน เพื่อไม่ให้นมเก่า เก็บไว้นานเกินไป แล้วจึงทยอยนำนมใหม่มาใช้ไล่ตามเวลาไปเรื่อยๆ เมื่อนมแม่ละลายแล้ว คุณแม่ควรแบ่งนมแม่จากถุงเก็บน้ำนมใส่ขวดนม แบ่งปริมาณที่ลูกกินเฉพาะมื้อนั้นๆ แล้วจึงนำมาอุ่นหรือละลายก่อนให้ลูกกิน ซึ่งนมที่เหลือในถุงเก็บน้ำนมสามารถแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาให้ลูกกินให้หมดภายใน 2-3 วัน เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่คุณแม่มักจะนำมาอุ่นหรือละลายให้ลูกกินในมื้อถัดไปภายในวันเดียว หรือ 24 ชั่วโมง วิธีละลายน้ำนมแม่ […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.