สอน ใช้เครื่องปั๊มนม ครั้งแรก พร้อมเทคนิคปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า

ใช้เครื่องปั๊มนม ดียังไงนะ? คุณแม่รู้ไหมว่า การปั๊มนมมีส่วนช่วยคุณแม่และลูกน้อยได้มากมายกว่าที่คิด
- การปั๊มนม เป็นการเก็บสำรองน้ำนมแม่ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับคุณค่านมแม่ได้เต็มที่และต่อเนื่องเสมอ แม้คุณแม่จะไม่อยู่กับลูก ต้องไปทำงาน ไปธุระหรืออื่นๆ ช่วยให้คุณแม่สะดวก ประหยัดเวลา ลูกน้อยได้สารอาหารจากนมแม่เหมือนเดิม
- การปั๊มนมช่วยเพิ่มปริมาณนมแม่ได้ ทำให้คุณแม่หมดกังวลเรื่องน้ำนมไม่เพียงพอให้ลูก กลัวลูกกินไม่อิ่ม เพราะน้ำนมแม่ที่ปั๊มและแช่เก็บไว้ แค่นำมาละลายก็สามารถให้ลูกกินได้ทันที
- ช่วยกักเก็บน้ำนมไว้ในกรณีฉุกเฉิน เมื่อคุณแม่เจ็บป่วยไม่สบายจำเป็นต้องใช้ยา ที่มีผลส่งผ่านจากน้ำนมแม่ไปสู่ลูกน้อย
- การปั๊มนม มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดจากการคัดเต้านม และยังช่วยระบายน้ำนมออก เพื่อสร้างน้ำนมใหม่ต่อเนื่อง
แต่เชื่อว่าสำหรับคุณแม่มือใหม่ การปั๊มนมครั้งแรกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย อาจมีความกังวลใจต่างๆ นาๆ ว่าจะเริ่มยังไง ต้องทำอะไรบ้าง เราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการปั๊มนมครั้งแรก พร้อมกับเทคนิคการปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า เพื่อให้คุณแม่ได้ ใช้เครื่องปั๊มนมได้เก่ง คุ้มค่าอย่างมืออาชีพ ลูกน้อยก็มีน้ำนมแม่กินอิ่มอยู่เสมอค่ะ

สอนคุณแม่ ใช้เครื่องปั๊มนม
- เริ่มต้นเรียนรู้ ศึกษาข้อมูล วิธีการใช้ โดยการอ่านข้อมูลคำแนะนำ การประกอบอุปกรณ์ต่างๆ และวิธีการใช้อย่างละเอียด และทำความคุ้มเคยกับเครื่องปั๊มน
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ให้ปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค ก่อนนำมาทดลองใช้ ด้วยการล้างด้วยน้ำยาล้างขวดนมจุกนมที่อ่อนโยนปลอดภัย และนำไปฆ่าเชื้อ คุณแม่จะใช้เครื่องนึ่งขวดนม หรือเครื่องอบฆ่าเชื้อ เพื่อฆ่าเชื้อกรวยปั๊มนม ขวดนมที่ปั๊ม ก็ได้ เสร็จแล้วจึงนำมาทดลองใช้กับเต้านม เพราะหากไม่ทำความสะอาดก่อน อาจมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนติดตัวคุณแม่ได้
- ทดลองใช้ให้คุ้นเคย ด้วยการลองครอบกรวยปั๊มกับเต้านม ลองปรับรอบของการดูดหรือแรงปั๊มนม ว่าแรงไปหรือไม่ เจ็บหรือเปล่า อาจลองค่อย ๆ ปรับไป ซึ่งหากคุณแม่ลองใช้เครื่องปั๊มหลังคลอดใหม่ ครั้งแรก ๆ อาจจะไม่ได้น้ำนม รู้สึกว่าแรงปั๊มไม่มี ควรค่อย ๆ หาสาเหตุ แล้วแก้ไข ลองปรับวาล์วว่าแน่นดีหรือไม่ และใส่ทุกอย่างให้ถูกต้อง
- เริ่มปั๊มนมหลังคลอด เนื่องจากในช่วง 3-4 วันแรกลูกน้อยยังนอนหลับมาก จึงมักไม่ตื่นขึ้นมาดูดนมแม่บ่อยๆ ทำให้คุณแม่ต้องปลุกลูกน้อยมาดูดกระตุ้นเต้านมทุก 2-3 ชม. ดังนั้นคุณแม่จึงอาจลองเริ่มปั๊มนมได้ในช่วงที่ลูกหลับนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้มาเร็วขึ้นและมากขึ้น
แม้คุณแม่จะลองปั๊มนมแล้ว น้ำนมจะยังไม่มี ก็ไม่ควรเครียด หรือตกใจ คิดว่าตัวเองไม่มีน้ำนม เพราะการปั๊มนมช่วงนี้เป็นการปั๊มนมเพื่อกระตุ้น และฝึก ใช้เครื่องปั๊มนมให้คุ้นเคย เมื่อคุณแม่ได้ใช้เครื่องปั๊มนมร่วมกับให้ลูกดูดกระตุ้นบ่อยๆ น้ำนมแม่จะมาเร็วขึ้น

เมื่อ ใช้เครื่องปั๊มนม
- ให้คุณแม่ล้างมือ ล้างอุปกรณ์ปั๊มนม และขวดนมให้สะอาดแล้วฆ่าเชื้อ
- จับกรวยครอบเต้านมสำหรับปั๊มนม วางลงบนหัวนมโดยให้กรวยอยู่บริเวณตรงกลางหัวนม
- ใช้มือข้างหนึ่งประคองเต้านม ให้นิ้วโป้งอยู่ด้านบน ส่วนนิ้วที่เหลือประคองอยู่ด้านใต้เต้านม ประคองเต้านมกับกรวยให้ครอบกันพอดี ระวังอย่าดันหัวนมกับกรวยเต้านมแรงเกินไป เพราะคุณแม่อาจเจ็บหรือมีรอยแผลที่เต้านม
- ปรับความเร็วและอัตราการปั๊มนมตามคู่มือการใช้เครื่อง โดยเริ่มต้นจากอัตราการปั๊มที่ต่ำและเร็วก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้แรงดูดมากทำคุณแม่เจ็บเต้านม
- เมื่อน้ำนมคุณแม่เริ่มไหลคงที่ อาจใช้เวลาประมาณ 1-3 นาที จากนั้นจึงค่อยๆปรับความเร็วให้ช้าลงและเพิ่มอัตราการปั๊มให้สูงขึ้นได้ ในช่วงแรก แนะนำคุณแม่ไม่ปั๊มนมนานหรือแรงเกินไป เพราะอาจทำให้หัวนมแตกได้ อาจเริ่มต้นปั๊มนมครั้งละประมาณ 3-5 นาทีก่อน เมื่อเริ่มปรับตัวได้จึงเพิ่มเวลาในการปั๊มนมขึ้น ประมาณข้างละ 15-20 นาที
- หลังจากปั๊มนมเสร็จ ให้คุณแม่ค่อย ๆ นำกรวยเครื่องปั๊มออกจากเต้านม จากนั้นนำน้ำนมที่ได้ เขียนวันเวลาแล้วไปแช่เย็นเก็บทันที เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ไว้ให้นานที่สุด
- หลังเก็บน้ำนมแล้ว ให้ทำความสะอาดเครื่องปั๊มนมตามคู่มือการใช้งาน และเก็บให้มิดชิดเพื่อป้องกันเชื้อโรคและสิ่งสกปรก
- ปกติแล้วการใช้เครื่องปั๊มนมจะไม่ทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บขณะปั๊ม แต่หากคุณแม่มีอาการเจ็บแสดงว่าใช้กรวยปั๊มนมผิดขนาด หรือปรับอัตราแรงปั๊มนมสูงเกินไป จึงควรตั้งค่าและปรับการปั๊มให้คุณแม่รู้สึกสบายที่สุดและได้น้ำนมมากที่สุด
- หากคุณแม่ใช้เครื่องปั๊มนมแล้วเจ็บทุกครั้ง แม้จะลองปรับเปลี่ยนต่างๆ แล้ว ลองปรึกษาผู้ผลิตเครื่องปั๊มนม หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ เพื่อช่วยหาสาเหตุและการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง

ปั๊มนมแบบไหน? ให้เกลี้ยงเต้า
การปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า คือการระบายน้ำนมให้หมดจากเต้านมคุณแม่ในครั้งนั้นๆ เพื่อให้เต้านมคุณแม่ได้มีพื้นที่สำหรับการผลิตน้ำนมขึ้นใหม่อยู่เสมอ เพราะน้ำนมแม่จะมีรอบของการผลิตใหม่ๆ ในเต้านมตลอดเวลา เมื่อน้ำนมผลิตจนเต็มเต้า เต็มพื้นที่เก็บน้ำนม จะทำให้เต้านมคุณแม่คัดตึง ต้องให้ลูกน้อยดูดหรือปั๊มนมระบายออกมา ซึ่งการปั๊มนมออกมานั้น ยิ่งระบายน้ำนมออกได้เกลี้ยงเต้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยให้นมแม่ผลิตออกมาสม่ำเสมอได้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ
เทคนิคปั๊มเกลี้ยงเต้า
- ปั๊มนมแม่โดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีต่อข้าง ในการปั๊มนมแต่ละครั้ง ซึ่งเท่าๆ กับระยะเวลาที่ลูกดูดนมแม่จนเกลี้ยงเต้านั่นเอง หากปั๊มถึง 15 นาทีแล้วยังมีน้ำนมไหลออกมาอยู่ ยังสามารถปั๊มต่อได้อีกประมาณ 2-5 นาที เพื่อให้เกลี้ยงเต้า แต่ไม่ควรนานเกินไปเพราะคุณแม่จะเจ็บเต้านมได้
- ควรปั๊มนมแม่ให้หมดจากเต้าทีละข้าง เป็นข้างๆ ไป
- ปั๊มนมไปพร้อมกับให้ลูกดูดนมจากเต้าอีกข้าง หรือปั๊มนมพร้อมกันสองข้างในครั้งเดียว ก็จะช่วยให้ระบายน้ำนมแม่ออกได้ดี และเร่งการผลิตน้ำนมให้มีมากยิ่งขึ้น
- ปั๊มนมแม่ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง ไม่ปล่อยให้รู้สึกคัดเต้าหรือเจ็บเต้านม โดยกำหนดเวลาปั๊มนมที่แน่นอน ตรงเวลาทุกๆ วัน จะเป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างนมแม่ ให้น้ำนมไหลดีอย่างต่อเนื่อง
คุณแม่จะรู้ได้ว้าน้ำนมที่ปั๊มนั้นเกลี้ยงเต้าแล้ว เมื่อรู้สึกได้ว่าเต้านมอ่อนนุ่มนิ่มลง อาการคัดตึงเต้านมก่อนที่จะปั๊มนม (เพราะมีน้ำนมอยู่เต็มเต้านม) ก็จะหายไปด้วย
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน คงเริ่มรู้จักกับคาร์ซีทกันบ้างแล้ว ว่าเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในขณะเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า คาร์ซีทที่ติดตั้งในรถยนต์แต่ละประเภทนั้น จะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาคำตอบกันว่า วิธีติดตั้งคาร์ซีท ตำแหน่งไหนปลอดภัยมากที่สุด วิธีติดตั้งคาร์ซีท มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ตำแหน่งที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุด สำหรับประเทศไทย ตำแหน่งในรถยนต์ที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุดก็คือ “เบาะหลังฝั่งคนนั่ง” ด้วยเหตุผลดังนี้… รถยนต์ SUV หรือ รถตู้ ติดตั้งคาร์ซีทเบาะไหนดี ติดตั้งคาร์ซีทที่รถตู้ ส่วนใหญ่แล้วรถที่มีนั่งมากกว่า 2 ตอน ควรจะติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะแถวสุดท้ายของตัวรถ แต่ก็จะมีข้อควรระวังในเรื่องของการติดตั้ง เช่น ควรจะขยับเบาะให้ห่างจากประตูหลัง เพื่อให้มีระยะห่างกับประตูพอสมควร เพื่อเป็นการเซฟตี้ลูกน้อยให้ปลอดภัยมากที่สุด Alphard ติดตั้งคาร์ซีทได้ไหม ติดตั้งเบาะไหนดี ติดตั้งคาร์ซีทที่รถ Toyota Alphard ควรจะติดตั้งที่เบาะแถวแรก หรือ แถวตอนสุดท้ายของตัวรถ ไม่ควรติดตั้งที่เบาะด้านหน้า เนื่องจากมีถุงลมนิรภัย (Airbag) และคาร์ซีทบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองของคนขับลดน้อยลง และสำหรับคาร์ซีทที่มีฟังก์ชั่นหมุนได้ เมื่อติดตั้งไปแล้วจะทำให้หมุนยากหรือหมุนไม่ได้เลย เนื่องจากเบาะรถมีขนาดพอดีตัว พื้นที่จำกัด ทำให้เวลาหมุนแล้วตัวคาร์ซีทจะไปติดที่ข้างเบาะ […]
ได้เวลา “ป๋อมแป๋ม” กันแล้ว อีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกน้อยที่จะได้ลงอ่างอาบน้ำให้สบายตัว ในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้หากคุณพ่อคุณแม่รู้จักเพิ่มเติมองค์ประกอบบางอย่างลงไป ก็จะช่วยให้ช่วงเวลาอาบน้ำของลูกน้อยเต็มไปด้วยความสุข สนุก สะอาด ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกน้อยไปได้พร้อมๆ กัน เสริมพัฒนาการของลูกขณะอาบน้ำ ระหว่างที่ลูกน้อยกำลังวุ่นอยู่กับการอาบน้ำ คุณพ่อคุณแม่อาจเสริมด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเล็กๆ ก็ตาม ด้วยวิธี 3ส. ดังนี้ ส.ที่ 1 = สุข เด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน อยู่แล้ว เวลาที่เด็กได้เล่นอยู่กับน้ำจะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือ “สารเอนดอร์ฟีน” ออกมา ซึ่งสารแห่งความสุขนี้จะส่งผลทางด้านบวกต่อการรับรู้และเรียนรู้ ช่วยให้ลูกพร้อมซึมซับประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการอาบน้ำซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างบรรยากาศในการอาบน้ำ ที่เอื้อต่อการเกิดความสุขได้ดังนี้ ส.ที่ 2 = สนุก เมื่อเด็กมีความสุขก็พร้อมที่จะเรียนรู้ และการเรียนรู้ของเด็กก็คือการที่เด็กได้เล่นสนุกนั่นเอง ดังนั้นเพื่อเพิ่มพัฒนาการให้กับลูกน้อยในระหว่างอาบน้ำให้คุณพ่อคุณแม่ เลือกสรรของเล่นลงอ่างอาบน้ำให้เหมาะสมด้วย ซึ่งของเล่นในอ่างอาบน้ำก็มีความแตกต่างกับดังนี้ ส.ที่ 3 = สะอาด คือความสดชื่นหลังอาบน้ำ การที่ลูกน้อยได้อาบน้ำอย่างสะอาดช่วยให้ลูกน้อยมีความสุขและรักการอาบน้ำ มากยิ่งขึ้น >>>ขอขอบคุณข้อมูลจาก : แคร์
เด็กบางคนจะมีเหงื่อออกมาก ทั้งบนศีรษะ หน้า หน้าอก แผ่นหลัง จนหมอน และชุดนอนเปียกชื้น โดยเฉพาะเด็กที่ปกติมีเหงื่อมาก เมื่อนอนไปได้สักระยะหนึ่งอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้น ทำให้มีเหงื่อออกจนคุณพ่อคุณแม่ตกใจเกรงลูกจะเป็นโรคร้าย เพราะมีคนกล่าวว่า เหงื่อออกมากเวลากลางคืนอาจจะเป็นอาการระยะเริ่มต้นของโรคต่างๆ ดังนี้ >>>ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็ปไซด์ maerakluke.com
เรื่อง : สิริพร ความปลอดภัยของลูกน้อยในวัยเบบี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกค่ะ คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องใส่ใจและดูแลเจ้าตัวเล็กอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ เรื่องแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่ควรมองข้ามนะคะ อยากจะชวนคุณพ่อคุณแม่มากันดูค่ะว่ามีเรื่องไหนที่เราเคยทำ แล้วเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็กกันบ้าง มีถุงพลาสติก หรือลูกโป่งอยู่ใกล้ตัวเบบี้ ? อย่ามองข้ามถุงพลาสติกที่คุณแม่ใส่ของหิ้วเข้าบ้านนะคะ เพราะหากเอาของออกแล้ว ไม่ทันเก็บให้ดี เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ อาจเผลอหยิบเล่นเข้าปาก หรือครอบหัวจนหายใจไม่ออก ส่วนลูกโป่งหากแตก เศษลูกโป่งก็อาจกระเด็นเข้าตา หรือดีดใส่หน้าจนได้รับอันตรายได้ Safety for baby : เจ้า ตัวเล็กอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นอยากสำรวจสิ่งใกล้ตัว ฉะนั้นความสะอาด และความปลอดภัยของสิ่งของที่ลูกจะคว้าจับได้จึงสำคัญ คุณแม่จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น หากมีลูกโป่ง หรือของที่ลูกสามารถบีบแตกได้อยู่ในบริเวณที่ลูกคว้าจับได้ง่าย คุณแม่ต้องรีบเก็บให้ห่างจากมือลูกโดยเร็ว แต่หากลูกอยากเล่นของเล่นลูกกลม ๆ ก็ลองหาลูกบอลที่เป็นผ้านุ่มนิ่ม ที่ไม่อันตรายจะดีกว่าค่ คุณพ่อสูบบุหรี่ตอนเบบี้ไม่อยู่บ้าน ? ควันบุหรี่ที่ถูกพ่อออกมาเป็นสารพิษชนิดเดียวกันกับที่สูบเข้าไปค่ะ ถึงคุณพ่อจะสูบตอนที่ลูกเบบี้ไม่อยู่บ้าน หรือไม่อยู่บริเวณนั้นขณะสูบ สารพิษนี้ก็คงยังล่องลอยอยู่ในอากาศ ทำให้บรรยากาศและคนในบ้านแย่ตามไปด้วย Safety for baby : หากอยากจะให้เจ้าตัวเล็กของเราห่างไกลจากควันบุหรี่ คุณพ่อไม่ควรสูบบุหรี่ที่บ้านเลยดีที่สุดค่ะ และพยายามจัดบรรยากาศทั้งในและนอกบ้านให้ปลอดโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกอยู่ เสมอ เช่น มีการกำจัดฝุ่นตามโต๊ะ ตู้ พื้นห้องทุกวัน […]
คุณแม่มือใหม่มักจะชอบถามว่า “ฝากท้องเมื่อไหร่ดี” คำตอบง่ายๆ สั้นๆ ก็คือ ตอนนี้เลยค่ะ! คุณแม่ควรรีบไปฝากครรภ์ทันทีเมื่อทราบว่ามีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องนะคะ เนื่องจากระยะเวลาตลอด 40 สัปดาห์ที่ตั้งครรภ์นั้นถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะเวลาฝากครรภ์คุณแม่จะได้ยาบำรุงมาทานด้วย แถมยังได้รับการดูแลดีๆ จากคุณหมออีกต่างหาก เจอคุณหมอบ่อยๆ จะได้อุ่นใจ ไม่ต้องมานั่งกังวลเวลาเกิดอาการแปลกๆ กับตัวเราด้วย เวลาไปฝากครรภ์คุณหมอคุณพยาบาลจะถามอะไรบ้างนะ? เวลาไปฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอและคุณพยาบาลจะถามคำถามเหล่านี้กับคุณแม่ค่ะ ตื่นเต้นจัง จะต้องตรวจอะไรบ้างนะ? ประโยชน์ของการฝากครรภ์มีอะไรบ้างนะ? นอกจากนี้ การพบคุณหมอทุกๆ เดือนก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกอุ่นใจและได้รับการแนะนำว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในแต่ละไตรมาสอีกด้วยค่ะ เวลาไปฝากครรภ์จะเตรียมเงินไปเท่าไหร่ดี ค่าใช้จ่ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลเลยค่ะ หากเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล คุณแม่อาจใช้สิทธิ 30 บาทในการฝากครรภ์ได้ ส่วนถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน การฝากครรภ์แต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่าย มากน้อยขึ้นอยู่กับการตรวจรักษาในวันนั้นค่ะ หรือบางโรงพยาบาลอาจมีแพ็กเกจการฝากครรภ์แบบเหมาจ่ายด้วยนะ ฝากครรภ์ที่ไหนดีนะ เลือกไม่ถูกเลย คุณแม่สามารถไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกก็ได้นะ โดยโรงพยาบาลหรือคลินิกนี้ควรจะอยู่ใกล้บ้านหรือเดินทางได้สะดวก เพราะเมื่อคุณแม่เริ่มท้องแก่แล้วอาจมีปัญหาในการเดินทางได้ค่ะ สถานที่ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่คลอดไม่จำเป็นต้องเป็นที่่เดียวกันก็ได้นะคะ การฝากครรภ์นั้นไม่มีคำว่าเร็วเกินไป แต่หากคุณแม่ประวิงเวลาไม่ยอมไปฝากครรภ์หรือไปไม่ตรงตามที่คุณหมอนัดแล้วล่ะก็ จะส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ได้แน่นอนเลยล่ะ
ต้องบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่นั้นโชคดีมากมาย เพราะการเลี้ยงลูกสมัยนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ช่วยทุ่นแรง ช่วยประหยัดเวลา และช่วยทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ช่วยให้นมแม่ เรียกว่ามีสารพัดตั้งแต่ช่วยให้นม ทำความสะอาด ช่วยเตรียมอาหาร ครบถ้วนทั้งอุปกรณ์การนอน การกิน การอยู่สำหรับคุณแม่และลูกน้อย และสิ่งหนึ่งที่หลายๆ บ้านขาดไม่ได้ และคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังมองหา เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก นั่นคือ เป้อุ้มเด็ก เครื่องทุ่นแรงสำคัญที่มีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม เพราะลูกเบบี๋ยังเดินไม่ได้ การกิจวัตรการดูแลลุกส่วนใหญ่ก็จำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อยๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น หลายชั่วดมงต่อวัน แถมยังต้องอุ้มลูกนานตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง ฉะนั้นเพื่อตอกย้ำถึงประโยชน์และความคุ้มค่าในการใช้เป้อุ้มเด็ก ให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อเป้อุ้มให้ลูกดีหรือไม่ ได้เห็นถึงข้อดีว่ามีแค่ไหน…เชื่อว่าเมื่อรู้แล้วทุกท่านจะสามารถเลือกซื้อใช้กันได้มั่นใจยิ่งขึ้น 10 ข้อดี ที่ต้องมี เป้อุ้มเด็ก 1 ประหยัดแรงกาย ประหยัดแรงคน เพราะเป้อุ้มเด็ก จะช่วยทุ่นแรงคุณแม่ไม่ต้องเดินอุ้มลูก ใช้กำลังแขนกำลังมืออุ้มลูกบ่อยๆ ประหยัดแรงกาย ช่วยให้คุณแม่ไม่เมื่อยล้า แต่เป้จะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกน้อยด้วยเป้และสายรัดให้อยู่กับตัวคุณแม่ ประหยัดแรงคนไม่ต้องหาคนมาช่วยอุ้มลูกเวลาที่คุณแม่จะต้องทำงาน เดินซื้อของ หรือทำธุระอื่นๆ 2 ลูกปลอดภัย นั่งและนอนได้สบาย เมื่อลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มเด็กจะปลอดภัย เพราะตัวคุณแม่และเป้จะประคองลูกตลอดเวลา ซึ่งเป้อุ้มเด็กส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุที่ทำด้วยผ้าหนานุ่ม […]






