วิธีการเลือกคาร์ซีท

การเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณทำไมถึงต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยจึงจำเป็นต่อคุณและลูกน้อยล่ะ?
หลายประเทศได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของคาร์ซีท carseat สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบ เนื่องจากคุณจะต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจร และหากคุณเดินทางพร้อมกับลูกน้อย โดยที่คุณจะต้องอุ้มลูกไว้ที่ตัก ก็อาจจะมีโอกาสที่คุณไม่สามารถที่จะอุ้มลูกได้อย่างมั่นคงและเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกของคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสูงค่ะ ดังนั้นการมีคาร์ซีท ที่ปลอดภัยในรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ ทั้งนี้พึงระวังไว้ว่าการใช้คาร์ชีทที่ไม่ถูกต้อง อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่เด็กมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณควรต้องเลือกใช้คาร์ซีท carseat ให้ถูกต้องพร้อมกับศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยนะค่ะ
หากไม่มีคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแล้ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จากสถิติได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบนั่งบนรถยนต์ที่ปราศจากคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยและประสบอุบัติเหตุ อัตราการเสียชีวิตจะมากกว่าการนั่งบนรถยนต์ที่ติดตั้งคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยถึง 4 เท่า
***ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานคาร์ซีท carseat ไม่ถูกวิธี
จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 โดยองค์การทางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ( Japan Automobile Federation :JAF) เกี่ยวกับการใช้งาน
คาร์ซีท carseat พบว่า 32.7 % ของคาร์ซีท carseat ที่ใช้งานนั้นติดตั้งอย่างไม่แน่นหนา ขณะที่อีก 67.3 % นั้นถูกพบว่ายังใช้งานได้ไม่ถูกต้องนัก ไม่ว่าจะเป็นการรัดสะโพกที่หลวมเกินไป หรือ การใช้งานที่หัวเข็มขัดที่ใช้ยึดที่นั่งไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกใช้คาร์ซีท carseat ที่ถูกต้องแล้ว แต่หากการใช้งานไม่ถูกวิธีก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีทให้ถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคาร์ซีท
คุณควรศึกษาข้อมูลว่า คาร์ซีท carseat รุ่นใดที่เหมาะสมกับรถของคุณ และ การใช้งานที่ถูกต้องเป็นอย่างไร โดยการปรึกษากับพนักงานขาย จุดสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือสำหรับการใช้งานในแต่ละครั้ง คุณต้องไม่ลืมตรวจสอบว่าที่นั่งมีจุดบกพร่องหรือติดตั้งอย่างปลอดภัยหรือไม่
ปัจจุบันมีคาร์ซีท carseat อยู่ 3 ประเภท ที่สามารถเริ่มใช้กับทารกตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งเด็กโตค่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการปรับผนักพิงของคาร์ซีท carseat ให้เหมาะสมกับวัยและน้ำหนักตัวเด็ก
จุดสำคัญในการเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแก่ลูกน้อย
- เลือกคาร์ซีทcarseat ให้เหมาะสมกับสรีระของลูกน้อย
เนื่องจากอวัยวะต่างๆของเด็กยังไม่พัฒนาอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นศีรษะ คอ กระดูกสันหลัง ระบบการนอนหรือการปรับอุณหภูมิของร่างกาย จนกว่าเด็กจะสามารถนั่งได้ด้วยตัวเอง คุณแม่ควรใส่ใจเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมที่จะต้องสามารถประคองเด็กโดยไม่ก่อให้เกิดแรงกดบนตัวเด็กและมีเบาะที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
- ตรวจสอบดูว่าคาร์ซีทcarseat นั้นติดตั้งบนรถของคุณได้อย่างถูกต้องหรือไม่
บางครั้งคาร์ซีท carseat ที่คุณชอบนั้นอาจจะไม่สามารถติดตั้งที่รถของคุณได้ หรือยากแก่การที่จะติดตั้งให้ถูกต้อง ดังนั้นควรตรวจสอบจุดนี้ไม่ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
- เลือกคาร์ซีทcarseat ที่ได้มาตรฐานระดับสากล
คุณย่อมต้องการที่จะให้ลูกน้อยได้รับความปลอดภัยสูงสุดใช่ไหม ดังนั้นมาตราฐานระดับสากลก็เป็นการรับประกันคุณภาพของคาร์ซีท ว่าปลอดภัยกับลูกน้อยของคุณ
เช่น คาร์ซีท carseat ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1ตุลาคม 2006 ที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีการประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับคาร์ซีท เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของสหภาพยุโรป ( EC standard: ECE-R44/04) นอกจากนี้มาตรฐานดังกล่าวยังถูกบังคับใช้กับคาร์ซีททุกประเภทของประเทศญี่ปุ่น ที่ผลิตหลังเดือนกรกฎาคม 2012 ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่นมีมาตราฐาและคุณภาพที่สูง
สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง
หรือช่องทางออนไลน์ :
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากกักตัวอยู่บ้านและนั่งเรียนออนไลน์มาร่วมหลายเดือน ตอนนี้หนูๆ ทั้งหลายก็คงจะจะได้กลับไปเข้าเรียนในโรงเรียนจริงๆกับเพื่อนแล้ว แต่สำหรับแม่ๆ ถึงแม้ดูเผินๆ แล้ว สถานการณ์ของเจ้าเชื้อโรคตัวร้าย COVID ดูเหมือนจะดีขึ้น 100 ทั้ง 100 ก็คงยังวางใจได้ไม่เต็มที่ ยังกังวลกันแน่นอน สำหรับคุณแม่บ้านไหนที่กำลังกังวลกลัวว่า เอ๊ะลูกน้อยจะของเราจะไปติดเชื้อโรคมาไหม หรือของที่ให้ลูกไปเพียงพอไหมน้า เรานำลิสต์ของจำเป็นที่ลูกน้อยควรพกเพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจาก COVID มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเล้ย! 1. อาวุธเลเวล 100 หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตอนนี้ไม่ว่าหันไปทางไหนก็เห็นแต่คนใส่หน้ากากเต็มไปหมด เพราะหน้ากากเป็นอาวุธชั้นดีที่จะช่วยคุ้มครองทั้งตัวผู้ใส่ และผู้อื่นไปในเวลาเดียวกัน และแน่นอนค่ะ คุณแม่สามารถหาซื้อไซส์เด็กได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโตก็มีวางขายอยู่ทั่วไปเลยค่ะ คุณแม่อาจเลือกแบบใช้แล้วทิ้ง หรืออาจเป็นแบบผ้าที่สามารถนำกลับมาซักใช้ใหม่ได้ก็ได้ อย่าลืมสวมหน้ากากให้ลูกน้อยทันทีเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน จะให้ดีให้คุณแม่เตรียมหน้ากากสำรองใส่กระเป๋านักเรียนไปเผื่ออีกซักสองสามอันเผื่อเค้าทำหายระหว่างวัน ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนแรกๆ เค้าอาจจะยังไม่ค่อยชิน อาจมีโยเย หรือดึงหน้ากากออกบ้าง แต่ถ้าเค้าได้เห็นเพื่อนๆ ในห้องใส่ ลูกๆ ก็จะยอมใส่ตามไปโดยอัตโนมัติเลยค่ะ 2. กระติกน้ำส่วนตัว พกไว้อุ่นใจ ยุคนี้เป็นยุคของการไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ก็เพราะว่าเจ้าโรค COVID นี้มันสามารถติดต่อกันผ่านสารคัดหลั่งอย่างน้ำมูก หรือน้ำลายได้ยังไงล่ะ! เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว คุณแม่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยคะ ว่าการพกกระติกน้ำส่วนตัวนี่เป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ หลายคนจะชอบทานขนมด้วยกัน ดื่มน้ำด้วยกัน […]
คุณแม่หลาย ๆ ท่านคงเคยดูคลิปทารกน้อยใส่ห่วงลอยน้ำ ฝึกน้ำดำ และฝึกลอยตัวอยู่ในน้ำกันใช่ไหมคะ เป็นคลิปที่น่าเอ็นดูมากเลย และหากลูกรักของเราได้ลองทำดูบ้างคงน่ารักมากแน่นอน แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าจะให้ลูกเริ่มเรียนว่ายน้ำได้ตอนไหน ใช้อุปกรณ์อะไร ปลอดภัยแค่ไหน แล้วจะเลือกโรงเรียนว่ายน้ำแบบไหนให้ลูกดี เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ ลูกทารกเริ่มเรียนว่ายน้ำได้เมื่อไร? เด็กทารกสามารถเรียนว่ายน้ำได้ตั้งแต่อายุ 3-4 เดือนขึ้นไป โดยให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าร่างกายของลูกพร้อมแค่ไหน ให้ลองเริ่มใช้ห่วงยางสวมศีรษะของลูกเพื่อช่วยพยุงตัวในน้ำ เมื่อปล่อยลูกลงสระน้ำแล้วลูกสามารถลอยตัวได้โดยไม่กลัวน้ำเลย การฝึกแบบนี้ก่อนจะช่วยให้ลูกมีความเคยชินกับน้ำ ไม่กลัวน้ำ และเพื่อในอนาคตจะได้หัดว่ายน้ำได้อย่างสบาย หรือจะเริ่มฝึกหรือเรียนว่ายน้ำในช่วงวัย 1 ขวบขึ้นไป ก็เป็นวัยที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาดีขึ้น เข้าใจภาษาที่ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่สื่อสาร เริ่มควบคุมการเคลื่อนไหวแขนขาได้ดีขึ้นมากแล้ว สระน้ำแบบไหน ปลอดภัยต่อเด็กเล็ก สระน้ำระบบน้ำเกลือจะเป็นระบบควบคุมความสะอาดของน้ำด้วยเกลือธรรมชาติ มีค่า pH balance ในใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติของคน ทำให้ไม่ระคายเคืองต่อตาหรือผิวหนังของเด็กทารก สระน้ำระบบโอโซน จะเป็นระบบที่เอาก๊าซโอโซนมาบำบัดน้ำในสระ มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในเวลาอันสั้น และไม่มีสารเคมีตกค้าง ไม่ทำให้ดวงตาหรือผิวหนังทารกระคายเคือง ซึ่งสระระบบนี้ยังไม่ค่อยมีให้บริการมากนัก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่แข็งแรง สระน้ำควรจะควบคุมอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ประมาณ 30- 35 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร่างกายของลูกสามารถปรับอุณหภูมิได้ง่าย ไม่ป่วย อุปกรณ์สำคัญเมื่อลูกเล็กต้องว่ายน้ำ เลือกโรงเรียนสอนว่ายน้ำทารกแบบไหน ปลอดภัยเหมาะสม ข้อดี […]
เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4
การให้ลูกน้อยทารกนอนเปล เพื่อช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับง่าย และนอนหลับนาน ถือเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดกันมาอย่างยาวนานในบ้านเรา ซึ่งสมัยก่อนพ่อแม่ปู่ย่าก็ใช้เปลญวน เปลผ้าขาวม้า ผูกให้ลูกแล้วไกวนอน จนปัจจุบันการใช้เปลไกว ได้พัฒนาออกมามากมายหลายระบบ ทั้งระบบที่ต้องใช้แรงคนไกวหรือไกวมือ เปลไกวไฟฟ้า แบบมีล้อเคลื่อนที่ได้ เปลลูกกรงตั้งอยู่กับที่ และเปลไกวอัตโนมัติ ที่สามารถตั้งเวลาและระดับการไกวได้อย่างแสนสะดวก แต่ก็เพราะการมีเปลไกวหลายระบบ หลายแบบให้คุณแม่เลือกในยุคนี้ ทำให้มีคำถามว่าควรจะเลือกเปลไกวแบบไหน แถมยังมีทั้งแบบที่ไกวไปด้านหน้า-หลัง และไกวแบบด้านข้างซ้าย-ขวา จึงอยากจะรู้ว่าสองแบบนี้แตกต่างกันแค่ไหน อย่างไรบ้าง ? เราลองมาอ่านข้อมูลกันค่ะ ให้ลูกนอนเปลดีไหมนะ? ดีแน่ค่ะ…การให้ลูกเล็กนอนเปลมีข้อดีมากมาย เพราะมีข้อมูลบอกไว้ว่าการแกว่งของเปล จะทำให้ลูกน้อยเบบี๋รู้สึกสบาย อบอุ่นและผ่อนคลาย คล้ายกับตอนที่ลูกยังอยู่ในครรภ์คุณแม่ เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ช่วยให้คุณแม่ไกวเปลกล่อมลูกน้อยนอนหลับ โดยที่คุณแม่ไม่ต้องอุ้มกล่อมลูกน้อยนานๆ ให้เมื่อยแขนหรือเดินจนเมื่อยขา ช่วยทำให้ลูกนอนง่าย นอนหลับได้ยาวนาน ลดอาการงอแงและไม่ทำให้ลูกน้อยเครียด นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่บอกว่า การให้ลูกนอนเปลไว สามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกน้อยได้ อาทิ ส่วนข้อเสียน่าจะมีเพียงแค่ลูกอาจจะติดการนอนเปล แต่ก็สามารถแก้ไขได้ไม่ยากหากคุณแม่มีเปลไกวที่เคลื่อนย้ายหรือพับเก็บได้ หรือบางท่านคิดว่าการให้ลูกนอนเปลจะทำให้ลูกหัวแบนอันนี้ก็แก้ได้ ด้วยการเมื่อลูกหลับอาจจะขยับเปลี่ยนท่านอนเป็นตะแคงข้าง และส่วนใหญ่การให้ลูกนอนเปลมักจะอยู่ในช่วงที่ลูกอายุไม่เกิน 5-6 เดือนเท่านั้น เพราะพอลูกโตขึ้น ก็มักจะพลิกคว่ำหงายและปีนป่ายเปล จนเป็นอันตรายได้ เลือกเปลต้องดูให้ละเอียดทุกด้าน การเลือกเปลให้ลูกน้อยคุณแม่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด ทั้งด้านวัสดุที่ใช้ การออกแบบมาให้เหมาะสมกับสรีระเด็ก และการแกว่งไกวที่ปลอดภัย […]
Q: ขวดนมที่ไม่มี BPA ปลอดภัย ใช้ได้นานกว่า ? A :ขวดนม PP ไม่มี BPA อายุการใช้งานสั้นกว่า PC ที่มี BPA โดยทั่วไป พลาสติกแต่ละชนิด จะมีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ยิ่งต้ม ยิ่งนึ่ง ยิ่งขัด ก็ยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว ทั้งนี้ คุณภาพและการผลิตพลาสติกของแต่ละโรงงานย่อมต่างกัน ขวด PP ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงไม่ผสมเศษงานมักจะใสกว่า คุณแม่อาจพิจารณาเปลี่ยนขวดนมเมื่อเห็นว่าเริ่มบุบเบี้ยว หรือ ขวดนมขุ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานจะสิ้นสุดถ้าขวดนมเป็นรอยขูดข่วน จึงควรล้างขวดนมด้วยแปรงขนนิ่ม ฟองน้ำ หรือแปรงซิลิโคน ***ดังนั้น อย่ากังวลกับฉลากและ โฆษณา “BPA-Free” ให้มากนัก หันมาดูวัสดุ และการดูแลรักษาให้ปลอดภัยจะดีกว่า ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : SS Medical Clinic โดย พ.ญ.สิทธิ์ธีราห์ ชโรเต้อร์ หรือใช้การฆ่าเชื้อด้วยแสงรังสี UV (Prince&Princess Baby UV Sterilizer) นวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลลูกน้อยให้พ้นจากเชิ้อโรค ได้ถึง […]








