การเลือกคาร์ซีท แบบหมอเด็กเลือกให้ลูกตัวเอง

หมอเด็กเค้าเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้ลูกตัวเอง….อยากรู้ต้องคลิ๊ก ก่อนซื้อคาร์ซีทให้ลูก

ถ้าไปอ่านหนังสือ ก็จะรู้ว่าคาร์ซีท (carseat) มี 4 แบบ (ซึ่งเอาเข้าจริงรู้จริงๆ ตอนมีลูก 55555 ก่อนนั้นรู้แต่ทฤษฎี) คือ
- infant seat ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ถึง นน 9-10 โล
- convertible seat ใช้ได้ถึง 9-18 โล (อันนี้มีแบบใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด บางรุ่นใช้ได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือน ไปดูกันตอนซื้อด้วยจ้า)
- forward facing หรือ combination seat
- booster seat เมื่อยัดตัวลงคาร์ซีท car seat ไม่ได้แล้ว
แน่นอนในตลาด มี option มากมายไว้หลอกลวงพ่อแม่ขาช้อป 5555 ทั้งแบบตระกร้าที่ยกเข้าออกได้เลย หรือ ประกอบลง stroller (รถเข็น) ได้เลย…. เอาที่สบายใจ 555 เอาหลักในการเลือกของพ่อหมอเลยแล้วกัน 555
- คุ้มและปลอดภัย
- ใช้นาน
ไม่ว่าอะไรก็ตาม เน้นใช้ได้ยาวๆ เป็นหลัก แน่นอน convertible เป็นแบบที่เลือกแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะใช้ได้นานดี อย่างน้อยๆ ก็สามสี่ปี อีแบบตระกร้าเนี่ยใช้ได้ปีเดียวก็ต้องเปลี่ยนละ ไม่ไหว พ่อไม่ค่อยมีตังค์ (ต้องเอาไปซื้อของไร้สาระอื่นๆ อีก 55555)
ยังๆ ยังไม่จบ เลือกชนิดแล้ว ต้องมาเลือก options อีก ตัวเลือกเรามีดังนี้
- ตัว carseat หมุนได้ จะกี่องศาก็แล้วแต่ จะทำให้สะดวกเวลาเอาลูกลงคาร์ซีท carseat …. ถามว่าจำเป็นไหม ไม่หรอก ถ้าดูแค่คงามปลอดภัย จะหมุนไม่หมุนก็เหมือนกัน แต่ถ้าเอาตามความขี้เกียจและความกิ๊บเก๋ หมุนเวิร์กกว่าเยอะ 5555 เพราะเวลาอุ้มลงง่ายกว่า (ทำไมรู้ เพราะมีสองแบบจ้าาาาาาาา 55555 เยอะเข้าไป
- ระบบ belted base (ใช้สายเบลท์) หรือ isofix อันดับแรก ไปดูก่อนว่ารถที่ใช้มีระบบ isofix ไหม รถหมอไม่มีจ้า 555 จบเลยประเด็นนี้ แต่ๆๆๆๆๆ จากการศึกษา (ที่จำได้แบบเลือนลาง) สำหรับเด็กเล็กที่นั่งหันหลัง (rear facing) isofix ปลอดภัยพอๆ กะแบบ belt แต่ๆๆๆๆ isofix ดีกว่าสำหรับเด็กโตที่นั่งหันหน้านะจ๊ะ แต่ๆๆๆ isofix แพงกว่า belted พอดูทีเดียว
แต่ๆๆๆๆๆ รถที่บ้านไม่มี isofix จบนะ 5555555 เพราะเน้นรถ antique 5555 (เก่าแบบไม่มีราคา) เอาเถอะๆ สรุปว่าเลือกแบบหมอคนนี้ก็คือ
- convertible เน้นใช้นาน 5555
- belted base เพราะรถไม่มีระบบ isofix (ถ้ามีก็ไม่เอา เพราะแพง 555) อย่าถามว่าใส่ไงนะ เพราะให้ พนง ร้านใส่ให้ และกะจะไม่ถอดอีกเลย ดูใส่ไม่ง่าย 555
- ซื้อแบบที่มีหมอนรองคอด้วย เพราะต้องใช้ในช่วงแรกเกิดเดือนแรกด้วย ถ้าไม่มีซื้อเพิ่มดีกว่าครับไม่แพงมาก คอลูกจะได้ไม่พับ (อันนี้คิดเอง เพราะยี่ห้อที่ไม่มีที่รองคอ เขาก็เคลมว่าโอเคอยู่ แต่เนื่องจากเป็นคนเยอะเลยแนะนำให้ซื้อเถอะ)
เน้นหลัก 3 ข้อในการใช้คาร์ซีท carseat โดย AAFP ของอเมริกาคือ
- Backward is the best นั่งหันหลังเริ่ดสุดจนอายุขวบนึง (นน 9-10 โล) เพราะป้องกันการเกิด C-spine injury (อันตรายต่อกระดูกคอ) ได้ดีมั่ก
[EDITTED]
ตาม AAFP ล่าสุดปี 2012 แนะนำให้นั่งหันหลัง (rear facing) จนถึงอายุ 2 ปีไปเลยนะจ๊ะ………. หลังสองขวบค่อยหมุนตัวสวยๆ มา forward facing สวยๆ หล่อๆ ครับ
- 20-40-80 คือเลข นน เป็นปอนด์ ที่ต้องเปลี่ยน setting ของคาร์ซีท carseat ในไทยก็ 9-18-36 กิโลกรัม คือ ก่อน 9 โล นั่งหันหลัง 9-18 โล นั่งหันหน้า 18-36 โล ใช้ booster seat เพราะเข็มขัดทั่วไปยังหลวมไปในเด็กที่ นน ไม่ถึง 36 โล
- Boost until fit enough คือใช้ booster seat จนกว่าจะใส่เบลท์เหมือน ผู้ใหญ่ ได้ จะ 36 โล จะ 40 โล แล้วแต่เด็กเลย ลองดูว่าเมื่อไรใส่แล้วไม่ หลวมใช้เหมือนผู้ใหญ่ได้เลย
ปล. มีคนซื้อแบบตระกร้าใช้แล้วดูเก๋มากครับ เวลาพามาฉีดวัคซีนตอนอายุ 1-2 เดือน ดูฮิปมาก ยกมาทั้งตระกร้าเลย ยกขึ้นลงสบ๊ายสบาย จริงๆ แอบอยากได้ แต่ดูเปลืองเงินเบาๆ
#เลี้ยงลูกตามใจหมอ
#ตรงหลักการบ้างน้อยบ้างเกินบ้าง
#ตามความพอใจ
EDITTED เพิ่มเติม (25/6/60): พ่อหมอเพิ่งได้ยินว่า มีคนติดตั้งคาร์ซีทแล้วเอาลูกนั่งแบบไม่รัดเข็มขัด …. คือนั่งเฉยๆ …. อั้ยย่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับไม่มีคาร์ซีทนะครับ…. เวลาเกิดอุบัติเหตุก็ปลิวกระเด็นเลยนะครับ คาดสายรัดด้วยทุกครั้งที่นั่งคาร์ซีทนะจ๊ะ … จากพ่อหมอ คนเดิม…
ข้อมูลดีๆ จากเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ
สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง
หรือช่องทางออนไลน์ :
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เมื่อต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทางไกลขึ้นเครื่องบินครั้งแรก คุณแม่หลายท่านมักมีคำถามมากมาย เพื่อให้ทุกท่านเตรียมตัวเดินทางได้อย่างสนุกสนานพร้อมรถเข็นคันโปรดคู่ใจ Baby Gift ได้รวบรวมทุกคำตอบไว้ในที่เดียวจบ 1.รถเข็นแบบไหนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้บ้าง จำเป็นต้องพับเล็กๆ หรือมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของรถเข็นหรือไม่? ตอบ เมื่อมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กเดินทางไปพร้อมกัน รถเข็นเด็กทุกขนาด ไม่ว่าจะพับใหญ่พับเล็ก ทั้งหนักและเบา สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนัก แต่รถเข็นต้องสามารถพับได้ (ซึ่งรถเข็นทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่จำหน่ายในปัจจุบันพับได้ทุกคัน) 2. ขั้นตอนการนำรถเข็นขึ้นเครื่องบินแบบ Gate Check ? ตอบ เมื่อนำกระเป๋าขนาดใหญ่ Check in เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องให้แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินว่ามีรถเข็นเด็กมาด้วย และต้องการเข็นไปโหลดที่หน้าประตูเครื่องบิน (หรือเรียกว่า Gate Check) เจ้าหน้าที่จะนำ Tag (หรือป้ายติดกระเป๋า) ติดให้ที่รถเข็นเพื่อป้องกันการสูญหาย เราสามารถเข็นลูกน้อยผ่านพิธีการต่างๆ ไปจนถึงหน้าประตูเครื่องบินตรงจุดที่มีแอร์โฮสเตสยืนต้อนรับ ให้พับรถเข็นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รอรับฝากรถเข็นเพื่อนำลงไปเก็บใต้เครื่อง (ในบางกรณีเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมถุงพลาสติกขนาดใหญ่คลุมให้อย่างดีเพื่อความสะอาดและปลอดภัย) ซึ่งเมื่อถึงที่หมายปลายทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเข็นมาส่งคืนให้ที่หน้าประตูเครื่องบินเหมือนเดิม ในกรณีต่อเครื่อง (Transfer) ก็สามารถรับรถเข็นคืนได้ที่หน้าประตูเครื่องเช่นเดียวกัน 3. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับนำรถเข็นเดินทางขึ้นเครื่องบินหรือไม่ ตอบ ทุกสายการบินอนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 4. ในกรณีที่รถเข็นมีขนาดเล็กและสามารถพับเก็บบนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (Cabin) ได้ จะสามารถนำรถเข็นติดตัวขึ้นไปเก็บบน cabin ในเครื่องบินได้หรือไม่ ? ตอบ รถเข็นบางรุ่นสามารถพับและนำขึ้นเก็บบน Cabinได้ มีความเป็นไปได้ที่ทางสายการบินจะอนุญาติหรืออาจจะปฎิเสธไม่อนุญาติให้นำขึ้นไปเก็บบน Cabin […]
แม่ท้องร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เนื่องฮอร์โมนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพิ่มสูงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ โดยการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนดังกล่าวจะส่งผลให้เส้นเอ็นและข้อต่อเกิดการคลายตัวมากขึ้น รวมทั้งทำให้โครงสร้างภายในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับทารกในครรภ์ หนึ่งในนั้นการเปลี่ยนแปลของร่างกายก็คือสภาพผิวที่แห้งง่าย สีผิวเปลี่ยน คุณแม่บางคนเกิดกระได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงขนาดท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังบริเวณท้อง หน้าอก ต้นขา เกิดการยืดตึงจนเกิดรอยแตก การดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ รวม ITEM ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ BabyGift คัดสรรคุณภาพ 1. ผลิตภัณฑ์ป้องกันการแตกลาย ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของคุณแม่ว่าเป็นเนื้อครีมหรือเนื้อเซรั่ม ควรใช้ก่อนที่จะเกิดปัญหาเรื่องผิวแตกลายจะเป็นการดูและผิวได้ดีที่สุด 2. เข็มขัดพยุงครรภ์ รองรับน้ำหนักของครรภ์ที่ขยายใหญ่และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังช่วยในการบรรเทาอาการปวดหลังของแม่ท้องได้อีกด้วย การเริ่มใช้ขึ้นอยู่กับคุณแม่แต่ละคนเลยว่ารู้สึกหนักหรือหน่วงท้องเมื่อไหร่ 3. คาร์ซีทสำหรับแม่ท้อง อุปกรณ์เสริมบนรถยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แม่ท้องและลูกในครรภ์ คาร์ซีทแม่ท้อง แบรนด์ Tummy Shleid นวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลีย เปลี่ยนจากการที่เข็มขัดนิรภัยรถรัดหน้าท้อง มารัดที่ต้นขาแทน 4. ผลิตภัณฑ์น้ำฆ่าเชื้อธรรมชาติ แม่ท้องอยู่ในช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาจทำให้ป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย ติดเชื้อได้ง่าย การใช้แอลกอฮอล์เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน การใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจากธรรมชาติเพิ่มความปลอดภัยได้ 5. เครื่องอบ UV นวัตกรรมการฆ่าเชื้อขั้นสูงด้วยแสงยูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีมาตรฐานใกล้เคียงกับการฆ่าเชื้อในวงการแพทย์ สามารถใช้ได้ทั้ง โทรศัพท์มือถือ ของใช้ต่างๆ
เนื้องอกในมดลูก (Myoma Uteri) แค่ฟังชื่อก็น่ากลัวแล้วใช่มั้ยล่ะคะ แต่ความจริงเนื้องอกชนิดนี้เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดถ้าเปรียบเทียบกับพวกเนื้องอกของผู้หญิงที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นๆ ในช่วงเริ่มต้นเจ้าเนื้องอกนี้จะมีขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่วเขียวเองค่ะ แต่ขนาดของมันจะค่อยๆ ใหญ่ขึ้นถ้าได้รับการกระตุ้นโดยฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และขนาดจะเล็กลงได้หากไม่ได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนชนิดนี้ เพราะอย่างนี้เราจึงมักจะพบเนื้องอกในมดลูกในผู้หญิงที่ยังมีประจำเดือนอยู่ และเมื่อหมดประจำเดือนเนื้องอกนี้ก็จะค่อยๆ เล็กลงและหายไปเองในที่สุดค่ะ เนื้องอกในมดลูกขณะตั้งครรภ์เป็นแบบไหนกันนะ? เนื้องอกในมดลูกจะมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ โดยจะแทรกอยู่ตามที่ต่างๆ บนผนังมดลูกค่ะ อาจจะอยู่ตรงกลางของผนังมดลูก หรืออยู่บนผนังค่อนมาทางโพรงของมดลูก บางรายอาจถึงขนาดยื่นลงมาผ่านปากมดลูกยาวมาถึงช่องคลอดเลยก็ได้ค่ะ แล้วอาการล่ะจะเป็นแบบไหน? เนื่องจากเนื้องอกชนิดนี้จะเติบโตอย่างช้าๆ คุณแม่ส่วนใหญ่จึงจะไม่ทราบว่าตนมีเนื้องอกนี้อยู่จนกว่าคุณหมอจะตรวจพบ อย่างไรก็ตามอาการที่สังเกตได้จากการมีเนื้องอกในมดลูกนั้นจะมีลักษณะดังข้างล่างนี้ค่ะ แต่ว่าคุณแม่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เพราะอาการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เป็นอาการปกติที่พบในคุณแม่ท้องทั่วไปต่อให้ไม่มีเนื้องอกในมดลูกนะ ถ้าพบเนื้องอกในมดลูกตอนตั้งครรภ์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดเนื้องอกค่ะ แต่ว่าถ้าเกิดเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะเบียดดันมดลูก ทำให้มดลูกโตได้ไม่เต็มที่และอาจทำให้เกิดการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด หรือถ้าหากเนื้องอกไปอยู่ที่ด้านล่างแล้วก็อาจจะไปขวางตรงส่วนของช่องคลอด คุณแม่จึงไม่สามารถคลอดเองได้แต่จะต้องผ่าคลอดค่ะ แต่ในบางราย หากเนื้องอกดันเข้าไปในโพรงมดลูกมาก ก็อาจส่งผลทำให้แท้งลูกในท้องได้ค่ะ เนื้องอกในมดลูกขณะตั้งครรภ์รักษาให้หายได้ไหมนะ? โดยปกติแล้วคุณหมอจะไม่ทำการรักษาเนื้องอกนี้ไม่ว่าจะเป็นการให้ยาหรือผ่าตัดค่ะ เพราะว่ายาไม่ได้ช่วยให้เนื้องอกยุบลง ส่วนการผ่าตัดก็เป็นการเสี่ยงที่จะทำให้คุณแม่เสียเลือดมากและแท้งบุตรค่ะ นอกจากนี้ คุณแม่อาจจะต้องถูกตัดมดลูกทิ้งหากเลือดออกมากจนไม่สามารถควบคุมได้ ตามหลักการแล้วคุณหมอจะเริ่มทำการรักษาเมื่อคุณแม่คลอดลูกน้อยได้อย่างน้อย 3 เดือน เพราะในคุณแม่บางรายเนื้องอกมีขนาดเล็กลงหลังคลอดจนไม่ต้องทำการรักษาก็มีค่ะ แต่ในบางรายก็อาจโตขึ้นจนต้องตัดมดลูกทิ้งเลยค่ะ คู่แต่งงานคู่ไหนที่วางแผนอยากมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ก็อย่าลืมแวะไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเสียก่อนนะคะ จะได้เตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรง หากเจอเนื้องอกในมดลูกก็จะได้รักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน จะได้สบายใจไม่ต้องมานั่งเครียดให้เสียสุขภาพนะ
คุณแม่มือใหม่กำลังคิดว่าจำเป็นต้องมีเครื่องปั๊มนมไว้ใช้หรือไม่? หรือกำลังสงสัยว่าควรเลือกแบบไหนดี? วันนี้เรามาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับเครื่องปั๊มนมกันอย่างครบถ้วน เพื่อให้คุณแม่เตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและเลือกซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง ประโยชน์ของเครื่องปั๊มนม เครื่องปั๊มนมเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่สามารถเก็บนมแม่ไว้ล่วงหน้าได้ ช่วยแก้ปัญหาเมื่อต้องออกไปทำงานหรือมีธุระนอกบ้าน ลดความกังวลเรื่องลูกหิวนม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตนมแม่ให้ต่อเนื่อง และบรรเทาอาการเต้านมตึงเมื่อมีนมมากเกินไป เครื่องปั๊มนมมีกี่ประเภท เครื่องปั๊มนมมีให้เลือกหลากหลายประเภทตามความต้องการ แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง เครื่องปั๊มนมแบบใช้มือ ที่ปั๊มนมแบบใช้มือเป็นตัวเลือกพื้นฐานที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้ปั๊มนมบ่อย ใช้งานได้ทุกที่โดยไม่ต้องพึ่งกระแสไฟฟ้า ราคาไม่แพง และเก็บรักษาง่าย แต่อาจต้องใช้เวลานานกว่าและอาจเมื่อยมือในการใช้งาน เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้าเดี่ยว เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบเดี่ยวใช้ปั๊มทีละข้าง ทำงานอัตโนมัติช่วยประหยัดแรงคุณแม่ เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นครั้งคราว สะดวกกว่าแบบใช้มือและมีราคาที่เหมาะสม แต่ใช้เวลานานกว่าแบบปั๊มคู่เมื่อต้องปั๊มทั้งสองข้าง เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้าคู่ เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบคู่สามารถปั๊มทั้งสองข้างพร้อมกัน ประหยัดเวลาได้มาก เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องปั๊มนมเป็นประจำหรือต้องทำงานนอกบ้าน ช่วยกระตุ้นการผลิตนมได้ดีกว่า แต่ราคาสูงกว่าและต้องใช้พลังงานไฟฟ้า เครื่องปั๊มนมสำหรับใช้ในโรงพยาบาล เครื่องปั๊มนมระดับโรงพยาบาลมีขนาดใหญ่และประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับกรณีที่ลูกต้องเข้ารับการดูแลพิเศษในไอซียู หรือคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องการให้นม สามารถใช้ร่วมกันได้หลายคนโดยมีอุปกรณ์ส่วนตัวแยกกัน วิธีการใช้เครื่องปั๊มนมที่ถูกต้อง การใช้เครื่องปั๊มนมอย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้นมมากขึ้นและปลอดภัย มีขั้นตอนดังนี้ เทคนิคการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมสำหรับมือใหม่ การเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคน วิธีทำความสะอาดเครื่องปั๊มนม การดูแลรักษาเครื่องปั๊มนมให้สะอาดเป็นเรื่องสำคัญมาก 3 เครื่องปั๊มนมที่คุณแม่เลือกใช้ เรามาดูเครื่องปั๊มนมยอดนิยม 3 รุ่นที่คุณแม่หลายคนให้ความไว้วางใจ แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ช่วยตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายของคุณแม่ยุคใหม่ 1. ATTITUDE MOM เครื่องปั๊มนมไร้สาย […]
ช่วงเวลาการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่คนใหม่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความกังวลไปพร้อมกัน BabyGift เข้าใจดีว่าการจัดกระเป๋าเตรียมคลอดและการเตรียมตัวสำหรับคุณแม่มือใหม่ต้องการคำแนะนำที่ถูกต้อง เราจึงรวบรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กคุณภาพพรีเมียมไว้ในที่เดียว ของใช้เตรียมคลอดสำหรับคุณแม่มือใหม่มีอะไรบ้าง การเตรียมความพร้อมก่อนคลอดไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งของ แต่เป็นการเตรียมจิตใจและความมั่นใจ ของใช้เตรียมคลอดที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่น ของใช้เตรียมคลอดสำหรับเด็ก ทารกแรกเกิดต้องการการดูแลเป็นพิเศษในทุกด้าน ตั้งแต่ความอบอุ่น ความสะอาด ไปจนถึงความปลอดภัย การเลือกของใช้เตรียมคลอดสำหรับสินค้าแม่และเด็กที่มีคุณภาพจะช่วยให้ลูกน้อยปรับตัวเข้ากับโลกภายนอกได้ดีขึ้น เสื้อผ้า เสื้อผ้าเป็นสิ่งแรกที่สัมผัสกับผิวอ่อนนุ่มของทารก การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมจึงสำคัญอย่างยิ่ง เครื่องนอน การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นรากฐานสำคัญของการเจริญเติบโต เครื่องนอนที่ดีจะช่วยให้ลูกนอนหลับสนิทและปลอดภัย ให้นมทารก การให้นมเป็นช่วงเวลาแห่งความผูกพัน อุปกรณ์ที่มีคุณภาพจะทำให้ประสบการณ์นี้ราบรื่นและมีความสุข สุขอนามัยของเตรียมคลอดสำคัญ ทารกมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่สมบูรณ์ การรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ยาสามัญสำหรับทารกแรกเกิด การเตรียมยาสามัญพื้นฐานจะช่วยให้พ่อแม่จัดการกับอาการเบื้องต้นได้ทันท่วงที อุปกรณ์เซฟตี้ลูกน้อย ความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องใส่ใจตั้งแต่วันแรก อุปกรณ์เซฟตี้ที่จำเป็นจะช่วยปกป้องลูกตั้งแต่การเดินทางครั้งแรก ของใช้เตรียมคลอดสำหรับคุณแม่ คุณแม่หลังคลอดต้องการการดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ทั้งร่างกายและจิตใจ การเตรียมของใช้ที่เหมาะสมจะช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารสำคัญ เอกสารที่ครบถ้วนจะทำให้ขั้นตอนการเข้าโรงพยาบาลและการออกใบเกิดเป็นไปอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้า ร่างกายหลังคลอดมีการเปลี่ยนแปลงมาก เสื้อผ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายและมั่นใจ สุขอนามัย การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวหลังคลอดต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ครีมดูแลผิว การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนหลังคลอดส่งผลต่อสภาพผิว ครีมบำรุงที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวยสุขภาพดี คุณแม่มือใหม่สนใจซื้อสินค้าแม่และเด็กครบวงจรที่สุดได้ที่ BabyGift BabyGift ไม่ใช่แค่ร้านขายผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก แต่เป็นที่ปรึกษาที่เข้าใจความต้องการของครอบครัวใหม่ ด้วยบรรยากาศการช้อปปิ้งแบบ “โฮมมี่” และการจัดโซนสินค้าตามความต้องการ พร้อมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน […]
ลดอาการแพ้ท้อง ตอนตั้งครรภ์ทำให้คุณแม่หลายคนคิดว่าการจะมีลูกซักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก อาการหลัก ๆ ก็เลยจะมีวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าหากคุณแม่มีอาการนี้แบบนี้อยู่ หรืออยากลดอาการแพ้ท้อง เราเลยมีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่มาช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องมาฝากกันค่ะ แพ้ท้อง เกิดจากอะไร? อาการแพ้ท้องเกิดจากฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ในร่างกายของคุณแม่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทางร่างกายและจิตใจ จนมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และอื่น ๆ 8 เคล็ดลับที่ช่วยลดอาการแพ้ท้อง 1. กลิ่นหอมสดชื่นเบา ๆ ช่วยได้ คุณแม่ที่ได้กลิ่นน้ำหอมฉุน กลิ่นเทียน กลิ่นธูป หรืออื่น ๆ แล้วมีอาการคลื่นไส้ ให้รีบออกมาจากตรงนั้นเลยค่ะ เพราะเรื่องกลิ่นก็มีผลกับอาการแพ้ท้อง คุณแม่ควรจะอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท หากลิ่นสดชื่นธรรมชาติ ไม่ฉุน ก็จะช่วยให้คุณแม่อาการดีขึ้น รู้สึกเวียนหัวน้อยลง แล้วก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้ด้วย 2. ดื่มน้ำลดอาการหน้ามืด อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของการอาเจียน การดื่มน้ำเปล่าอุณภูมิปกติหรือน้ำส้มคั้นสักแก้วก็จะช่วยให้คุณแม่สดชื่นขึ้นได้ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำด้วยค่ะ และที่สำคัญคุณแม่ต้องดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำด้วยนะคะ […]








