รีวิวพาลูกน้อยท่องเที่ยวเมืองนอกไปกับรถเข็นเด็ก Aprica Magical Air

เหนื่อยมากแค่ไหน กับการเดินทางไปเมืองนอกโดยที่มีสัมภาระที่หนักและเยอะ และยังมีรถเข็นเด็กที่หนักๆมาเป็นภาระเพิ่มอีก เหนื่อยที่ต้องหารถเข็นเด็กตัวช่วยที่ดี ที่ช่วยแบ่งเบาภาระที่ต้องเดินทางพร้อมกับลูกน้อย บางยี่ห้อก็มีโครงสร้างแข็งแรง แต่น้ำหนักเยอะมาก เข็นเล่นๆแถวสนามหน้าบ้านก็พอไหว แต่ถ้าต้องเดินทางแล้วเอาไปด้วยเป็นภาระมากๆ หรือบางยี่ห้อน้ำหนักเบาๆ แต่โครงสร้างไม่แข็งแรงเข็นแล้วโยกไปทั้งคัน ลูกนั่งแล้วหลังก็งอ มีผลต่อกระดูกสันหลังในระยะยาวแนนอน ไม่ปลอดภัย และพับเก็บก็หลายขั้นตอนยุ่งยากไปอีก อยากจบปัญหาเหล่านี้แล้วใช่ไหมหล่ะคะ ขอแนะนำรถเข็นเด็กเบากว่า สบายกว่ากับ Aprica Magical Air 2.9 kg. จะทริปไหนๆ ก็พร้อมลุยกันแบบชิลๆ คุณสมบัติจัดเต็มขนาดนี้ !!! เบาเพียง 2.9 kg. พับแล้วคุณแม่หิ้วขึ้นบันไดได้เองแบบชิลๆ HighSeat 50 cm. ที่นั่งสูงช่วยปกป้องลูกน้อยห่างไกลฝุ่นละอองและความร้อน หลังคาบังแดดกันรังสียูวี และมีม่านตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศและความร้อนได้ดีอีกด้วย ที่กั้นหน้ารถเข็นที่สามารถเปิดออกได้เพื่อความสะดวกในการอุ้มน้องขึ้น-ลง เพื่อความปลอดภัย เบาะปรับเอนนอนได้ เบาะรองนั่งกว้างนั่งสบาย ทำจากผ้าระบายอากาศช่วยให้นั่งสบายไม่อับชื้น โครงสร้างแบบลดรอยต่อ เพราะรถเข็นเด็กทั่วไปมักมีชิ้นส่วนต่อเข้าด้วยกันหลายชิ้น เมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับตัวเป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ แต่ด้วยโครงสร้างรถเข็นเด็กของ Aprica ที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ เป็นชิ้นเดียวช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน ระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ เพราะล้อคือส่วนประกอบแรกที่มีการสัมผัสกับพื้นผิวถนน ระบบรองรับแรงกระแทกที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล ล้อแบบ 3D ระบบรองรับแรงกระแทกที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล “…ด้วยการพัฒนารถเข็นเด็ก Aprica มาอย่างตอเนื่อง […]

รีวิวพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินพร้อมรถเข็นแบบสุดCool (ตอนที่1)

เมื่อต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทางไกลขึ้นเครื่องบินครั้งแรก คุณแม่หลายท่านมักมีคำถามมากมาย เพื่อให้ทุกท่านเตรียมตัวเดินทางได้อย่างสนุกสนานพร้อมรถเข็นคันโปรดคู่ใจ Baby Gift ได้รวบรวมทุกคำตอบไว้ในที่เดียวจบ 1.รถเข็นแบบไหนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้บ้าง จำเป็นต้องพับเล็กๆ หรือมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของรถเข็นหรือไม่? ตอบ เมื่อมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กเดินทางไปพร้อมกัน รถเข็นเด็กทุกขนาด ไม่ว่าจะพับใหญ่พับเล็ก ทั้งหนักและเบา สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนัก แต่รถเข็นต้องสามารถพับได้ (ซึ่งรถเข็นทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่จำหน่ายในปัจจุบันพับได้ทุกคัน) 2. ขั้นตอนการนำรถเข็นขึ้นเครื่องบินแบบ Gate Check ? ตอบ เมื่อนำกระเป๋าขนาดใหญ่ Check in เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องให้แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินว่ามีรถเข็นเด็กมาด้วย และต้องการเข็นไปโหลดที่หน้าประตูเครื่องบิน (หรือเรียกว่า Gate Check) เจ้าหน้าที่จะนำ Tag (หรือป้ายติดกระเป๋า) ติดให้ที่รถเข็นเพื่อป้องกันการสูญหาย เราสามารถเข็นลูกน้อยผ่านพิธีการต่างๆ ไปจนถึงหน้าประตูเครื่องบินตรงจุดที่มีแอร์โฮสเตสยืนต้อนรับ ให้พับรถเข็นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รอรับฝากรถเข็นเพื่อนำลงไปเก็บใต้เครื่อง (ในบางกรณีเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมถุงพลาสติกขนาดใหญ่คลุมให้อย่างดีเพื่อความสะอาดและปลอดภัย) ซึ่งเมื่อถึงที่หมายปลายทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเข็นมาส่งคืนให้ที่หน้าประตูเครื่องบินเหมือนเดิม ในกรณีต่อเครื่อง (Transfer) ก็สามารถรับรถเข็นคืนได้ที่หน้าประตูเครื่องเช่นเดียวกัน 3. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับนำรถเข็นเดินทางขึ้นเครื่องบินหรือไม่ ตอบ ทุกสายการบินอนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 4. ในกรณีที่รถเข็นมีขนาดเล็กและสามารถพับเก็บบนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (Cabin) ได้ จะสามารถนำรถเข็นติดตัวขึ้นไปเก็บบน cabin ในเครื่องบินได้หรือไม่ ? ตอบ รถเข็นบางรุ่นสามารถพับและนำขึ้นเก็บบน Cabinได้ มีความเป็นไปได้ที่ทางสายการบินจะอนุญาติหรืออาจจะปฎิเสธไม่อนุญาติให้นำขึ้นไปเก็บบน […]

10 Functions เด็ด รถเข็นเด็ก Aprica ตัวท็อป

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี หรือน้ำหนัก 2.5 – 15 kg เพื่อความสุขแบบ Double ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สบายกว่า ช่วยให้การเดินทางสำหรับคุณแม่และลูกน้อยเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า Function 1 : ลดแรงสั่นสะเทือนแบบ Double ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกถึง 2 จุด ระบบรองรับแรงกระแทกใต้ที่นั่ง และระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% Function 2 : ระบายอากาศแบบ Double ด้วยเบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น เบาะรองนอน ถักทอด้วยเส้นใย Silky Air มีความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก Function 3 : ลดความอับชื้นแบบ Double ด้วยระบบ DoubleThermo Medical Sysem […]

รีวิวพาลูกน้อยสูดอากาศยามเย็น ด้วยรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia

หลักการง่ายๆในการเลือกรถเข็นเด็ก

เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 1.1 รถเข็นเด็กสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด –  2 ปี 1.2 รถเข็นเด็กสำหรับเด็กประมาณ 7 เดือนนั่งหลังตรงได้แล้ว ถึงประมาณ 3 ปี หรือพวกก้านร่มที่มีน้ำหนักเบาพกพาง่าย วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง

10 วิธีเลือกซื้อรถเข็นเด็กให้ถูกใจ

รถเข็นเด็กเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับพ่อแม่ในการพาลูกเดินเที่ยว ช่วยให้ไม่เมื่อยหรือเสี่ยงต่ออาการปวดหลังของคนอุ้มด้วย ขณะที่ตัวเด็กเองนอกจากจะได้นั่งมองวิว และนอนสบายแล้ว สามารถเล่นของเล่นไปในเวลาเดียวกันได้ด้วย ก่อนเลือกซื้อรถเข็นเด็ก ต้องรู้คุณสมบัติของรถข็นเด็กที่ดีก่อน 1. เบาะรองนอนระบายอากาศ เพราะร่างกายของเด็กทารกมีรูขุมขนขนาดเล็กกว่าของผู้ใหญ่มาก จึงทำให้ร่างกายของเด็กขับเหงื่อออกมามากกว่าผู็หญิงเพื่อระบายความร้อนของร่างกาย จึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่สามารถระบายอากาศได้ดี จึงช่วยลดการเกิดผดผื่น และวคามอับชื้น ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดผื่นคัน เพราะต่อมเหงื่ออุดตันได้ 2. ช่องระบายอากาศด้านหลัง และฉนวนกันความร้อน พื้นถนนมีความร้อนสะสมสูงมาก ความร้อนจะสะท้อนขึ้นมาได้ที่นั่งของรถเข็นเด็ก  รถเข็นเด็กที่มีฉนวนกับความร้อนที่ด้านหลังจะช่วยสะท้อนความร้อนจากพื้นเพื่อลดอุณหภูมิที่บริเวณหลังของเด็ก นอกจากนี้การเพิ่มช่องระบายอากาศด้านหลังยังช่วยระบายเหงื่อลดความอับชื้นช่วยให้เด็กนอนหลับได้สบายตัวมากขึ้น 3. หลังคาบังแดดป้องกัน UV ได้ ควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีหลังคาบังแดดได้อย่างชัดเจน และมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวและดวงตาของลูกน้อย 4. พับกางสะดวก รถเข็นเด็กที่สามารถพับกางและเก็บได้ด้วยมือเดียวจะช่วยให้คุณแม่สะดวกสบายมากขึ้น เพราะสามารถพับหรือกางรถเข็นเด็กได้อย่างง่ายดายแม้ในขณะอุ้มลูกน้อย 5. พับแล้วตั้งกับพื้นได้ รถเข็นเด็กที่พับแล้วยังสามารถได้โดยไม่ล้มกองบนพื้นจะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 6. ไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไปควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกันเพื่อความแข็งแรง เพราะรถเข็นเด็กทั่วไปมักมีชิ้นส่วนต่อเข้าด้วยกันหลายชิ้น เมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับตัวเป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียวและไม่ควรมีข้อต่อที่พับได้จนเล็กเกินไป จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 7. เบาะรถเข็นเด็กถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย สามารถซักทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง และซักในเครื่องซักผ้าได้ และยังตากแห้งได้ง่าย จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขอนามัยที่ดี 8. น้ำหนักเบา รถเข็นเด็กน้ำหนักเบาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง 9. […]

รีวิวรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Magicalair รุ่น Magicalair Highseat และรุ่น Magicalair Plus Highseat

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Magical Air VS Magical Air Highseat VS Magical Air Plus Highseat สำหรับเด็กวัย 7 เดือน – 3 ปี หรือ น้ำหนัก 5-15 kg. เปรียบเทียบรถเข็นเด็ก สำหรับลูกน้อยวัย 7 เดือนขึ้นไป น้ำหนักเบา กระทัดรัด แต่แข็งแรง และคล่องตัว ดีไซน์เท่ห์ สีสะดุดตา มาพร้อมความสบาย ช่วยระบายอากาศได้ดี ช่วยให้คุณพาลูกน้อยเดินทางได้อย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับเจ้าหนูวัยซนของคุณ  

รีวิวเปรียบเทียบรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light กับรุ่น Luxuna CTS

สรุป รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light ดีกว่า>>> มีน้ำหนักที่เบากว่า จึงทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายเดินทาง รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna CTS ดีกว่า>>> ล้อแบบ 3D  Auto 4 Wheels ทำให้ง่ายต่อการเข็นได้ทั้ง 2 ทิศทาง แม้ในที่แคบก็เข็นได้อย่างง่ายดาย สามารถสอบถามได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง ได้ที่ Baby Gift Showroom 10 สาขา ใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ :

รีวิวเปรียบเทียบรถเข็นเด็ก aprica รุ่น Magicalair กับรุ่น Magicalair Plus

เปรียบเทียบรถเข็นเด็กสำหรับเด็ก 7 เดือนขึ้นไป ที่น้ำหนักเบา มีดีไซน์เท่ห์ สะดุดตา พร้อมความสบายระบายอากาศได้ดีสำหรับลูกน้อย เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว       ช่องระบายอากาศที่ด้านหลัง ช่วยระบายความร้อนพร้อมฉนวนสะท้อนความร้อนพิเศษ สามารถสอบถามได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง ได้ที่ Baby Gift Showroom 10 สาขา ใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ :

รีวิวเปรียบเทียบรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นKaroon กับรุ่น Karoon Plus Highseat