คาร์ซีท (carseat) ดีอย่างไร ?

ครอบครัวที่มีรถยนต์ และมีลูกเล็ก ๆ ควรฝึกให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ถึงแม้ว่าคาร์ซีทจะมีราคาค่อนข้างแพง และมั่นใจว่าคุณพ่อหรือคุณแม่นั้นขับรถอย่างปลอดภัยแล้วก็ตาม แต่อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งในขณะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจไม่ทันได้ปกป้องลูกน้อยเลยด้วยซ้ำ อุ้มลูกไว้กับตัวไม่ปลอดภัยจริงหรือ? ถึงแม้คุณแม้จะอุ้มลูกไว้อย่างใกล้ชิด แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลูกอาจบาดเจ็บมากจนถึงขึ้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากลูกจะอยู่ตรงกลางระหว่างรถกับคุณแม่ เมื่อเกิดแรงกระแทก ลูกจะโดนก่อนเต็ม ๆ ซ้ำยังเป็นกันชนช่วยลดแรงกระแทกที่จะมาถึงคุณแม่อีกด้วย กลายเป็นว่าคุณแม่ต่างหากที่ปลอดภัย อย่างนี้แล้วเปลี่ยนใจมาใช้คาร์ซีทกันดีกว่า คาร์ซีทดีอย่างไร? คาร์ซีท carseat มีประโยชน์ช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ และลดการบาดเจ็บของร่างกายลูกได้ เมื่อติดตั้งอย่างถูกวิธี สายรัดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องไม่รัดคอลูกให้อึดอัดและไม่หลวมเกินไป จนเด็กหลุดออกจากคาร์ซีท ไปกับกระแทกกับส่วนต่าง ๆ ของรถ หรือหลุดออกนอกตัวรถ จุดเหมาะที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการติดตั้งคาร์ซีท ควรจะเป็นกึ่งกลาง ของเบาะหลัง หรือบริเวณใกล้เคียงตรงกลางรถให้มากที่สุด เพราะช่วยลดการกระแทกที่เข้ามาด้านข้างรถได้ เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับวัย และน้ำหนักตัวของลูกน้อย เด็กแรกเกิด –  12 เดือน หรือน้ำหนักไม่เกิน 10 kg. ควรใช้คาร์ซีท carseat แบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ และแบบปรับเอนไปกับที่นั่งประมาณ 45 องศา คาร์ซีทชนิดนี้จะปกป้องศีรษะ ช่วงต้นคอ และกระดูกสันหลังของเด็กได้ดีที่สุด เด็กที่มีอายุมากกว่า 1 ปี หรือน้ำหนัก […]

เชื้อ Ecoli คืออะไร

อีโคไล (Ecoli) มีชื่อเต็มๆว่า เอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli)  เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่นทั่วไป จึงตรวจพบได้จากอุจจาระในปริมาณมาก โดยปกติอีมีหลายร้อยสายพันธุ์ พันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงเท่าใด แต่บางสายพันธุ์มีความสามารถในการสร้างโปรตีนที่เป็นพิษทำให้เกิดโรคที่รุนแรง และเป็นอันตรายถึงกับเสียชีวิตได้ หากร่างกายได้รับเชื้อ อีโคไล (Ecoli) จะส่งผลอะไร เชื้ออีโคไล (Ecoli) จะก่อโรคได้เมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยการกินอาหาร และน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้เข้าไป อีโคไลที่เป็นสาเหตุของ “โรคอุจจาระร่วง” ในคนสามารถจำแนกได้เป็นกลุ่มต่างๆ ตามลักษณะการก่อโรค ซึ่งแต่ละกลุ่มประกอบด้วยเชื้ออีโคไลหลายสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติในการก่อโรคแตกต่างกัน และสามารถสร้างสารพิษและปัจจัยในการก่อโรคระบบทางเดินอาหารที่รุนแรง  การระบาดของเชื้อนี้แต่ละปีมีผู้ติดเชื้อนับแสนคน อัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 1 อาการสำคัญ คือ ท้องเสียชนิดอุจจาระมีเลือดปน บางราย มี อาการอุจจาระเป็นมูกเลือด และที่สำคัญคือ โรคนี้ทำให้เกิดภาวะไตวายร่วมด้วยได้บ่อยมาก โดย ทั่วไปคนติดเชื้อโรคนี้จากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกส่วนใหญ่เป็นอาหาร ประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อ จากการดื่มนมวัวที่ดิบ การเล่นน้ำหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคชนิดนี้ และพบว่าเชื้ออีโคไล(Ecoli) สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ รวมทั้งการระบาดในครอบครัวและสถานเลี้ยงเด็กอ่อน การป้องกันการติดเชื้ออีโคไล(Ecoli) อาหารควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก  ส่วนผัก ผลไม้ ต่างๆ ต้องล้าง ด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง  หรือแช่ผัก ผลไม้ในน้ำด่างทับทิม น้ำส้มสายชู ล้างแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ก็จะสามารถชะล้างเชื้อจุลินทรีย์ทุกชนิดที่ปนเปื้อนได้ ป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อโรคให้ผู้อื่นได้ สำหรับภาชนะที่ใส่อาหาร หรือสิ่งของบางอย่างที่เด็กเล็กๆชอบเอาเข้าปาก เช่น ของเล่นเด็ก พวงกุญแจ รีโมททีวี หรือแม้แต่มือถือของคุณพ่อคุณแม่ ที่อาจมีเชื้ออีโคไล(Ecoli) ปนเปื้อนอยู่ […]

รู้ทัน…ป้องกันเชื้อไวรัส สาเหตุอาการเจ็บป่วยที่พบบ่อยในเด็ก

เชื้อไวรัส คือ สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมาก เล็กกว่าแบคทรีเรียหลายเท่า เชื้อไวรัสมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิด สามารถทำให้เกิดโรคในมนุษย์ได้หลายโรค  มนุษย์คือโรงงานผลิตไวรัสออกมาจำนวนมหาศาล ในขณะเดียวกันเซลล์ในร่างกายก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ จึงเกิดอาการของโรคตามมา เมื่อถึงระยะหนึ่งเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส นั้นก็จะตาย หรือถูกทำลายไป ถ้าถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก ก็จะเกิดอาการของโรคขึ้นมาอย่างชัดเจน  เชื้อไวรัสสามารถติดต่อและเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น ทางการหายใจ ส่งผลให้เป็น โรคหวัด , ไข้หวัดใหญ่ ทางตา  ส่งผลให้เป็น  โรคตาแดง ทางปาก  ส่งผลให้เป็น โรคท้องเสีย ท้องร่วง ทางผิวหนัง  ส่งผลให้เป็น โรคอีสุกอีใส ไข้ทรพิษ การถูกยุงกัด ส่งผลให้เป็น ไข้เลือดออก ไวรัสสมองอักเสบ ทางเลือด ส่งผลให้เป็น โรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบ ทางการตั้งครรภ์ (สามารถแพร่เชื้อจากแม่ไปสู่ลูกได้)ส่งผลให้เป็นเชื้อไวรัสHIV , โรคหัดเยอรมัน ทางการถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด ส่งผลให้เป็น โรคกลัวน้ำ โรคพิษสุนัขบ้า 1. การฆ่าเชื้อไวรัส ด้วยความร้อน มีทั้งความร้อนแห้งและความร้อนชื้น ความร้อนแห้งได้แก่ การเผาไฟโดยตรง ใช้ตู้เผาหรือเตาเผา ความร้อนชื้น ได้แก่ การต้ม การนึ่ง โดยทั่วไปการใช้ความร้อน 50-60 องศาเซลเซียล เป็นเวลา 30 นาที […]

6เหตุผลดีๆที่ควรเลือกBabyGift

เมื่อมั่นใจในผลิตภัณฑ์ Aprica Ailebebe สิ่งที่คำนึงถึงคือ ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพราะเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ซื้อแล้วเกิดปัญหาจะแก้ให้เราได้หรือไม่? มีการรับประกันสินค้าหรือไม่? อะไหล่ชำรุดแล้วเปลี่ยนได้หรือไม่? เมื่อเสียแล้วสามารถซ่อมได้หรือไม่? เลือกช๊อปกับ BabyGift มั่นใจ ปลอดภัย100% ไม่เสียใจภายหลัง เพราะเราเป็นตัวแทนจำหน่าย Aprica Ailebebe ที่ถูกต้อง มีการรับประกันสินค้า และพร้อมให้บริการตลอดการใช้งาน ดังนี้ 1.สินค้ามีระยะรับประกัน 1 ปีนับจากวันที่ซื้อสินค้า โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อขยายระยะเวลาประกันสูงสุด 4 ปี สามารถตรวจสอบ อายุการรับประกันคงเหลือสินค้า ได้ที่ www.babygiftservice.com 2.อะไหล่แท้ส่งตรงจากญี่ปุ่นที่มีเฉพาะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น 3.เปลี่ยนฟรีเมื่อคาร์ซีทเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน รับประกัน 4 ปีเต็มเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ และคาร์ซีทที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาแล้ว จะไม่มีความปลอดภัยเพียงพอที่จะนำมาใช้อีก ดังนั้นเพื่อให้คุณมั่นใจว่าลูกน้อยจะได้รับการปกป้อง 100% ตลอดการเดินทาง Baby Gift ยินดีเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ให้ทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันตลอดระยะเวลา 4 ปี 4.ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาที่ผ่านการอบรมจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ให่คำแนะนำการใช้งาน การติดตั้งอย่างถูกวิธี 5.ช่างซ่อมที่มีความชำนาญ ที่ได้รับการอบรมจากศูนย์บริการในต่างประเทศ 6.มีศูนย์บริการใกล้บ้าน ด้วยประสบการณ์ด้านรถเข็นเด็ก คาร์ซีทกว่า 10 […]

เคล็ดลับในการเลือกซื้อคาร์ซีท

การเลือกซื้อคาร์ซีท เคล็ดลับในการเลือกซื้อคาร์ซีท ไม่มีคาร์ซีทตัวไหนที่ที่ดีที่สุดหรือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคน เพราะฉะนั้นการเลือกคาร์ซีทที่ดีควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของเด็ก ติดตั้งได้อย่างถูกต้องและเหมาะกับรถของคุณ และใช้งานอย่างถูกวิธีได้ทุกครั้งที่คุณเดินทาง อย่าตัดสินใจเลือกซื้อจากราคาเพียงอย่างเดียว เพราะราคาที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่าคุณจะได้คาร์ซีทที่ปลอดภัยกว่าหรือใช้ง่ายกว่า หลีกเลี่ยงการใช้คาร์ซีทมือสองที่คุณไม่รู้ประวัติการใช้งานโดยเด็ดขาด และที่สำคัญ ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ที่มีสภาพเก่าเกินไป ควรตรวจดูได้วันที่ผลิตที่ตัวคาร์ซีทหรือสอบถามจากผู้ผลิตว่าคาร์ซีทตัวนี้เป็นรุ่นปีอะไร ยังควรใช้งานอีกหรือไม่ ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีสภาพชำรุด ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ไม่มีชื่อรุ่น วันที่ผลิต หมายเลขรุ่น เพราะถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้กำกับไว้คุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการเรียกคืนคาร์ซีทตัวนั้นเนื่องจากการบกพร่องของผู้ผลิตหรือไม่ ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ไม่มีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย คุณจำเป็นต้องศึกษาการใช้งานอย่างละเอียด ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีส่วนปะกอบและอะไหล่ไม่ครบ คาร์ซีทมือสองส่วนใหญ่มักมีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่สำคัญหายไป ตรวจสอบกับผู้ผลิตให้มั่นใจว่าคาร์ซีทมือสองที่คุณได้รับมานั้นมีอุปกรณ์ต่างๆ ติดมาด้วยอย่างครบถ้วน ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีการถูกเรียกคืนโดยผู้ผลิต คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือติดต่อไปที่ กรมทางหลวง NHTSA โทร 888/327-4236 หรือเว็ปไซต์ NHTSA (เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา) ห้ามใช้คาร์ซีทที่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะปานกลางหรือรุนแรง คาร์ซีทที่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยมาแล้วอาจจะยังใช้งานต่อไปได้ แต่ผู้ผลิตบางรายแนะนำให้ควรเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุแม้จะเป็นแค่อุบัติเหตุเล็กๆ กรมทางหลวงหรือ NHTSA ได้พิจารณาลักษณะการเกิดอุบัติและประเมิณว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยไว้ดังนี้ หากรถที่ประสปอุบัติเหตุยังสามารถใช้งานขับต่อไปได้หลังเกิดอุบัติเหตุ ประตูฝั่งที่ติดกับคาร์ซีทไม่ได้รับความเสียหาย ไม่มีใครในรถได้รับบาดเจ็บ ถุงลมนิรภัยไม่ได้ทำงาน ไม่มีร่องรอยการชำรุดเสียหายของคาร์ซีท แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจว่าควรใช้คาร์ซีทมือสองนั้นหรือไม่ ลองสอบถามไปยังผู้ผลิตโดยตรงจะดีที่สุดค่ะ ***ขอบคุณแหล่งที่มา : เวปไซด์ www.healthychildren.org

คำแนะนำเกี่ยวกับคาร์ซีทมือสอง

คาร์ซีทมือสอง คำแนะนำที่ดีที่สุดคืออย่าซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้เลย คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าคาร์ซีทมือตัวสองนั้นมีประวัติมาอย่างไร อาจจะผ่านการเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายในส่วนที่เรามองไม่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์ซีทมือสองส่วนมากมักจะไม่มีคู่มือการใช้งานให้เราได้ศึกษาวิธีใช้งานอย่างถูกวิธี จึงยากที่จะรู้ว่าเราใช้งานได้อย่างถูกต้องปลอดภัยหรือไม่ คาร์ซีทมือสองส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาขายนั้นมักจะเป็นรุ่นเก่าๆ ที่มีการชำรุดเสียหาย เสื่อมสภาพ  หรือการออกแบบไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน การซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จริงๆ แล้วคาร์ซีทมีหลากหลายราคาให้เลือกซื้อซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่ราคาที่แพงที่สุด ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนในพื้นที่ที่คุณพักอาศัยดูเผื่อเค้าอาจจะทราบว่ามีกิจกรรมลดราคาคาร์ซีทบ้างหรือไม่ (หน่วยงานพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นหน่วยงานในประเทศอังกฤษ) แต่ถ้าคุณมีความจำเป็นต้องใช้คาร์ซีทมือสองจริงๆ ควรใช้คาร์ซีทที่ได้รับต่อมาจากบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนที่คุณสามารถมั่นใจมากว่าคุณทราบประวัติเกี่ยวกับคาร์ซีทตัวนั้นอย่างละเอียด (ประวัติการเรียกคืนจากผู้ขาย การใช้งาน การเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้งานและลักษณะการถูกใช้งานก่อนหน้านี้)  รวมถึงคาร์ซีทนั้นต้องมีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย  และควรเลือกใช้คาร์ซีทที่ไม่เก่าจนเกินไป แต่ที่สำคัญห้ามซื้อจากร้านขายของมือสองหรือคนที่ประกาศขายของมือสองทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์หรือตลาดออนไลน์โดยเด็ดขาด ก่อนที่จะใช้คาร์ซีทมือสอง คุณควรจะ : ตรวจดูสภาพของคาร์ซีทอย่างละเอียดถี่ถ้วน (อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดกับคาร์ซีทนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าได้ทั้งหมด มั่นใจว่ามีคู่มือการใช้งานที่มาจากผู้ผลิตติดมาด้วยทุกครั้ง ขอคำแนะนำจากผู้ผลิตเกี่ยวกับรุ่น ปีที่ผลิต และระยะเวลาที่สามารถใช้งานต่อได้ เลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับน้ำหนักและความสูงของเด็ก ลองติดตั้งคาร์ซีทในรถก่อนซื้อ ถ้าผู้ขายไม่อนุญาติให้คุณลองติดตั้งคาร์ซีทในรถ จงอย่าซื้อ ตรวจสอบว่าคาร์ซีทนั้นรองรับมาตรฐานการผลิต United Nations Standard Regulation 44.04 หรือไม่  โดยสังเกตหาสัญลักษณ์ตัว E หรือ I-Size ทีติดอยู่ที่คาร์ซีท ***ขอบคุณแหล่งที่มา : เว็บไซด์ childcarseats.org.uk

คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กมีอายุการใช้งานนานเท่าไร

คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กมีอายุการใช้งานนานเท่าไร??? ถึงแม้จะไม่ได้มีกฎหมายกำหนดไว้ แต่คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กที่วางขายในประเทศแคนนาดาจะมีการระบุวันที่หมดอายุหรืออายุการใช้งานกำกับไว้ที่คาร์ซีททุกตัว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงอายุการใช้งานของคาร์ซีทและสามารถพิจารณาถึงความเสี่ยงในการใช้คาร์ซีทในกรณีที่คาร์ซีทนั้นอาจมีอายุการใช้งานที่เหลือน้อยกว่าที่ต้องการ    ผู้ปกครองไม่ควรใช้คาร์ซีทที่เลยวันหมดอายุ สำหรับคาร์ซีทที่หมดอายุแล้วควรจะนำไปกำจัดทิ้งอย่างถาวร ไม่ควรนำไปบริจาค ขาย หรือมอบให้เพื่อนและครอบครัวใช้ต่อ ยิ่งไปกว่านั้นตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ยังได้ประกาศไว้ว่า ห้ามทำการโฆษณา จำหน่าย หรือมอบคาร์ซีทที่ผลิตก่อนวันที่ 1 มกราคม 2012 ให้แก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากคาร์ซีทนั้นไม่ได้มาตรฐานการผลิตที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน สาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตระบุวันหมดอายุหรืออายุการใช้งานไว้ที่คาร์ซีท!!! คาร์ซีทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะมีการตากแสงแดดจ้า ทำให้พลาสติกค่อยๆเสื่อมสภาพลง ป้ายเตือนความปลอดภัยจะค่อยๆจางจนอ่านไม่ออก คู่มือการใช้งานสูญหาย อาจมีอาหาร เครื่องดื่ม หรือของเหลว หกใส่อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ เช่น สายรัด หัวเข็มขัด ที่ปรับต่างๆ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เสื่อมสภาพลง ไม่สามารถตรวจสอบประวัติการใช้งานได้ (เช่น คาร์ซีทนั้นอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน หรืออาจถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ทำให้คาร์ซีทเกิดความเสียหายก็เป็นได้) กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคมากขึ้น เจ้าของคาร์ซีทมือสองหรือผู้ที่รับคาร์ซีทมือสองมาใช้ต่ออาจไม่ได้รับการแจ้งจากผู้ผลิตในกรณีที่คาร์ซีทรุ่นนั้นถูกเรียกคืนเพราะเนื่องจากการผลิตบกพร่อง ในประเทศแคนาดา ทุกรัฐและทุกจังหวัดได้มีข้อกำหนดให้ต้องมีการติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กและการติดตั้งบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กโตที่ไว้ในรถยนต์เพื่อความปลอดภัยของเด็กทารกและเด็กเล็ก  หลายๆ จังหวัดได้ออกกฎระเบียบให้เด็กที่มีขนาดตัวเล็กว่าที่จะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้อย่างปลอดภัยต้องใช้คาร์ซีทแม้ว่า เด็กคนนั้นจะมีอายุเกินกว่าเกณฑ์แล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นในบางรัฐยังกำหนดให้มีคาร์ซีทหรือบูซเตอร์ซีทจะใช้งานต้องผ่านการรับรองจาก Canada Motor Vehicle Safety Standards และจะต้องใช้งานให้ต้องตามคู่มือการใช้งานด้วย ถ้าไม่ปฏิบัติตามคู่มือหรือมีการใช้คาร์ซีทที่หมดอายุแล้ว คุณอาจจะทำให้ลูกน้อยของคุณต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตและตัวคุณเองก็จะต้องตกเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน ขอบคุณแหล่งข้อมูล : […]

การใช้คาร์ซีทเก่าหรือคาร์ซีทมือสอง

คาร์ซีทมือสองนั้นหากมองโดยผิวเผินแล้วอาจจะดูน่าสนใจเพราะราคาค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับราคาของใหม่ แต่จะคุ้มค่าจริงหรือเมื่อเทียบกับชีวิตน้อยๆ ของลูกคุณ ข้อคิดนี้รวมถึงคาร์ซีทตัวเก่าที่พี่สาวของคุณให้มาหลังจากที่ลูกของเธอโตเลยวัยแล้ว คาร์ซีทมือสองนั้นไม่เพียงแต่ไม่มีคู่มือการใช้งานติดมาด้วยแล้ว (ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการติดตั้งอย่างถูกวิธี) คุณยังไม่อาจรู้ได้เลยว่าอาจจะมีชิ้นส่วนสำคัญหลุดหายไป หรือคาร์ซีทมือสองนั้นอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายในส่วนที่เรามองไม่เห็น อีกทั้งอาจจะเป็นเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน และอาจเคยถูกเรียกคืนจากความบกพร่องจากการผลิตมาแล้ว ยิ่งกว่านั้นเมื่อคาร์ซีทมีอายุการใช้งานมากขึ้นพลาสติกที่เคยแข็งแรงทนทานก็จะเริ่มเปราะบางและไม่สามารถปกป้องลูกน้อยยามคับขันได้ แต่ถ้าคุณมีจำเป็นที่จะต้องใช้คาร์ซีทมือสองจริงๆ สิ่งที่ควรทำคือ ตรวจสอบให้แน่ใจ่ามีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย มีอุปกรณ์และส่วนประกอบครบถ้วนตามคู่มือ ไม่เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง และ ไม่เคยถูกเรียกลับเพราะเหตุสินค้าบกพร่องจากการผลิต เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจาการเสื่อมสภาพของพลาสติก หน่วยงาน SafetyBeltSafe U.S.A. แนะนำว่า ควรใช้คาร์ซีทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วไม่เกิน 5 ปี หรืออย่างมากสุดไม่เกิน 10 ปี คุณควรสามารถตรวจสอบได้จากวันหมดอายุที่ระบุไว้บนคาร์ซีท ขอบคุณแหล่งข้อมูล : www.babycenter.com สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง

รีวิวตู้อบแห้งฆ่าเชื้อด้วยUV Prince&Princess Gen1 VS Gen2

 ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ Prince&Princess Baby UV Sterilizer Gen1 VS Gen2 นวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลลูกน้อยให้พ้นจากเชื้อโรค มาตรฐานความสะอาดที่เหนือกว่าจากประเทศเกาหลี ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก Baby Gift โดยเฉพาะอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องมีใช้กันทุกบ้าน กับตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ Prince&Prince Baby UV Sterilizer ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก “เพราะเชื้อโรคมีขนาดเล็กและซ่อนตัวอยู่ในสิ่งของต่างๆรอบตัวเรา เด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรง จึงมีโอกาสเจ็บป่วย จากการสัมผัสสิ่งปนเปื้อนในของเล่นและของใช้ได้ง่าย การดูแลความสะอาดเพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง” และเพื่อปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการและความเหมาะสมกับการใช้งานที่เหมาะกับคนไทยให้มากที่สุด ทาง Baby Gift จึงทำให้เกิด NEW!!! ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ Prince&Prince Baby UV Sterilizer GEN2 ซึ่งมีความเหมือนและแตกต่างกันกับGEN1 อย่างไร เราจึงนำมาเปรียบเทียบกันให้เห็นอย่างชัดเจน ส่วนประกอบพื้นฐาน และรายละเอียดตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ Prince&Prince Baby UV Sterilizer เหมือนกัน สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.9 % เหมือนกัน แบ่งการทำงานเป็น 3 รูปแบบ แตกต่างกันที่ขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงาน