การเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็ก

ปัจจุบันมีคาร์ซีทให้เลือกมากมายหลายประเภท จึงควรใช้เวลาในการเลือก และต้องเลือกคาร์ซีทที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ คาร์ซีทต้องมีป้ายเครื่องหมาย E ซึ่งแสดงว่า ผ่านมาตรฐานของสหประชาชาติ, ECE Regulation 04 หรือ R 44.03 เลือกประเภทคาร์ซีทให้เหมาะสมกับน้ำหนักและขนาดตัวของเด็ก และต้องติดตั้งได้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิต ตรวจสอบประเภทของคาร์ซีทให้เหมาะสมกับน้ำหนักและความสูงของเด็ก ศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ แคตตาล็อก จากร้านค้าที่จำหน่ายคาร์ซีท เป็นข้อมูลพิจารณาเลือกคาร์ซีทรุ่นที่ตรงความต้องการ ลองคิดดูว่าคุณจะใช้คาร์ซีทอย่างไร ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องนำคาร์ซีทเข้าและออกจากรถบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องอาจจะต้องเลือกคาร์ซีทมีที่นั่งน้ำหนักเบา หรือหากคุณเดินทางเป็นระยะทางไกลๆ คาร์ซีทที่ปรับเอนนอนได้สบายก็จะช่วยให้เด็กได้ผ่อนคลาย รู้สึกสบายและช่วยให้เด็กหลับได้อย่างสบาย ตรวจสอบว่าคาร์ซีทที่กำลังตัดสินใจจะซื้อ สามารถติดตั้งกับรถยนต์ของคุณได้แน่นอน ( การติดตั้งมี 2 ระบบ ระบบเข็มขัดนิรภัย , ระบบISOFIX) สอบถามกับผู้ขายว่าคาร์ซีทเหมาะกับเด็กและรถของคุณหรือไม่ หรือลองหาคนที่จะช่วยให้คุณลองติดตั้งคาร์ซีทที่รถก่อนที่จะซื้อ ตรวจสอบว่า พนักงานขายได้รับการฝึกอบรมในการเลือกและติดตั้งคาร์ซีท จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง เพื่อให้ได้รับคำแนะนำจากพนักงานขายที่ได้รับการฝึกอบรมมาแล้วอย่างถูกต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถคืนคาร์ซีทหรือเปลี่ยนหรือขอรับเงินคืนได้ หากไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ตรวจสอบว่าคาร์ซีทมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด 44.04 ของสหประชาชาติหรือค้นหาเครื่องหมาย ‘E’ หรือเป็นไปตามมาตรฐาน i-size ใหม่ (R129) อย่าซื้อคาร๋ซีทมือสอง เพราะคุณไม่สามารถมั่นใจในประวัติของมันได้ อาจเป็นคาร์ซีทที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว […]

คาร์ซีท หมุนได้ 360 องศา ดีอย่างไร ? จำเป็นหรือไม่ ?

นี่เป็นคำถามที่ค้างคาใจคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆ ท่าน ที่กำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อคาร์ซีทซักตัวให้ลูก อาจจะเคยได้รับทราบมาบ้างว่าคาร์ซีทบางรุ่นมีฟังก์ชั่นพิเศษคือการหมุนได้ ซึ่งก็อาจจสงสัยว่าทำไมต้องหมุนได้ แล้วถ้าหมุนได้จะดีอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่? การใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 9 เดือน จะต้องติดตั้งหันหน้าไปด้านหลังของรถ (Rear-Facing) เพื่อความปลอดภัย ลองจินตนาการเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนจะหยุดอย่างกระทันหัน แรงต้านของรถในขณะหยุดนี้จะส่งผลให้ศีรษะ คอ หลัง ของผู้โดยสารที่นั่งในทิศทางปกติพุ่งตัวไปด้านหน้ารถ  การติดตั้งคาร์ซีทหันไปด้านหลังรถซึ่งสวนทางกับผู้ใหญ่ลักษณะนี้จะช่วยรองรับศีรษะ คอ หลังของเด็กที่ยังไม่แข็งแรงได้ดีกว่า ทำให้ลดการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี เรียกว่า Infant Carrier Seats หรือ คาร์ซีทแบบกระเช้า ซึ่งบางยี่ห้อจะขายเป็นลักษณะคล้ายแปลหิ้วแบบ Travel set รวมกับชุดรถเข็นเลยก็มี โดยคาร์ซีทแบบกระเช้าอาจใช้ได้ถึงอายุ 6 เดือน หรือ 9 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนักของเด็กด้วย เมื่อทารกก้าวเข้าสู่วัย 9 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มหัดยืนนั้น กระดูกสันหลังของเด็กเริ่มพัฒนาให้แข็งแรงมากขึ้น เราจึงปรับเปลี่ยนคาร์ซีทให้ติดตั้งในทิศทางที่หันไปด้านหน้ารถ Forward-facing child seats คือ คาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ เหมาะกับเด็กที่มีอายุมากกว่า 9 เดือน มีน้ำหนักตัวเกิน […]

รีวิวประสบการณ์จริงจากลูกค้าที่เข้ารับบริการหลังการขาย

ความใส่ใจดูแล คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะรถเข็นเด็ก คาร์ซีทต้องได้รับการดูแลรักษาให้มีสภาพพร้อมใช้ตลอดเวลา การบริการหลังการขายจึงป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเสมอ ไม่ว่าจะเป็นบริการซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่แท้โดยตรงจากญี่ปุ่น แต่ก็มีบ้างที่อาจจะเกิดปัญหาที่เกินกว่าเราจะดูแลไหว แต่ไม่ว่าจะงานยากงานง่าย เราให้ความใส่ใจดูแลคุณพ่อคุณแม่ทุกคนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพอย่างเต็มที่ บริการให้คำปรึกษาการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และการใช้งานที่ถูกต้อง ตอกย้ำความประทับใจกับผลิตภัณฑ์เด็กที่ดีมีคุณภาพที่แบรนด์ที่เราคัดสรรมาอย่างดี พนักงานทุกคนพร้อมให้บริการด้วยความเต็มใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการต่างๆ ได้ที่ Baby Gift Showroom 10 สาขา ใกล้บ้าน Call Center : 086-381-7175

ช้อปคาร์ซีทอย่างไรให้โดนใจ พร้อมปลอดภัยทุกการเดินทาง

   การเลือกซื้อคาร์ซีทที่ถูกต้องและเหมาะสมกับลูกรักมีรายละเอียดมากมาย วันนี้BabyGift ขอรวบรวมมาเพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาคาร์ซีทที่ตรงตามความต้องการให้กับคุณหนูๆ กันนะคะ 1. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับพัฒนาการและความต้องการของลูกน้อยในแต่ละวัย คาร์ซีทสำหรับแต่ละช่วงวัย แบ่งได้ตาม อายุ ขนาด และน้ำหนักของเด็กที่แนะนำโดยผู้ผลิต แต่ด้วยเหตุที่เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ไม่เหมือนกัน บางคนอายุมากแต่น้ำหนักตัวน้อยหรือไม่สูง ในขณะที่เด็กบางคนอายุน้อยแต่สูงหรือผอมดังนั้นจึงควรเลือกดูจากน้ำหนักและความสูงของลูกเป็นหลัก เพื่อประกอบการตัดสินใจ คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ตามการใช้งานโดยแต่ละแบบ มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน แบบกระเช้า ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 12 เดือน หรือน้ำหนัก 2.5 – 11 kg. และถึง 18 เดือน หรือน้ำหนัก 13 kg. ขึ้นอยู่กับรุ่น บูสเตอร์ซีทเพื่อรองรับการเจริญเติบโตในระยะยาว สำหรับเด็กเริ่มเข้าสู่วัยเรียน บูสเตอร์จะเป็นแบบมีเฉพาะเบาะรองนั่งเพียงอย่างเดียวใช้ได้ สำหรับวัยตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป 2. การเลือกตามความต้องการเฉพาะแต่ละครอบครัว เช่น บางครอบครัวในช่วงแรกเดินทางบ่อยและเป็นเวลานาน อาจต้องการคาร์ซีทที่สามารถปรับนอนราบได้เพื่อความสบายสูงสุดของลูกน้อย ในขณะที่บางครอบครัวอาจมีงบประมาณที่จำกัด การเลือกคาร์ซีทที่ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด- 7 ปีน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่บางครอบครัวเน้นความสะดวกสบาย […]

รีวิวเปรียบเทียบคาร์ซีท Ailebebe รุ่นSwingMoon Series

คาร์ซีท Ailebebe รุ่น Swingmoon Series คาร์ซีทสำหรับเด็กเริ่มเข้าวัยเรียนรู้ ช่วงวัย 1 – 7 ปี หรือน้ำหนัก 9 – 25 kg. ที่ให้ความสบายและปลอดภัยสูงสุด (คาร์ซีท Ailebebe รุ่น Swing Moon Premium S Natural ,รุ่น Swing Moon STD) คาร์ซีทสำหรับเด็กวัย 1 – 7 ปี ปรับใช้งานได้ 2 รูปแบบตามช่วงวัย – Child Style ช่วงวัย 1-4 ปี ใช้เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ล็อคตัวคาร์ซีท และเข็มขัดนิรภัยคาร์ซีทล็อคตัวลูกน้อยเพื่อความปลอดภัย – Junior Style ช่วงวัย 3-7 ปี ใช้เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ล็อคตัวลูกน้อยเพื่อความปลอดภัยได้เลย เพราะด้วยน้ำหนักเด็กที่มากพอที่จะช่วยกดทับคาร์ซีทให้อยู่อย่างมั่นคงได้ เทคนิคการเลือกคาร์ซีท : ควรเลือกที่เหมาะกับน้ำหนักตัว […]

เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางด้วยคาร์ซีท

คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ จำเป็นต้องเดินทางอยู่บ่อยๆ และการที่จะพาลูกน้อยเดินทางไปด้วย โดยเฉพาะครอบครัวที่เพิ่งมีลูกเล็ก การดูแลในการเตรียมความพร้อมสำหรับเดินทางให้ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง คาร์ซีท Carseat จึงเป็นตัวช่วยหนึ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางอยุ่บ่อยๆ ค่ะ เทคนิคการเลือกซื้อคาร์ซีท Car seat แนะนำโดยคุณอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ เจ้าของร้าน Baby Gift  ช่วงวัย เลือกคาร์ซีทตามวัยของลูก เพราะคาร์ซีทจะแบ่งตามเกณฑ์อายุของเด็ก ซึ่งบางตัวอาจจะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด หรือตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 เดือน, แรกเกิดจนถึง 4 ปี หรือ 3 ปี ถึง 11 ปี เป็นต้น การเลือก คาร์ซีท Car seat ที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี เบาะควรมีความนุ่มหยุ่นมากพอสมควร รูปทรง รูปทรงที่ดี จะต้องสามารถรองรับสรีระของเด็กได้ อย่างเช่น carseat ของเด็กวัยแรกเกิด ควรมีการปรับองศาในการนอนที่มากพอ เพราะเด็กวัยนี้กระดูกต้นคอ และกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง คุณสมบัติของผ้าที่ห่อหุ้ม ควรมีคุณสมบัติที่ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น คุณสมบัติคาร์ซีท Aprica รุ่น marshmellow(ปัจจุบันไม่มีจำหน่ายแล้ว) ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 4 ปี สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามสรีระของเด็ก โดยทั่วไปแล้ว คาร์ซีทจะไม่มีขาค้ำ […]

วิธีการเลือกคาร์ซีท

การเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณทำไมถึงต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยจึงจำเป็นต่อคุณและลูกน้อยล่ะ? หลายประเทศได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของคาร์ซีท carseat สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบ เนื่องจากคุณจะต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจร และหากคุณเดินทางพร้อมกับลูกน้อย โดยที่คุณจะต้องอุ้มลูกไว้ที่ตัก ก็อาจจะมีโอกาสที่คุณไม่สามารถที่จะอุ้มลูกได้อย่างมั่นคงและเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกของคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสูงค่ะ ดังนั้นการมีคาร์ซีท ที่ปลอดภัยในรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ ทั้งนี้พึงระวังไว้ว่าการใช้คาร์ชีทที่ไม่ถูกต้อง อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่เด็กมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณควรต้องเลือกใช้คาร์ซีท carseat ให้ถูกต้องพร้อมกับศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยนะค่ะ หากไม่มีคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแล้ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จากสถิติได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบนั่งบนรถยนต์ที่ปราศจากคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยและประสบอุบัติเหตุ อัตราการเสียชีวิตจะมากกว่าการนั่งบนรถยนต์ที่ติดตั้งคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยถึง 4 เท่า ***ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานคาร์ซีท carseat ไม่ถูกวิธี จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 โดยองค์การทางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ( Japan Automobile Federation :JAF) เกี่ยวกับการใช้งาน คาร์ซีท carseat พบว่า 32.7 % ของคาร์ซีท carseat ที่ใช้งานนั้นติดตั้งอย่างไม่แน่นหนา ขณะที่อีก 67.3 % นั้นถูกพบว่ายังใช้งานได้ไม่ถูกต้องนัก ไม่ว่าจะเป็นการรัดสะโพกที่หลวมเกินไป หรือ การใช้งานที่หัวเข็มขัดที่ใช้ยึดที่นั่งไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกใช้คาร์ซีท carseat ที่ถูกต้องแล้ว แต่หากการใช้งานไม่ถูกวิธีก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีทให้ถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคาร์ซีท […]

ทำไมถึงต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีท?

“นั่งคาร์ซีทแบบใหม่ ลูกปลอดภัยกว่าเดิม ให้เด็กหันหน้าไปด้านหลัง ลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ” พ่อแม่ในอังกฤษต่างพากันตื่นตัว เมื่อทีมแพทย์แนะนำให้ลูกนั่งเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีท จากการศึกษาลักษณะการติดตั้งของคาร์ซีทที่ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น ทีมแพทย์เผยว่า การที่ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ มีความปลอดภัยมากกว่า ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสมกับเด็กแรกเกิดถึง 4 ปีเท่านั้น

พวกเรารักคาร์ซีท!!!

ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆเรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ”  ของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย สร้างความผูกพันกับเก้าอี้ อนุญาตให้ลูกเอาสติ๊กเกอร์มาตกแต่งเก้าอี้ เอาให้ถูกใจเลยเพราะต้องนั่งไปอีกนาน มอบรางวัล บอกลูกว่า เราจะออกเดินทางได้ก็ต่อเมื่อล็อกสายรัดนิรภัยเรียบร้อย แล้วลูกจะรีบทำตัวน่ารักเพราะอยากไปเที่ยว แต่ถ้ากำลังพาไปหาหมอ อาจให้ขนมเป็นรางวัลได้ เบี่ยงเบนความสนใจ ถ้าโยเยนัก ชวนคุยเรื่องการ์ตูนที่ลูกกำลังอินดีกว่า แค่นี้ก็เผลอจดจ่อกับการโม้เรื่องเจ้าหญิงกับฮีโร่ จนไม่ทันสังเกตว่า ตัวเองถูกจับนั่งเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว (มุกนี้ไม่เหนื่อย แถมสนุกดีด้วย) เตรียมของเล่นแก้เบื่อ ควรมีของเล่นชิ้นโปรดอยู่ในรถ แนะนำว่าควรเป็นของเบาๆ และไม่แข็ง เช่น หนังสือผ้า เพราะคุณอาจโดนลูกเอาของในมือปาใส่ขณะขับรถ หรือเลือกเปิดเพลงที่ลูกชอบแล้วร้องไปด้วยกันก็ได้ หยุดพักบ้าง หากต้องเดินทางไกลควรเลือกใช้เก้าอี้ปรับนอนเอนได้ และจอดพักสักครู่เพื่อให้ลูกได้ยืดเส้นยืดสาย เคล็ดลับก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท อายุ ประเภทของคาร์ซีท […]

โครงการ”รักลูกให้รอดปลอดภัยเมื่อใช้รถ”

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข กรมทางหลวง กองบังคับการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สสส และ คุณแทนคุณ จิตต์อิสระ จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในแต่ละปีจะมีเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี ประสบอุบัติเหตุจากการโดยสารรถยนต์ รถปิกอัพ หรือรถตู้ กว่า 5500 รายต่อปีหรือ 15 คนต่อวัน   เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องการการนอนพักรักษาตัวหรือสังเกตุอาการในโรงพยาบาลประมาณ 1400 คนต่อปี และเสียชีวิต รวมประมาณ 70คนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นรถปิกอัพกว่า 1190 ราย และรถยนต์ทั่วไปอีก 170 ราย ในช่วง 10 วันของเทศกาลสงกรานต์ จะมีเด็กบาดเจ็บจากอุบติเหตุทางถนนประมาณ 1100 ราย เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่เกิดจากการโดยสารรถยนต์ รถตู้ รถปิกอัพ ประมาณ 132 ราย ในจำนวนนี้มีการเสียชีวิตจำนวน 6 ราย เมื่อรถยนต์ มีการเบรกอย่างกะทันหัน หักเลี้ยวอย่างฉับพลัน หรือชนอย่างรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีก็คือ…ร่างของเด็กๆจะหลุดลอยจากที่นั่ง ไปอัดกับแผงคอนโซลหน้ารถ ปะทะกับกระจกหน้ารถ แล้วทะลุลอยละลิ่วออกนอกรถ หรือประตูรถเปิดออก แล้วเด็กกระเด็นออกไปนอกรถ ด้วยรูปร่างเล็กบอบบางของเด็กๆ จึงทำให้…กระโหลกศีรษะ กระดูกซี่โครง แขนขา แตกหัก ปอด หัวใจ รวมทั้งอวัยวะภายในช่องท้องต้องชอกช้ำ หรือ ฉีกขาดโดยเฉพาะศีรษะของเด็กๆ ที่กระแทกอย่างรุนแรง ทำให้มีเลือดออกในสมอง เป็นเหตุแห่งความพิการ หรือ เสียชีวิต… […]