เคล็ดลับในการดูแลดวงตาลูกน้อย

ใช้ดวงตาให้ถูกวิธี เด็กๆไม่ควรใช้สายตาจับจ้องเป็นเวลานาน เช่น การอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นเกม ดูโทรทัศน์นานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะการดูใกล้ ก็ถือว่าเป็นการใช้สายตามากเกินไป หรือเวลาอ่านหนังสือ ก็ควรอ่านในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพราะหากใช้สายตามาก ใช้สายตาผิดวิธี ก็อาจทำให้สายตาผิดปกติได้เร็วขึ้น ตรวจสายตา หากมีอะไรผิดปกติหรือสงสัยว่าดวงตาของลูกจะมีปัญหา เช่น ตาดำดูผิดปกติ, ตาลูกเหล่ (เป็นบางครั้งหรือว่าบางเวลา), หนังตาข้างใดข้างหนึ่งตกลงโดยเฉพาะภาวะติดเชื้อ มีขี้ตาสีเหลืองหรือสีเหลืองปนเขียวหรือหนังตาบวมแดงร่วมด้วย อาจมาจากฝุ่นละอองในอากาศ ไม่ควรนิ่งนอนใจรีบไปพบคุณหมอทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นค่ะ งดซื้อยาใช้เอง ดวงตามีเนื้อเยื่อที่บอบบาง (ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย) ดังนั้น การใช้ยากับเด็กต้องปรึกษาคุณหมอ และระมัดระวัง อย่างมาก เช่น การใช้ยาหยอดตา คุณแม่ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยอดตา และขณะที่หยอดต้องระวังไม่ให้หยด แตะกับตาหรือขนตา เมื่อเปิดใช้แล้ว ควรเก็บยาไว้ในที่เย็นในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน สิ่งสำคัญคือไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่นนะคะ ดูแลให้ถูกวิธี การหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด ทั้งเครื่องนอน และอุปกรณ์ ต่างๆที่ดวงตาลูกน้อยอาจสัมผัสได้ เช่น เปลี่ยนผ้ารองที่นอน หมอนที่ลูกหนุน หรือสังเกตว่า ดวงตาลูกมีขี้ตาออกมา ให้ทำความสะอาดโดยใช้สำลีชุบ น้ำต้มสุกอุ่น […]

5 นิสัยทั่วไปที่ทำร้ายดวงตาของคุณ

คุณใช้ดวงตาของคุณสำหรับการทำงานแทบนับไม่ถ้วนในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยคิดถึงความสำคัญของดวงตาในสิ่งที่มันเป็นจริงๆ ซึ่งในความเป็นจริงผู้ปกครองจำนวนมากและเด็ก ๆ ดูเหมือนจะไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับดวงตาของพวกเขานัก หากคุณมีพฤติกรรมผิดๆ ดัง 5 พฤติกรรมต่อไปนี้ คุณอาจจะทำลายสุขภาพตาที่ดีของคุณเองอย่างถาวรได้ ดังนี้คือ การใช้ยาหยอดตามากเกินไป ยาหยอดตาช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัวเพื่อลดรอยแดงในดวงตา แต่น่าเสียดายที่ผลลัพธ์นี้จะมีผลภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นมันจะอยุดทำงานและทำให้ดวงตาของคุณแดงมากขึ้นมากกว่าที่เคยเป็นตั้งแต่แรก เตือนโดย สถาบันวิชาการจักษุวิทยาอเมริกัน ละเลยการสวมใส่แว่นตากันลม คุณควรสวมใส่แว่นตากันลมไม่เฉพาะแค่เพียงตอนว่ายน้ำเท่านั้น แว่นสายตาที่ช่วยป้องกันฝุ่นละอองถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การตัดหญ้าในสนามหญ้า, การใช้สารเคมีและการซ่อมแซมที่อาจมีเศษผงและอนุภาคเล็กๆ ต่างๆผ่านเข้ามากระทบกับกระจกตาของคุณได้ ละเลยการตรวจวัดสายตา ผู้คนจำนวนมากละเลยการตรวจวัดสายตาตามปกติ ถ้าพวกเขาไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาหรือการมองเห็น ทางสถาบัน Planet Vision ได้กล่าวไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจะช่วยให้เราทราบถึงสภาวะเริ่มต้นของสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับสายตาของเรา ก่อนที่มันจะแสดงอาการให้เห็นอย่างชัดเจนโดยจะให้การบำบัดรักษาหรือคำแนะนำเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายหรืออันตรายแบบถาวร การใช้อุปกรณ์ดิจิตอลมากเกินไป ถึงแม้ว่าอุปกรณ์ดิจิตอลจะดูเหมือนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ แต่มันก็ไม่จำเป็นที่คนเราต้องใช้เวลาอยู่ที่หน้าจอมากเกินไป ปกป้องดวงตาของคุณ โดยปฎิบัติตามกฏ 20-20-20ซึ่งให้คำแนะนำโดย สถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาและหู แปซิฟิก ดังนี้คือ ทุกๆ 20 นาที ให้มองสิ่งใดก็ได้ที่อยู่ห่างจากตัวเราออกไปประมาณ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที ลืมที่จะสวมใส่แว่นกันแดด คนส่วนใหญ่ตระหนักถึงอันตรายของรังสี UV ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผิวของเรา แต่ไม่สนใจสิ่งที่มันจะมีผลกระทบต่อดวงตาของเราเช่นกัน การละเลยที่จะสวมใส่แว่นกันแดด สามารถนำความเสียหายให้เกิดขึ้นกับโครงสร้างเซลล์ผิวรอบดวงตาภายนอกและต่อโครงสร้างของเซลล์ที่อยู่ลึกภายในดวงตาของคุณได้ เตือนโดย สถาบันจักษุแห่งชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาสู่สภาวะของการเกิดจอประสาทตาเสื่อม,ต้อเนื้อและต้อกระจก ได้ในอนาคต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกๆ ของคุณสวมใส่แว่นตากันแดดเสมอ โดยการเลือกซื้อแว่นกันแดดตามสไตล์และเฉดสีที่พวกเขาชอบ เพื่อให้พวกเขาสวมใส่ตลอดช่วงฤดูร้อน โดยสามารถเข้าไปชมและเลือกซื้อสินค้า ได้ที่  “the full collection of […]

เคล็ดลับง่ายๆ ถนอมสายตาลูกรัก

สำหรับหนูน้อยที่ใส่แว่นตาเพราะเกิดจากสายตาสั้นนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจต้องดับเบิ้ลเอาใจใส่ดูแลเรื่องสายตามากเป็นพิเศษหน่อยค่ะ เพื่อถนอมสายตาของลูกเลิฟให้อยู่กับเขาอย่างมีคุณภาพไปนานที่สุด ด้วยการ… เสริมวิตามิน นอกจากวิตามินเอ ที่เกี่ยวข้องกับสายตา อย่างที่เราเข้าใจอยู่แล้ว ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ค้นคว้าพบว่าวิตามินบี 1 และวิตามินอี ก็มีคุณสมบัติช่วยบำรุงเรื่องตาได้เป็นอย่างดี โดยพบมากจาก ตับ นม ถั่วลิสง ถั่วต่าง ๆ ไข่แดง ข้าวซ้อมมือ เต้าหู้ เนื้อหมู งา กระเทียม และสาหร่าย ตรวจสายตาสม่ำเสมอ อย่างน้อยควรพาหนูน้อยไปตรวจวัดสายตาปีละ 1 ครั้ง หลีกเลี่ยงที่ที่มีแสงสว่างมาก หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรหาแว่นตาสีชา เพื่อลดความแรงของแสงที่อาจทำอันตรายต่อตา ล้างมือให้สะอาดเป็นนิสัย เพื่อป้องกันเชื้อโรค รวมทั้งเชื้อราไม่ให้เข้ามาทำอันตรายลูกตา ไม่ควรล้างตาเป็นประจำ น้ำตาของคนเราจะไหลล้างชำระอยู่ตลอดเวลา น้ำตาเป็นน้ำสะอาด โดยภายในมีสารฆ่าเชื้อโรคอยู่แล้ว การล้างตาจะทำให้ความเข้มข้นของน้ำตาอ่อนลง ยาล้างตาบางชนิดอาจมีความสมดุลของกรด-ด่างไม่พอเหมาะ ถ้ามีมากไปจะรบกวนลูกตา การล้างตาควรทำเมื่อต้องการล้างเอาผงหรือขี้ตา หรือสิ่งสกปรกอื่นออกเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกลอกตาไป – มา เพื่อออกกำลังกายให้ลูกตา เพราะโดยปกติแล้วกล้ามเนื้อกลอกตาทำงานหนักอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่เราตื่น ควรพักสายตาด้วยการหลับตาหรือมองทิวทัศน์ไกล ๆ จะดีกว่าค่ะ ควรมีการจัดแสงให้สว่างเหมาะสมและเพียงพอ เวลาอ่าน – เขียนหนังสือ หรือการดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์ ควรดูหรือเล่นในที่มีแสงสว่าง เพราะแสงสว่างที่เกิดขึ้นจากอิเล็กตรอนวิ่งมากระทบจอภาพนั้น ลูกตาสามารถดูได้โดยไม่ต้องปรับสายตาต่อความมืด […]