เคล็ดลับในการเลือกซื้อคาร์ซีท

การเลือกซื้อคาร์ซีท เคล็ดลับในการเลือกซื้อคาร์ซีท ไม่มีคาร์ซีทตัวไหนที่ที่ดีที่สุดหรือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคน เพราะฉะนั้นการเลือกคาร์ซีทที่ดีควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของเด็ก ติดตั้งได้อย่างถูกต้องและเหมาะกับรถของคุณ และใช้งานอย่างถูกวิธีได้ทุกครั้งที่คุณเดินทาง อย่าตัดสินใจเลือกซื้อจากราคาเพียงอย่างเดียว เพราะราคาที่แพงกว่าไม่ได้แปลว่าคุณจะได้คาร์ซีทที่ปลอดภัยกว่าหรือใช้ง่ายกว่า หลีกเลี่ยงการใช้คาร์ซีทมือสองที่คุณไม่รู้ประวัติการใช้งานโดยเด็ดขาด และที่สำคัญ ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ที่มีสภาพเก่าเกินไป ควรตรวจดูได้วันที่ผลิตที่ตัวคาร์ซีทหรือสอบถามจากผู้ผลิตว่าคาร์ซีทตัวนี้เป็นรุ่นปีอะไร ยังควรใช้งานอีกหรือไม่ ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีสภาพชำรุด ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ไม่มีชื่อรุ่น วันที่ผลิต หมายเลขรุ่น เพราะถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้กำกับไว้คุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการเรียกคืนคาร์ซีทตัวนั้นเนื่องจากการบกพร่องของผู้ผลิตหรือไม่ ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่ไม่มีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย คุณจำเป็นต้องศึกษาการใช้งานอย่างละเอียด ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีส่วนปะกอบและอะไหล่ไม่ครบ คาร์ซีทมือสองส่วนใหญ่มักมีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่สำคัญหายไป ตรวจสอบกับผู้ผลิตให้มั่นใจว่าคาร์ซีทมือสองที่คุณได้รับมานั้นมีอุปกรณ์ต่างๆ ติดมาด้วยอย่างครบถ้วน ไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีการถูกเรียกคืนโดยผู้ผลิต คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือติดต่อไปที่ กรมทางหลวง NHTSA โทร 888/327-4236 หรือเว็ปไซต์ NHTSA (เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา) ห้ามใช้คาร์ซีทที่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะปานกลางหรือรุนแรง คาร์ซีทที่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยมาแล้วอาจจะยังใช้งานต่อไปได้ แต่ผู้ผลิตบางรายแนะนำให้ควรเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุแม้จะเป็นแค่อุบัติเหตุเล็กๆ กรมทางหลวงหรือ NHTSA ได้พิจารณาลักษณะการเกิดอุบัติและประเมิณว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยไว้ดังนี้ หากรถที่ประสปอุบัติเหตุยังสามารถใช้งานขับต่อไปได้หลังเกิดอุบัติเหตุ ประตูฝั่งที่ติดกับคาร์ซีทไม่ได้รับความเสียหาย ไม่มีใครในรถได้รับบาดเจ็บ ถุงลมนิรภัยไม่ได้ทำงาน ไม่มีร่องรอยการชำรุดเสียหายของคาร์ซีท แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจว่าควรใช้คาร์ซีทมือสองนั้นหรือไม่ ลองสอบถามไปยังผู้ผลิตโดยตรงจะดีที่สุดค่ะ ***ขอบคุณแหล่งที่มา : เวปไซด์ www.healthychildren.org

คำแนะนำเกี่ยวกับคาร์ซีทมือสอง

คาร์ซีทมือสอง คำแนะนำที่ดีที่สุดคืออย่าซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้เลย คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าคาร์ซีทมือตัวสองนั้นมีประวัติมาอย่างไร อาจจะผ่านการเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายในส่วนที่เรามองไม่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์ซีทมือสองส่วนมากมักจะไม่มีคู่มือการใช้งานให้เราได้ศึกษาวิธีใช้งานอย่างถูกวิธี จึงยากที่จะรู้ว่าเราใช้งานได้อย่างถูกต้องปลอดภัยหรือไม่ คาร์ซีทมือสองส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาขายนั้นมักจะเป็นรุ่นเก่าๆ ที่มีการชำรุดเสียหาย เสื่อมสภาพ  หรือการออกแบบไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน การซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จริงๆ แล้วคาร์ซีทมีหลากหลายราคาให้เลือกซื้อซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่ราคาที่แพงที่สุด ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนในพื้นที่ที่คุณพักอาศัยดูเผื่อเค้าอาจจะทราบว่ามีกิจกรรมลดราคาคาร์ซีทบ้างหรือไม่ (หน่วยงานพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นหน่วยงานในประเทศอังกฤษ) แต่ถ้าคุณมีความจำเป็นต้องใช้คาร์ซีทมือสองจริงๆ ควรใช้คาร์ซีทที่ได้รับต่อมาจากบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนที่คุณสามารถมั่นใจมากว่าคุณทราบประวัติเกี่ยวกับคาร์ซีทตัวนั้นอย่างละเอียด (ประวัติการเรียกคืนจากผู้ขาย การใช้งาน การเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้งานและลักษณะการถูกใช้งานก่อนหน้านี้)  รวมถึงคาร์ซีทนั้นต้องมีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย  และควรเลือกใช้คาร์ซีทที่ไม่เก่าจนเกินไป แต่ที่สำคัญห้ามซื้อจากร้านขายของมือสองหรือคนที่ประกาศขายของมือสองทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์หรือตลาดออนไลน์โดยเด็ดขาด ก่อนที่จะใช้คาร์ซีทมือสอง คุณควรจะ : ตรวจดูสภาพของคาร์ซีทอย่างละเอียดถี่ถ้วน (อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดกับคาร์ซีทนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าได้ทั้งหมด มั่นใจว่ามีคู่มือการใช้งานที่มาจากผู้ผลิตติดมาด้วยทุกครั้ง ขอคำแนะนำจากผู้ผลิตเกี่ยวกับรุ่น ปีที่ผลิต และระยะเวลาที่สามารถใช้งานต่อได้ เลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับน้ำหนักและความสูงของเด็ก ลองติดตั้งคาร์ซีทในรถก่อนซื้อ ถ้าผู้ขายไม่อนุญาติให้คุณลองติดตั้งคาร์ซีทในรถ จงอย่าซื้อ ตรวจสอบว่าคาร์ซีทนั้นรองรับมาตรฐานการผลิต United Nations Standard Regulation 44.04 หรือไม่  โดยสังเกตหาสัญลักษณ์ตัว E หรือ I-Size ทีติดอยู่ที่คาร์ซีท ***ขอบคุณแหล่งที่มา : เว็บไซด์ childcarseats.org.uk

คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กมีอายุการใช้งานนานเท่าไร

คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กมีอายุการใช้งานนานเท่าไร??? ถึงแม้จะไม่ได้มีกฎหมายกำหนดไว้ แต่คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กที่วางขายในประเทศแคนนาดาจะมีการระบุวันที่หมดอายุหรืออายุการใช้งานกำกับไว้ที่คาร์ซีททุกตัว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงอายุการใช้งานของคาร์ซีทและสามารถพิจารณาถึงความเสี่ยงในการใช้คาร์ซีทในกรณีที่คาร์ซีทนั้นอาจมีอายุการใช้งานที่เหลือน้อยกว่าที่ต้องการ    ผู้ปกครองไม่ควรใช้คาร์ซีทที่เลยวันหมดอายุ สำหรับคาร์ซีทที่หมดอายุแล้วควรจะนำไปกำจัดทิ้งอย่างถาวร ไม่ควรนำไปบริจาค ขาย หรือมอบให้เพื่อนและครอบครัวใช้ต่อ ยิ่งไปกว่านั้นตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ยังได้ประกาศไว้ว่า ห้ามทำการโฆษณา จำหน่าย หรือมอบคาร์ซีทที่ผลิตก่อนวันที่ 1 มกราคม 2012 ให้แก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากคาร์ซีทนั้นไม่ได้มาตรฐานการผลิตที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน สาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตระบุวันหมดอายุหรืออายุการใช้งานไว้ที่คาร์ซีท!!! คาร์ซีทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะมีการตากแสงแดดจ้า ทำให้พลาสติกค่อยๆเสื่อมสภาพลง ป้ายเตือนความปลอดภัยจะค่อยๆจางจนอ่านไม่ออก คู่มือการใช้งานสูญหาย อาจมีอาหาร เครื่องดื่ม หรือของเหลว หกใส่อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ เช่น สายรัด หัวเข็มขัด ที่ปรับต่างๆ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เสื่อมสภาพลง ไม่สามารถตรวจสอบประวัติการใช้งานได้ (เช่น คาร์ซีทนั้นอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน หรืออาจถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ทำให้คาร์ซีทเกิดความเสียหายก็เป็นได้) กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคมากขึ้น เจ้าของคาร์ซีทมือสองหรือผู้ที่รับคาร์ซีทมือสองมาใช้ต่ออาจไม่ได้รับการแจ้งจากผู้ผลิตในกรณีที่คาร์ซีทรุ่นนั้นถูกเรียกคืนเพราะเนื่องจากการผลิตบกพร่อง ในประเทศแคนาดา ทุกรัฐและทุกจังหวัดได้มีข้อกำหนดให้ต้องมีการติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กและการติดตั้งบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กโตที่ไว้ในรถยนต์เพื่อความปลอดภัยของเด็กทารกและเด็กเล็ก  หลายๆ จังหวัดได้ออกกฎระเบียบให้เด็กที่มีขนาดตัวเล็กว่าที่จะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้อย่างปลอดภัยต้องใช้คาร์ซีทแม้ว่า เด็กคนนั้นจะมีอายุเกินกว่าเกณฑ์แล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นในบางรัฐยังกำหนดให้มีคาร์ซีทหรือบูซเตอร์ซีทจะใช้งานต้องผ่านการรับรองจาก Canada Motor Vehicle Safety Standards และจะต้องใช้งานให้ต้องตามคู่มือการใช้งานด้วย ถ้าไม่ปฏิบัติตามคู่มือหรือมีการใช้คาร์ซีทที่หมดอายุแล้ว คุณอาจจะทำให้ลูกน้อยของคุณต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตและตัวคุณเองก็จะต้องตกเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน ขอบคุณแหล่งข้อมูล : […]

การใช้คาร์ซีทเก่าหรือคาร์ซีทมือสอง

คาร์ซีทมือสองนั้นหากมองโดยผิวเผินแล้วอาจจะดูน่าสนใจเพราะราคาค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับราคาของใหม่ แต่จะคุ้มค่าจริงหรือเมื่อเทียบกับชีวิตน้อยๆ ของลูกคุณ ข้อคิดนี้รวมถึงคาร์ซีทตัวเก่าที่พี่สาวของคุณให้มาหลังจากที่ลูกของเธอโตเลยวัยแล้ว คาร์ซีทมือสองนั้นไม่เพียงแต่ไม่มีคู่มือการใช้งานติดมาด้วยแล้ว (ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการติดตั้งอย่างถูกวิธี) คุณยังไม่อาจรู้ได้เลยว่าอาจจะมีชิ้นส่วนสำคัญหลุดหายไป หรือคาร์ซีทมือสองนั้นอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายในส่วนที่เรามองไม่เห็น อีกทั้งอาจจะเป็นเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน และอาจเคยถูกเรียกคืนจากความบกพร่องจากการผลิตมาแล้ว ยิ่งกว่านั้นเมื่อคาร์ซีทมีอายุการใช้งานมากขึ้นพลาสติกที่เคยแข็งแรงทนทานก็จะเริ่มเปราะบางและไม่สามารถปกป้องลูกน้อยยามคับขันได้ แต่ถ้าคุณมีจำเป็นที่จะต้องใช้คาร์ซีทมือสองจริงๆ สิ่งที่ควรทำคือ ตรวจสอบให้แน่ใจ่ามีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย มีอุปกรณ์และส่วนประกอบครบถ้วนตามคู่มือ ไม่เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง และ ไม่เคยถูกเรียกลับเพราะเหตุสินค้าบกพร่องจากการผลิต เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจาการเสื่อมสภาพของพลาสติก หน่วยงาน SafetyBeltSafe U.S.A. แนะนำว่า ควรใช้คาร์ซีทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วไม่เกิน 5 ปี หรืออย่างมากสุดไม่เกิน 10 ปี คุณควรสามารถตรวจสอบได้จากวันหมดอายุที่ระบุไว้บนคาร์ซีท ขอบคุณแหล่งข้อมูล : www.babycenter.com สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง

รีวิวเปรียบเทียบรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light กับรุ่น Luxuna CTS

สรุป รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light ดีกว่า>>> มีน้ำหนักที่เบากว่า จึงทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายเดินทาง รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna CTS ดีกว่า>>> ล้อแบบ 3D  Auto 4 Wheels ทำให้ง่ายต่อการเข็นได้ทั้ง 2 ทิศทาง แม้ในที่แคบก็เข็นได้อย่างง่ายดาย สามารถสอบถามได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง ได้ที่ Baby Gift Showroom 10 สาขา ใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ :

โรคข้อต่อสะโพกเคลื่อนในเด็ก…อันตราย!!!

อาการข้อต่อสะโพกเคลื่อนของเด็กเล็ก เกิดขึ้นได้อย่างไร? อาการข้อต่อสะโพกเคลื่อนมักเกิดในเด็กวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน เพราะข้อต่อส่วนต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะบริเวณสะโพกยังไม่เข้าที่ คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังทุกครั้งที่จับหรือขยับขาลูกน้อยรวมถึงการจัดให้ลูกน้อยนั่งหรือนอนอยู่ในท่าที่ถูกต้อง อาการสะโพกเคลื่อนจะเกิดจากข้อต่อบริเวณสะโพกระหว่างขาและกระดูกเชิงกรานยื่นออกมาหรือเริ่มยื่นออกมา หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อเด็กเริ่มเดินได้ เด็กอาจจะเดินโขยกเขยก และเมื่อโตขึ้นอาการสะโพกเคลื่อนบางส่วนหรือทั้งหมด อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น มีอากาการเจ็บบริเวณสะโพกเมื่อมีอายุมากขึ้น หรือ มีความยากลำบากในการเดินหรือนั่ง วิธีป้องกันไม่ให้เด็กเป็นโรคข้อต่อสะโพกเคลื่อน…ทำอย่างไร??? ควรจัดให้เด็กอยู่ในท่านอน ท่านั่งที่เป็นธรรมชาติ คือท่างอแขนงอเข่า คุณพ่อคุณแม่บางคนกลัวลูกขาโก่ง จึงชอบจับขาลูกให้เหยียดตรง ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ผิดมาก และไม่ควรทำเพราะเป็นท่าที่ฝืนธรรมชาติ และเป็นสาเหตุของโรคข้อต่อสะโพกเคลื่อนได้  นอกจากนี้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลเด็กที่ผ่านการวิจัยโดยสถาบันเกี่ยวกับการดูแลเด็กโดยเฉพาะ อย่างผลิตภัณฑ์ Aprica ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ เบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย (Double Trapeziod Seat) สามารถรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การเคลื่อนไหวหรือขยับแขนขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ   ***ข้อมูลโดย : กุมารแพทย์ศูนย์คิดค้นและวิจัย Aprica ประเทศญี่ปุน   แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ aprica ที่เป็นตัวช่วยให้ลูกน้อยของคุณห่างไกลจากโรคข้อต่อสะโพกเคลื่อน กับ “เป้อุ้มเด็ก” ผลิตภัณฑ์จาก Aprica ซึ่งการเลือกเป้อุ้มเด็กที่มีคุณภาพและผ่านการคัดสรรมาอย่างดี จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลาดูแลลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิดทั้งในและนอกบ้านได้อย่างสะดวกสบาย และช่วยในเรื่องการรองรับสรีระได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยและมีสุขภาพดีเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง ได้ที่ […]

ร้อนนี้…คุณมีวิธีคลายร้อนให้เจ้าตัวน้อยอย่างไร ???…รถเข็นเด็ก Aprica ช่วยคลายร้อนได้ !!!

ช่วงนี้เข้าหน้าร้อนแล้ว อากาศร้อนๆก็มักจะทำให้เด็กๆเกิดอากาศป่วยได้ง่าย เช่น ท้องเสีย ผดผื่น ร้อนใน ไข้เลือดออก วิธีป้องกันนั้นก็มีหลายวิธี เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น ทำห้องให้เย็นขึ้น แต่…ถ้าถึงเวลาต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้างข้างนอกล่ะ จะทำยังไง? เราต้องมีตัวช่วยที่ดี ให้กับเด็กๆ นั่นคือ…….. รถเข็นเด็ก ที่มีคุณสมบัติช่วยคลายความร้อนได้ เพราะ Aprica ใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงตอบโจทย์ความต้องการของทุกครอบครัว ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง ได้ที่ Baby Gift Showroom 10 สาขา ใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ :

รีวิวเปรียบเทียบรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นKaroon กับรุ่น Karoon Plus Highseat

รีวิวเปรียบเทียบรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นSoraria Magic Basket และรุ่นLuxuna

 สรุป Soraria Magic Basket ดีกว่า Luxuna 1. ดีกว่า ช่องระบายอากาศด้านหลังสามารถเปิด-ปิดได้ เมื่ออากาศหนาวเย็นปิดเพื่อความอบอุ่น 2. ดีกว่า เพราะเบาะรองนอนมีคุณสมบัติพิเศษCoolmax ทำให้หนานุ่มกว่า และระบายอากาศได้ดีกว่า 3. ดีกว่า ด้วยคุณสมบัติโดยรวมที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อความสบายต่อลูกนิอยมากที่สุด Soraria Magic Basket เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด มีเบาะรองนอนที่หนานุ่มระบายอากาศได้ดี เพื่อให้ลูกน้อยสบายตลอดการเดินทางไปกับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Soraria Magic Basket Luxuna เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการรถเข็นเด็กที่น้ำหนักเบา สำหรับเด็กแรกเกิด เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว เพราะน้ำหนักที่เบา สบายในการหิ้วไปที่ต่างๆได้ง่าย และเพื่อให้ลูกน้อยนุ่มสบายระบายอากาศได้ดีอีกด้วย สามารถสอบถามได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง ได้ที่ Baby Gift Showroom 10 สาขา ใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ :

รีวิวตัวเชื่อมต่อรถเข็นเด็กAprica รุ่น Karoon 2คันให้เป็นรถเข็นแฝด

รีวิวการใช้ Connector กับ รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon แนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ลูกแฝด ที่ต้องการตัวช่วยในการใช้รถเข็นแฝด แต่สามารถแยกออกใช้ที่ละคันได้ กับอุปกรณ์เสริมยึดติดรถเข็นเด็ก ทำให้เป็นรถเข็นแฝด Munchkin Stroller Links รีวิวแนะนำนี้ใช้กับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดที่เบาที่สุด – Munchkin Stroller Links ใน 1 ชุด มีชิ้นส่วน 3 ชิ้น ติดตั้งง่ายเพราะมีขนาดเท่ากัน – มีตัวล็อคทั้ง 2 ด้าน ไว้สำหรับล็อครถเข็นเด็ก ทั้ง 2 คัน เข้าด้วยกันได้อย่างหนาแน่น – เมื่อติดตั้งทั้ง 3 จุด แล้วก็พร้อมใช้งาน และสามารถปรับก้านเข็นได้ทั้ง 2 ทิศทางด้วย