การติดตั้ง”คาร์ซีท” ทำอย่างไรให้ถูกวิธี

          ความสำคัญกับการมีคาร์ซีทของเจ้าตัวเล็ก ที่ติดตั้งอยู่ภายในรถเพื่อความปลอดภัยนั้น สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการติดตั้งอย่างไรให้ถูกวิธี เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้คาร์ซีท หรือที่นั่งสำหรับเด็กบนรถยนต์นั้น มีความปลอดภัยมากกว่าการอุ้มเด็กไว้บนตัก เราจึงควรให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ให้มากด้วยค่ะ ทางเราจึงขอแนะนำสิ่งดีๆ เกี่ยวกับการติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธีมาฝากกันค่ะ   1. ติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง           โดยทั่วไป เราย่อมคิดว่าเด็กควรหันหน้าไปทางหน้ารถ แต่ตามคำแนะนำของสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา แนะนำว่า “ทารก” ควรนั่งแบบ Rear Facing หรือติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง จนอายุ 2 ขวบ หรือความสูงและน้ำหนักถึงเกณฑ์ ส่วนหนึ่งเพราะคอของทารกยังไม่แข็งแรง หากคุณพ่อคุณแม่เบรกอย่างรุนแรงอาจเป็นอันตรายได้ค่ะ แต่วิธีนี้อาจทำให้เจ้าตัวเล็กร้องโวยวายได้เป็นเดือนๆ เลย เพราะเขาจะมองไม่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ของเขานั่นเอง ดังนั้น ควรทำใจเย็นๆ และหาของเล่นมีเสียงกรุ๋งกริ๋งติดรถไว้บ้าง เผื่อไว้หลอกล่อลูกกันการแผดเสียงค่ะ   2. ไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะด้านหน้า           หากเกิดอุบัติเหตุ การทำงานของถุงลมนิรภัยจะทำให้ลูกน้อยเป็นอันตรายได้นั่นเอง […]

Baby Gift เองก็เคยรับซื้อและจำหน่ายคาร์ซีทมือสอง

Baby Gift ถือได้ว่าเป็นร้านค้าแรกในประเทศไทยที่ได้ริเริ่มการให้บริการรับซื้อ-ขายคาร์ซีทมือสองอย่างจริงจัง โดยมีการประชาสัมพันธ์และแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่นำคาร์ซีทมือสองที่ไม่ใช้แล้วมาซื้อขายแลกเปลื่ยนได้ที่ร้าน เพราะเห็นว่าการรับซื้อขายนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับครอบครัวที่ลูกโตเกินวัยแล้วได้นำของเหลือใช้มาแบ่งปันและเป็นการช่วยเหลือให้ครอบครัวอื่นได้ใช้ของดีในราคาประหยัด ซึ่งการให้บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจนคาร์ซีทมือสองถูกยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่เมื่อทาง Baby Gift ได้มีการศึกษาจากข้อมูลในต่างประเทศและพบว่าการใช้คาร์ซีทมือสองนั้นมีความเสี่ยงและเป็นอันตรายกับเด็กๆ อย่างมาก อีกทั้งหน่วยงานรัฐบาลและเอกชนในเกือบทุกประเทศที่มีกฎหมายบังคับใช้คาร์ซีทต่างออกมาเรียกร้องให้พ่อแม่หลีกเลี่ยงการใช้คาร์ซีทมือสองกันอย่างจริงจัง จึงทำให้ Baby Gift ไม่ลังเลที่จะหยุดให้บริการรับซื้อและจำหน่ายคาร์ซีทมือสองทันที และหันมายังเร่งประชาสัมพันธ์ให้คุณพ่อคุณแม่ชาวไทยได้รับทราบถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้คาร์ซีทมือสอง โดยหวังว่าการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้คาร์ซีทจะช่วยให้ทุกครอบครัวคัดเลือกคาร์ซีทที่ดีและปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ข้อมูลอ้างอิง : เวปไซด์childcarseats.org.uk แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ได้เคยซื้อคาร์ซีทจากร้าน Baby Gift *ก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2558* ทางร้านยินดีรับซื้อคาร์ซีทมือสองที่ซื้อจากร้านคืนตามที่เคยให้ข้อมูลในระหว่างการขายเพื่อเป็นการรับผิดชอบ แต่การซื้อคาร์ซีทมือสองของร้านหลังจากนี้จะเป็นการซื้อมาเพื่อทิ้งและทำลาย มิใช่การซื้อมาเพื่อขายต่อเช่นทุกครั้ง ข้อมูลอ้างอิง : เวปไซด์ Transport Canada ข้อมูลอ้างอิง : เวปไซด์ babycenter.com ข้อมูลอ้างอิง : เวปไซด์ healthychildren.org

คาร์ซีทก็มีวันหมดอายุเหมือนกันนะ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา กฏหมายกำหนดให้ผู้ผลิตคาร์ซีทจะต้องระบุวัน/เดือน/ปีที่ผลิตและวันหมดอายุของคาร์ซีท บนผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น เพื่อกำหนดอายุการใช้งานของคาร์ซีทที่แท้จริง โดยกฏหมายไม่ได้ระบุอายุการใช้งานที่ชัดเจนเพราะขึ้นอยู่กับวัสดุและโครงสร้างที่ใช้ผลิตคาร์ซีท โดยส่วนใหญ่คาร์ซีทที่ขายในสหรัฐอเมริกาจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 ปี นับจากวันที่ผลิต(มิใช่วันที่ซื้อ) อย่างไรก็ตามคาร์ซีทที่มิได้จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกามักไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับวันที่ผลิตหรือวันหมดอายุระบุไว้ ดังนั้นวิธีการตรวจสอบง่ายๆ คือหลีกเลี่ยงการใช้คาร์ซีทเก่า คาร์ซีทมือสอง คาร์ซีทตกรุ่น หรือคาร์ซีทที่เก็บไว้เป็นเวลานาน เมื่อคาร์ซีทหมดอายุจะเป็นเช่นไร? คาร์ซีททุกตัวมีโครงสร้างพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก และคาร์ซีทเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในรถยนต์ ซึ่งเมื่อมีการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนและแสงUV จะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กรอบ แตกหักง่าย นอกจากนี้แสง UV ยังทำให้วัสดุรองรับแรงกระแทกและเบาะรองตัว หมอนรองศีรษะทารกที่เคยนุ่มกลับแข็งและขาดความยืดหยุ่นจึงไม่สามารถใช้ปกป้องทารกได้ และโดยเฉพาะในเมืองไทยที่มีอากาศร้อนและแสงแดดจัด คาร์ซีทที่ถูกติดตั้งทิ้งไว้ในรถอาจมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงแนะนำให้ควร ถอดและเก็บคาร์ซีทออกจากรถในกรณีที่ไม่ได้มีการใช้งานเป็นเวลานาน เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของคาร์ซีทให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้ได้นานขึ้น

คำแนะนำเกี่ยวกับคาร์ซีทมือสอง

คาร์ซีทมือสอง คำแนะนำที่ดีที่สุดคืออย่าซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้เลย คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าคาร์ซีทมือตัวสองนั้นมีประวัติมาอย่างไร อาจจะผ่านการเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายในส่วนที่เรามองไม่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์ซีทมือสองส่วนมากมักจะไม่มีคู่มือการใช้งานให้เราได้ศึกษาวิธีใช้งานอย่างถูกวิธี จึงยากที่จะรู้ว่าเราใช้งานได้อย่างถูกต้องปลอดภัยหรือไม่ คาร์ซีทมือสองส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาขายนั้นมักจะเป็นรุ่นเก่าๆ ที่มีการชำรุดเสียหาย เสื่อมสภาพ  หรือการออกแบบไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน การซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จริงๆ แล้วคาร์ซีทมีหลากหลายราคาให้เลือกซื้อซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่ราคาที่แพงที่สุด ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนในพื้นที่ที่คุณพักอาศัยดูเผื่อเค้าอาจจะทราบว่ามีกิจกรรมลดราคาคาร์ซีทบ้างหรือไม่ (หน่วยงานพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นหน่วยงานในประเทศอังกฤษ) แต่ถ้าคุณมีความจำเป็นต้องใช้คาร์ซีทมือสองจริงๆ ควรใช้คาร์ซีทที่ได้รับต่อมาจากบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนที่คุณสามารถมั่นใจมากว่าคุณทราบประวัติเกี่ยวกับคาร์ซีทตัวนั้นอย่างละเอียด (ประวัติการเรียกคืนจากผู้ขาย การใช้งาน การเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้งานและลักษณะการถูกใช้งานก่อนหน้านี้)  รวมถึงคาร์ซีทนั้นต้องมีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย  และควรเลือกใช้คาร์ซีทที่ไม่เก่าจนเกินไป แต่ที่สำคัญห้ามซื้อจากร้านขายของมือสองหรือคนที่ประกาศขายของมือสองทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์หรือตลาดออนไลน์โดยเด็ดขาด ก่อนที่จะใช้คาร์ซีทมือสอง คุณควรจะ : ตรวจดูสภาพของคาร์ซีทอย่างละเอียดถี่ถ้วน (อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดกับคาร์ซีทนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าได้ทั้งหมด มั่นใจว่ามีคู่มือการใช้งานที่มาจากผู้ผลิตติดมาด้วยทุกครั้ง ขอคำแนะนำจากผู้ผลิตเกี่ยวกับรุ่น ปีที่ผลิต และระยะเวลาที่สามารถใช้งานต่อได้ เลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับน้ำหนักและความสูงของเด็ก ลองติดตั้งคาร์ซีทในรถก่อนซื้อ ถ้าผู้ขายไม่อนุญาติให้คุณลองติดตั้งคาร์ซีทในรถ จงอย่าซื้อ ตรวจสอบว่าคาร์ซีทนั้นรองรับมาตรฐานการผลิต United Nations Standard Regulation 44.04 หรือไม่  โดยสังเกตหาสัญลักษณ์ตัว E หรือ I-Size ทีติดอยู่ที่คาร์ซีท ***ขอบคุณแหล่งที่มา : เว็บไซด์ childcarseats.org.uk

คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กมีอายุการใช้งานนานเท่าไร

คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กมีอายุการใช้งานนานเท่าไร??? ถึงแม้จะไม่ได้มีกฎหมายกำหนดไว้ แต่คาร์ซีทและบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กที่วางขายในประเทศแคนนาดาจะมีการระบุวันที่หมดอายุหรืออายุการใช้งานกำกับไว้ที่คาร์ซีททุกตัว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงอายุการใช้งานของคาร์ซีทและสามารถพิจารณาถึงความเสี่ยงในการใช้คาร์ซีทในกรณีที่คาร์ซีทนั้นอาจมีอายุการใช้งานที่เหลือน้อยกว่าที่ต้องการ    ผู้ปกครองไม่ควรใช้คาร์ซีทที่เลยวันหมดอายุ สำหรับคาร์ซีทที่หมดอายุแล้วควรจะนำไปกำจัดทิ้งอย่างถาวร ไม่ควรนำไปบริจาค ขาย หรือมอบให้เพื่อนและครอบครัวใช้ต่อ ยิ่งไปกว่านั้นตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ยังได้ประกาศไว้ว่า ห้ามทำการโฆษณา จำหน่าย หรือมอบคาร์ซีทที่ผลิตก่อนวันที่ 1 มกราคม 2012 ให้แก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากคาร์ซีทนั้นไม่ได้มาตรฐานการผลิตที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน สาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตระบุวันหมดอายุหรืออายุการใช้งานไว้ที่คาร์ซีท!!! คาร์ซีทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะมีการตากแสงแดดจ้า ทำให้พลาสติกค่อยๆเสื่อมสภาพลง ป้ายเตือนความปลอดภัยจะค่อยๆจางจนอ่านไม่ออก คู่มือการใช้งานสูญหาย อาจมีอาหาร เครื่องดื่ม หรือของเหลว หกใส่อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่างๆ เช่น สายรัด หัวเข็มขัด ที่ปรับต่างๆ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เสื่อมสภาพลง ไม่สามารถตรวจสอบประวัติการใช้งานได้ (เช่น คาร์ซีทนั้นอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน หรืออาจถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ทำให้คาร์ซีทเกิดความเสียหายก็เป็นได้) กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคมากขึ้น เจ้าของคาร์ซีทมือสองหรือผู้ที่รับคาร์ซีทมือสองมาใช้ต่ออาจไม่ได้รับการแจ้งจากผู้ผลิตในกรณีที่คาร์ซีทรุ่นนั้นถูกเรียกคืนเพราะเนื่องจากการผลิตบกพร่อง ในประเทศแคนาดา ทุกรัฐและทุกจังหวัดได้มีข้อกำหนดให้ต้องมีการติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กและการติดตั้งบูซเตอร์ซีทสำหรับเด็กโตที่ไว้ในรถยนต์เพื่อความปลอดภัยของเด็กทารกและเด็กเล็ก  หลายๆ จังหวัดได้ออกกฎระเบียบให้เด็กที่มีขนาดตัวเล็กว่าที่จะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้อย่างปลอดภัยต้องใช้คาร์ซีทแม้ว่า เด็กคนนั้นจะมีอายุเกินกว่าเกณฑ์แล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นในบางรัฐยังกำหนดให้มีคาร์ซีทหรือบูซเตอร์ซีทจะใช้งานต้องผ่านการรับรองจาก Canada Motor Vehicle Safety Standards และจะต้องใช้งานให้ต้องตามคู่มือการใช้งานด้วย ถ้าไม่ปฏิบัติตามคู่มือหรือมีการใช้คาร์ซีทที่หมดอายุแล้ว คุณอาจจะทำให้ลูกน้อยของคุณต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตและตัวคุณเองก็จะต้องตกเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน ขอบคุณแหล่งข้อมูล : […]

การใช้คาร์ซีทเก่าหรือคาร์ซีทมือสอง

คาร์ซีทมือสองนั้นหากมองโดยผิวเผินแล้วอาจจะดูน่าสนใจเพราะราคาค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับราคาของใหม่ แต่จะคุ้มค่าจริงหรือเมื่อเทียบกับชีวิตน้อยๆ ของลูกคุณ ข้อคิดนี้รวมถึงคาร์ซีทตัวเก่าที่พี่สาวของคุณให้มาหลังจากที่ลูกของเธอโตเลยวัยแล้ว คาร์ซีทมือสองนั้นไม่เพียงแต่ไม่มีคู่มือการใช้งานติดมาด้วยแล้ว (ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการติดตั้งอย่างถูกวิธี) คุณยังไม่อาจรู้ได้เลยว่าอาจจะมีชิ้นส่วนสำคัญหลุดหายไป หรือคาร์ซีทมือสองนั้นอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายในส่วนที่เรามองไม่เห็น อีกทั้งอาจจะเป็นเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน และอาจเคยถูกเรียกคืนจากความบกพร่องจากการผลิตมาแล้ว ยิ่งกว่านั้นเมื่อคาร์ซีทมีอายุการใช้งานมากขึ้นพลาสติกที่เคยแข็งแรงทนทานก็จะเริ่มเปราะบางและไม่สามารถปกป้องลูกน้อยยามคับขันได้ แต่ถ้าคุณมีจำเป็นที่จะต้องใช้คาร์ซีทมือสองจริงๆ สิ่งที่ควรทำคือ ตรวจสอบให้แน่ใจ่ามีคู่มือการใช้งานติดมาด้วย มีอุปกรณ์และส่วนประกอบครบถ้วนตามคู่มือ ไม่เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง และ ไม่เคยถูกเรียกลับเพราะเหตุสินค้าบกพร่องจากการผลิต เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจาการเสื่อมสภาพของพลาสติก หน่วยงาน SafetyBeltSafe U.S.A. แนะนำว่า ควรใช้คาร์ซีทที่ผ่านการใช้งานมาแล้วไม่เกิน 5 ปี หรืออย่างมากสุดไม่เกิน 10 ปี คุณควรสามารถตรวจสอบได้จากวันหมดอายุที่ระบุไว้บนคาร์ซีท ขอบคุณแหล่งข้อมูล : www.babycenter.com สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง

รีวิวเปรียบเทียบคาร์ซีท Aprica รุ่นAir Groove STD กับรุ่นAir Ride

คาร์ซีท Aprica รุ่น Air Groove STD VS Air Ride เปรียบเทียบคาร์ซีท Aprica รุ่น Air Groove STD VS Air Ride คุณสมบัติที่มีความเหมือนและความแตกต่างกัน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อคาร์ซีท ที่เหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด คาร์ซีทใช้สำหรับช่วงวัยลูกน้อยที่แตกต่างกัน ขนาดและน้ำหนักคาร์ซีทจึงมีความแตกต่างกันด้วย ปรับการใช้งานได้ ตามช่วงวัยที่เหมาะสมที่แตกต่างกัน แตกต่างกันที่เข็มขัดนิรภัยที่คาร์ซีท พนักพิงศีรษะของคาร์ซีท สามารถปรับเพิ่มความสูงเพื่อรองรับการเจริญเติบโต และช่วยประคองศีรษะขณะหลับได้ดี มีที่สำหรับวางแก้วน้ำได้ ไม่ให้หกเลอะเทอะ สรุป คาร์ซีททั้ง 2 รุ่น มีความแตกต่างกัน ที่ช่วงวัยของลูกน้อยในการใช้คาร์ซีท ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกใช้ง่ายได้ง่ายๆ ตามช่วงวัยของลูกน้อยได้เลยค่ะ รุ่น Air Goove STD สำหรับเด็กวัย 9 เดือน –12 ปี หรือ น้ำหนัก 9-36 kg. ปรับการใช้งานได้ 3 รูปแบบ ตามช่วงวัยที่เหมาะสม STEP1 น้ำหนัก9-18kg ใช้เข็มขัดนิรภัยที่คาร์ซีท […]

รีวิวเปรียบเทียบคาร์ซีท Aprica รุ่นAir Groove Plus และรุ่นAir Groove STD

คาร์ซีท Aprica รุ่น Air Groove Plus VS Air Groove STD สำหรับเด็กวัย 9 เดือน –12 ปี หรือ น้ำหนัก 9-36 kg. (วัยเริ่มเข้าเรียน ไป-กลับ โรงเรียนเป็นประจำ และไปทำกิจกรรมในที่ต่างๆ) Size : Seat : W442 × D413 x H672 ~ 750  (mm) , Seat Only : W433 × D368 × H220 (mm) เปรียบเทียบคาร์ซีท Aprica รุ่น Air Groove Plus VS Air Groove STD คุณสมบัติที่มีความเหมือนและความแตกต่างกัน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อคาร์ซีท ที่เหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด ปรับการใช้งานได้ 3 รูปแบบ ตามช่วงวัยที่เหมาะสม เหมือนกัน เข็มขัดนิรภัยแบบ 5 […]