เมื่อรู้ตัวว่าจะเป็นคุณแม่ ทำไมอายุครรภ์ถึงสำคัญ

อายุครรภ์คืออะไรกันนะ?

เมื่อตั้งท้อง สิ่งหนึ่งที่เป็นคำถามยอดฮิตเลยก็คือ “ท้องกี่เดือน” หรือ “คลอดเมื่อไหร่” การที่เราจะตอบคำถามพวกนี้ได้นั้นเราจะต้องทราบอายุครรภ์ของเราก่อนค่ะ พูดง่าย ๆ อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่ลูกของเราได้อยู่ในท้องของเรามา แต่ถ้าหากจะพูดให้ดูมีหลักการหน่อยแล้ว อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่นับตั้งแต่วันแรกของรอบเดือนล่าสุดของเรามาจนถึงปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้วนั้น อายุครรภ์ที่นับจนถึงกำหนดคลอดควรจะเท่ากับ 40 สัปดาห์โดยประมาณค่ะ

เราจะรู้อายุครรภ์ของเราได้อย่างไร?

  1. การตรวจภายในโดยวัดขนาดของมดลูก

ฟังดูน่ากลัวนิดนึงใช่มั้ยคะ วิธีนี้สามารถกะอายุครรภ์โดยประมาณของคุณแม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำเท่าไหร่หรอกนะ เพราะว่าเด็กแต่ละคนตัวใหญ่เล็กไม่เท่ากัน อาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง

  1. การอัลตราซาวด์

วิธีการตรวจแบบนี้จะตรวจได้เมื่อตอนอายุครรภ์สัก 5-6 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนถ้าอยากได้ผลแม่น ๆ หน่อยก็อาจจะมาตรวจช่วง 8-18 สัปดาห์ก็ได้นะ สำหรับวิธีนี้คุณหมอก็จะใช้วิธีการวัดขนาดของมดลูกเช่นกัน แต่จะเป็นการวัดผ่านการทำอัลตราซาวด์ แม้จะไม่ได้ตรงเป๊ะแบบ 100% แต่ก็ไม่คลาดเคลื่อนมากค่ะ

  1. การนับรอบเดือน

การนับรอบเดือนจะสามารถใช้ได้กับคุณแม่ที่มีรอบเดือนแบบมาสม่ำเสมอ ตรงกันทุกเดือน สามารถนับได้โดยการนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด ให้ถือว่าวันนั้นเป็นวันแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ วันนี้คุณแม่ไปพบคุณหมอครั้งแรก คุณหมอจะประเมินวันคลอดคร่าว ๆ ด้วยการนับรอบเดือนแบบนี้แหละ เพราะงั้นทางที่ดี เราควรจะจดรอบเดือนของเราทุกเดือนนะ

 

เราทราบอายุครรภ์กันเพื่ออะไร?

การทราบอายุครรภ์นั้นมีประโยชน์แน่นอนค่ะ อย่างแรกคือเราก็จะทราบได้ว่าเราจะคลอดเมื่อไหร่หรือประมาณช่วงไหน จะได้เตรียมตัวได้ถูก ส่วนประโยชน์อื่น ๆ มีดังนี้เลย

  1. ท้องอ่อน ท้องแก่ การดูแลแตกต่างกัน

การตั้งครรภ์จะแบ่งเป็น 3 ไตรมาส (ไตรมาสละสามเดือน) แต่ละไตรมาสนี้เราจะมีวิธีการดูแลครรภ์ที่แตกต่างกันไปนะ โดยในไตรมาสที่หนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงแรกของการตั้งครรภ์นั้น เราจะต้องใส่ใจกับการสร้างเนื้อเยื่อ อวัยวะและสมองของลูกเป็นพิเศษ ในช่วงนี้จึงจะต้องบำรุงและทานอาหารให้เหมาะสม ไม่ทำอะไรที่เป็นการเสี่ยงต่อการแท้งเพราะอายุครรภ์ยังอ่อนอยู่ ส่วนในไตรมาสที่สองนั้นจะเป็นช่วงที่ลูกของคุณแม่จะตัวใหญ่ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ควรเสริมสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ลูกน้อยแข็งแรงค่ะ ส่วนไตรมาสสุดท้ายจะเป็นไตรมาสที่คุณแม่จะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะด้วยท้องที่ใหญ่ขึ้นแล้ว คุณแม่อาจรู้สึกไม่สบายตัว อาจเกิดความหงุดหงิดซึ่งอาจส่งผลต่อลูกได้ ดังนั้นคุณแม่ควรทำจิตใจให้สบาย บำรุงร่างกายให้ลูกมีน้ำหนักที่ดีและแข็งแรง ดูคลิปตลกเพิ่มความเฮฮา เตรียมพร้อมให้ลูกน้อยออกมาเผชิญโลกกว้างด้วยอารมณ์ที่สดใสกัน

  1. พัฒนาการของลูกน้อยแต่ละช่วงเป็นเรื่องสำคัญ

ทารกในครรภ์จะค่อย ๆ เจริญเติบโต โดยอายุครรภ์ก็เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าพัฒนาการของเขาควรจะอยู่ในระดับไหน เช่น คุณแม่จะรู้สึกถึงลูกดิ้นได้ตอนอายุครรภ์ประมาณ 16-25 สัปดาห์เป็นต้นไป การที่เราทราบอายุครรภ์ก็จะทำให้เราคอยสังเกตว่ามีอาการอะไรผิดปกติหรือไม่ จะได้พบคุณหมอได้ทันนะ

  1. หลีกเลี่ยงโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่คุณแม่ไม่อยากเจอ

คุณแม่ท้องจะต้องได้รับการดูแลและตรวจโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เป็นพิเศษ เพราะโรคที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้อาจส่งผลต่อลูกในท้องได้อย่างร้ายแรงเลยล่ะค่ะ ในแต่ละเดือนที่คุณแม่ไปพบคุณหมอนั้น คุณหมออาจจะให้เจาะเลือดหรือตรวจดูโรคบางอย่างโดยขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ เพราะฉะนั้นอายุครรภ์จึงมีความสำคัญในการเป็นตัวกำหนดการดูแลของคุณหมอด้วยค่ะ

  1. เป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่สายนักเดินทาง

สายการบินทุกสายการบินจะระบุว่าผู้ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 32-34 สัปดาห์ จะไม่สามารถเดินทางได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บท้องคลอดระหว่างเดินทางค่ะ นอกจากนี้คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ประมาณ 28 สัปดาห์ขึ้นไปก็ต้องมีใบรับรองแพทย์เพื่อรับรองว่าสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยด้วยนะ โดยทุกครั้งที่คุณแม่เดินทาง คุณแม่จะต้องแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทราบตอนเช็คอินว่าคุณแม่กำลังท้องอยู่ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และอาจจัดให้มีการช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นค่ะ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขของแต่ละสายการบินจะแตกต่างกันนะ คุณแม่ควรจะตรวจสอบอีกทีตอนจองตั๋วเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดน้า

  1. การเตรียมตัวพบหน้าลูกน้อย

เมื่อเราทราบอายุครรภ์ เราก็จะสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ที่จะเจอในแต่ละช่วง รวมถึงอาการที่ไม่ควรจะมีได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถเตรียมตัว หาซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ สำหรับลูกน้อยได้ทันเวลา โดยไม่ต้องมาฉุกละหุกตอนใกล้คลอดอีกด้วยนะ คุณแม่ที่ท้องแก่ใกล้คลอดก็จะรู้ตัวว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร และจะต้องรีบไปพบคุณหมอทันทีหากมีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด หรือมีน้ำเดินค่ะ

การทราบอายุครรภ์นั้นเป็นประโยชน์ต่อแม่ ๆ เป็นอย่างมากเลยล่ะ เพราะนอกจากประโยชน์ที่เราได้เล่าไปข้างต้นแล้ว การนับอายุครรภ์ก็เหมือนเป็นการนับถอยหลังให้ถึงวันที่เราจะได้เจอกับลูกน้อยของเราอีกด้วยนั่นเอง!


สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

code