เคล็ดลับฝึกลูกนั่งคาร์ซีทอย่างไร ไม่ให้ร้องไห้

เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง

โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan

  1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่
  2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ
  3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ
  4. เช็คสภาพแวดล้อมในรถให้เรียบร้อย : การที่เด็กงอแง (โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังพูดบอกความรู้สึกไม่ได้) อาจจะเป็นเพราะลูกไม่สบายตัว, รู้สึกว่าในรถร้อนเกินไป, แสงแดดส่องตรงที่ลูกพอดี หรือรู้สึกปวดท้องอยากถ่าย ก็ควรจัดการเรื่องขับถ่ายให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง หรือจอดแวะทำความสะอาดให้เรียบร้อยจึงค่อยออกเดินทางต่อ ก็จะช่วยให้เด็กๆรู้สึกสบายตัวมากขึ้น งอแงน้อยลงค่ะ
  5. บรรยากาศในรถ : คุณพ่อคุณแม่คนใดคนหนึ่งที่โดยสารไปด้วยลองนั่งข้างๆลูก ชวนคุย หรือเปิดเพลงฟังในรถ ช่วยกันร้องเพลงที่เค้าชอบ จะช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายและน่าสนุก

 

6. ชวนมองข้างทาง : เด็กๆหลายคน (โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย) จะชอบรถยนต์และเครื่องบิน ในระหว่างทางคุณพ่อแม่สามารถชวนลูกฝึกสังเกตรถต่างๆ “คันนี้สีสวยดี นี่ยี่ห้ออะไรนะ, อู้วหู นี่ Big track คันใหญ่, คันนี้เหมือนรถของเราเลย…

7. ของเล่นที่ลูกชอบติดไม้ติดมือขึ้นรถสักชิ้นสองชิ้น : แม่ป่านจะเตรียมของเล่น และ หนังสือที่ลูกชอบติดรถไว้เสมอ และคอยเปลี่ยนชิ้นใหม่ๆทุกอาทิตย์เพื่อให้ลูกรู้สึกสนุก และเป็นการฆ่าเวลาที่ดีจริงๆค่ะ ที่แม่ป่านแนะนำคือ หนังสือ board book รูปรถ หรือสัตว์ต่างๆที่ลูกชอบ, กระดานเขียนและลบได้ขนาดพกพา ให้ลูกขีดเขียนระหว่างเดินทาง, ตุ๊กตาตัวโปรด, พวงมาลัยรถยนต์ของเล่นสำหรับเด็ก ให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วมกับการเดินทางจะช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเวลานั่งรถ

8. ขนมทานเล่นระหว่างทาง : นอกจากน้ำ และนมที่ต้องพกพาระหว่างเดินทางแล้ว การมีขนมที่ลูกชอบทานติดรถไว้ก็ช่วยได้มากที่เดียวค่ะ แม่ป่านจะเลือกพวกถั่ว ผลไม้อบ และธัญพืชต่างๆเช่น เมล็ดฟักทองอบแกะเปลือก, ถั่วชนิดต่างๆ และฟักทองอบแห้งใส่กล่องที่มีฝาปิดกันหก (มีแนะนำตามรูปภาพด้านล่าง) หากลูกเบื่อๆก็เอาออกมาให้ทานเล่นได้

9. บางทีก็ต้องแข็งใจบ้าง : เชื่อว่าหลายเหตุผลที่การฝึกลูกนั่ง car seat ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจาก “ใจอ่อนต่อเสียงร้องของลูก” ใช่มั้ยคะ แต่เมื่อเรามั่นใจแล้วว่าลูกไม่ได้มีความผิดปกติระหว่างนั่งรถ (ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตัว, กำลังไม่สบาย หรือปวดท้อง ปวดฉี่) บางที่ที่ลูกร้องไห้เพียงเพราะไม่อยากนั่ง หรือรู้สึกเบื่อกับการนั่งเฉยๆนาน คุณแม่ก็อาจจะต้องใจแข็งบ้างนะคะ อย่าลืมว่า “ลูกรู้จักคุณดีที่สุด” เค้าจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ได้สิ่งที่ต้องการจาพ่อแม่ …​…. ซึ่งสุดท้ายแล้วคุณแม่ลองทำทุกอย่างที่ว่ามาแล้ว การปล่อยให้ร้องก็อาจจะต้องทำบ้าง (คือปล่อยให้ร้องตามสมควร ถ้าถึงขั้นหน้าดำหน้าแดงก็อาจจะต้องหยุดก่อน ซึ่งแต่ละคนจะมี limit ของคุณแม่เองอยู่แล้วว่าจะทนได้เท่าไหน) ถ้าลูกเริ่มโตขึ้นพอเข้าใจแล้ว เราสามารถอธิบายให้เค้าฟังบ่อยๆ ว่าการนั่ง car seat นั่นทำให้เค้าปลอดภัยอย่างไร “คุณแม่ก็นั่งและคาด belt ด้วยเหมือนกันกับลูกเห็นมั้ยจ้ะ, นี่ไงถ้าเรานั่งตรงนี้เราจะปลอดภัย ถ้ารถเบรคแรงๆหัวเราจะไม่กระแทกจนปูดเป็นลูกมะนาวนะ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

code