พัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณแม่ตั้งท้องต้องรู้

                        เมื่อเจ้าตัวเล็กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย อะไรหลายๆ อย่างก็ดูจะเปลี่ยนไป ไม่แปลกหรอกค่ะที่คุณแม่หลายๆ คนจะนั่งเฝ้านับวันบนปฏิทินอย่างใจจดใจจ่อ รอคอยวันที่ลูกน้อยจะออกมาลืมตาดูโลก บอกได้เลยว่า เดือนไหนมีนัดทำอัลตราซาวด์นี่ก็จะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะจะได้เห็นลูกน้อยดุ๊กดิ๊กอยู่ในท้อง แต่ถ้าเดือนไหนไม่ได้อัลตราซาวด์ก็ไม่ต้องเศร้าใจไปว่าจะไม่รู้ว่าเจ้าเม็ดถั่วเมื่อเดือนที่แล้วพัฒนาไปถึงไหน เพราะเรานำพัฒนาการของลูกน้อยตลอดเก้าเดือนที่อยู่ในท้องของคุณแม่มาไว้ที่นี่แล้วค่า

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 1 คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็เข้าเดือนที่สองไปแล้ว เพราะว่าในเดือนแรกนี้จะเป็นช่วงที่ไข่กับอสุจิเข้าผสมกัน มีการแบ่งเซลล์แล้วก็ฝังตัวของเอ็มบริโอ ซึ่งในระยะนี้เจ้าหนูน้อยก็จะเล็กจิ๋วมากๆ เลยล่ะค่ะ มีขนาดไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้นเอง ส่วนการพัฒนาหลักๆ ก็จะเป็นการพัฒนาในส่วนของรก เพื่อเตรียมพร้อมรอรับสารอาหารจากคุณแม่ค่ะ

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 2 เดือนนี้แหละที่คุณแม่หลายๆ ท่านจะเริ่มรู้ตัว แล้วก็ไปหาคุณหมอทำการฝากครรภ์กันแล้ว ในช่วงเดือนที่สอง ลูกน้อยจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ถึงจะมากยังไงก็ยังอยู่แค่ประมาณ 2-3 เซนติเมตรเองค่ะ ตอนนี้คุณแม่ก็จะยังไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างอะไรมากมาย แต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงภายใน เช่น อารมณ์แปรปรวน หรือมีอาการแพ้ท้องอย่างต่อเนื่อง ช่วงเดือนนี้ หรือประมาณสัปดาห์ที่ 6 คุณหมอก็อาจจะนัดให้คุณแม่มาทำอัลตราซาวด์ ให้ได้ยินเสียงหัวใจของลูกน้อยเต้นให้ชุ่มชื้นหัวใจเล่น ในช่วงนี้ก็อาจจะไม่ได้เห็นอวัยวะชัดเจนซักเท่าไหร่ เพราะว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพัฒนาของระบบประสาทต่างๆ เนื้อเยื่อเส้นใยประสาท แล้วก็พวกไขสันหลังค่ะ

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 3 เดือนนี้น่าจะเป็นเดือนที่คุณแม่หลายๆ คนรอคอย เพราะเป็นเดือนที่คุณหมออาจจะสามารถบอกเพศของลูกน้อยในท้องได้ค่ะ! ในช่วงเดือนนี้ ลูกน้อยจะมีพัฒนาทางร่างกายอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว เพราะว่าคุณแม่จะได้เห็นอวัยวะต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น ตา ปาก หู จมูก แขนขา และส่วนอื่นๆ ลูกน้อยจะขยับตัวได้ แล้วก็มีความยาวพุ่งพรวดไปอยู่ที่ประมาณ 10 เซนติเมตรเลยนะ

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 4 ถ้าเรียกว่าเดือนสามเติบโตแบบพุ่งพรวดแล้ว เดือนสี่ถือว่าพุ่งยิ่งกว่า เพราะว่าลูกน้อยจะมีความยาวของตัวได้มากถึง 18 เซนติเมตรเลยทีเดียวค่ะ ช่วงนี้ระบบประสาทต่างๆ ก็จะเริ่มทำงานได้แล้วนะ ลูกน้อยจะสามารถรับรสชาติอาหารได้ ทำสีหน้าต่างๆ ได้ สามารถขยับแขนขาได้คล่องแคล่วกว่าเดิม แล้วบางทีคุณแม่ก็อาจจะเห็นเขาดูดนิ้วอยู่เวลาอัลตราซาวด์ด้วย ส่วนอวัยวะต่างๆ ก็จะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ อย่างพวกผม ขนตา หรือเล็บ ก็จะเริ่มมีแล้วในช่วงเดือนนี้

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 5 เดือนนี้เป็นเดือนที่อาจจะสร้างความตื่นเต้นให้คุณแม่บางคนเป็นพิเศษ เพราะว่าลูกน้อยจะเริ่มดิ้นแล้วค่ะ แต่ถ้าคุณแม่คนไหนยังไม่รู้สึกถึงการดิ้นก็อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปนะ เพราะบางทีคุณแม่อาจจะมีผนังหน้าท้องที่หนา ทำให้ยังไม่รู้สึกถึงการดิ้นของเจ้าตัวจิ๋ว ตอนนี้ลูกน้อยจะมีขนาดตัวยาวประมาณไม่เกิน 25 เซนติเมตร น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดือนที่แล้วเท่าตัว เค้าจะพัฒนาประสาทสัมผัสต่างๆ ได้ดีขึ้น อาจมีการตอบสนองต่อแสงหรือเสียงรอบตัว ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปคุณแม่ก็สามารถลองเล่านิทานให้ลูกน้อยฟัง หรือเปิดเพลงเบาๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของประสาทการได้ยินไปด้วยก็ได้น้า

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 6 ในเดือนนี้ลูกน้อยจะคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่แล้วค่ะ เพราะประสาททางการได้ยินของเค้าก็เริ่มพัฒนามาจากเดือนที่แล้วแล้วเนอะ เพราะฉะนั้น เวลาคุณแม่พูดคุยกับเค้า ก็อาจมีการตอบสนอง มีการดิ้นหรือขยับไปมา ตอนนี้จะมีอาการนึงเรียกว่า “ทารกสะอึก” เกิดจากการที่ทารกเริ่มสามารถหายใจในน้ำคร่ำได้ เพราะว่าในช่วงเดือนนี้เค้าจะสามารถผลิตสารมาช่วยทำให้ปอดสามารถทำงานได้ดีขึ้น คุณแม่ก็จะรู้สึกเหมือนลูกน้อยกระตุกเป็นจังหวะอยู่ในท้องนั่นเอง แล้วก็ช่วงเดือนนี้อวัยวะเพศของลูกน้อยก็จะพัฒนาขึ้นมากกว่าเดิมด้วยนะคะ

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 7 ตอนนี้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังของลูกน้อยจะหนาขึ้นทั่วทั้งตัว ซึ่งจะเป็นตัวช่วยทำให้เค้ารู้สึกอบอุ่น มาถึงเดือนนี้เราขอแนะนำให้คุณแม่ลองใช้ไฟฉายที่ไฟไม่แรงมากส่องไปที่ท้องดู เพราะทารกจะสามารถเริ่มกระพริบตา ลืมตา แล้วก็ตอบสนองต่อแสงที่ทะลุผ่านหน้าท้องของคุณแม่มาได้ค่ะ อีกอย่างนะ การใช้ไฟส่องก็เป็นการช่วยกระตุ้นประสาทส่วนรับภาพของลูกน้อยได้อย่างดีเลยทีเดียว ส่วนน้ำหนักตัวของลูกน้อยตอนนี้ก็ย่างเข้า 1 กิโลเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 8 เดือนนี้ลูกน้อยจะดิ้นแรงขึ้นกว่าเดิมมาก คุณแม่อาจจะเห็นที่รอยปูดๆ ที่ท้องได้ชัดเลย เพราะว่าความยาวเค้าก็จะอยู่ที่ประมาณ 40 กว่าๆ เซนติเมตร น้ำหนักก็ปาไป 2 กิโลเห็นจะได้ เพราะงั้นก็ไม่แปลกค่ะ ถ้าเค้าจะรู้สึกว่าท้องของคุณแม่คับแคบจัง ขอดิ้นหมุนๆ เปลี่ยนท่าซะหน่อยดีกว่า ในช่วงเดือนนี้สมองของลูกน้อยก็จะพัฒนาเร็วมากๆ มีรอยหยักแล้วก็ประสาทสัมผัสต่างๆ ทำงานได้ไวมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 9 เดือนแห่งการรอคอยมาถึงแล้ว เดือนนี้ปอดของลูกน้อยก็จะพัฒนาได้เต็มที่ที่สุดแล้วค่ะ พร้อมจะออกมาดูโลกได้อย่างหายห่วง สังเกตได้จากว่าเค้าจะกลับหัว โดยศีรษะจะมาอยู่บริเวณช่องคลอดเป็นที่เรียบร้อย ทารกที่คลอดช่วงนี้ก็จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 42-50 เซนติเมตร น้ำหนัก 2,800-3,500 กรัม ส่วนถ้าลูกของคุณแม่ท่านไหนตัวใหญ่มากๆ ก็อาจจะหนักไปถึง 3,600-4,000 กรัมได้เลยนะคะ

         เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านสปอยล์การเติบโตของลูกน้อยกันไปเรียบร้อย ใจจริงที่นำมาฝากกันก็เพราะอยากจะให้หายตื่นเต้น แต่เผลอๆ น่าจะเป็นการทำให้ตื่นเต้นกว่าเดิมเสียมากกว่าล่ะน้อ อย่างไรก็แล้วแต่ อย่าลืมดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจ ออกกำลังกายเบาๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของทั้งคุณแม่และลูกน้อยด้วยนะค้า