รีวิว คาร์ซีทที่ ” แม่แพรว ” เลือกใช้พาน้องเมอฌินน์กลับบ้าน

คาร์ซีทแรกเกิด

          คุณแพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน หรือแม่แพรว จากเพจ PRAEW ที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ Influencer สายแม่และเด็ก ที่แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกเชิงบวกได้อย่างดี ซึ่งเราจะเห็นได้จากกน้อง เฌอลินน์ ลูกสาวคนโตที่โตขึ้นมาเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสามารถ ทำให้ใครหลายๆคนหลงกับความน่ารักของน้อง เฌอลินน์ ไปตามๆกัน และล่าสุดต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพรว กับการคลอดลูกคนที่ 2 ที่มีชื่อว่า เมอฌินน์ หรือฉายา เจ้าลูกชิ้น ลูกชายคนแรกของแม่แพรวด่วยค่ะ            และถ้าใครเคยตาม หรือเคยเข้าไปดูเพจ PRAEW จะรู้ว่า แม่แพรวจะ Post Content ให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกไว้เป็นจำนวนมาก และล่าสุด คุณแพรวก็ได้แชร์ประสบการณ์การใช้คาร์ซีทในวันแรกที่พาน้อง เมอฌินน์ ออกจากโรงพยาบาล วันนี้ทาง BabyGift ขอนำมาแชร์ต่อค่ะ พร้อมพามาดูกันว่า คาร์ซีทที่น้อง เมอฌินน์ ใช้คือคาร์ซีทรุ่นไหน   […]

คาร์ซีทเด็กโต 10 รุ่น ปลอดภัยใช้ดี ปี 2024

คาร์ซีทเด็กโต เป็นอุปกรณ์เสริมช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ ส่วนใหญ่มักจะเป็นคาร์ซีทตัวที่สองของลูก เพราะคาร์ซีทแรกเกิดตัวเดิม เริ่มจะเล็กเกินไปสำหรับขนาดตัวลูกแล้ว ซึ่งทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทเด็กโตให้พร้อม เพราะต้องพาลูกไปทำกิจกรรมมากขึ้น เช่น เดินทางไปโรงเรียน เดินทางไปท่องเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ แล้วเราจะเลือกคาร์ซีทเด็กโตแบบไหนดี ไปดูกันเลยค่ะ  ทำไมเด็กโตต้องใช้คาร์ซีท  เนื่องจากเบาะรถยนต์และสายเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อรองรับกับผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ส่วนสูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร หากเด็กใช้งานสายเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ สายเข็มขัดมักจะพาดตรงบริเวณลำคอ หรือ บริเวณใบหน้า ทำให้เด็ก ๆ ต้องดึงสายเข็มขัดลงมา จนอยู่ในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ปลอดภัย และถ้าหากมีการเบรครุนแรง หรือ เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน อาจเกิดอันตรายทำให้เด็ก ๆ บาดเจ็บได้ เช่น สายเข็มขัดกระแทกลำคอ กระแทกที่ใบหน้า  คาร์ซีทเด็กโต และ บูสเตอร์ซีท จึงออกแบบเบาะและโครงสร้าง เพื่อทดแทนเบาะรถยนต์ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อปกป้องตัวเด็ก ด้วยการเพิ่มความสูงของเบาะที่นั่ง พร้อมเสริมฟังก์ชั่นความปลอดภัย ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ นั่งสบายและปลอดภัยมากขึ้นเมื่อต้องเดินทาง คาร์ซีทเด็กโต มีกี่แบบ คาร์ซีทสำหรับเด็กโตสามารถแบ่งออกเป็น 2  ประเภท ดังนี้ 1. […]

คาร์ซีทแรกเกิด ที่คัดสรรมาแล้วเพื่อคุณ

คาร์ซีทแรกเกิด

          คาร์ซีทแรกเกิด สำหรับคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมของให้ลูกก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะออกมาเป็นของขวัญให้กับคุณพ่อ คุณแม่ หนึงในอุปกรณ์สำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนเป็นอันดับแรกก็คือ คาร์ซีท ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์จำเป็นอย่างมากเพราะคาร์ซีทจะเป็นตัวช่วยคุ้มครองเจ้าตัวน้อยตั้งแต่วันแรกที่เดินทางออกจากโรงพยาบาล แต่คาร์ซีทก็มีหลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ วันนี้ทาง BABYGIFT จึงได้รวบรวมคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ ที่ทางเราได้คัดสรรมาแล้วมาให้ได้ชมกันค่ะ

ทำไมต้องคาร์ซีท??

หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids

Family Blog คาร์ซีทสำคัญแค่ไหน แม่ตูนน์เล่าเรื่องก่อนเลือกซื้อ

ไหนนนน บ้านไหนชอบได้ยินว่า ไม่ต้องซื้อคาร์ซีทหรอก ไม่ต้องเตรียมหรอก ค่อยๆ ขับ ระวังๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว บ้านนี้ขอยกมือ เป็นลำดับแรกๆ เลยค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ เนี่ย ตอนแรกก่อนมีน้อง ตัวเองก็เฉยๆ นะ ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งวันที่มีน้องต๊าตต์ และเริ่มวางแผนการเตรียมซื้อของให้เค้า วันแรกที่แม่เริ่มเกริ่นเรื่องว่าจะซื้อ Carseat ด้วยความที่เราเป็นแม่สายอ่านหาข้อมูลวิเคราะห์ ถามแฟนเพจ พูดคุยกับแม่ๆ คนอื่นๆ ทำให้เรารู้ว่า carseat เนี่ยเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดในการเตรียมก่อนคลอดเลย เพราะหลังจากน้องออกจาก รพ. แล้วจะต้องมีพร้อม หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ราคาสูง แลดูสิ้นเปลืองมากๆ ซึ่งตอนแรกเนี่ย ทางบ้านตูนน์ก็มีคิดแบบนั้นเหมือนกันนะ มักจะเริ่มจากคำที่ว่า “สมัยเราเด็กๆ ยังไม่ต้องใช้เลย” แต่เราพยายามอธิบายให้เค้าฟังถึงเหตุ และผล พร้อมกับยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆ ให้เค้าได้ฟัง … ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ต้องค่อยๆ อธิบายกันให้เข้าใจค่า สำหรับตูนน์แล้ว Carseat คล้ายๆ ซื้อประกัน เอาจริงๆ ไม่มีใครอยากต้องใช้ประกันหรอก แต่มันคือการซื้อความปลอดภัย และเมื่อเกิดเหตุขึ้น เราก็มั่นใจว่าลูกเราจะปลอดภัย tuniez […]

Booster Seat บูสเตอร์ซีท คืออะไร อายุเท่าไหร่ถึงเปลี่ยนมาใช้บูสเตอร์

บูสเตอร์ซีททำหน้าที่เหมือนคาร์ซีทเลยค่ะ คือเป็นเก้าอี้นิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็กแต่บูสเตอร์ซีทใช้สำหรับเด็กที่โตแล้ว บูสเตอร์ซีทจะต่างกับคาร์ซีทตรงที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุดในที่นั่งเด็กเหมือนคาร์ซีท แต่จะใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์พาดไปบนตัวเด็กเพื่อเริ่มฝึกให้น้องหัดใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์เพื่อความปลอดภัยแทนค่ะ ถึงแม้ว่าเด็กวัยนี้จะสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยในรถเหมือนผู้ใหญ่ได้แล้ว แต่เนื่องจากว่าตัวยังเล็กอยู่ จึงต้องนั่งบูสเตอร์เพื่อเสริมให้ก้นสูงขึ้น โดยสายด้านล่างจะพาดบนตักได้พอดี และสายที่พาดบ่าจะสอดที่ตรงพนักพิงได้พอดีเช่นกัน ในทางกลับกันถ้าเราให้เด็กวัยประมาณสามขวบนั่งในรถโดยไม่ใช้บูสเตอร์สายเข็มขัดนิรภัยเส้นล่างจะไม่พาดบนหน้าตักได้พอดีเหมือนผู้ใหญ่ แต่จะพาดไปบนช่องท้องเพราะเด็กตัวเล็กอยู่ ส่วนสายเส้นบนที่พาดบ่าอาจจะไปพาดที่คอซึ่งไม่ปลอดภัยแน่นอน และจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ อายุเท่าไหร่ถึงเปลี่ยนมาใช้บูสเตอร์ซีท การเปลี่ยนมาใช้บูสเตอร์ซีทส่วนใหญ่จะแนะนำให้ดูตามเกณฑ์อายุประมาณ 3 ปีขึ้นไป จนถึง 11 ปี  หรือน้ำหนัก 15-36 kg. และ ความสูง 100-145 cm. แต่เราขอแนะนำว่าให้ดูตามเกณฑ์น้ำหนักและความสูงเป็นหลักจะดีกว่าการดูตามอายุเพราะน้ำหนักจะมีผลเมื่อเกิดอุบัติเหตุเด็กจะต้องมีน้ำหนักมากพอที่จะไปพุ่งไปหน้ารถตามแรงกระชาก และความสูงที่มากพอจะช่วยให้ระดับของเข็มขัดนิรภัยรถพาดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เราควรให้เด็กนั่งในบูสเตอร์ซีทจนถึงความสูง 145 ซม. จึงสามารถเปลี่ยนมานั่งรถโดยคาดเข็มขัดของผู้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม 5 จุดสังเกตว่าลูกโตพอที่จะเลิกใช้บูสเตอร์ซีทได้แล้ว ลูกนั่งหลังพิงพนักได้แล้ว ลูกงอเข่าได้พ้นขอบเบาะแล้ว สายเข็มขัดที่พาดทะแยงหน้าอก พาดอยู่กลางบ่าพอดี ไม่พาดใกล้คอ หรือพาดใกล้แขน สายเข็มขัดด้านล่างพาดบริเวณต้นขาและสะโพกได้พอดี ลูกสามารถนั่งในท่านี้ได้สบายตลอดการเดินทาง ถ้าลูกทำได้ “ครบทุกข้อ” คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกนั่งในรถโดยไม่ต้องใช้บูสเตอร์ซีทแล้วค่ะ แต่ถ้ายังทำได้ “ไม่ครบ” ก็ควรให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทต่อไป เพื่อความปลอดภัยนะคะ ขอบคุณข้อมูลจาก http://blogs.uwhealth.org/kids/2015/09/booster-seat-is-best/   […]

คาร์ซีทมือสองปลอดภัยจริงหรือ? ฉบับหมอเด็ก

ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของคาร์ซีท #คาร์ซีทมือสอง ตามที่พ่อหมอเคยเขียนเรื่องการเลือกซื้อคาร์ซีทไว้แล้วตั้งแต่ตอนเปิดเพจครับ คลิกอ่านได้ครับที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1318721458224835&substory_index=0&id=1312969582133356 ก็เริ่มมีลูกเพจเริ่มถามเรื่อง “การซื้อคาร์ซีท” ในหัวข้อนอกเหนือจากคำถามเบื้องต้นครับ โดยเฉพาะเรื่อง “การซื้อคาร์ซีทมือสอง” หรือ “คาร์ซีทเก่า” ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมาร ฯ ของสหรัฐอเมริกา … บอกไว้ว่า ควรใช้คาร์ซีท “ใหม่” ที่ได้มาตรฐาน หากทำได้ เพราะแข็งแรง ปลอดภัย และรับประกันความปลอดภัยในการใช้งาน ห้ามใช้คาร์ซีทที่เคย “ประสบอุบัติเหตุ” มาก่อน เรื่องนี้อันตรายมากเลยครับ … เพราะอุบัติเหตุอาจทำให้โครงสร้างภายในแตกหัก (ซึ่งบางครั้งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า) หรือสายเข็มขัดอาจฉีกขาด ตัวล็อคต่าง ๆ อาจหลวม ไม่แน่นหนาเหมือนเดิม… หลีกเลี่ยงการใช้คาร์ซีทที่ผลิตมาแล้ว เกิน 10 ปี… ควรซื้อคาร์ซีทที่มี manufacturer’s label หรือป้ายจากผู้ผลิตเสมอครับ เพราะหากมีการเรียกคืนสินค้า ด้วยเหตุผลใดก็ตามเราจะได้เคลมได้ ห้ามใช้คาร์ซีทที่มีการชำรุดที่กรอบคาร์ซีท หรือมีชิ้นส่วนบางอย่างของคาร์ซีทสูญหายและหมอขอย้ำเรื่องการติดตั้งอีกครั้งครับ นั่งหันหลัง จนกว่าจะอายุ 2 ขวบ หรือจนกว่าขาเด็กจะล้นนั่งแบบหันหลังกลับไม่ได้ จากนั้นค่อยกลับมานั่งหันหน้า นั่งหันหน้าจนกว่าน้ำหนักและส่วนสูงเกินกว่าคำแนะนำของคาร์ซีทนั้น ๆ โดยปกติ […]

ก่อนซื้อคาร์ซีทมือสองราคาถูกแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น – ต้องอ่าน

เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมคาร์ซีทแบรนด์ดังนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งหลาย ที่ขายกันในห้างราคาสองสามหมื่นบาท แต่พอมาเป็นมือสองสภาพเยี่ยมเหมือนใหม่แถมยังดูน่าใช้ถึงได้ขายกันในราคาแค่ไม่กี่พันบาท เรียกได้ว่าทั้งสภาพและราคาดูน่าตื่นเต้นและดูสุดคุ้ม จนหลายคนอยากซื้อมาใช้ให้ลูกนั่งกันเลยทีเดียว คำตอบง่ายๆ ก็คือ เพราะคาร์ซีทมือสองนำเข้าจากญี่ปุ่นพวกนี้เป็นของที่คนในประเทศเค้าทิ้งกันแล้ว และด้วยความที่เป็นของที่ทิ้งแล้ว คาร์ซีทมือสองในญี่ปุ่นก็ไม่ต่างอะไรจากขยะดีๆ ชิ้นหนึ่งสำหรับคนญี่ปุ่น แต่ด้วยเทคนิคการทำความสะอาดขั้นเทพของคนญี่ปุ่นที่ไม่ว่าของจะเก่า เลอะเทอะ เปอะเปลื้อนแค่ไหน ไม่ว่าจะคราบเลือด คราบอาเจียน เชื้อรา กลิ่นเหม็นจากปัสสาวะเด็ก สีซีดจางขนาดไหนก็สามารถทำให้ใหม่ได้โดยง่าย ทำให้คาร์ซีทที่ถูกใช้มานานหลายปียังดูสะอาดและสวยสภาพดีไม่ต่างจากของใหม่ โดยในขั้นตอนการทำความสะอาดคาร์ซีทที่สกปรกมากๆ นั้นอาจจะต้องมีการถอดชิ้นส่วนสำคัญๆ เช่น เข็มขัดนิรภัย ตัวล๊อกต่างๆ เพื่อขัดถูกันถึงข้างใน  การประกอบชิ้นส่วนเหล่านี้กลับเข้าที่โดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญ และไม่มีอุปกรณ์เฉพาะของโรงงานผู้ผลิต จะทำให้ระบบภายในของคาร์ซีทนั้นหลวมไม่แน่นหนาและไม่มีความปลอดภัยเพียงพอที่จะใช้ปกป้องเด็กได้ รวมถึงจะไม่ได้รับการรับประกันและอาจไม่สามารถส่งเข้าศูนย์ซ่อมได้อีก ดังนั้นร้านจำหน่ายสินค้ามือสองที่มีของให้เลือกหลากหลายประเภทรวมถึงของใช้เด็กมือสองในประเทศญี่ปุ่นจึง ตั้งราคาขายคาร์ซีทมือสองในราคาที่ถูกมากแค่ 500 – 10,000 เยน (ประมาณ 150-3,000 บาท) ขึ้นอยู่กับสภาพและปีที่ออกจำหน่าย เหตุผลที่ร้านเหล่านี้ต้องตั้งราคาคาร์ซีทมือสองถูกแสนถูกก็เพราะ ผู้ขายทุกคนต่างรู้ดีว่าคาร์ซีทมือสองนั้นขายต่อยาก คนญี่ปุ่นเองจะไม่ซื้อคาร์ซีทมือสองให้ลูกนั่งเด็ดขาด จะมีก็แต่พ่อค้าแม่ค้าคนไทยที่ไปกว้านซื้อคาร์ซีทมือสองในญี่ปุ่นเหล่านี้มาเพื่อขายในประเทศไทย เพราะคาร์ซีท    แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นหลายแบรนด์ได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเรา จึงทำให้ธุรกิจการลักลอบนำเข้าคาร์ซีทมือสอง สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำด้วยสนนราคาขายต่อสูงถึงตัวละ 2,000 -15,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่เป็นที่นิยมในขณะนั้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้โชคดีพอได้กล่องและคู่มือมาครบ ยังสามารถนำมาแอบอ้างย้อมแมวขายว่าเป็นของใหม่ของหิ้วราคาดีมีตัวเดียวเท่านั้นและฟันราคากันสูงริ่วถึงเกือบ 20,000 […]

ประสบการณ์จริง ลูกสาววัย 2 เดือน รอดตายเพราะคาร์ซีท

วันนี้เรามีประสบการณ์จริง จากประโยชน์ของการใช้คาร์ซีท ที่คุ้มค่ามากเท่าชีวิต คุณปีใหม่ คุณแม่มือใหม่ที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคาร์ซีท ตั้งแต่เธอเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เธอให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ช่วงนั้นค่อนข้างมีปัญหากับทางบ้านนิดหน่อย เนื่องจากคุณแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ ไม่เข้าใจเรื่องคาร์ซีท และคิดว่าจะอุ้มหลานเองน่าจะปลอดภัยอยู่แล้ว เธอจึงต้องอธิบายให้คุณแม่เข้าใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่ จนมาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เธอเล่าว่า วันนั้นเธอ สามีและน้องบีน่าลูกสาววัยเพียง 2 เดือน กำลังเดินทางกลับจากจังหวัดชลบุรี  อยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี สามีใช้ความเร็วปกติ เธอนั่งที่เบาะหลัง ส่วนน้องบีน่า นอนหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีท เมื่อสามีขับออกมาจากช่องเก็บค่าทางด่วน สังเกตเห็นว่ารถคันหน้าที่ขับอยู่เลนขวา ขับช้าผิดปกติ สามีจึงจะแซงซ้ายขึ้นไป ทันใดนั้นรถคันหน้าก็เปลี่ยนเลนมาทางซ้ายกะทันหัน เลยชนเข้าอย่างแรง เมื่อรู้ตัวอีกทีคุณปีใหม่กระเด็นไปอยู่ที่เบาะหน้า เพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย มีรอยฟกช้ำ ระบมไปทั้งตัว  Airbag แตกรอบคัน พอมีสติก็รีบเปิดประตูรถไปดูน้องบีน่าก่อนเลย น้องบีน่ายังหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีทเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดๆ  นี่ถ้าอุ้มลูกไว้เองจะเป็นยังไงไม่อยากนึกเลย ตัวเองยังเอาไม่รอด ขอบคุณคาร์ซีทมากๆ ลูกรอดตายเพราะคาร์ซีทจริงๆ หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณยายของน้องบีน่าก็เข้าใจประโยชน์ของคาร์ซีทแล้วว่าสำคัญมากเพียงใด ในวันนั้นคาร์ซีทได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตหลานตัวน้อยเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด  และได้นำเรื่องนี้ไปบอกต่อ กับคนรู้จักว่า “หลานฉันรอดมาได้เพราะคาร์ซีทแท้ๆ” คุณปีใหม่ใช้คาร์ซีท Ailebebe ที่ซื้อจากร้าน Baby Gift ซึ่งทางเรามีบริการ รับประกันสินค้า เปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ให้ลูกค้า หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทาง Baby […]

ประสบการณ์จริง ถ้าลูกไม่ได้นั่งคาร์ชีท ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หากใครต้องขับรถเกือบทุกวัน และรู้ว่าลูกที่กำลังนั่งในรถไปด้วยกันนั้นไม่ได้นั่งคาร์ซีทอย่างถูกวิธีแล้วล่ะก็ เราคงต้องกังวลตลอดเวลาว่าวันไหนคุณจะเจออุบัติเหตุแบบในข่าว หรือถ้าโชคร้ายจริงๆ เราอาจจะเป็นหนึ่งในข่าวอุบัติเหตุนั้นก็เป็นได้  อย่างกรณีต่อไปนี้ คุณคงเคยได้ยินคำว่า ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวจาก facebook ศุภโชค พิเชษฐ์กุล ที่ได้โพสเรื่องราวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ที่รุนแรงที่สุดจนลูกเกือบเสียชีวิต..แต่ก็รอดมาได้ เพราะคาร์ซีท ซึ่งเป็นเรื่องราวที่โด่งดังมากในโซเชียล เพราะเป็นคดีความที่สังคมติดตาม เนื่องจาก คู่กรณีคือ รถบรรทุกเฟอร์นิเจอร์บริษัทดัง ซึ่งผ่านมากว่า 4 เดือน บริษัทคู่กรณียังนิ่งเฉย แทนที่จะรับผิดชอบค่ารักษาเยียวยา แต่ทางฝ่ายกฎหมายของบริษัทกลับแนะนำให้ไปฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายเอา ชนแล้วปล่อยเรื่องเงียบแบบนี้ได้หรือ? โดยเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้มีการแชร์เรื่องดังกล่าวเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ คุณศุภโชค พิเชษฐ์กุล ผู้เสียหายจนเป็นข่าวใหญ่ในเวลาต่อมา หลังจากที่เพจ แหม่มโพธิ์ดำ แชร์เรื่องนี้ออกไป ทำให้สื่อต่างๆ ให้ความสนใจและเชิญคุณศุภโชคไปชี้แจงในรายการต่างๆ มากมาย จากหลายช่อง ไม่ว่าจะเป็น bright tv, ช่อง 3, รายการยกทัพบรรเทาทุกข์ ช่องpptv, เจาะประเด็นข่าวเด่นช่อง 8,ช่องtrue4u, ช่อง 34 อมรินทร์ทีวี, รายการถามตรงๆกับจอมขวัญช่อง ช่องไทยรัฐทีวี โดยคุณศุภโชคได้เล่าว่า วันที่ 11 ก.พ. 60 เมื่อเวลา ประมาณสามทุ่มก่วาๆ ผม อ้อน น้องเป๊ะๆ (ภรรยาและลูกชายวัย 3 ขวบ) ออกไปทานข้าวกันตามปกติ ขากลับใกล้จะถึงบ้าน ช่วงสถานีรถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่ ก่อนขึ้นสะพานวนไป Big King บางใหญ่ ผมก็ขับมาปกติ เห็นรถข้างหน้าเบรคกดไฟขอทางส่งเป็นสัญลักษณ์ว่ารถมีการชะลอ ผมก็หยุดจอด และกดไฟขอทางส่งต่อไปให้รถข้างหลังได้ทราบ ภาพที่ผมจำได้คือ ผมมองกระจกมองหลัง […]