เด็กเล็กแต่งกายไว้ทุกข์อย่างไรดี

เสื้อผ้าสำหรับเด็กเล็กๆ นั้นมักจะมีแต่สีสันสดใส เพื่อให้ดูเหมาะสมกับวัย คุณแม่จึงไม่ค่อยจะมีเสื้อผ้าเด็กสีดำติดบ้านกันสักเท่าไหร่ บางบ้านไม่มีเสื้อผ้าเด็กสีดำเลยด้วยซ้ำ จึงใส่ชุดให้ลูกไปตามที่มี ซึ่งก็เกิดประเด็นทำให้คุณแม่เป็นกังวลอย่างมาก บ้างโดนต่อว่าด้วยคำพูด บ้างโดนตำหนิด้วยสายตา “ทำไมไม่ใส่ชุดดำให้ลูก” พลอยทำให้คุณแม่ไม่กล้าพาลูกออกจากบ้าน เพราะที่บ้านไม่มีเสื้อผ้าเด็กสีดำเลย แล้วอย่างนี้ เด็กเล็กแต่งกายไว้ทุกข์อย่างไรดี สำหรับชุดไว้ทุกข์ของเด็กๆ นั้น ไม่ได้เคร่งครัดอะไร คุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปค่ะ ขอให้เป็นสีเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด หากเป็นไปได้ก็คุมโทนเสียหน่อย ด้วยโทนดำ ขาว ไข่ไก่ ครีม เทา น้ำเงิน น้ำตาลเข้ม ตัวอย่างแบบเสื้อผ้าเด็กสำหรับใส่ไว้ทุกข์มาฝากให้คุณแม่ลองนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ดูนะคะ การแต่งกายไว้ทุกข์สำหรับเด็กผู้ชาย การแต่งกายไว้ทุกข์สำหรับเด็กผู้หญิง สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีเสื้อผ้าลูกสีคุมโทนตามที่กล่าวมา การซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกเพื่อใส่ไว้ทุกข์อาจไม่ใช่คำตอบ ด้วยราคาเสื้อดำที่ตอนนี้ค่อนข้างแพง และเด็กๆ เขาก็โตเร็ว ใส่ไม่เท่าไหร่ก็คับต้องยกให้คนอื่น คำนวณแล้วอาจไม่คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย อาจใช้วิธีย้อมผ้าสีดำ แทนก็ได้ เพียงซื้อสีย้อมผ้าราคาย่อมเยา ก็แปลงโฉมเสื้อผ้าสีสันเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ถวายอาลัยได้แล้ว ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : เว็ปไซด์ amarinbabyandkids

คำสอนและวิธีการเลี้ยงลูกของสมเด็จย่าที่ทรงคุณค่าและควรนำมาเป็นแบบอย่างให้กับปวงชนชาวไทย

เนื่องในเดือนแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโรงเรียนทอสีได้จัดสัมนาเรื่อง“เลี้ยงลูกแบบสมเด็จย่า” โดยคุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา อดีตข้าหลวงในพระองค์มาร่วมเล่าประสบการณ์และแบ่งปันคำสอนของสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทยเมื่อฟังแล้วรู้สึกอยากจะบอกต่อ ถึงวิธีการเลี้ยงดูลูกของพระองค์ ที่มีทั้งความปราดเปรื่องหลักแหลมและมีเป้าหมายที่ชัดเจนสมควรใช้เป็นแบบอย่างเป็นอย่างยิ่ง ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น : คำพังเพยที่เราได้ยินบ่อยๆ แต่น้อยครั้งนักจะทำความเข้าใจอย่างจริงจังในขณะที่ตัวอย่างมีให้เห็นทั้งในทางที่ดีและทางที่ไม่ดีในเรื่องของการเลี้ยงดูบุตร สมเด็จย่าทรงเริ่มจากการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ทำเป็นต้นแบบในเรื่องของการมีวินัย การรักการค้นคว้าศึกษาหาความรู้ การประพฤติตัวที่ถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรม ทั้งหมดนี้คือการตั้งตนเป็นต้นแบบให้กับลูกเพราะเด็กเล็กจะมีพฤติกรรมเลียนแบบจากคนใกล้ชิดเพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องลองตั้งคำถามกลับมาที่ตัวเองว่าทุกวันนี้ที่เราอยากให้ลูกเป็นแบบนั้นแบบนี้แล้วเราล่ะเป็นแล้วหรือยัง ตั้งเป้าหมายในการเลี้ยงลูก: สมเด็จย่าทรงเป็นพระมารดาที่มีเป้าหมายในการเลี้ยงลูกอย่างชัดเจนคือทรงตั้งใจอบรมพัฒนาลูกๆ ให้ดีในทุกๆ ด้านเพื่อให้เป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ทรงไม่คิดถึงประโยชน์ของพระองค์เอง ประโยชน์ของพระโอรส หรือพระธิดา แต่ทรงมองถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ในปัจจุบันหลายครั้งที่เราเห็นพ่อแม่ส่งลูกเรียนพิเศษในทุกวิชาโดยที่ไม่ได้ถามลูกว่าลูกอยากเรียนอะไร หรือพ่อแม่ที่คาดหวังเรื่องผลการเรียนสูงๆ จากลูกเหล่านั้นคือการตั้งเป้าหมายกับลูกซึ่งเป็นการเอาความคาดหวังของตัวเองไปให้กับลูก เราจึงต้องมองย้อนกลับมาดูใหม่ว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้หรือความคาดหวังนั้นเป็นไปเพื่อใคร เพื่อลูก เพื่อตัวเราเอง หรือเพื่อคนอื่นๆ ด้วย ถ้าพ่อแม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเลี้ยงลูกก็จะทำให้เราสามารถพัฒนาประสิทธิภาพของเด็กๆ ได้สูงยิ่งขึ้น จัดแบบแผนและสร้างระเบียบวินัยตั้งแต่ลูกยังเล็ก: สมเด็จย่าทรงวางแผนการดำเนินชีวิตให้กับพระโอรสพระธิดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เนื่องจากต้องทรงเป็นทั้ง “พ่อ” และ “แม่” ในเวลาเดียวกันทรงจัดการทุกอย่างเป็นเวลา โดยมีผู้ช่วยคือพระพี่เลี้ยงเพียงหนึ่งคนเท่านั้นเนื่องจากในเวลาที่เด็กยังเล็กเขาไม่มีความรู้เรื่องขอบเขตของเวลา พ่อแม่จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดเวลาให้กับพวกเขาเช่นนอน รับประทานอาหาร เล่น ไปโรงเรียน อาบน้ำ ออกกำลังกาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะสร้างวินัยให้กับลูกซึ่งสมเด็จย่าทรงเน้นเรื่องวินัยในการดำเนินชีวิตพระองค์รับสั่งถึงคำว่า “ระเบียบวินัยอย่างมีหลักการ” คือการกำหนดขอบเขตของเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับชีวิตซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตของเด็กๆ ต่อไป […]

Checklist ความปลอดภัยให้เบบี้

เรื่อง : สิริพร ความปลอดภัยของลูกน้อยในวัยเบบี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกค่ะ คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องใส่ใจและดูแลเจ้าตัวเล็กอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ เรื่องแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่ควรมองข้ามนะคะ อยากจะชวนคุณพ่อคุณแม่มากันดูค่ะว่ามีเรื่องไหนที่เราเคยทำ แล้วเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็กกันบ้าง มีถุงพลาสติก หรือลูกโป่งอยู่ใกล้ตัวเบบี้ ? อย่ามองข้ามถุงพลาสติกที่คุณแม่ใส่ของหิ้วเข้าบ้านนะคะ เพราะหากเอาของออกแล้ว ไม่ทันเก็บให้ดี เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ อาจเผลอหยิบเล่นเข้าปาก หรือครอบหัวจนหายใจไม่ออก ส่วนลูกโป่งหากแตก เศษลูกโป่งก็อาจกระเด็นเข้าตา หรือดีดใส่หน้าจนได้รับอันตรายได้ Safety for baby : เจ้า ตัวเล็กอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นอยากสำรวจสิ่งใกล้ตัว ฉะนั้นความสะอาด และความปลอดภัยของสิ่งของที่ลูกจะคว้าจับได้จึงสำคัญ คุณแม่จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น หากมีลูกโป่ง หรือของที่ลูกสามารถบีบแตกได้อยู่ในบริเวณที่ลูกคว้าจับได้ง่าย คุณแม่ต้องรีบเก็บให้ห่างจากมือลูกโดยเร็ว แต่หากลูกอยากเล่นของเล่นลูกกลม ๆ ก็ลองหาลูกบอลที่เป็นผ้านุ่มนิ่ม ที่ไม่อันตรายจะดีกว่าค่ คุณพ่อสูบบุหรี่ตอนเบบี้ไม่อยู่บ้าน ? ควันบุหรี่ที่ถูกพ่อออกมาเป็นสารพิษชนิดเดียวกันกับที่สูบเข้าไปค่ะ ถึงคุณพ่อจะสูบตอนที่ลูกเบบี้ไม่อยู่บ้าน หรือไม่อยู่บริเวณนั้นขณะสูบ สารพิษนี้ก็คงยังล่องลอยอยู่ในอากาศ ทำให้บรรยากาศและคนในบ้านแย่ตามไปด้วย  Safety for baby : หากอยากจะให้เจ้าตัวเล็กของเราห่างไกลจากควันบุหรี่ คุณพ่อไม่ควรสูบบุหรี่ที่บ้านเลยดีที่สุดค่ะ และพยายามจัดบรรยากาศทั้งในและนอกบ้านให้ปลอดโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกอยู่ เสมอ เช่น […]

14 วิธีรับมือลูกแรกเกิด

เตรียมตัวรับมือให้พร้อมกับการเป็นคุณแม่อย่างเต็มตัว กับ 14 วิธีรับมือลูกแรกเกิด วางแผนล่วงหน้า : ใครจะเป็นคนตื่นกลางดึกมาดูแลถ้าลูกตื่นร้องไห้ พ่อแม่รู้สึกอย่างไรเวลาลูกร้องไห้มากๆอยากกินนมตลอดเวลา จะยอมเสริมนมผงไหม หรือ ถ้ารู้ว่าลูกได้นมเพียงพอแล้ว จะใจแข็งไม่เสริมแต่ใช้วิธีอื่นๆ ทำให้ลูกสงบแทน จะได้ไม่มาถกเถียงกัน หรือ ขัดแย้งกันภายหลัง ถ้ามีการวางแผนที่ดี การรับมือจะง่ายขึ้นโดยไม่เครียดมาก ถ้าเป็นไปได้ เลื่อนแผนงานเมกะโปรเจกท์อื่นๆออกไปก่อน : จนกว่าลูกจะอายุครบขวบ เพื่อลดความเครียดจากการต้องทำงานที่ยิ่งใหญ่สองงานพร้อมๆกัน วางแผนตารางชีวิตประจำวันตั้งแต่ลูกยังไม่คลอด เมื่อถึงเวลาจริงจะได้ไม่ฉุกละหุก : ในหนึ่งวันมีงานอะไรต้องทำบ้าง วันไหนที่อยากจะออกไปเที่ยวกันสองต่อสอง และถ้าเป็นไปได้ ก็วางแผนยาวล่วงหน้า 18 ปีไว้เลย ยืดหยุ่นและประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ : อย่าเชื่อตามตัวอักษรในตำราเป๊ะๆ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ให้สังเกตลูกแล้วปรับตัวให้เข้ากับครอบครัวตัวเอง จดบันทึก : ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้จดข้อมูล การกิน การนอน การร้องไห้ของลูก อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้มองเห็นแบบแผนลักษณะประจำตัวของลูกได้เร็ว และ ใช้เป็นข้อมูลส่งต่อให้คนอื่นที่มาช่วยดูแลลูกแทนเวลาพ่อแม่ไม่อยู่ ทำให้การดูแลง่ายขึ้น จัดลำดับความสำคัญ : จดรายการสิ่งสำคัญที่ต้องทำ การดูว่าอะไรที่เป็นสิ่งสำคัญ หมายถึง ถ้าไม่ทำสิ่งนั้น จะส่งผลต่อสุขภาพ […]

10 วิธีทำให้ลูกฉลาดรอบรู้

เลี้ยงลูกให้มีความสุข เด็กที่มีความสุขคือเด็กที่รู้สึกปลอดภัย มั่นคง ทั้งในด้านอารมณ์ความรู้สึก และสิ่งแวดล้อมภายนอก เด็กที่มีความสุขจะรู้ว่าตนเองมีคุณค่าในแบบที่ตัวเองเป็น พ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่มีความสุขได้โดยการใช้เวลากับลูกให้มากๆ รู้จักสื่อสารพูดคุยกับลูก และสอนให้ให้ลูกรู้จักภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น การซื้อของและสมัครเรียนเสริมนอกเวลาให้ลูก ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความสุข ถ้าอยากให้ลูกมีความสุข คุณเองควรใช้เวลากับลูกให้มากขึ้นมากกว่า ออกไปเรียนรู้โลกกว้าง อีกหนึ่งวิธีที่จะเลี้ยงลูกให้มีความรอบรู้คือ การพอลูกออกไปท่องโลกกว้าง หรือชวนทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ใช่ให้พวกเขาอยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว กิจกรรมที่น่าสนใจ และทำให้ลูกได้ประสบการณ์ใหม่ๆ นั้นมีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น งานอาสาสมัคร ไปทำบุญที่วัด เล่นกีฬาที่สโมสรในหมู่บ้าน พาลูกไปซื้อของที่ตลาด เป็นต้น สอนให้ลูกเป็นคนรักการเรียนรู้ พยายามกระตุ้นให้ลูกเป็นเด็กที่รักการเรียนรู้ และทำให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย คุณอาจกระตุ้นการเรียนรู้ให้กับลูกผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวตามธรรมชาติ พาลูกไปพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ชวนลูกอ่านนิทาน ชวนลูกดูภาพยนตร์ด้วยกัน เป็นต้น สอนให้รู้จักเคารพผู้อื่น การรู้จักเคารพผู้อื่น เป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญ หรือที่มาของคุณธรรมในตัวเด็ก เด็กที่ถูกเลี้ยงให้รู้จักเคารพกฎเกณฑ์ เคารพตนเอง เคารพผู้อื่น รวมถึงเคารพสิทธิของคนรอบข้าง จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นคนดีและมีคุณธรรม การสอนเรื่องความเคารพให้กับลูกตั้งแต่ยังเด็กจึงนับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สอนให้ลูกรู้จักเชื่อฟังพ่อแม่ วิธีง่ายที่สุดในการสอนให้ลูกเป็นเด็กที่รู้จักเชื่อฟังพ่อแม่ คือ ความสม่ำเสมอและความยุติธรรม อย่าทำให้ลูกสับสนด้วยการอนุญาตให้ลูกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในวันนึง แต่พออีกวันกลับห้ามทำ และคุณต้องปฏิบัติกับลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมกันด้วย เช่น […]

ก้าวแรกของลูกกับรองเท้าคู่แรก

ลูกสบายเท้า แม่สบายใจ การเลือกซื้อรองเท้าให้ลูกน้อยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้ สบาย  ให้ลูกลองสวมเดิน แล้วคุณแม่ลองสังเกตดูว่าลูกใส่สบายหรือเปล่า รองเท้าที่ใส่แล้วสบายต้องเหลือที่ว่างตรงปลายนิ้วโป้งเท้ากับปลายรองเท้าพอสมควรประมาณ 1 เซนติเมตร เบา ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นอ่อน ทำจากวัสดุที่นุ่ม น้ำหนักเบา และยืดหยุ่นได้ดี เพราะจะช่วยให้ลูกน้อยควบคุมเท้าและการทรงตัวได้ดีกว่ารองเท้าที่มีพื้นแข็ง เหมาะสม รองเท้าที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อยนั้นต้องหัวกว้างหรือป้าน เพื่อให้เท้ากางได้สบาย เวลาใส่เท้า ลูกก็จะไม่งองุ้ม และควรเลือกรองเท้าที่มีสายรัดกระชับข้อเท้า และส้นรองเท้า เพื่อช่วยประคองกล้ามเนื้อเท้าในเวลาเดิน ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยเดินทรงตัวได้ดีขึ้น ระบายอากาศ รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีนั้น ต้องทำจากผ้าใบคุณภาพดี หรือหนังฟอกเนื้อโปร่ง ซึ่งจะช่วยระบายความอับชื้นให้ลูกน้อยเวลามีเหงื่อออกได้ ใส่ง่ายถอดง่าย รองเท้าที่ดีสำหรับลูกน้อยนั้น ควรเป็นรองเท้าที่ง่ายต่อการใส่และสะดวกต่อการถอด เพราะจะทำ ให้ลูกรู้สึกดีกับการใส่รองเท้า ทำให้ลูกอยากใส่มากกว่ารองเท้าที่มีขั้นตอนในการใส่ยุ่งยาก หลีกเลี่ยงรองเท้าแตะหนีบ วัยเตาะแตะไม่ควรใส่รองเท้าแตะหนีบ เพราะจะทำให้ปวดหัวเข่า ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับเข่าของลูกน้อยได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้ก็ควรปล่อยให้ลูกได้เดินเท้าเปล่าด้วยนะคะ เช่น อยู่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องให้ลูกใส่รองเท้าหรอกค่ะ เพราะการปล่อยให้ลูกน้อยได้เดินเท้าเปล่านั้นจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ผิวสัมผัสของพื้นที่แตกต่างกัน และที่สำคัญยังช่วยพัฒนาทักษะการทรงตัว พัฒนากล้ามเนื้อเท้า เรียนรู้การใช้เท้าและนิ้วเท้าอีกด้วย ข้อมูลจาก : Enfa Smart Club

ชวนลูกน้อยหาความสุขใกล้ๆตัว

ความสุขมีอยู่รอบตัวเราและลูกค่ะ Smart Tips ขอชวนคุณจูงมือเจ้าตัวเล็กมาร่วมหาความสุขจากธรรมชาติรอบตัวไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมทั้งในและนอกบ้าน การฟังเสียงรอบข้างให้ใจเพลิดเพลิน และการสังเกตศิลปะที่ธรรมชาติรังสรรค์มาค่ะ พร้อมแล้วไปหาความสุขใส่ตัวกันเถอะ… กระชับใจใกล้ธรรมชาติ สัมผัสกับธรรมชาติทั้งแบบ Indoor และ outdoor เพื่อให้ดวงใจน้อยๆ ของเจ้าหนูดื่มด่ำไปกับความสุขที่ได้จากธรรมชาติกันค่ะ Indoor ชวนเจ้าตัวเล็กมาเป็นมัณฑนากรจิ๋ว โดยร่วมกันเปลี่ยนมุมเดิมๆ ในบ้านให้รายล้อมด้วยธรรมชาติเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งอ่าน เขียน และเล่นได้ในที่เดียว… หามุมที่อากาศถ่ายเทเปิดประตูหรือหน้าต่างให้แสงแดดรำไรสาดส่องเข้ามาในห้อง และสายลมเย็นๆ พัดผ่านได้สะดวก พร้อมหาเบาะรองนั่ง และเก้าอี้ญี่ปุ่นแสนสวยตั้งไว้สำหรับเป็นมุมของเด็กๆ ไว้อ่าน เขียน หรือประดิษฐ์งานศิลป์ชิ้นโปรด เข้าสู่ยามค่ำคืนลองงดใช้แสงสว่างจากหลอดไฟ แล้วให้โอกาสแสงจันทร์ได้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนูผ่านการเล่านิทานจากเงา หรือถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ แก่กันท่ามกลางแสงจันทร์นวลๆ ก็ถือเป็นกิจกรรมที่แสนจะสุนทรียะเช่นกันค่ะ Outdoor เด็กๆ ควรมีกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งนอกจากสุขภาพของพวกเขาจะดีจากการได้เล่นแล้ว คุณยังสามารถใช้กิจกรรมกลางแจ้งสร้างสุนทรียะให้เขาได้ด้วย ชวนเจ้าตัวเล็กรังสรรค์ผลงานจากธรรมชาติเพื่อธรรมชาติสิคะ เช่น ทำกระบะขนาดพอเหมาะจากวัสดุไม้ เพื่อใส่อาหารนก หรือผลไม้น่าอร่อยอย่างเช่น ผลกล้วยสุก กับแอปเปิ้ลสีแดงสวยผ่าซีก สำหรับเจ้ากระรอกน้อย หรือคุณนกที่บินร่อนอยู่บริเวณนั้น กระชับอารมณ์ด้วยเสียงแสนละมุน เสียงอันไพเราะแสนละมุน ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรี เสียงสายลมเย็นๆ หรือน้ำเสียงหวานๆ ของคุณจะช่วยกล่อมเกลาให้เจ้าหนูไม่มีอารมณ์ที่หมองมัวได้ด้วยนะคะ สายลมกับกระดิ่งลมของหนู ยามกระดิ่งต้องลมดังกรุ๊งกริ๊ง เป็นเสียงที่เสนาะหูใช่มั้ยล่ะคะ ลองให้เด็กๆ เลือกซื้อหรือประดิษฐ์กระดิ่งลมตามสไตล์ของเขาเอง พร้อมกับเลือกมุมแขวนกระดิ่งด้วยตัวเองสิคะ รับรองว่าเจ้าหนูต้องร้อง “ว้าว!… เสียงกระดิ่งลมของหนูเพราะจัง” ชัวร์ เก้าอี้ดนตรีคึกคัก ภาพการเคลื่อนไหวยึกยักไปมาเพื่อหาจังหวะแย่งเก้าอี้ของเด็กๆ โดยมีเสียงทำนองเพลงที่เด็กๆ คัดสรรเองกับมือ จะช่วยให้เสียงหัวเราะแห่งความสุขเบ่งบานได้ไม่ยากค่ะ แถมเกมนี้ยังสร้างให้เด็กๆ มีหัวใจนักกีฬาด้วยนะคะ […]

10 เคล็ดลับ สร้างมารยาทบนโต๊ะอาหารให้วัยเยาว์

เรื่อง : เมธาวี ภาพ กองภาพ การรู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหารของเด็ก ๆ เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักการอดทนรอคอย ซึ่งเป็นพื้นฐานการมีนิสัยที่ดี Rosanne Thomas ประธานที่ปรึกษาด้านมารยาทบนโต๊ะอาหารและทักษะการดื่มในเด็ก จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตัน ได้ทดลองโดยให้คนในครอบครัว พ่อแม่ หรือปู่ย่าตายาย มากินอาหารร่วมกัน และแสดงพฤติกรรมดี ๆ บนโต๊ะอาหารให้เด็ก ๆ ดูเป็นตัวอย่าง ปรากฏว่าเด็ก ๆ จะสังเกตพฤติกรรมเหล่านั้นและสามารถทำตามได้เอง โดยใช้เคล็ดลับ 10 ข้อค่ะ ซึ่งแม้ว่าจะออกไปทางมารยาทแบบตะวันตก แต่เด็กไทยเรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ ผู้ชายควรแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ด้วยการดึงเก้าอี้ออกมาให้ผู้หญิงนั่งก่อน แล้วจึงไปนั่งที่ตนเอง เจ้าบ้านเป็นผู้นำก่อน เมื่อเจ้าบ้านหยิบผ้าเช็ดปากวางลงบนตัก ผู้ร่วมโต๊ะจึงเริ่มหยิบผ้าเช็ดปากของตนเอง และเมื่อเจ้าบ้านหยิบส้อม ผู้ร่วมโต๊ะก็สามารถหยิบส้อมของตนเองได้ บอกเด็ก ๆ ว่ายังไม่เริ่มกินจนกว่าสมาชิกบนโต๊ะจะได้รับการเสิร์ฟครบทุกคน ขนมปังและเนยวางอยู่ด้านซ้าย ฉีกเป็นชิ้นเล็กพอกินแล้วทาเนยพอประมาณ เมื่อจะส่งอาหารจานหนึ่งไปรอบ ๆ ให้ส่งไปทางด้านขวา หากจำเป็นต้องลุกจากโต๊ะอาหารโดยยังกินไม่อิ่ม ให้วางมีดและส้อมเป็นรูปตัววีกลับหัว ไม่ควรหั่นอาหารชิ้นหนึ่งให้หมดภายในครั้งเดียว แต่ให้หั่นทีละ 1-2 ชิ้น […]

รอบรู้เรื่อง “นอน” ของเจ้าตัวน้อย

ความสำคัญของการนอนของเจ้าตัวเล็กนั้น มีผลต่อการเติบโตต่อร่างกาย เพราะการนอนหลับจะมีฮอร์โมนเรียกว่า โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมากระตุ้นให้ร่างกายเติบโต ใยประสาทจะเชื่อมโยงกับเซลล์ จึงทำให้สมองเติบโตด้วย ฉะนั้นเจ้าตัวเล็กที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็จะเป็นเด็กที่อารมณ์ดี เรียนรู้ได้มากแต่การนอนหลับของเจ้าตัวเล็กตามธรรมชาตินั้น ไม่ได้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง อย่างที่เราเห็นนาฬิกาในสมอง จะกำหนดให้เจ้าตัวเล็กได้พักผ่อนตลอดเวลาของการนอนจริง ๆ ก็ต่อเมื่อได้หลับรวดเดียวประมาณเดือนที่ 6 ขึ้นไปแล้ว พ.ญ. เชิดชู อริยศรีวัฒนา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่าเด็กทารกมีการนอนหลับไม่สนิทโดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ของชีวิต ซึ่งจะมีการเคลื่อนไหวของนัยตาอย่างรวดเร็วว่า Rapid eye movement สลับกับการหลับเงียบสนิทที่เรียกว่า Quiet sleep หรือ Non-rapid-eye-drop movementจึงทำให้บางครั้งนอนดิ้น ส่งเสียงครวญครางแต่ยังตื่นไม่เต็มที่ คุณไม่ควรเข้าไปอุ้มหรือให้กินนม เพราะจะเป็นการไปปลุกให้เด็กซึ่งกำลังหลับในช่วงหลับไม่สนิทให้ตื่นขึ้น แทนที่จะหลับต่อไปได้อีก ข้อมูลจากหน่วยกุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า พฤติกรรมการนอนของเจ้าตัวเล็กแต่ละวัยมีความแตกต่างกัน โดยสามารถแจกแจงให้เห็นชัดเจนดังต่อไปนี้ 0 – 3 เดือน การหลับและตื่นของทารกแรกเกิดมักจะเฉลี่ยเท่า ๆ กันทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เจ้าตัวเล็กจะนอนหลับวันละประมาณ 20 ชม. ต่อวัน แต่ในช่วงแรกมักจะนอนกลางวันมากกว่ากลางคืน มีเวลาตื่นที่ไม่แน่นอน การนอนอาจเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์และ จะปรับตัวมานอนตอนกลางคืนมากกว่าได้เองในไม่ช้า 3 – 6 เดือน เจ้าตัวเล็กจะหลับกลางวันน้อยลง นอนกลางคืนมากขึ้น โดยจะหลับรวดเดียวไปจนถึงเช้า ไม่ตื่นมากินนมตอนกลางคืนเหมือนก่อน คุณก็ไม่จำเป็นต้องปลุก ให้เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาดูดนมหรือกลัวว่าจะหิว […]