เส้นทางไป Baby Gift สาขา Mega บางนา

เพราะคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ปลอดภัยต่อลูกน้อยมากที่สุด คุ้มค่ามากที่สุด และการบริการที่ดีที่สุด ทาง Baby Gift จึงให้ความสำคัญกับทุกสิ่งเพื่อตอบสนองได้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ด้วยความใส่ใจ และการรักษามาตรฐานการบริการที่ดีต่อลูกค้าเสมอมา ทางBaby Gift Showroom จึงได้มีสาขาที่พร้อมให้บริการคุณพ่อคุณแม่ถึง 8 สาขา ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล และสาขาล่าสุด ที่ได้เปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา “สาขาเมกา บางนา”ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด มีสินค้าหลากหลายที่สุด คุณพ่อคุณแม่ที่มาช้อปสาขานี้รับรองว่า ได้สินค้าเพื่อแม่และเด็กครบครัน แบรนด์ชั้นนำ Aprica Ailebebe Prince&Princess อาทิเช่น รถเข็นเด็ก คาร์ซีท เก้าอี้ทานข้าว อาหารสำเร็จรูป ของเล่นเสริมพัฒนาการ ผลิตภํณฑ์ออแกนิกต่างๆ อื่นๆ ฯลฯ ทางเราขอพาคุณพ่อคุณแม่ เดินทางสู่ Babygift Showroom สาขาเมกา บางนา ชั้น2 โซน Mega Kids ค่ะ…!!! START!!! เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ ถ้าบอกว่า “เมกา บางนา” ใครๆก็คงรู้จัก แต่พอมาถึงที่แล้ว ทางเข้ามีหลายทางมากเลยค่ะ […]

รถที่คุณใช้ปลอดภัยดีหรือไม่ ???

…คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า รถนั้นปลอดภัยพอ… นี่คือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญไม่ว่ารถที่คุณพิจารณาจะเป็นรถใหม่แกะกล่อง หรือเป็นเพียงรถใหม่สำหรับคุณ ลองใช้เกณฑ์เหล่านี้ประกอบการเลือกรถของคุณ รถซีดาน 4 ประตู บันทึกอุบัติเหตุทางจารจรเปิดเผยว่า คุณจะได้รับบาดเจ็บจากการชนน้อยกว่า ถ้าอยู่ในรถซีดาน 4 ประตู เมื่อเทียบกับรถคูเป้ 2 ประตู รถสปอร์ต หรือรถตู้ขนาดเล็ก ยิ่งใหญ่ยิ่งดี รถที่คุณขับยิ่งใหญ่ยิ่งปลอดภัย ถ้าคุณมีเงินจำกัดเพียงซื้อรถขนาดเล็ก ก็ให้ซื้อรถขนาดใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกับที่คุณพิจารณา หรือไม่ก็เลือกรถที่มีฐานล้อใหญ่ที่สุด จากผลการวิจัยจบพบว่า ระยะทางระหว่างล้อหน้ากับห้องโดยสารที่กว้างกว่า จะช่วยให้คุณปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดชนวน ดังนั้น ควรมองหารถที่มีระยะระหว่างล้อหน้าและล้อหลังมากหน่อยนะค่ะ รถขับเคลื่อนล้อหน้า แม้ว่าการใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ทั้งล้อทั้ง 4 แบ่งกำลังไปเท่า ๆ กัน จะปลอดภัยที่สุด แต่มีรถไม่กี่รุ่นที่มีระบบนี้ เป็นที่น่ายินดีว่า รถขับเคลื่อนล้อหน้าก็มีความปลอดภัยในระดับแนวหน้าเช่นกัน เพราะสามารถป้องกันการลื่นไถลได้ดีกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง สีของรถ สีสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ เราจะสามารถสังเกตเห็นรถสีขาว สีตะกั่วได้ง่ายกว่ารถสีมืด 12 เท่า สีจาง ๆ เช่น สีน้ำตาล สีเทาเข้ม และสีเทา ก็สามารถสังเกตได้ง่ายกว่าเช่นกัน ระบบเบรก ABS […]

หลักการง่ายๆในการเลือกรถเข็นเด็ก

เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 1.1 รถเข็นเด็กสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด –  2 ปี 1.2 รถเข็นเด็กสำหรับเด็กประมาณ 7 เดือนนั่งหลังตรงได้แล้ว ถึงประมาณ 3 ปี หรือพวกก้านร่มที่มีน้ำหนักเบาพกพาง่าย วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง

เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางด้วยคาร์ซีท

คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ จำเป็นต้องเดินทางอยู่บ่อยๆ และการที่จะพาลูกน้อยเดินทางไปด้วย โดยเฉพาะครอบครัวที่เพิ่งมีลูกเล็ก การดูแลในการเตรียมความพร้อมสำหรับเดินทางให้ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง คาร์ซีท Carseat จึงเป็นตัวช่วยหนึ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางอยุ่บ่อยๆ ค่ะ เทคนิคการเลือกซื้อคาร์ซีท Car seat แนะนำโดยคุณอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ เจ้าของร้าน Baby Gift  ช่วงวัย เลือกคาร์ซีทตามวัยของลูก เพราะคาร์ซีทจะแบ่งตามเกณฑ์อายุของเด็ก ซึ่งบางตัวอาจจะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด หรือตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 เดือน, แรกเกิดจนถึง 4 ปี หรือ 3 ปี ถึง 11 ปี เป็นต้น การเลือก คาร์ซีท Car seat ที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี เบาะควรมีความนุ่มหยุ่นมากพอสมควร รูปทรง รูปทรงที่ดี จะต้องสามารถรองรับสรีระของเด็กได้ อย่างเช่น carseat ของเด็กวัยแรกเกิด ควรมีการปรับองศาในการนอนที่มากพอ เพราะเด็กวัยนี้กระดูกต้นคอ และกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง คุณสมบัติของผ้าที่ห่อหุ้ม ควรมีคุณสมบัติที่ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น คุณสมบัติคาร์ซีท Aprica รุ่น marshmellow(ปัจจุบันไม่มีจำหน่ายแล้ว) ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 4 ปี สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามสรีระของเด็ก โดยทั่วไปแล้ว คาร์ซีทจะไม่มีขาค้ำ […]

วิธีการเลือกคาร์ซีท

การเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณทำไมถึงต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยจึงจำเป็นต่อคุณและลูกน้อยล่ะ? หลายประเทศได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของคาร์ซีท carseat สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบ เนื่องจากคุณจะต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจร และหากคุณเดินทางพร้อมกับลูกน้อย โดยที่คุณจะต้องอุ้มลูกไว้ที่ตัก ก็อาจจะมีโอกาสที่คุณไม่สามารถที่จะอุ้มลูกได้อย่างมั่นคงและเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกของคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสูงค่ะ ดังนั้นการมีคาร์ซีท ที่ปลอดภัยในรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ ทั้งนี้พึงระวังไว้ว่าการใช้คาร์ชีทที่ไม่ถูกต้อง อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่เด็กมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณควรต้องเลือกใช้คาร์ซีท carseat ให้ถูกต้องพร้อมกับศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยนะค่ะ หากไม่มีคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแล้ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จากสถิติได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบนั่งบนรถยนต์ที่ปราศจากคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยและประสบอุบัติเหตุ อัตราการเสียชีวิตจะมากกว่าการนั่งบนรถยนต์ที่ติดตั้งคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยถึง 4 เท่า ***ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานคาร์ซีท carseat ไม่ถูกวิธี จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 โดยองค์การทางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ( Japan Automobile Federation :JAF) เกี่ยวกับการใช้งาน คาร์ซีท carseat พบว่า 32.7 % ของคาร์ซีท carseat ที่ใช้งานนั้นติดตั้งอย่างไม่แน่นหนา ขณะที่อีก 67.3 % นั้นถูกพบว่ายังใช้งานได้ไม่ถูกต้องนัก ไม่ว่าจะเป็นการรัดสะโพกที่หลวมเกินไป หรือ การใช้งานที่หัวเข็มขัดที่ใช้ยึดที่นั่งไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกใช้คาร์ซีท carseat ที่ถูกต้องแล้ว แต่หากการใช้งานไม่ถูกวิธีก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีทให้ถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคาร์ซีท […]

ทำไมถึงต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีท?

“นั่งคาร์ซีทแบบใหม่ ลูกปลอดภัยกว่าเดิม ให้เด็กหันหน้าไปด้านหลัง ลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ” พ่อแม่ในอังกฤษต่างพากันตื่นตัว เมื่อทีมแพทย์แนะนำให้ลูกนั่งเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีท จากการศึกษาลักษณะการติดตั้งของคาร์ซีทที่ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น ทีมแพทย์เผยว่า การที่ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ มีความปลอดภัยมากกว่า ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสมกับเด็กแรกเกิดถึง 4 ปีเท่านั้น

พวกเรารักคาร์ซีท!!!

ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆเรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ”  ของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย สร้างความผูกพันกับเก้าอี้ อนุญาตให้ลูกเอาสติ๊กเกอร์มาตกแต่งเก้าอี้ เอาให้ถูกใจเลยเพราะต้องนั่งไปอีกนาน มอบรางวัล บอกลูกว่า เราจะออกเดินทางได้ก็ต่อเมื่อล็อกสายรัดนิรภัยเรียบร้อย แล้วลูกจะรีบทำตัวน่ารักเพราะอยากไปเที่ยว แต่ถ้ากำลังพาไปหาหมอ อาจให้ขนมเป็นรางวัลได้ เบี่ยงเบนความสนใจ ถ้าโยเยนัก ชวนคุยเรื่องการ์ตูนที่ลูกกำลังอินดีกว่า แค่นี้ก็เผลอจดจ่อกับการโม้เรื่องเจ้าหญิงกับฮีโร่ จนไม่ทันสังเกตว่า ตัวเองถูกจับนั่งเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว (มุกนี้ไม่เหนื่อย แถมสนุกดีด้วย) เตรียมของเล่นแก้เบื่อ ควรมีของเล่นชิ้นโปรดอยู่ในรถ แนะนำว่าควรเป็นของเบาๆ และไม่แข็ง เช่น หนังสือผ้า เพราะคุณอาจโดนลูกเอาของในมือปาใส่ขณะขับรถ หรือเลือกเปิดเพลงที่ลูกชอบแล้วร้องไปด้วยกันก็ได้ หยุดพักบ้าง หากต้องเดินทางไกลควรเลือกใช้เก้าอี้ปรับนอนเอนได้ และจอดพักสักครู่เพื่อให้ลูกได้ยืดเส้นยืดสาย เคล็ดลับก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท อายุ ประเภทของคาร์ซีท […]

โครงการ”รักลูกให้รอดปลอดภัยเมื่อใช้รถ”

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข กรมทางหลวง กองบังคับการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สสส และ คุณแทนคุณ จิตต์อิสระ จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในแต่ละปีจะมีเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี ประสบอุบัติเหตุจากการโดยสารรถยนต์ รถปิกอัพ หรือรถตู้ กว่า 5500 รายต่อปีหรือ 15 คนต่อวัน   เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่ต้องการการนอนพักรักษาตัวหรือสังเกตุอาการในโรงพยาบาลประมาณ 1400 คนต่อปี และเสียชีวิต รวมประมาณ 70คนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นรถปิกอัพกว่า 1190 ราย และรถยนต์ทั่วไปอีก 170 ราย ในช่วง 10 วันของเทศกาลสงกรานต์ จะมีเด็กบาดเจ็บจากอุบติเหตุทางถนนประมาณ 1100 ราย เป็นการบาดเจ็บรุนแรงที่เกิดจากการโดยสารรถยนต์ รถตู้ รถปิกอัพ ประมาณ 132 ราย ในจำนวนนี้มีการเสียชีวิตจำนวน 6 ราย เมื่อรถยนต์ มีการเบรกอย่างกะทันหัน หักเลี้ยวอย่างฉับพลัน หรือชนอย่างรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีก็คือ…ร่างของเด็กๆจะหลุดลอยจากที่นั่ง ไปอัดกับแผงคอนโซลหน้ารถ ปะทะกับกระจกหน้ารถ แล้วทะลุลอยละลิ่วออกนอกรถ หรือประตูรถเปิดออก แล้วเด็กกระเด็นออกไปนอกรถ ด้วยรูปร่างเล็กบอบบางของเด็กๆ จึงทำให้…กระโหลกศีรษะ กระดูกซี่โครง แขนขา แตกหัก ปอด หัวใจ รวมทั้งอวัยวะภายในช่องท้องต้องชอกช้ำ หรือ ฉีกขาดโดยเฉพาะศีรษะของเด็กๆ ที่กระแทกอย่างรุนแรง ทำให้มีเลือดออกในสมอง เป็นเหตุแห่งความพิการ หรือ เสียชีวิต… […]

พัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ

พัฒนาการของเด็ก แบ่งได้หลายแบบ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ คือ ด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Development) ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine Motor Development) ด้านภาษา (Language Development) ด้านสังคม (Social Development) เด็กปกติทั่วไปจะมีลำดับขั้นของพัฒนาการใกล้เคียงกัน ถ้าเด็กมีพัฒนาการล่าช้าเกิน 6 เดือนขึ้นไป ถือว่ามีความผิดปกติบางอย่างที่ต้องรีบช่วยเหลือ และกระตุ้นพัฒนาการอย่างเร็วที่สุด พัฒนาการปกติในแต่ละช่วงวัยเป็นดังนี้ พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Development) ช่วงวัย พัฒนาการ แรกเกิด  งอแขนขา, เคลื่อนไหวเท่ากัน 2 ด้าน  1 เดือน  หันหน้าซ้ายขวา  2 เดือน  ชันคอ  4 เดือน  ยกแขนดันตัวชูขึ้นในท่าคว่ำ  6 เดือน  คว่ำหงายได้เอง  9 เดือน  นั่งได้มั่นคง, คลาน, เกาะยืน  12 เดือน  เกาะเดิน  15 เดือน  เดินเองได้  18 เดือน […]