ไขข้อข้องใจ การอยู่ไฟ – ไม่อยู่ไฟ คุณแม่หลังคลอด ช่วยให้หุ่นคุณแม่กลับมาเป๊ะเร็วขึ้น

เพราะความสวย หุ่นดี เป็นสิ่งที่คู่ควรกับผู้หญิงอย่างเราอยู่เสมอ… การเป็นคุณแม่ นอกจากต้องเสียสละ ความเป็นส่วนตัวไปแล้ว ยังต้องเสียสละการมีหุ่นที่สวยเป๊ะ เหมือนสาววัยแรกแย้มอีก เพราะต้องยอมรับก่อนเลยว่าการตั้งครรภ์นี่หุ่นของคุณแม่จะพังแน่นอน และยิ่งขณะตั้งครรภ์ไม่ดูแลรูปร่างตัวเอง น้ำหนักขึ้นมาเยอะอีกหล่ะก็ไม่ต้องพูดถึง หลังคลอดคุณแม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องหุ่นแน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วทุกปัญหามีทางออก ถ้าคุณแม่ให้ลูกกินนมแม่น้ำหนักก็จะลดเร็ว และยิ่งได้อยู่ไฟหลังคลอด ตามคำบอกเล่าโบราณอีก ก็พอทำให้หุ่นคุณแม่กลับมาเป๊ะเหมือนเดิมแน่นอน แถมบางคนยังมีผิวพรรณสดใสกว่าตอนก่อนตั้งครรภ์อีก…งานนี้แม่ๆ อยากจะรู้จักวิธีการอยู่ไฟแล้วใช่ไหม มันดียังไงกันนะ???

“อยู่ไฟ” หลังคลอด คงเป็นคำที่คุณแม่ทั้งหลายครุ่นคิดอยู่ในสมองว่า เราควรจะอยู่ไฟหลังคลอดดีไหม อยู่แล้วดีอย่างไร และควรทำที่ไหน วันนี้เราจะมาไขคำตอบคุณแม่ให้หายสงสัยกัน

เพราะร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกระบบ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว หน้าอกขยายขึ้น เพราะมีการสร้างน้ำนมขึ้นมา ไปจนถึงมดลูกขยายตัวมาก ซึ่งเป็นปัญหาหลักของคุณแม่หลังคลอด

การอยู่ไฟ เป็นการฟื้นฟูสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับแม่หลังคลอด ซึ่งในสมัยก่อนยังไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มียาหยุดเลือด ไม่มียากระตุ้นน้ำนม การอยู่ไฟสมัยก่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้าให้กลับคืนสภาพปกติ แต่ในปัจจุบัน การอยู่ไฟถูกลดบทบาทลง ถ้าไม่อยู่ไฟในปัจจุบัน ถือว่าไม่อันตรายเพราะมียาครบครันกว่าสมัยก่อน ดังนั้นการอยู่ไฟจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสม จึงจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

ประโยชน์ที่ได้จากการอยู่ไฟ คือร่างกายคุณแม่จะฟื้นตัวเร็ว รูปร่างจะกลับมาดีขึ้น, น้ำหนักตัวลดลง, น้ำนมไหลดีขึ้น, เลือดไหลเวียนดี มีเลือดฝาด, ผิวพรรณผ่องใส, มดลูกเข้าอู่เร็ว, ร่างกายแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค, แก้ปวดเมื่อย ปวดเอว กระชับกล้ามเนื้อ แค่นี้ก็พบข้อดีของการอยู่ไฟกันไปแล้ว พอให้คุณแม่ได้มีพื้นที่ความสวยหุ่นเป๊ะอยู่บ้าง แต่ควรจะทำกันเวลาไหน ตอนไหนหล่ะ ที่นี่มีคำตอบ

สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติควรเว้นระยะให้แผลหายก่อนคือ 7-10 วันและ สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดควรเว้นระยะ อย่างน้อย 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกิดการอักเสบติดเชื้อของแผลผ่าคลอด

การอยู่ไฟหลังคลอด มีหลากหลายวิธี ดังนี้

  1. การนวดเข้าตะเกียบ ช่วยให้สะโพกที่ขยายเข้าที่เร็วขึ้น กระชับขึ้น
  2. การทับหม้อเกลือ ซึ่งจะช่วยให้การขับน้ำคาวปลา และลดการปวดบริเวณมดลูก ให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น น้ำคาวปลาเดินดีขึ้น
  3. การอบสมุนไพร จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย น้ำนมไหลดีขึ้น เพราะความร้อนจะไปกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
  4. การอาบน้ำสมุนไพร ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และช่วยผ่อนคลาย
  5. การนั่งถ่าน จะเป็นการใช้ควันสมุนไพรรมบริเวณช่องคลอด ช่วยให้แผลแห้ง แผลปิดเร็ว ช่วยกระชับช่องคลอด ซึ่งในปัจจุบันจะมีไฟส่อง สำหรับอบแผลบริเวณช่องคลอด สามารถใช้ทดแทนการนั่งถ่านได้

ข้อห้ามสำหรับการอยู่ไฟ

  1. ไม่ทำในกรณีคุณแม่ยังตกเลือดอยู่
  2. ไม่ทำในกรณีคุณแม่มีไข้ ไม่สบาย
  3. ไม่ทำในกรณีคุณแม่อ่อนเพลีย มีความดันไม่ปกติ
  4. ไม่จำเป็นต้องพาลูกเข้าไปอยู่ไฟด้วย

ส่วนคุณแม่คนไหนไม่มีเวลา ไม่สะดวกอยู่ไฟก็ไม่ต้องกังวล เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีความเจริญก้าวหน้าไปไกลมาก คุณแม่ที่ไม่มีเวลาอยู่ไฟหลังคลอด ก็สามารถหาสมุนไพร และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย มารับประทาน เป็นตัวอย่างอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณแม่มีทางเลือกและประหยัดเวลามากขึ้น งานนี้ไม่ว่าคุณแม่จะเจอปัญหาสุขภาพหลังคลอดมาหนักแค่ไหน ก็มีสมุนไพรหลากหลายชนิดที่ถูกนำมาสกัดเป็นยาบำรุงร่างกายสำหรับคุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะ จึงสังเกตเห็นได้ว่า คุณแม่ยุคใหม่นี้ เริ่มอยู่ไฟลดน้อยลง

งานนี้รับรองว่าจะช่วยไขข้อสงสัยคุณแม่กันได้แล้วว่า จะอยู่ไฟหลังคลอดดีไหม หรือจะเลือกกินสมุนไพรบำรุงร่างกายดี ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพึงพอใจของแต่ละบ้าน…แต่ไม่ว่าวิธีไหนก็ควรทำให้ถูกวิธี เชื่อว่าคุณแม่ทั้งหลายจะกลับมายิ้มรับหุ่นใหม่ได้อีกครั้งแน่นอน


สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

code