ทำไมถึงต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีท?

“นั่งคาร์ซีทแบบใหม่ ลูกปลอดภัยกว่าเดิม ให้เด็กหันหน้าไปด้านหลัง ลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ”

พ่อแม่ในอังกฤษต่างพากันตื่นตัว เมื่อทีมแพทย์แนะนำให้ลูกนั่งเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก หรือคาร์ซีท จากการศึกษาลักษณะการติดตั้งของคาร์ซีทที่ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น ทีมแพทย์เผยว่า การที่ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถ มีความปลอดภัยมากกว่า ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสมกับเด็กแรกเกิดถึง 4 ปีเท่านั้น

การติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าไปด้านหลังรถ

การติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าไปด้านหน้ารถ

ทั้งนี้ กระแสของการติดตั้งคาร์ซีทเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นใน หมู่ครอบครัวชาวอังกฤษ มากขึ้น เมื่อพ่อแม่ส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจในเรื่องความปลอดภัยของลูกขณะเดินทางบนท้องถนน ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อแม่ทั้งหลายมักเข้าใจว่า การนั่งคาร์ซีทนั้นปลอดภัยพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงลักษณะหรือทิศทาง แต่ในทางกลับกัน ทางทีมแพทย์ผู้ที่ศึกษาในเรื่องนี้เผยว่า เด็กผู้ชายที่มีอายุประมาณ 9 เดือนและมีน้ำหนักประมาณ 9 กิโลกรัม ควรนั่งคาร์ซีทโดยการหันหน้าไปด้านหลังรถจะมีความปลอดภัยมากกว่า

อย่างไรก็ดี นิตยสาร British Medical Journal ได้สนับสนุนผล จากการศึกษาครั้งนี้เช่นกันเมื่อ ดร. Elizabeth Watson และ ดร. Michael Monteiro แพทย์ชาวสวีเดน เผยว่า สำหรับประเทศสวีเดนนั้น มีพ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่เริ่มปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่งของลูก เพื่อให้เขานั่งหันหน้าไปด้านหลังรถจนถึงอายุ 4 ปีโดยประมาณ การศึกษาในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เด็กๆ ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุแต่ละครั้งนั้น ส่วนหนึ่งมาจากตำแหน่งที่นั่งในรถ ซึ่งถ้าเขานั่งหันหน้าไปด้านหลังรถและมีการป้องกันความปลอดภัย อัตราการเกิดอุบัติเหตุก็จะลดลงไปด้วย

ขณะที่การศึกษาของ US National Highway Traffic Safety Administration ที่ได้เก็บข้อมูลผลสำรวจเด็ก 870 คน ระหว่างปี พ.ศ.2541 – 2546 สามารถสรุปได้ว่า การให้เด็กนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถนั้นมีความปลอดภัยมากกว่าคาร์ซีทแบบที่ นั่งหันไปทางหน้ารถ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถป้องกันเด็กๆที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งถึง 2 ปีกว่า จากอุบัติเหตุที่ต่างกันออกไปได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบแรงปะทะระหว่างรถ 2 คัน พบว่าการนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถนั้นสามารถลดแรงกระแทกตรงต้นคอและคางจาก อุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับการหันหน้าไปทางหน้ารถ

ดร. Watson กล่าวว่า คาร์ซีทที่หันหน้าไปทางด้านหลังรถนั้น จะช่วยลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุได้มาก ไม่ว่าจะเป็นแรงกระแทกที่จะโดนศีรษะ ต้นคอ กระดูกสันหลัง รวมไปถึงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย

“คาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แรงปะทะจะทำให้สายเบลล์ของคาร์ซีทรัดที่คอของเด็ก ซึ่งการที่เด็กถูกรัดนานๆ จะส่งผลไปยังเส้นประสาทไขสันหลังด้วย เพราะบริเวณลำคอ และเส้นประสาทมันมีส่วนเกี่ยวข้องกันหมด”

พ่อแม่หลายคนรวมไปถึงศูนย์บริการด้านสาธารณะสุขทั้งหลาย ได้เตรียมพร้อมและป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดบนท้องถนนมากขึ้นกว่าเดิม โดยการให้เด็กๆ นั่งหันหน้าไปทางด้านหลังของรถ

“ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณะสุข ควรแนะนำพ่อแม่ให้ติดตั้งคาร์ซีทไปทางด้านหลังของรถเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ โดยเฉพาะครอบครัวใดที่มีลูกหลานอายุต่ำกว่า 4 ปี ขณะที่ผู้ผลิตคาร์ซีทเอง ควรออกแบบที่นั่งแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถ สำหรับเด็กโตด้วยก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเช่นกัน”

อย่างไรก็ดี Duncan Vernon จากRoyal Society for the Prevention of Accidents กล่าวสรุปว่า การศึกษาของทีมแพทย์ในครั้งนี้ เพียงแสดงให้เห็นว่า คาร์ซีทที่หันหน้าไปทางด้านหลังขอรถนั้น จะมีความปลอดภัยมากกว่าคาร์ซีทที่หันหน้าไปทางด้านหน้าของรถ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่า คาร์ซีทแบบที่หันหน้าไปทางด้านหน้าของรถนั้นอันตรายแต่อย่างใด แต่ขึ้นอยู่กับการใช้งานตามช่วงวัยที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

สรุป

การติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธี คือ การติดตั้งแบบนั่งหันหน้าไปด้านหลังรถมีความปลอดภัยมากกว่า ให้เด็กนั่งคาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสมกับเด็กแรกเกิดถึง 4 ปีเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ASTV ผู้จัดการ


สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง

หรือช่องทางออนไลน์ :